รถของเล่นในราคาจับต้องง่าย ขับง่าย ดูแลง่าย อยากขับเมื่อไหร่สตาร์ทก็ติด กดเมื่อไหร่ก็มา แถมขับไปได้ทุกที่

โปรเจครถที่เราจะไม่ได้พาไปออกทะเล แต่จะพาไปทะลุดาวอังคารกัน

#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต #รถมือสอง #Howto #BMW #E90 #335i #N55 #ToTheMoon

ทำไมต้อง E90 

โจทย์ของโปรเจคต์นี้คือ งบล้านต้น ๆ ที่แรง เฟี้ยว เหนียว ง่าย ไม่ปวดหัว และต้องอะไหล่เยอะ

และพอเป็นรถยุโรปให้เข้ากับธีมช่องในช่วงนี้ โจทย์คำว่า “ง่าย” ก็ตกที่ Benz และ BMW แต่พอหารถที่แรง ง่าย ในราคาล้านต้น เหลือคำตอบเดียวคือ BMW เพราะมีหัวตัด มีรถวางเครื่องให้เลือกเยอะ ขณะที่ Benz มีตัวเลือกน้อยมาก มีแรง ๆ ก็พวกเครื่อง AMG ที่แรง แพง และ ไม่ง่าย

พอโจทย์เป็น BMW ปุ๊ป รถที่อยู่ในงบก็จะเป็น E60 ซีรีย์ 5 กับ E90 ซีรีย์ 3 ตัว 4 ประตู ที่อายุไม่เยอะมาก ไม่เกิน 15 ปี ตัวรถจะยังไม่โทรมมาก อะไหล่พลาสติคต่าง ๆ ยังไม่กรอบ สามารถเอาออกมาขับเล่นได้ทุกวันไม่ต้องกังวล

ใน 2 ตัวเลือกนี้ ผมเลือก ซีรีย์ 3 ก่อนเพราะรู้สึกว่าโปรเจคนัมเบอร์ 1 คันแรก อยากให้เป็นรถเล็กมุดสนุก อนาคตอาจจะเอา E60 มาทำบ้างก็ได้ใครจะรู้

พอเป็น ซีรีย์ 3 ปุ๊ป ผู้รู้ในวงการหลายคนทักผมว่า โปรเจคดาวอังคารแบบนี้ มันต้องรถ 2 ประตูสิ อนาคตราคาดีกว่า ทำทั้งทีต้อง E92 

ผมก็เห็นด้วยนะครับ ไม่เถียงเลย แต่หลังจากบวกโน่นนั่นนี่แล้ว ทำออกมาสไตล์ผมน่าจะจบที่ 1.4 – 1.5 ล้านบาท เพราะลำพังตัวรถก็เกือบล้านแล้ว ผมมองว่าราคานั้นไปชนกับ F32 พวก 420i หรือ 430i ราคาล้านกลาง ๆ มาเขี่ยแรงม้า จบออกมาราคาใกล้ ๆ กัน แต่รถใหม่กว่า ทันสมัยกว่า 

ก็เลยไม่เลือก E92 เพราะกลัวทำเสร็จแพง แล้วติดมือ 555

ประกอบกับส่วนตัวชอบรถ 4 ประตูมากกว่า สุดท้ายมาจบที่ E90 และวางแผนจะวางเครื่อง N55 เพราะอยากได้เหนียว อยากได้รถที่แรง ขับสนุก แต่ไม่ต้องดูแลเยอะ

ตัวเครื่องเช็คมาแล้วราคา เกือบ 3 แสนบาท รวมค่าวาง ค่าอะไหล่จุกจิกให้มันจบ รวมหลุมยางอะไหล่หลังที่ต้องเลาะเปลี่ยนด้วย น่าจะจบ 4 แสนบาท แบบยังไม่ได้ “ซ่อมใหญ่”

ทีนี้จะเอา E90 ปีแรก ๆ คันละ 2 – 3 แสนบาท มาวางก็เป็นตัวเลือกที่ดี ทว่าพอปีเก่าหน่อย เวลาจัดไฟแนนซ์จะได้น้อยกว่า ไอ้เราก็เผื่อ FC ซื้อต่อแล้วอยากจัดไฟแนนซ์ จึงมองหารถ LCI เพราะนอกจากได้พวงมาลัยเบา แล้วยังได้ยอดจัดไฟแนนซ์สูงกว่า ซึ่งตอนนี้ตัวรถน่าจะเริ่มต้นที่ 3 – 4 แสนบาท เอาแบบเน่า ๆ พวก 318i ไฟหน้าฮาโลเจน วิ่งสัก 3 แสน หรือ เครื่องพังน่าจะได้ที่ 3 แสนต้น ๆ

ระหว่างที่กำลังหารถทำโปรเจค To The Moon คันแรกนี้ ประจวบกับไปเห็นคันนี้ตั้งขายอยู่ ตัวรถเป็น LCI แท้ ปี 2011 เดิมเป็นเครื่องดีเซล วางใหม่เป็น N55 กับ Charge Pipe แต่ง และ downpipe แต่ง อื่น ๆ เดิมสนิท รวมไปถึงท่อที่เป็นท่อ 335i เดิม ๆ ด้วย กล่องกรองอากาศยังเดิม ไม่ได้ถอดออกใส่กรองเปลือย

มาพร้อมเบรคหน้า 6 pot หลัง 4 pot ผลิตโดย Brembo และ ล้อ BBS RI-A ล้อ Forged ญี่ปุ่นขอบ 18 แท้ ๆ อีกชุดนึง คิดสารตะแล้ว เอาคันนี้มาเล่นก่อนก็ได้ เพราะวางเอง เติมล้อ กับเบรคไป ราคาไม่หนีกัน สุดท้ายผมต้อง “ซ่อมใหญ่” อยู่ดี

สำหรับคนที่สนใจวางเครื่องเอง ให้ข้อมูลแบบนี้ครับ

ตอนนี้ N54 Twin Turbo ราคาชุดวางประมาณแสนปลาย บางที่เครื่องญี่ปุ่นก็สองแสนต้น ถ้าย้ายแบบ 1:1 คือ ย้ายจากรถตัดทั้งคัน รวมซันรูฟ ย้ายเสร็จรวมค่าแรง ต้องมี 3 – 4 แสน

ส่วน N55 Twin Scroll Turbo ราคาชุดวางประมาณ เกือบ 3 แสน วางเสร็จประมาณ 4 แสน ซึ่งยังไม่ใช่ย้ายแบบ 1:1 นะครับ ถ้าเอาทั้งคัน น่าจะต้องเพิ่มอีกเกือบ 2 แสน

ระยะเวลาในการย้าย แล้วแต่อู่ครับ แต่อู่ที่ผมใช้บริการพี่ช่างเค้าบอกขอขั้นต่ำ 1 เดือนครึ่ง ถ้าอะไหล่ตัวไหนไม่ครบ และไม่มีของก็รออะไหล่กันไปตามนั้น

หันมาดูคันนี้ ภายในนอกครบ ๆ มีลำโพงที่ประตูหลังด้วย คอนโซลหน้าเป็นรุ่นท๊อป มี 2 โหนก iDrive ตัวใหม่ CIC หรือ เมนูสีดำแดง ภายนอกมีซันรูฟ ใช้งานได้ปกติ ก้มดูจุดต่าง ๆ เรียกว่าย้ายมาค่อนข้างครบ

ตัดสินใจไม่ยาก เอาคันนี้แหละ

ซื้อมาแล้วอันดับแรกเลย คือ กุญแจ ไม่รู้รถเค้าเก่า หรือ เป็นคารแคเตอร์ของ E90 ผมซื้อคันไหนมา ได้กุญแจดอกเดียวตลอด ก็เลยเรียกช่างแมกซ์มาจัดการโคลนกุญแจใหม่อีก 1 ดอก พร้อมลบกุญแจเก่าในระบบออกทั้งหมด ทีนี้กุญแจที่ใช้เปิดรถคันนี้ได้ทั้ง 2 ดอกก็อยู่ในมือผมหมดแล้ว สบายใจกว่า

ค่าทำกุญแจดอกใหม่ระบบ Keyless ราคา 6,000 บาท

ทดลองขับแล้วขับสนุก ดึงดี เครื่องสตาร์ทนิ่ง เงียบ ไม่มีไฟอะไรโชว์นอกจากไฟเตือนให้ถ่ายน้ำมันเครื่อง เปิดลิ้นชักหน้ามา เจอบิลซ่อมเดิม ค่อนข้างอุ่นใน

พอถอยหลังเท่านั้นแหละ งานเข้าเลย รถรุ่นนี้ยังไม่มีกล้องถอยมาให้ครับ เลยโทรเรียกคุณนก Sound Station จัดจอแอนดรอยด์ และ กล้องถอยมาเสริมความสะดวกเสียหน่อย

จอแอนดรอดย์สำหรับ E90 คันนี้มีให้เลือก 2 แบบ เพราะหลุม iDrive เดิม เราจึงเลือกได้ว่า จะเอาแบบฝังในหลุม หรือ เป็นจอตั้งด้านนอกเหมือน F30 รุ่นใหม่ ๆ

เท่าที่ลองแล้วมีข้อดีข้อเสียต่างกันคือ จอหลุม จะกดยากเพราะหลุมเค้าเข้าไปลึก มุมบน และ ขอบล่างจะกดยากเป็นพิเศษ และบังคับเป็นจอขนาด 8 นิ้ว

ส่วนจอตั้ง แน่นอนขนาดใหญ่กว่าที่ 12 นิ้ว แต่ตั้งแล้วมันขัดตาเล็กน้อยเพราะจอมันบังซุ้มหลัง หรือ โหนกหลังไม่มิด มันจะโผล่ออกมาหน่อยนึง ผมไม่ชอบ

ตัดสินใจใช้จอฝังเอา เพราะอยากให้มันดูคลาสสิคด้วย และ ไม่ขัดตาด้วย แลกกับการกดที่ยากกว่า แต่ก็เอาหน่ะ คันนี้รถซิ่ง ไม่เน้นเอนเตอร์เทนเม้น

ส่วนกล้องถอยเป็นแบบตรงรุ่นในเบ้ามือจับ เปลี่ยนทั้งเบ้า แต่ด้วยระบบการตัดภาพที่ไม่ค่อยลงตัว ตอนสับเข้าเกียร์ถอย หน้าจอจะกระพริบนิดนึง ตรงนี้ผมรับได้

ไหน ๆ ก็จะเป็นรถซิ่งแล้ว เห็นจอแอนดรอยด์มีช่อง DVR เหลือ เลยให้ช่างช่วยใส่กล้องหน้าให้ด้วย เวลาจอดประชิด หรือ ลงเนินชัน ๆ หลังจากโหลดเตี้ยแล้วจะได้เอาไว้ดูว่าหัวโขกพื้นหรือยัง

ตอนนี้รถก็ใช้งานได้อย่างสบายใจแล้ว

ค่าเสียหายดังนี้

  1. จอแอนดรอยด์ 18,900 บาท (จอตั้ง จอฝังราคาเดียวกัน)
  2. กล้องถอยเบ้ามือจับ 4,500 บาท
  3. กล้องบันทึก Kenwook 4,500 บาท

รวมทั้งสิ้น 27,900 บาท

แล้วพอรวมกับค่ากุญแจอีก 6,000 บาทแล้ว ใน Ep.1 นี้เราซื้อรถมาเก็บรายละเอียดเบื้องต้นหมดไปที่ 33,900 บาท

ส่วน Ep หน้าผมจะซื้ออะไรมาเติม แล้วซื้อรถซิ่ง รถวางเครื่องมาเราต้องทำอะไรต่อ ติดตาชมกันได้ และ ฝากคอมเม้นต์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ

_____________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art