Bilstein B16 เซ็ทแบบ “เตี้ย นิ่ม สวย” ได้ฟิล นุ่มสบายเหมือนสแตนดาร์ท  แต่เกาะกว่า 50% ลดอาการย้วยของรถได้ 100%

โช้คอะไร อยากนุ่ม อยากซิ่ง แค่หมุนคลิ๊กเดียว แล้วไปได้เลย ไม่ต้องมานั่งลองผิดลองถูก เสียเวลาทำมาหากิน

#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต #รถมือสอง #Mercedes #Benz #EClass #W212 #E200 #Bilstein

หลังจากที่เราจัดเต็มกับชุดพาร์ท AMG E63 รอบคันให้ E200 W212 พอนั่งมองสักพัก รู้สึกท้ายโด่งไปนิด แถมรถย้วยไปหน่อยนั่งแล้วเวียนหัว

คิดมาหลาย Solution มาก แต่สุดท้ายตัดจบที่ Bilstein B16 เพราะหลังจากพิจรณาทางเลือก มันคือคำตอบที่จบที่สุด 

กับความที่เป็นสตรัทปรับเกลียว ทำให้ปรับสูงต่ำได้ ให้อิสระกับ “ความอยาก” ของเราได้เต็มที่ โดยเฉพาะคนแบบผม ที่บางครั้งอยากให้หลังเตี้ยลงอีกสัก 5 มิล บางช่วงชีวิตอยากยกรถขึ้นสัก 1 ซม

รวมไปถึงโช้คสามารถปรับความแข็ง-อ่อน ได้ 10 ระดับแบบคลิ๊กเดียว

  • ขับในเมืองฟิล นุ่มสบาย แต่ลดอาการรถโคลง ปรับ หน้า 1 หลัง 2
  • จะไปต่างจังหวัด หรือ บรรทุกเยอะ ปรับ หน้า 2 หลัง 3
  • วันไหนจะไป Track Day ปรับ หน้า 4 หลัง 5 หรือ หน้า 5 หลัง 6
  • ฟิลดาวน์มาก ๆ อยากไปแตะขอบฟ้า หมุนมันไปให้สุด ๆ

ถ้าอยากได้สูงบ้าง เตี้ยบางในแต่ละช่วงชีวิต อยากได้นุ่มบ้าง ซิ่งบ้าง ในแต่ละช่วงอารมณ์ สตรัทปรับเกลียวเป็นคำตอบที่ “เจ็บแต่จบ” 

ราคา 138,000 บาท จ่ายทีเดียว ตอบโจทย์การใช้งานตลอดอายุรถผม ไม่ว่าความต้องการของเราจะเปลี่ยนไปยังไงในแต่ละช่วงชีวิต แม้ความต้องการจะเปลี่ยนไปในแต่ละเดือน

ทำไมมันฟังดูง่ายจัง

ง่ายเพราะ Bilstein เค้าปรับแข็ง-อ่อน แบบ One-Click ด้วยการตั้งค่า Bump / Rebound ที่วิศวกรเยอรมันเค้าคำนวณ และ ทดสอบแบบมาแล้ว ว่าแต่ละคลิ๊ก มันจะตอบโจทย์การใช้งานแบบไหน ควรจะมีค่า Bump เท่าไหร่ Rebound  เท่าไหร่

  • Bump = ค่าการรับแรงกระแทกของโช้คอัพ
  • Rebound = ค่าในการคืนตัวของโช้คอัพ

ซึ่งสำหรับผม มันตรงจริตพอดีเป๊ะ หมุนแล้วถูกใจ และสบายใจที่จะหมุน

ต่างกับพวกปรับเยอะ ๆ หลายสิบระดับ โดยเฉพาะพวกปรับแยก Bump และ Rebound ที่กว่าจะปรับให้ลงตัวถูกใจ ต้องผ่านการลองผิดลองถูก หรือ ขึ้นอยู่กับว่าร้านที่เราไปติดปรับเก่งแค่ไหน ปรับแล้วปรับเลย คงไม่กล้าไปแก้กลัวเละ

กลับกัน หากอยากได้ซิ่ง แบบเกาะ ก็ต้องวัดดวงกันอีกว่าร้านตั้งเป็นมั๊ย เพราะพวกสตรัทแบบนี้ มันจะจบได้ต้องพึ่งฝีมือช่างในการตั้งค่่า กว่าจะลงตัว ยกขึ้น-ลง หลายรอบ เสียเวลาทำมาหากิน

อย่าลืมว่าชุดสตรัทใด ๆ จะขับดีหรือไม่ คนปรับตั้ง เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน โช้คดี ๆ เห็นตั้งจนขับไม่ได้เรื่องเยอะแยะไป

สำหรับตนขึ้เกียจ และ ไม่ชอบเสียเวลากับอะไรแบบนี้แบบ ผมจึงบอกว่า Bilstein B16 ถูกจริตผมพอดี เพราะอาศัยช่างปรับแต่สูง-ต่ำ พอแข็ง-อ่อน เราพอจะหมุนเองได้ “คลิ๊กเดียวจบ”

ไม่ต้องกลัว setting จะเละ ไม่ต้องระแวงใด ๆ ใช้ไปยาว ๆ ทน ๆ

ความสูงของตัวรถ ชุดสตรัทปรับได้ตามใจชอบ จะเอาหน้าทิ่มหลังโด่งสไตล์ Mercedes Benz หรือ เอาเสมอกันทั้งหน้า-หลัง ไม่มีปัญหา

สูตรผม ปรับให้สปริงนั่งในชุดสตรัทพอดี ไม่บีบให้รถสูงเกินไป หรือ ปล่อยให้สปริงหลวมจนไม่แน่น แบบความสูงของรถจะเตี้ยกว่าเดิมประมาณ 3 ซม. ซึ่งสำหรับผม ขับได้สบายมาก ไปไหนมาไหนไม่มีปัญหา

ที่โหด ๆ อย่างทางลงลานจอดรถอาคาร ธนิยะพลาซ่า หรือ เมก้าพลาซ่า สะพานเหล็ก โหลดคันนี้มา 2 สัปดาห์ยังไม่เคยขูดอะไรมาก่อน

ส่วนที่ชอบ Bilstein ที่สุด คือ ชุดสปริง ที่ไม่ใช่สปริงหลอดแบบยี่อห้ออื่น ๆ แต่เป็นสปรงแบบ Progressive คือ จะมีค่าความแข็งแปรผันตามน้ำหนัก และ แรงที่กระทำ

จะเห็นได้ว่าสปริงจะมีขดชิด ขดกว้างเป็น 2 ช่วง ไม่ใช่สปริงที่ระยะขดเท่ากันทั้งเส้น 

Progressive แบบนี้ คือตอนใช้ความเร็วต่ำ หรือ ตอนที่สะเทือนเบา ๆ ตามรอยต่อถนน สปริงจะนุ่ม เก็บ “สิ่งละอัน พันละน้อย” บนพื้นถนนกรุงเทพฯ ได้อยู่หมัด ประหนึ่งรถโหลดเตี้ย แต่ลดความโยกเยก ความย้วย ด้วยโช้ค monotube ที่ลูกสูบใหญ่ มีพื้นที่ในการวางชิมต่าง ๆ ได้มากมาย แม่นยำ ทำให้รถนิ่งในทุกย่านความเร็ว แม้เราจะปรับแค่เบอร์ 1 ด้านหน้าเพื่อความนุ่มสบาย

ในช่วงที่ใช้ความเร็วสูง หรือ จังหวะกระแทก สปริง Progressive ช่วงที่แข็ง จะทำงาน ซับแรงสะเทือนแบบรุนแรง รวมไปถึงพยุงตัวรถให้เกาะหนึบ

จะพลาดขับตกหลุมใหญ่ก็ไม่ต้องกลัวรถจะยุบรุนแรงจนกระแทก

จะยัดเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ก็เอาอยู่แบบนุ่ม ๆ เพราะแต่ละโค้ง แต่ละย่านการให้ตัว สปริง Progressive เอาอยู่

แบบนี้ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าปรับโช้คนุ่มแล้วจะเกาะมั๊ย เกาะครับ เกาะด้วยการออกแบบอย่างลงตัวของโช้คอัพกระบอกเดี่ยว (Monotube) กับสปริง Progressive ที่ยี่ห้ออื่นไม่ค่อยให้มา เพราะต้นทุนสูง

ความเจ๋งคือ ไม่ว่าผมจะใช้ล้อขอบ 18″ ติดรถมา หรือ เปลี่ยนไปใช้ล้อขอบ 20″ ยางบาง ๆ ขนาด 245/30-20 ในล้อหน้า

ความนุ่มสบายยังคงมีเหมือนเดิม แต่แน่นอนว่าจะกระด้างขึ้นนิดนึงแบบแทบไม่รู้สึกจากความบางของยางแก้ม 30 ที่สูงเพียง 2 ซม. เรียกว่าล้อแมกซ์เกือบแตะพื้นโลกกันเลยทีเดียว

ความประทับใจที่สุดคือ Bilstein B16 เก็บทุกอย่างเงียบกริ๊บ ทั้งถนนอุกาบาต ถนนช่วงก่อสร้างรถไฟฟ้า วิ่งผ่านทางรถไฟ ลุยฝาท่อกลางถนนแถวพระราม 4 สวนลุม วิ่งขึ้นลูกระนาด

B16 เอาอยู่แบบเกือบลืมไปแล้วว่ารถโหลด

ความเจ๋งยิ่งกว่าคือ ล้อขอบ 20″ ผมเติมลมยาง 36 ที่ควรจะให้อาการ “ป๋อง ๆ” เวลายางแข็ง ๆ กระทบถนนขระขระ แต่…B16 เก็บหมด ไม่สะเทือนขึ้นมาที่พวงมาลัยเลย

บอกคำเดียว…สุดยอดครับ

หลายคนอ่านถึงตรงนี้แล้วคงบอก

บ้าไปแล้ว จ่ายเงิน 138,000 บาท ต้องการฟิลลิ่งรถพ่อบ้าน ลูกไม่บ่น เมียไม่ด่า เนี่ยนะ

ขับเดิม ๆ ก็ได้

สำหรับผม บ้าจริง ๆ ครับ Bilstein มันดีบ้าบอมาก คุ้มค่ามาก เพราะผมมองว่าผมจะได้ใช้โช้คชุดนี้ไปตลอดอายุรถคันนี้ เพราะมันเป็นสตรัทปรับเกลียว ปรับแข็ง-อ่อนได้ ทำให้มันสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผมที่อาจเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงชีวิต หรือแม้แต่ความต้องการที่เปลี่ยนไปในแต่ละเดือนได้อย่างลงตัว

ราคานี้ผมถือว่าคุ้มค่าครับ

สำหรับท่านที่รู้สึกว่า ไม่ได้อยากโหลด แต่อยากแก้อาการย้วย ผมแบ่งเป็น 2 แบบครับ

  1. รถเก่าแล้ว ให้ตรวจสอบโช้คอัพว่า “ล้า” หรือยัง ถ้าล้าแล้ว รถวิ่งมาสัก 120,000 กิโลแล้ว หรือ มีรั่วซึม ให้เปลี่ยนเป็น Bilstein B4 สีดำ ที่ได้อาการรถคล้ายเดิม แต่ย้วยน้อยลงนิดนึง
  2. เช็คแล้ว โช้คอัพ ยังดีอยู่ทั้ง 4 ต้น แต่รถยัง “ย้วย” แนะนำเปลี่ยน Bilstein B6 โดยไม่ต้องเปลี่ยนสปริงครับ ใช้สปริงเดิมได้เลย รถจะสูงเท่าเดิม แต่เฟิร์มขึ้นนิดนึง ไม่แข็งกระด้าง แต่หายโยกเยก

สำหรับท่านที่อยาก “โหลดนิดนึง” 

บอกเลย นิดนึง ไม่มีอยู่จริง นอกจากคุณจะเป็นคนที่จิดใจแข็งแกร่ง

การโหลดใด ๆ ก็ตามที่ไม่ใช่สตรัทปรับเกลียว จะเป็นการเปลี่ยนสปริงโหลด ซึ่งส่วนมากจะเตี้ยลง 1 นิ้ว ระยะลง 1 นิ้วนี่แหละที่ผมบอกว่าเตี้ยลงนิดนึงไม่มีอยู่จริง เพราะท่านที่อยากให้ลงนิดนึง ส่วนพอโหลดลง 1 นิ้ว ยืนมองรถตัวเองแล้วจะรู้เลยว่า มันไม่นิด และ ที่สำคัญมันไม่จบ

ทำไมโหลดนิดนึงไม่จบ เพราะสุดท้ายมันก็คือ อาการ “โหลดล้อแตน” ถ้าคุณไม่ถือสากับคำนี้ หรือ ไม่เข้าใจคำนี้ คุณสามารถโหลดนิดนึงได้

แต่คนที่เข้าใจ “โหลดล้อแตน” จะรู้เลยว่า โหลดแล้วต้องเปลี่ยนล้อให้หล่อขึ้น ไม่งั้นทรงมันไม่ได้ 

หากคนที่เห็นภาพด้านบนแล้วรับได้ หรือ พอดีรถท่านเป็น AMG Package ที่ล้อเป็นแมกซ์ขอบ 18 หรือ 19 อยู่แล้ว หายห่วง

ใช้ชุด Bilstein B12 ที่เป็นชุดโหลดครบเซ็ท โช้ค+สปริง ราคาประมาณ 5 -6 หมื่นบาท รับประกัน 2 ปี  จบเหมือนกัน ขับดีหายห่วง ที่สำคัญ Bilstein เป็นผู้ผลิตโช้คอัพให้กับ Mercedes Benz เกือบทุกรุ่นในโลก ดังนั้นวิศวกรเค้ารู้ว่าต้องทำแบไหนถึงไม่เสียบุคลิครถเบนซ์

ท่านที่เห็นภาพแล้วรู้สึก “โหลดล้อแตน” รับไม่ได้ หรือ โหลด 1 นิ้วเยอะไป 

ทางออกของท่านคือ Bilstein B16 เพราะจะกลับไปเป็นเหมือนผม คือ อยากได้ตรงนั้นอีกนิด อยากลงตรงนี้อีกหน่อย การใช้ B16 ให้ความคล่องตัวในการใช้งานมากกว่า B12

มาถึงตรงนี้เพื่อน ๆ คงพอจะเห็นภาพแล้วว่า แนวทางในการปรับปรุงรถของท่านควรไปในทิศทางใด

เดิม ๆ แต่ลดย้วย เปลี่ยน Bilstein B4

เดิม ๆ ลดย้วย เพิ่มสมรรถนะขึ้น Bilstein B6

รถมาเป็น AMG Package พร้อมสปริง AMG ใช้ B8

อยากโหลดรถเพิ่ม ใช้ B12 ซึ่งคือ B8 + Eibach

อยากไปให้สุดทุกทาง คุ้มค่า และ ตอบสนองการใช้งานในทุกรูปแบบ รวมไปถึง “อย่ากโหลดลงนิดเดียว” ไป B16 ครับ

สนใจ แนะนำสอบถามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายโดยตรงกับเพจ Bilstein Thailand จะได้ไม่พลาดซื้อของหิ้ว ที่อาจถูกกว่า แต่ก็นะ ความสามารถในการรับผิดชอบมันต่างกัน

https://www.facebook.com/BilsteinThailandShop

หรือ โทร. 093-245-9356, 064-245-1556, 099-245-6526, 02-970-7137-8

(จ.-ส. 8.00-18.00 น.)

_______________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art