พิสูจน์กันให้หายคาใจว่าน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมี่ยม กับตัวธรรมดา B7 ที่ราคาต่างกันหลายบาทนั้น ให้แรงม้าต่างกันหรือไม่ และถ้าต่างกัน มันจะต่างกันแค่ไหน

เพื่อให้คุณตัดสินใจว่าคุณจะเติมน้ำมันอะไร

#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต #รถมือสอง #battleofdiesel #dieselPremium #vs #dieselB7

คำเตือน

ข้อมูลทั้งหมดนี้ เป็นเพียงการทดสอบในแบบของผมเพื่อสนองความอยากรู้ส่วนตัว แล้วเอามาเล่าให้ฟัง ไม่มีมาตรฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับแต่อย่างใด….โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล

รถคันนี้เราทดสอบกัน 4 แบบคือ

แบบที่ 1 เดิม ๆ ทั้งคันยังไม่ได้จูนอะไรเพิ่มเติม มีเพียงเก็บงานสไตล์ “ปั้น” แบบผม เปลี่ยนอะไหล่ เช็ครั่วซึมให้ตัวรถสมบูรณ์ใกล้เคียงกับออกห้างฯ ที่สุด

วัดแรงม้าได้ 164 แรงม้าที่ล้อ ย้ำว่าที่ล้อไม่ใช่ที่เครื่อง เพราะถ้าที่เครื่องจะได้ม้ามากว่านี้ แต่ผมเห็นว่าเป็น “ม้าโม้” เพราะม้าใช้จริงผมชอบดูจากแรงมาที่ลงไปที่ล้อตรงไปที่พื้นถนน นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกจริงเวลาใช้งาน

แบบที่ 2 คือ รถเดิม ๆ ท้้งคันจูนแรงม้า Stage 1 จาก Motion Garage ซึ่งเป็นไฟล์ Project’A เติมน้ำมัน Caltex Diesel Premium

ได้แรงม้า 202HP ที่ 4300 รอบต่อนาที

แบบที่ 3 คือ รถคันเดิมที่จูนแรงม้ามา แต่เติ่มท่อไอเสียหลัง Cat ขยายท่อเป็น 3 นิ้ว เพื่อให้ความเร็วตั้งแต่กลาง ถึงสูง ไอเสียไหลโฟลวขึ้น แล้วใช้หม้อพักหลังสูตรของ 42/1 เพื่อให้รอบต้นไม่แรงไม่ตก เติมน้ำมัน Caltex Diesel B7

ได้แรงม้า 201HP ที่ 4000 รอบต่อนาที

แบบที่ 4 รถคันเดิมจากด้านบน แต่เติมน้ำมัน Diesel Premium เข้าไปที่ส่วนผสม 50/50 หมายถึง น้ำมันเก่า Diesel B7 มีอยู่ 1 ขีด แต่ไม่ไหวจะรอให้มันหมด เลยเติม Diesel Premium เข้าไปอีก 1 ขีด ดังนั้นคร่าว ๆ คือ เป็นการผสม 50/50

ได้แรงม้า 202HP ที่ 3850 รอบต่อนาที

จากแรงม้าที่ได้จะเห็นว่า หลังจากจูนมาแล้ว จะเติมน้ำมันอะไร หรือ ทำอะไรเพิ่มที่ยังคงอยู่ใน Stage 1 คือ ไม่ถอด CAT ออกนั้น แรงม้าไม่เปลี่ยนเลย

ที่เห็นแรงม้าแปรผันที่ 1 -2 แรงม้า สำหรับผมไม่นับ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นสภาพอาการ ช่วงเวลาในการวัด เป็นต้น อีกทั้งความต่าง 1 – 2 แรงม้า ไม่เป็นสาระสำคัญในบทความนี้

จากข้อมูลที่พยายามทดสอบมา ผมสรุปได้ในแบบของผมว่า น้ำมัน Diesel Premium ให้แรงม้าไม่ต่างกับน้ำมัน Diesel B7 แต่อย่างใด เพื่อน ๆ จะเลือกเติมอะไรก็ได้ ไม่มีผลกับความแรงเลย

แต่ที่เห็นช้ด ๆ คือ หลังจากทำท่อมา เราจะได้แรงม้าที่เร็วขึ้น จาก 4300 รอบ เป็น 3850 รอบต่อนาที ส่งผลให้การขับสนุกขึ้น และพอกำลังสูงสุดมาไวเราจะรู้สึกว่ารู้สึกว่าแรงขึ้น เพราะกดคันเร่งน้อยกว่าเดิม ซึ่งยังส่งผลให้ประหยัดน้ำมันขึ้นด้วย

สิ่งที่แปลกใจมากในการทดสอบนี้ คือ ผมเข้าใจมาตลอดว่า Diesel Premium ควรจะมีค่าที่ดีกว่าบริสุทธิ์กว่า น่าจะได้แรงม้ามากกว่า ทว่ากลับไม่จำเป็น

ส่วนในเรื่องความสะอาดนั้น อู่ BMW ที่ผมรู้จัก ช่างหลายคนบอกผมว่าเติม ๆ ไปเหอะ สุดท้ายถอดท่อไอดี ลิ้นปีกผีเสื้อออกมาล้าง เน่าพอกัน ถึงเวลา CAT, EGR และ DPF ก็ต้องถอดล้างตามระยะอยู่ดี ซึ่งช่างก็ไม่เห็นว่าคันไหนจะสะอาดเป็นพิเศษจนคุ้มค่าราคาส่วนต่างของน้ำมัน

แต่ต้องบอกว่า ของพวกนี้ขั้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล ผมเองก็ยังชอบเติม Diesel Premium อยู่เหมือนเคย โดยเฉพาะรถที่วิ่งเยอะ ๆ ใช้งานหนัก ๆ มักชอบเติมน้ำมันที่รู้สึกว่าดีโดยใช้ความชอบส่วนบุคคลล้วน ๆ

สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะพอเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ หากมีอะไรสงสัย มีอะไรอยากแชร์ สามารถไปพูดคุยกันต่อได้ที่หน้าเฟสบุ๊คเพจเหมือนเคยครับ

_____________________________________________

www.facebook.com/xenonartpage

https://www.youtube.com/user/artxenonart

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art