S Class รุ่นที่คนทั้งรัก ทั้งกลัว เพราะสวยสง่า หรูหรา แต่ไม่แก่ ที่สำคัญขับดีมาก ทว่ายุคนั้นคนขายทิ้งกันเป็นว่าเล่นเพราะเจอค่าซ่อมแสนสาหัส ที่สำคัญบางทีทำแล้วไม่จบด้วยซ้ำ

วันนี้ปั้นให้ดูให้หายคาใจว่าถ้ายังรักเค้าอยู่ จะซื้อมาเล่นต้องซ่อมเท่าไหร่

#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต #รถมือสอง #Howto #W220 #S280 #restore

อันดับแรกบอกเลยว่า S Class W220 เครื่องยนต์ไม่ได้จุกจิก แต่สิ่งที่รวนคือระบบไฟฟ้า ซึ่งยุคนั้นช่างเอง ศูนย์เองอาจจะยังไม่คล่อง เทคโนโลยีการตรวจสอบยังไม่ดีพอ จึงทำกันไม่จบ ประกอบกับหลายอาการถ้ามันเกิดแล้ว รถวิ่งไม่ได้ ขึ้นยานแม่อย่างเดียว

สิ่งที่อู TMS Benz Service บอกผมมาคือ หลัก ๆ ที่รวนในระบบไฟฟ้านั้น ส่วนมากมักจะเกิดจากกล่อง SAM หน้ารถ 2 กล่องที่พอรวนแล้วอาการแปลก ๆ โผล่มาเพียบ ยุคที่คนไม่รู้ ก็ไปซ่อมอย่างอื่นกัน ซ่อมยังไงอาการก็ไม่หาย สุดท้ายเปลี่ยนกล่อง SAM รถนี้ใช้งานนิ่งเลย

ส่วนคันนี้เป็นรถ FC ส่งมาปั้น เบื้องต้นเครื่องใช้งานได้ดี ช่วงล่างเก็บมาแล้ว ระบบแอร์เก็บมาแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ผมไล่ทำคือ เครื่องยนต์ล้วน ๆ ไม่ว่าจะเก็บรั่วซึม เปลี่ยนท่อยางต่าง ๆ เปลี่ยนฝาครอบวาล์วที่ผุกร่อนตามอายุไป คันนี้บอกเลยเครื่องยนต์อาการไม่หนัก

งานส่วนเครื่องยนต์

  • ยางแท่นเครื่อง 2,200 x 2 = 4,400 บาท
  • ยางแท่นเกียร์แท้ = 2,200 บาท
  • ฝาครอบวาล์วข้างขวาแท้ = 11,500 บาท
  • ฝาครอบวาล์วข้างซ้ายแท้ = 11,500 บาท
  • ยางฝาครอบวาล์วข้างซ้ายแท้ = 1,300 บาท
  • ยางฝาครอบวาล์วข้างขวาแท้ = 1,300 บาท
  • ท่อยางหายใจ 5 ขิ้น = 2,450 บาท
  • ข้อต่อท่อยางหายใจ 100 x 3 = 300 บาท
  • ออยคูลเลอร์เครื่อง = 3,800 บาท
  • โอริงฐานกรองเครื่อง = 250 บาท
  • โอริงออยคูลเลอร์ = 550 บาท
  • คอเติมน้ำมันเครื่องแท้ = 850 บาท
  • ฝาปิดน้ำมันเครื่องแท้ = 450 บาท
  • เหล็กวัดน้ำมันเครื่องแท้ = 1,200 บาท
  • ตัวตั้งสายพาน = 3,200 บาท
  • ลูกรอกตัวตาม = 850 บาท
  • โอริงมอเตอร์คันเร่งแท้ = 650 บาท
  • หัวเทียน 300 x 12 = 3,600 บาท
  • ยางรองหม้อกรองอากาศ 200 x 3 = 600 บาท
  • น้ำยาหม้อน้ำ Benz = 500 บาท
  • กาวทาปะเก็น = 550 บาท
  • ท่อเบนซิลราวหัวฉีด = 2,600 บาท
  • ค่าน้ำยา+น้ำมันเบนซิลทำความสะอาด = 300 บาท
  • ค่าแรง 7,000 บาท
  • แบตเตอรี่ = 4,800 บาท
  • กระป๋องฉีดน้ำแท้ = 4,200 บาท
  • ยางรองมอเตอร์ฉีดน้ำ = 50 บาท
  • ยางรองมอเตอร์ฉีดน้ำตัวใหญ่ = 150 บาท
  • ใบปัดน้ำฝน = 2,900 บาท
  • ปุ่มฉีดน้ำกระจกข้างซ้าย = 2,800 บาท
  • เซ็นเซอร์หัวโช้คอัพ 6,800 บาท
  • น้ำมันเครื่อง 4,400 บาท
  • กรองน้ำมันเครื่อง 400 บาท

ยอดรวมส่วนเครื่องยนต์ = 88,460 บาท

ส่วนที่แพงแบบไม่คิดว่าจะแพงคือ งานกระจก

กระจกบังลมหน้าร้าว ซึ่งก็ไม่ได้แพงนะ 9,000 บาท แต่พอถอดออกมา ฝาพลาสติคครอบเซ็นเซอร์กระจกแนกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่เดี๋ยวเอาไปรวมยอดกับงานภายในอีกที

กระจกมองข้างมีอาการพับไม่สนิท เวลาเข้าเกียร์ถอยพอกระจกเอียงลงให้เห็นพื้น มีอาการขีน และ รวน ชุดนี้ไล่เปลี่ยนไปทีละชิ้น จนสุดท้ายกว่าจะหาย คือเปลี่ยนใหม่ทุกอย่างเลย ซึ่งจะเป็นของมือสอง ผสมของใหม่

อีกจุดที่แพงคือ กระจกสามเหลี่ยมประตูหลัง ยางขอบกระจกเสื่อม และ ยุ่ย ยุ่ยจนน้ำเข้าไปมาก ๆ ประตูผุครับ อันนี้สามารถ DIY เหน็บยางเทียบ แล้วเอาซิลิโคนแต่งได้ แต่คันนี้ท่านเจ้าของอยากให้รถออกมาเป๊ะที่สุด ตัดสินใจเบิกใหม่มาบานนึง 17,500 บาท สั่งไป 2 บาน ได้มาแค่บานเดียวข้างขวา ส่วนอีกบานไม่มีของ

ดังนั้นฝั่งซ้ายผมใช้ยางเหน็บ DIY ไปก่อนเพื่อแก้ปัญหาประตูผุ

เบ็ดเร็จงานกระจกจบไปแทบจะเท่ากับงานเก็บเครื่องยนต์เลยทีเดียว

งานกระจก

  • กระจกบังลมหน้า 9,000 บาท
  • พลาสติกใต้กระจกบังลมหน้าแท้ 5,500 บาท
  • กระจกหูข้างประตูหลังขาว 17,500 บาท
  • โครงกระจกมองข้างซ้าย 9,000 บาท
  • เนื้อกระจกมองข้างซ้าย 4,500 บาท
  • ฝาครอบกระจกมองข้างซ้าย 2,800 บาท
  • มอเตอร์ปรับกระจกมองข้าง 7,500 บาท
  • ค่าแรง 3,000

รวม 58,800 บาท

อาการหนักที่สุดในการปั้นรถเยอรมันเจนเนอเรชั่นนี้ คือ ภายในครับ เพราะเป็นยุคเริ่มต้นของการลดต้นทุนการผลิตจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงการมาถึงของ “ความรักษ์โลก” วัสดุ Recycle ถูกนำมาใช้เยอะมาก ผลที่ตามมาคือ มันจะกรอบ และ ยุ่ยไปตามกาลเวา

คันนี้ก็เช่นกัน ภายใน “ยับเยิน” มาก ถึงมากที่สุด ชี้ไปตรงไหนก็แตก มองไปตรงไหนก็ไม่สมบูรณ์ ครั้นจะหามือสองมาสลับ เดี๋ยวก็อาการเดิมคือ กรอบยุ่ย จึงพยายามเบิกใหม่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ “ราคาไม่บ้าบอ” ดังนั้นเบิกได้ไม่กี่ชิ้นเอง

ที่เหลือส่งให้ช่างก๊อต AT Car Interior เอาไปจัดการ DIY แบบบ้าน ๆ แต่ใช้ความพยายามสูงมาก ตั้งแต่กาวร้อนกับขี้เลื่อย อีพ๊อคซี่ เรซิน + ผ้า เพื่อดามด้านหลังของแผงพลาสติค หมดเวลาไปสองเดือนกว่า ๆ กับแค่ภายในครับ

และระหว่างนั้นก็ถอดชุดอุปกรณ์บางส่วนเอาไปซ่อม เช่นแก้ประตูดูด หัวหมอนหลังไม่ลง อีกทั้งถอดลายไม้ภายในรถไปทำใหม่ทั้งหมดไปด้วยเลย เพราะรถเค้ามาลายไม้มี 3 เฉด ขัดตาพี่อาร์ตมากครับ 

พอเสร็จแล้วก็เอาไปให้ช่างโรจน์ Sound Maker แก้อาการประจำรุ่นคือ เรือนไมล์ดับ และ ด่าง 

เล่าสั้น ๆ แต่บอกเลยทำเยอะมากกกกกก และ จบออกมาราคาเท่ากับซ่อมเครื่องครับ

ภายใน

  • ฝาครอบฐานเบาะหน้าขวาแท้ 2,800 บาท
  • ฝาครอบฐานเบาะหน้าขวาแท้ 2,900 บาท
  • ฝาครอบฐานเบาะหน้าขวาแท้ 2,800 บาท
  • พลาสติคปิดเซนเซอร์กระจกหน้า 800 บาท
  • ช่างก็อต 51,800 บาท
  • ซ่อมหัวหมอนหลังไม่ลง 2,500 บาท
  • ซ่อมประตูดูด 18,000 บาท
  • ซ่อมเรือนไมล์ 4,500 บาท

รวมภายใน 86,100 บาท

จากที่บอกว่ายางขอบกระจกเสื่อม และ หลุดหมดแล้ว ดังนั้นชายประตูรถคันนี้ผุ สนิมขึ้นเรียบร้อย ก็เอาไปปะผุ พ่นสีใหม่ทั้งคันแบบครบ ๆ

เปลี่ยนพลาสติคซุ้มล้อด้านหลัง แผ่นกันความร้อนใต้ฝากระโปรง ล้อลาย AMG ที่ติดรถมา เหมือนเคยซ่อมมา แต่สีผิด ผมเลยเอาไปซ่อมใหม่พร้อมเปลี่ยนโลโก้ดุมล้อใหม่ (งานเทียบ)

จากนั้นเปลี่ยนฟิล์ม ติดกล้องบันทึก เปลี่ยนกล้องถอย ซึ่งยังคงใช้บริการคุณนก Sound Station เหมือนเคย

สุดท้ายทดสอบขับกลางคืน พบว่าไฟหน้าเจ้าของเก่าเปลี่ยน xenon มาแต่จะด้วยอายุ หรือ เคยซ่อมมาก่อนก็ไม่ทราบได้ แต่ตอนนี้ไฟหน้าซ้าย ขวา เป็นคนละสีกัน (ค่า K ไม่เท่ากัน) ก็จัดการเปลี่ยนหลอดไฟหน้าใหม่ เลือกใช้ LED 4800K ให้สีนวลหน่อยไม่อมฟ้า ให้อารมณ์เหมาะกับรถ W220

ภายนอก

  • ทำสี + ปะผุ 42,000 บาท
  • พลาสติกซุ้มล้อหลังข้างซ้าย = 2,900 บาท
  • พลาสติกซุ้มล้อหลังข้างขวา = 2,900 บาท
  • กิ๊บล็อคซุ้มล้อ 100 x 6 = 600 บาท
  • ฟองน้ำฝากระโปรงหน้าแท้ = 7,500 บาท
  • หมุดฟองน้ำฝากระโปรงหน้าแท้ 120 x 8 = 960 บาท
  • ซ่อมล้อ 6,000 บาท
  • โลโก้ดุมล้อ  650 บาท
  • เปลี่ยนหลอด LED 3,400 บาท
  • เปลี่ยนฟิล์ม 11,500 บาท
  • กล้องบันทึก 4,500 บาท
  • กล้องถอย 3,500 บาท

รวมภายนอก 86,410 บาท

ตอนนี้รถสมบูรณ์แล้ว ก็เอาไปปิดจบที่ ร้านล้างรถ Be Clean Car Detailing กรุงเทพกรีฑา ซอย 7 (ระวังไปผิดอันที่ชื่อเหมือนกัน) ไล่ขัดสีอีกรอบ แล้วก็ตัดสินใจเคลือบแก้วเพื่อป้องกันรอยขนแมวที่บอกเลยว่า รถสีน้ำเงิน รอยขนแมวเห็นง่ายกว่ารถสีดำ และก็ใช้แพคเกจแบบทำครั้งเดียวไม่มี reload เพราะแพคเกจใหญ่แถม reload 3 ปีนั้น ผมไม่มั่นใจว่าท่านเจ้าของรถจะมีเวลากลับมาทำหรือเปล่า

Car Detailing

  • เคลือบแก้ว 18,000 บาท
  • ซักพรม 3,000 บาท
  • ล้างห้องเครื่อง 1,000 บาท
  • ฟอกท้ายรถ 1,000 บาท

รวม Car Detailing 23,000 บาท

ใช้เวลาปั้นไป 3 เดือนกับการวิ่งไปแต่ละที่ไม่ใช่รอบเดียวจบ ไป ๆ มา ๆ เก็บตรงนั้น แก้ตรงนี้ก็สนุกไปอีกแบบครับ ยอดรวมสามแสนว่า กับราคารถปัจจุบันที่สองแสนปลาย สามแสนต้น หนัก ๆ หน่อยก็สองแสนนิด ๆ ก็เป็นเจ้าของได้แล้ว

นี่เราปั้นแพงกว่าตัวรถอีก หลายคนคงคิดว่าบ้าไปแล้ว เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า ไปออกแคมรี่ดีกว่า ฯลฯ (ได้คอมเม้นต์แบบนี้เยอะมาก)

แต่เอาจริง ๆ นะ รถแบบนี้มันต้องคนเข้าใจ และ รักจริง ๆ ซึ่งทำออกมา ค่าปั้น รวมค่ารถ จบอยู่กลม ๆ ที่ 7 แสนบาท คุณได้สมรรถนะ และ สภาพใหม่แบบนี้ สำหรับผม คุ้มค่ามาก

และถ้าย่อยรายการออกมาเป็นส่วน ๆ ก็จะเห็นว่าซ่อมแต่ละอย่างไม่แพงเลยครับ

  • งานส่วนเครื่องยนต์ 88,460 บาท
  • งานตัวถัง 86,810 บาท
  • งานภายใน 86,100 บาท
  • งานส่วนกระจกต่าง ๆ 58,800 บาท
  • Car Detailing 23,000 บาท

รวมทั้งสิ้น 342,770 บาท

_____________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art