ว่าด้วยเรื่องการซ่อมบำรุง จุดอ่อน และ งบประมาณในการซ่อมเครื่องเบนซินของ BMW
มาดูกันว่าเครื่อง N20 ใน F10 และ F30 ก่อน LCI เทียบกับ B48 ในตัว LCI มันซ่อมต่างกันยังไง?
#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต #รถมือสอง #BMW #F30 #LCI #N20 #VS #B48 #รถปั้นพี่อาร์ต #Vlogกับพี่อาร์ต
สำหรับคนที่ยังไม่ทราบ LCI ของรถ BMW คือ Facelift หรือ Minor Change ที่เป็นรถรุ่นเดิม แต่ปรับปรุงอัพเดทเล็กน้อย
ในตัว BMW F30 ซีรีย์ 3 เคยทำไปแล้วกลับไปดูบทความเก่าได้ที่นี่
รถมือสอง BMW ซีรียส์ 3 F30 ต้องดูอะไรก่อนซื้อ มีอะไรชอบเสีย!!!
แต่เอาแบบสั้น ๆ คือ F30 320i LCI สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ
- ไฟหน้าเปลี่ยน
- ไฟท้ายเปลี่ยน
- เครื่องเปลี่ยน
- หน้าจอ iDrive
- ปุ่ม iDrive
- พวงมาลัยในรุ่น M Sport เปลี่ยนทรง
- ที่วางแก้วเปลี่ยนเป็นแบบบานเลื่อน
- แผงแอร์มีไฟแอมเบี้ยนไลท์
ถามว่าเปลี่ยนเยอะมั๊ย รายละเอียดเค้าเยอะ แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้อินมาก มักจะแยกไม่ค่อยออกเพราะไม่ได้เปลี่ยนไปแบบชัดเจนเหมือนตระกูลเบนซ์ที่เปลี่ยนทรงไฟหน้าเลย โดยรวมเวลารถวิ่งผ่านแล้วก็เหมือน ๆ กันหมด ซึ่งตรงนี้ก็แล้วแต่ว่าชอบแบบไหน
ไม่นับรวมรายละเอียดปลีกย่อย หากเน้นศักยภาพ และ การซ่อมบำรุงเป็นหลักนั้น ก่อน และ หลัง LCI เปลี่ยนเยอะเลยโดย
- ก่อน LCI เครื่อง N20 เบนซิน 4 สูบเทอร์โบ 2000cc ให้กำลัง 184 แรงม้า อินเตอร์คูลเลอร์อากาศ
- หลัง LCI เครื่อง B48 เบนซิน 4 สูบเทอร์โบ 2000cc ให้กำลัง 184 แรงม้า อินเตอร์คูลเลอร์น้ำ
N20
ข้อดี ดูแลรักษาง่าย จุดอ่อนน้อยมาก ๆ ส่วนมากจะเป็นเสื่อมเสียตามสภาพ และ อายุการใช้งาน อะไหล่เยอะ หาง่าย ราคาไม่แพง เพราะรถที่ใช้เครื่องตัวนี้มีเยอะมาก
ข้อเสีย อุปกรณ์ในห้องเครื่องมีชิ้นส่วนพลาสติคมากชิ้น พอมาเจออากาศประเทศไทยเลยกรอบแตกเยอะหน่อย ตัวเวสเกตเป็นแบบกระป๋อง การคุมบูส การจูนจะเรียกบูสได้ไม่มาก และ บูสได้ไม่นาน
ส่วนงบประมาณการซ่อม และ อะไหล่ที่เปลี่ยนบ่อย ๆ ทำบทความ และ ปั้นให้ดูหลายคันแล้วน่าจะพอจับทางได้ ซึ่งผมมักจะบอกว่า รถมือสองตัวนี้เตรียมค่าซ่อม กม. ละ 1 บาท คือ รถวิ่งมา 100,000 โลฯ เตรียมใจไว้ 100,000 บาท
B48
ข้อดี เค้าพัฒนาต่อยอดจากเครื่อง N20 ดังนั้นหลาย ๆ จุดแก้ไขมาแล้ว แถมยังเปลี่ยนมาใช้เวสเกตไฟฟ้า ทำให้คุมบูสได้ดีกว่า ตอบสนองดีกว่า และจูนทำแรงม้าออกมาได้เยอะกว่า
ที่สำคัญเค้าใช้อินเตอร์คูลเลอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้อุณหภูมิอากาศที่เข้าสู่ห้องเผาไหม้นิ่งกว่า ส่งผลให้รถเราแรงตลอดเวลา ต่างกับ N20 ที่เป็นอินเตอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศ มักจะเจอปัญหาตอนเที่ยง ๆ รถจะไม่ค่อยแรง
ข้อเสีย เกิดจากข้อดีของอินเตอร์น้ำ และ การพันฒนาตัวเครื่องด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทีนี้เวลาเค้าเสีย เลยจะซ่อมแพง และ มีชิ้นส่วนต้องซ่อมเยอะ เอาแค่ชุดน้ำที่เจอกันบ่อย ๆ ซ่อมทีนึงเจอชุดกลาง ๆ อย่าง ท่อน้ำบน คอน้ำข้างเครื่อง ปั๊มน้ำ วาล์วน้ำ หม้อน้ำ และ ท่อน้ำเลี้ยงเทอร์โบ ชุดนี้อยู่ที่ 7 หมื่นกว่าบาท นี่ยังไม่เต็มชุดนะ แต่เป็นชุดที่อู่เค้าเปลี่ยนประจำ หากโดนชุดใหญ่คือ กระป๋องพักน้ำทั้ง 3 ตัว หม้อน้ำตัวที่ 2 (เค้ามีหม้อน้ำ 2 ใบ) พัดลมหม้อน้ำด้วย น่าจะแตะแสนบาท เฉพาะชุดน้ำ พวกรั่วซึม และ ช่วงล่างยังไม่นับ
ซึ่งพวกรั่วซึม กับช่วงล่างจะราคาเท่ากับ ก่อน LCI เครื่อง N20 อ้อ…นี่ยังไม่นับอินเตอร์น้ำอีกตัวที่ฝังร่วมกับท่อร่วมไอดี ถึงเวลาเค้าผุก่อน หรือ รั่วขึ้นมา ชิ้นนี้ชิ้นเดียวหลายหมื่นบาท
ทำให้การดูแลรักษาโดยรวมนั้น จากสูตร กม. ละ 1 บาท ต้องบวกเผื่อไปอีก 70,000 บาทสำหรับชุดน้ำ และ หวังว่าอินเตอร์น้ำจะไม่รั่วด้วยการหมั่นถ่ายน้ำหล่อเย็นทุก ๆ 2 ปีไปพร้อม ๆ กับการถ่ายน้ำมันเบรคครับ
แต่ถามว่าแบบนี้ B48 ไม่น่าเล่นหรือ เอาจริง ๆ ก็น่าเล่นครับ เครื่องเค้าแน่น แรง และ ขับสนุกมาก เพียงแต่เราคุยในมุมรถมือสอง ส่วนมากซื้อมาก็น่าจะใกล้ถึงอายุเค้าแล้ว แต่หากทำชุดน้ำไปแล้วอีก 80,000 กม. หรือ 4 ปี ค่อยว่ากันใหม่ เจ้าของเก่าทำมาแล้วก็สบายใจ ถ้าไม่ทำมา เรามาทำเองก็ใช้ไปยาว ๆ
คนที่เน้นแรง เอา B48 น่าจะสนุกกว่า แต่ก็แพงกว่า เพราะอินเตอร์ซิ่งแพงมาก ๆ แพงกว่าของ N20 เป็นเท่าตัว
คนที่รับได้กับ 240 ม้า เหมือนรถผมที่จูนเองง่าย ๆ และไม่ต้องห่วงกับชุดน้ำที่แพงกว่าของ N20 เท่าตัว ก็เล่น N20 ได้ครับ
ทั้งนี้ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เครื่องครับ เมื่อเราคุยถึง F30 ก่อน vs หลัง LCI เค้ายังมีจุดต่างที่กล่าวไปแล้วด้านบน รวมถึงอายุรถเข้ามาประกอบการพิจารณา
บทความนี้เพียงชี้ให้เห็นความต่างในการซ่อมบำรุงเครื่องทั้ง 2 ตัวนี้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกเล่นรถมือสองครับ
N20 vs B48 อะไรดีกว่ากัน…ดีทั้งคู่ แต่ดีคนละแบบ
_____________________________________________
ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage
และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
https://www.youtube.com/user/artxenonart
