ได้เสพกันไปสมอยากกันแล้วใช่มั๊ยกับบทความแรก แกะกล่อง Galaxy Tab S ขาวขอบทอง จอคม ๆ 8.4 นิ้ว กล้อง 8 ล้าน วันนี้ขอนำเสนอตอนที่สอง แน่นอน ทดสอบกล้องครับพี่น้อง
โดย Galaxy Tab S นั้นจะให้กล้องหลังมาที่ 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส กล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซลพร้อมระบบ “หน้าเด้ง” หรือ Beauty Mode
ไม่ต้องเกริ่นเยอะ แฟน ๆ คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ลุยกันที่เมนูกันโลด
เมนูกล้อง
เมนูกล้องที่เหมือนจะคุ้นเคยกันดีกับมือถือซัมซุงที่การใช้งานนั้นแทบจะเหมือนกันทุกรุ่น ทำให้ได้เครื่องมาแล้วไม่ต้องเสียเวลามาทำความรู้จักกันใหม่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอะไรใหม่นะ มาดูเมนูกันเลย
เรียกกล้องขึ้นมาจะได้หน้าตาสะอาด ๆ ตามภาพด้านบน
ถ้าแตะไอค่อนบนสุดบนแถมคำสั่งซ้ายมือจะเป็นการเรียกกล้องหน้า แน่นอนว่ามันมากับ Beauty Mode หรือ โหมด “หน้าเด้ง”
ตรงกลางเป็นการเลือกเปิด ปิด แฟรช หรือ จะตั้งเป็นอัตโนมัติก็ยังไหว
ไอค่อนรูปเฟืองล่างสุดเป็นคำสั่งการตั้งค่าการใช้งาน ซึ่งดูเข้าใจง่ายตามภาพชุดด้านล่าง
โหมดการถ่ายต่าง ๆ ที่มีให้เลือกใช้งานตามสถานะการณ์ต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าสามารถดาวโหลดเพิ่มได้เหมือน Galaxy รุ่นอื่น ๆ
ว่าแล้วก็มาดูภาพถ่ายทดสอบกันเลย เยอะสุด ๆ นะครับ บอกเลย
ภาพถ่ายเปรียบเทียบ
เหมือนเดิมกับภาพถ่ายเทียบกับรุ่นอื่น ๆ โดยไปขุดภาพจากรีวิวเก่ารีวิว Samsung Galaxy Note 8.0 ภาค กล้องถ่ายรูป มาใช้ ประกอบกับภาพถ่ายมุมเดียวกันของ Apple iPad Mini with Retina คู่แข่งตัวสำคัญที่จะชี้ชะตาของ Galaxy Tab S ตัวนี้ จากรีวิว ไตรภาครีวิว iPad Mini with Retina 4จี ภาคทดสอบกล้องถ่ายรูป
สังเกตุดูจะเห็นว่าเน้นอยู่แค่ iPad กับ tab ของซัมซุง ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ส่วนตัวผมเห็นว่า แท๊ปเล็ต แอนดรอย์ รุ่นอื่น ๆ ในตลาดบ้านเรานั้นยังไม่มีตัวไหนน่าเล่นสำหรับผมเท่า 4 ตัวนี้ บังเอิญมันวนเวียนอยู่แต่กับซัมซุงที่ไม่เคยสปอนเซอร์เราเลยซะงั้น
ภาพทั้งหมดถ่ายด้วยโหมดออโต้ ย่อ และ ใส่ลายน้ำเท่านั้นความคม และ ความละเอียด ลองคลิ๊กที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ได้ หรือ จะเซฟลงคอมเพื่อลองขยายดูก็ไม่ว่ากัน
ลำดับภาพดังนี้
- Galaxy note 8
- iPad Mini
- iPad Mini with Retina
- Galaxy Tab S 8.4
เริ่มจากมุมประจำมุมนี้ผมชอบมาก เพราะเป็นมุมลึกที่มีกำแพงทะแยงเข้า ประกอบกับประตูโบราณสีน้ำตาลแปลก ๆ ถัดไปเป็นวงกบประตูสีโอ๊ค (น้ำตาลเข้มผสมแดงนิด ๆ ) คั่นด้วยผนังบุผ้าสีทอง เดินดิ้นทอง จบด้วยกระจกสีชาทอง ส่วนประกอบทั้งหมดนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่าใครถ่ายแล้วสีเพี้ยนกว่ากัน
มุมนี้ดูกันเอาเองว่าชอบของใคร หรือ คิดว่าของใครสวยกว่ากัน แต่หากถามผม สีของ iPad Mini เหมือนจริงที่สุด ส่วนความคมยกให้ Galaxy Tab S
ดูมุมหลากสีกันแล้ว ทีนี้มาดูมุมไกลดูบ้าง
ให้สังเกตุการให้สี และ ความชัด เวลาถ่ายผ่านกระจกใส ด้านนอกตรงเพดาน จะมีฝ้าประดับ ที่เป็นสีม่วง และ ลายฉลุสีทองดำอยู่ด้วย ดูกันว่ากล้องตัวไหนเก็บรายละเอียดได้ดีกว่ากัน
ชุดที่สองนี้ผมชอบของ iPad Mini with Retina มากกว่า แต่เจ้า Tab S ก็ทำออมาได้ดีทีเดียว สูสีกันสุด ๆ
Zoom / ซูม
ทดสอบซูมกันสุด ๆ เหมือนเดิม ที่เดิมที่ระยะ 250 หลา
HDR
HDR หรือ โหมดเกลี่ยแสง และ สีโดยอัตโนมัติ เหมาะสำหรับถ่ายภาพย้อนแสง หรือ ภาพที่มีแสงสว่าง และ มืดตัดกันมากจนรายละเอียดหาย
ด้วยการทำงานที่ต้อง Process ภาพหลายวินาที HDR นั้นจึงเน้นที่การวิว หรือ คนที่ไม่เคลื่อนไหว ไม่งั้นภาพเบลอ
มาดูตัวอย่างภาพ 2 ภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Auto และ โหมด HDR กันเลย
ทำผลงานออกมาได้ดีทีเดียว แต่ความสว่างลดลงกว่าความเป็นจริงพอสมควรครับ เพราะขณะที่ถ่าย เมฆด้านหลังสว่างสดใส แต่ภาพออกมาเหมือนฝนเพิ่งหยุดตก
ภาพถ่ายในชีวิตประจำวัน
ทีนี้มาดูภาพบ้าน ๆ ในชีวิตคนเมืองดูบ้างว่า Galaxy Tab S 8.4 จะสามารถเก็บความประทับใจของพวกเราได้ดีแค่ไหน
เริ่มจากสนามซ้อมไดรฟ์กอล์ฟเช่นเดิม
มุมลึกยาว ๆ ที่ถ่ายคร่อมทั้งที่ร่ม และ ที่แจ้ง การเก็บรายละเอียดทำออกมาได้ดีเกินคาดมาก ๆ
3 ลูกมุมเดิม แต่….วันนี้ได้ลูกกอล์ฟเก่ามากกกกกกกกกกก
การเก็บรายละเอียด ความคมชัดดูแล้วน้อยกว่า Galaxy S5 ไม่มาก รับได้
การ “หยุด” ภาพของ Tab S นั้นทำออกมาได้ดีพอใช้ แต่ยังไงก็สู้พวกมือถือเทพ ๆ ไม่ได้ เพราะไม่สามารถหยุดได้สนิท
สังเกตุดูว่าฉากหลังในภาพด้านบนจะชัด แต่ตัวพระเอกที่เหวี่ยงสวิงไม้จะไม่ชัด แถมพาลมามัวถึงตู้ที่อยู่ด้านหน้าด้วย ปกติแฟน ๆ ที่ติดตามกันมาคงคุ้นกันภาพมุมนี้ดี กล้องดี ๆ จะหยุดลูกชายได้ชัด และ จะมัวเฉพาะตัวไม้เท่านั้น
แต่สำหรับแท๊ปเล็ต ได้แค่นี้ผมก็ว่ามันเยี่ยมแล้วหล่ะ บอกเลย
ทดสอบถ่ายแสงธรรมชาติกันแล้ว ทีนี้มาลองถ่ายในห้างฯ หรือ ในอาคารกันดูว่า Tab S จะทำผลงานได้เกินความคาดหมายอีกหรือไม่
ลูกสาวคนเล็ก หรือ เทพธิดาน้อย ๆ ของบ้านที่เดินทั้งวัน มือไว หยิบจับแน่นแกะไม่ออก 555
Tab S สามารถ “หยุด” การเคลื่อนไหวของเด็ก 1 ขวบซน ๆ ได้ดีทีเดียวในสภาพแสงแบบนี้ จะเห็นไหว ๆ มัว ๆ เล็กน้อยก็ตรงมือซ้ายที่กำลังจะเอื้อมไปคว้าของเล่นเท่านั้น
สีสรรการถ่ายในห้างฯ ทำออกมาได้สดใส สีจัด ตามสไตล์ซัมซุง ความคมชัดก็ทำได้ดี โดยให้สังเกตุฉากหลังไกล ๆ ก็ยังดูคมอยู่ แม้หน้านายแบบจะมัวเล็กน้อยเพราะตอนถ่ายคนเดินชนมือนิดนึง แต่….xenon_art บอกแล้วไม่มีถ่ายซ่อม ใช้มันทั้งอย่างงั้นแหละ เพราะเราจำลองการถ่ายภาพในชีวิตจริง ชิ มิ O_o*
ถ่ายอาหาร
งานนี้เอา Tab S ไปแกล้ง เพราะพอดีพาคุณแม่ไปกินที่ร้าน ไก่ย่างเสือใหญ่ สาขา กรุงเทพกรีฑา จากบทความ xenon_art พาชิม: ไก่ย่างเสือใหญ่ ส้มตำปลาทับทิม อร่อยฟินกับสาขากรุงเทพกรีฑา
ที่นั้นไฟนีออนจะไม่ค่อยมี เน้นไฟฮาโลเจนที่ทำให้ถ่ายอาหารไม่สวย งานนี้ดีหน่อยที่ยังไม่ดึกมาก พอได้แสงธรรมชาติทะลุกระจกร้านเข้ามาช่วยชีวิต
ไก่ย่างเสือใหญ่ ตำนานไก่หน้งกรอบเนื้อไม่แฉะ คลุกเครื่องเทศหอมฉุย กินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ แล้วสุดจะฟิน
ต้มแซ่บกระดูหมูอ่อน เปรี้ยวจี๊ด เผ็ดนิด ๆ ซดแล้วชื่นใจมาก ๆ
จานนี้เป็นตำมาม่าไทยปูเผ็ดน้อยของภรรยา อีกเมนูที่เพิ่งค้นพบ
จานนี้ของโปรดผม ปลาดุกฟูผัดพริกขิง
จากภาพชุดด้านบนจะเห็นว่า Galaxy Tab S ถ่ายภาพอาหารออกมาได้น่ากินทีเดียว สีสรร ความคม ทำได้ออกมาเป็นอย่างดีทั้ง ๆ ที่แท๊ปเล็ตนั้นไม่เหมาะกับการเอามาถ่ายอาหาร เพราะเครื่องมันใหญ่ครับ ยกขึ้นมาแล้วอายโต๊ะข้าง ๆ ทำให้ต้องรีบถ่าย รีบเก็บ 555
นี่ยังไม่นับความยากจากขนาด 8.4 นิ้ว จะแตะโฟกัสที จะถ่ายที ต้องถ่างนิ้วแบบสุด ๆ ทำให้มือไม่นิ่งเหมือนใช้มือถือถ่ายนะจ๊ะอย่าลืม
ปิดท้ายร้านนี้กันด้วยนายแบบสุดหล่อประจำบ้านคนเดิมเพื่อให้เห็นบรรยากาศ และ สภาพแสงขณะที่ถ่าย
จบส่วนทดสอบถ่ายอาหารด้วย Honey Toast จากร้าน Secret Garden ในห้างพารากอน ส่วนตัวรู้สึกกินที่ True Coffee คุ้มกว่าเพราะรสชาติอร่อยพอกันแต่ราคาถูกกว่าเป็นร้อย 555
ถ่ายของเล่น
วันนี้ขอเปลี่ยนอารมณ์จากหุ่นจากหนังฝรั่งของ Hottoys มาเป็นหุ่นฟิกเกอร์จากการ์ตูนญี่ปุ่นกันบ้าง ใครเกิดทัน จูโอมารุ บ้างยกมือขึ้น
พระเอกตัวนี้เป็นอีกหนึ่งการ์ตูนในดวงใจของผมสมัยเรียนประถม เป็นเรื่องราวของการแข่งขันมวยปล้ำที่ใช้หุ่นยนต์ขนาดประมาณ 1 ฟุต มาสู้กัน ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์พกพา….แหม สมัยนั้นเรียกว่าล้ำยุคโลกไอทีแบบสุด ๆ ไปเลย
หุ่นตัวนี้เป็นโลหะฟิวเตอร์สูงประมาณ 9 นิ้วครึ่ง สีของตัวหุ่นจะมีทั้งสีด้าน และ สีเงาผสมกันไป
เริ่มกันที่ภาพต็มตัวหน้าตรง ถ่ายในบ้าน เปิดทั้งไฟนีออนในตู้ของเล่น ทั้งไฟ LED บนเพดาน เรียกว่าสว่างสุด ๆ
ภาพด้านบนนี้ถ่ายห่างจากตัวหุ่นประมาณ 12 – 14 นิ้ว จึงจะเก็บภาพได้เต็มตัว รายละเอียดออกมาดี แต่เหมือนแสงสว่างมากไป ภาพที่ออกมาจึงดูแบน ๆ
ถ่ายระยะใกล้ โดยยังคงใช้โหมด Auto ตามสไตล์ของผม
ถ่ายห่างประมาณ 8 นิ้ว แตะโฟกัสที่ใบหน้า ภาพที่ได้ไม่ผิดหวัง แต่หน้าอกแอบมัวเล็กน้อย จะว่ามือไม่นิ่งก็ไม่ด้เพราะหน้าชัดแจ๋ว
ออกไป Outdoor กับสนามที่บ้าน (อีกแล้ว) วันนี้ฝนตกทั้งวันทำให้แสงไม่จัดเหมือนรีวิวอื่น ๆ แต่โดยรวมภาพได้อารมณ์อีกแบบนึง เหมือนใส่ฟิลเตอร์ภาพ แต่ก็ยังคงใช้โหมด Auto เหมือนเดิม
การเก็บรายละเอียดของภาพก็อย่างที่เห็นครับ ทั้งหญ้าแต่ละต้น และ ใบไม้ของฉากหลัง ขับเน้นให้ จูโอมารุ เด่นขึ้นมาเลยทีเดียว
ปล. คนสวยเกเร ไม่ได้มาตัดหญ้าเลย….เซ็ง
ลองถ่ายหน้าชัด หลังเบลอง่าย ๆ เพียงแตะโฟกัสที่หน้าพระเอก และ ให้ฉากหลังอยู่ไกลหน่อย แค่นี้ก็ได้ภาพมุมสวย ๆ นี้แล้วครับ
ภาพด้านบนนี้ถ่ายห่างจากใบหน้าแบบประมาณ 5 นิ้ว
หลังสวย ๆ ของหุ่น Fewture จูโอมารุ เท่ห์สุด ๆ
ภาพนี้เล่นท่ายาก เพราะผมถ่ายโดยใช้มือซ้ายถือขาหุ่น มือขวาถือ Tab S แล้วกดถ่ายภาพ ไม่มีโอกาสแตะโฟกัสที่หน้าจอแต่อย่างใด
ผลงานทำออมาน่าประทับใจอีกแล้วครับท่าน
เอาไปยืนหน้าพุ่มไม้ มุมประจำมุมใหม่ในการทดสอบกล้องกับการถ่ายของเล่น
ภาพที่ได้ การเกลี่ยแสง สีของ Tab S นั้น ตัวหุ่นจะขาวเด่น ส่วนใบไม้ด้านหลังรายละเอียดหายไปพอสมควรเพราะจะติดมืดกว่าความเป็นจริง ซึ่งก็อย่างที่บอกว่าวันนี้แดดไม่จัดมาก ถ่ายตอนประมาณ 5 โมงเย็นหลังฝนหยุด
แฮก เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตกเอาไงวุ้ย….นอนดีกว่า
สรุปแล้ว การถ่ายของเล่นแนวนี้ด้วย Tab S ถ่ายยากนิดนึง ด้วยขนาดที่ใหญ่ ทำให้การถือมือนึง ถ่ายมือนึงกลายเป็นท่ายากไปโดยปริยาย
ผลงานที่ทำออกมา เชื่อว่าหลายคนดูเพลิน ๆ จนลืมไปว่าเรากำลังทดสอบกล้องจาก แท๊ปเล็ต อยู่ 555
Selfie / ถ่ายตัวเอง
บทรีวิวที่หลาย ๆ คนรอคอย กับการทดสอบกล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล พร้อม Beauty Mode ที่จะทำให้หน้าเราใสเด้งดูมีชีวิตชีวาเอาไว้โพสสวย ๆ ผ่านโซเชี่ยลต่าง ๆ
การทดสอบนี้ถ่ายที่ร้าน ไก่ย่างเสือใหญ่ กับสภาพแสงทีถ่ายย้อนแสงนิด ๆ เพราะแสงด้านหลังสว่างกว่าด้านในร้านพอสมควร
ถ่าย 3 รูป แบบ ไม่เปิด Beauty Mode, เปิดระดับกลาง และ แบบหน้าเด้งสุด ๆ โดยทั้งหมดถ่ายเพียงอย่างละ 1 รูปเท่านั้น ไม่มีการถ่ายซ่อมเหมือนเดิม
ผลที่ได้จากกล้องหน้าเรียกว่าดีกว่าที่คิดไว้เยอะทีเดียว ภาพทำออกมาได้ชัดเจนแม้จะย้อนแสงหน่อย ๆ ซึ่งปกติมือถือทั่ว ๆ ไปมักจะหน้าดำ ยิ่งแท๊ปเล็ตไม่ต้องพูดถึง หน้าดำสุด ๆ
ผลคือ Galaxy Tab S ผ่านการทดสอบอย่างสวยงาม โดยเฉพาะเมื่อปรับหน้าเด้งสุด ๆ แล้วดูธรรมชาติไม่หลอกตามาก ถ้าไม่วางรูปเทียบกันแบบด้านบน เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงไม่รู้ว่าเป็นโหมดหน้าเด้ง
Effect / ฟิลเตอร์ เอฟเฟคต์
แน่นอนว่าซัมซุงเค้าใส่ลูกเล่น Effect มาให้เพียบไม่น้อยหน้ารุ่นใหญ่ ๆ และ เพื่อไม่ให้รูปเยอะเกินเหตุ เปลืองดาต้า ผมจึงเลือกบางอันที่น่าสนใจมาให้ดูเท่านั้น พร้อมกับปรับขนาดภาพให้เล็กกว่าภาพทดสอบอื่น ๆ นะครับ
มาชมกันเลย
Photo Edit / ปรับแต่งภาพถ่าย
นอกจากลูกเล่นใส่เอฟเฟ็กต์ภาพที่ แอนดรอย์ ในปัจจุบันจะทำกันได้กันหมดแล้ว Photo Edit หรือ การปรับแต่งภาพ ก็เป็นอีกลูกเล่นหนึ่งที่จะทำให้เราสนุกกับภาพถ่ายมากขึ้น โดยคำสั่งพื้นฐานทั่วไปอย่าง กลับภาพ, ครอปภาพ, ปรับแสง ก็มีมาให้ครบ ๆ
แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือ เราสามารถใส่สติ๊กเกอร์ ใส่เฟรม หรือ แม้กระทั้งวาดลงไปบนภาพได้ทันที จากนั้นก็เซฟเป็นภาพใหม่ โดยที่ภาพต้นฉบับยังคงอยู่
เปิดรูปถ่ายออกมาปุ๊ป ที่มุมบนด้านขวาของจอภาพจะมีไอค่อนภาพ+ดินสออยู่ แตะเข้าไปแล้วจะได้หน้าตาแบบภาพด้านบน
จะแก้ไข ตกแต่างภาพอย่างไรก็ตามสะดวก
ลองใส่สติ๊กเกอร์ดูหน่อยซิ….แหมมีอะไรให้เล่นเยอะเลย
“แง แง เล่นเค้าซะหมดรูปเบย เค้าม่ายยอม เค้าม่ายยอมนะตะเอง”
ตกแต่งเสร็จ เซฟแล้วก็จะได้ภาพตามตัวอย่างด้านบน ได้อารมรณ์แปลกไปอีกแบบ แถมสนุกกับ Tab S มากขึ้นด้วย
ทดสอบถ่าย VDO
นาน ๆ จะทดสอบกล้องวีดิโอเป็นคลิปมาฝากกันสักที แต่สำหรับ Galaxy Tab S 8.4 นิ้วตัวนี้ มีเพื่อน ๆ ให้ความสนใจอย่างมาก เลยจัดหนัก จัดเต็มมากฝากให้เสพกันจุใจปิดท้ายด้วยคลิปสั้น ๆ 3 นาที ที่บอกเลยว่า “คุณภาพ” จริง ๆ
ระหว่างที่ถ่ายวีดิโอ เรายังสามารถแตะที่ชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพไปพร้อม ๆ กันได้ด้วยนะ
แต่ภาพที่ถ่ายขณะถ่ายวีดิโอจะได้สัดส่วน 16:9 และ มุมจะไกลกว่าที่เห็นตอนถ่ายวีดิโอ เวลาเพื่อน ๆ ใช้งานให้เผื่อระยะไว้ด้วย
ตัวอย่างภาพ
บทสรุป
Galaxy Tab S ผลงานทำออกมาได้ดีเกินคาด สารภาพว่าตอนแรกไม่ได้หวังอะไรมากนัก เพราะผมคิดเสมอว่า “แท๊ปเล็ตไม่เหมาะกับการถ่ายภาพ”
เพราะความเทอะทะทำให้มันถ่ายรูปไม่สะดวก ยกตัวอย่างง่าย ๆ ด้วยภาพด้านบน จะเห็นว่าเครื่องใหญ่ แล้วเอากล้องไว้ตรงกลาง ตอนถือถ่ายโอกาสที่นิ้วมือจะมาบังกล้องมีเยอะมาก ต้องหัดให้คุ้นชินสักระยะเพื่อรู้มุมว่านิ้วเราจะวางไว้ตรงตำแหน่งไหน
แต่จากการได้ทดสอบกล้องของ Tab S 8.4 นิ้ว ปรับความคุ้นใช้ในเรื่องการจับถือ พร้อมกับคุณภาพของทั้งกล้องถ่ายรูป และ กล้องถ่ายวีดิโอ ผลงานทำออมาได้ดีเกินคาด (พูดอีกแล้ว) ภาพทั้งหมดไม่ได้ถ่ายซ่อมเลย เรียกว่ากดชัตเตอร์ ถือนิ่งนิดนึง รูปถ่ายไว้ใจได้ไม่พลาด “โมเม้นต์” / Moment สำคัญของชีวิต
นอกจากขนาดที่ใหญ่ ไม่ชินมือผมแล้ว อื่น ๆ บอกเลยว่าสนุกกับการถ่ายภาพด้วย Tab S ทีเดียว ข้อติหลัก ๆ ที่พยายามหาเรื่องมาบ่น ก็มีเพียงการปรับสมดุลย์แสงเล็กน้อยจากที่ถ่ายของเล่นแล้วสีเขียวมันดำกว่าที่ควรจะเป็น
เรื่อง “แท๊ปเล็ตไม่เหมาะกับการถ่ายภาพ” ตอนนี้ผมคงต้องคิดใหม่ซะแล้วสินะ
ติดตามชมตอนต่อไปเร็ว ๆ นี้….รู้นะรอดูอยู่หลายคน อิ อิ อิ
ขอให้มีความสุขกับชีวิต LifeStyle IT ครับ
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ