อย่างที่รู้กันว่า เทคโนโลยี ใหม่ สินค้ารุ่นแรก ๆ มันไม่สมบูรณ์ รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ก็เช่นเดียวกัน แต่วันนี้ผมว่าเค้ามาถึง Gen ที่เริ่มน่าสนใจแล้ว

แล้วก่อนจะเข้าไปลุยเล่น ผู้ใช้รถอย่างพวกเราควรรู้อะไรบ้าง

#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #รถยนต์ไฟฟ้า #รถEV #น่าเล่นหรือยัง #EVEcosystem #พี่อาร์ต #MGThailand

หลายคนให้ความสนใจ ผมเองก็มี FC หลาย ๆ ท่านทักมาถามว่า พี่อาร์ตไม่เล่น EV หรือ ไม่เอา EV มารีวิวบ้างเหรอ

บอกเลยว่าติดตาม ศึกษามาตลอด ส่วนตัวมองที่ผ่านมา รถเกือบจะพร้อม แต่ระบบนี่สิที่ยังไม่พร้อม เลยได้แต่ดูว่าแต่ละแบรนด์มีการขยับตัวกันอย่างไร สถานีชาร์จมีโครงการยังไงให้รองรับการที่มีรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องไปต่อแถวชาร์จทีละชั่วโมง

ที่ผ่านมาแต่ละแบรนด์โดยมากก็จะมุ่งเน้นไปที่ ศักยภาพตัวรถ และ ลูกเล่น รวมไปถึงแข่งขันกันเรื่องระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่ผมมองว่าหากจะเลือกซื้อ รถ EV สักคัน ระยะทางไม่ใช่ปัจจัยหลักอย่างเดียว

ราคาหล่ะ สมเหตุสมผลหรือเปล่า คุณภาพมั่นใจได้แค่ไหน ซื้อแล้วใครจะดูแลเรา ศูนย์บริการครอบคลุมแค่ไหน รวมถึงราคาอะไหล่ในอนาคตจะเป็นยังไง เพราะต่อให้เป็นรถไฟฟ้า การบำรุงรักษาง่าย แต่หากเสียขึ้นมา ไม่ใช่ใครก็ซ่อมได้

จนวันก่อนอ่านเจอข่าวของ MG EV Ecosystem แล้วโดนใจ เพราะ MG ถือเป็นแบรนด์ที่เข้าทำตลาดในบ้านเรามานานแล้ว  มีการพัฒนารุ่นใหม่ ๆ มาตลอด รวมไปถึงศูนย์บริการเยอะแยะมากมาย พิสูจน์ให้เห็นว่าแม้จะเป็นแบรนด์อังกฤษที่จีนซื้อต่อไป แต่เค้าทำได้ดี มีความมั่นคง โดยเฉพาะเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่ปล่อยรถ EV เต็มตัวลงตลาดบ้านเรา เห็น blogger บ้านเราก็รีวิวกันไปเยอะมาก

ขอก๊อปข่าวมาลงบางส่วนดังนี้

MG รุกตลาด “อีวี” ชูระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ของประเทศจะแข็งแกร่งต้องมี ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สถานีชาร์จครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ การพัฒนาและการจัดการแบตเตอรี่ที่ดี และการสร้างความรู้พื้นฐานและความเข้าใจไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อให้อีวีในไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน เผยตัวเลขยอดขายรวมปีที่ผ่านมา 31,005 คัน หรือมีอัตราการเติบโตที่ 9.5% พร้อมเตรียมส่งผลิตภัณฑ์ลงตลาดที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าหลากหลายกลุ่มมากยิ่งขึ้นในปีนี้

ดูแล้ว MG ย่อย EV Ecosystem เป็น 4 ส่วน

  1. ผลิตภัณฑ์หลากหลาย
  2. สถานีชาร์จครอบคลุม
  3. การพัฒนาและการจัดการแบตเตอรี่ที่ดี
  4. สร้างความรู้ ความเข้าใจไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่

1. ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย – ใช่ครับ การมีรุ่นรถยนต์ให้เลือกตามความต้องการใช้งานของผู้ใช้ในแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะกลุ่มคนทำงาน กลุ่มแม่บ้าน นักศึกษา รวมไปถึงคนค้าขาย ที่ต้องการสมรรถนะรถยนต์ พื้นที่ใช้สอย ไม่เท่ากัน และต้องการระยะวิ่งไม่เท่ากัน

เช่นผมวิ่งในเมือง ชอบขนาดกลาง หรือ หากเป็นคนชอบเที่ยว คงชอบ SUV ที่ไปได้ทุกที่ ดังนั้นแบรนด์ที่มีรุ่นให้เลือกหลากหลาย ย่อมดีกว่า

2. สถานีชาร์จที่ครอบคลุม – อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สำคัญ แต่ไม่ใช่สิ่งเดียวในการพิจารณาเลือกใช้รถ EV ผมมองว่า การสร้าง และขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นส่วนสำคัญไม่แพ้ระยะทาง เพราะหากตัวรถมีระบบชาร์จที่แพร่หลาย มีสถานีชาร์จทั่วถึง รองรับพื้นที่ใช้งานมากขึ้น ก็จะหมดกังวลเรื่องการเดินทางไปได้เลย

เท่าที่ทราบ PTT มีเริ่มขยายจุดชาร์จไปเยอะแล้ว รองรับหัวชาร์จทั้ง 3 แบบ คือ AC, CCS2 และ CHAdeMo รวมไปถึง MG มีการร่วมมือกันระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิต, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ บางจาก ในการสร้างสถานีชาร์จให้มากขึ้น ครอบคลุมพื้นที่การเดินทางได้ถี่มากขึ้น โดยเราสามารถจองช่องชาร์จผ่านแอปฯ i-SMART ของ MG ได้

ทั้งหมดนี่เป็นการต่อยอดจากปีก่อนที่ MG ร่วมกับภาครัฐ และภาคเอกชนเปิดตัว PEA VOLTA ในปั๊มน้ำมันบางจากทุก 150  กิโลเมตร

อันนี้ผมมองว่าเป็นจุดแข็งจุดหนึ่งของ EV Ecosystem หรือ เรียกว่าจุดสำคัญอันดับต้น ๆ เลยในการตัดสินใจว่าถึงเวลาที่ผมจะเปลี่ยนจากรถน้ำมัน เป็นรถ EV หรือยัง

3. การพัฒนาและการจัดการแบตเตอรี่ที่ดี เทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ มีส่วนสำคัญ แบรนด์ใดลงทุนพัฒนา และ มีการบริหารจัดการแบตเตอรี่ ได้ดีกว่า ย่อมได้เปรียบ เพราะระยะยาว แบตเตอรี่ รถ EV ย่อมเสื่อมตามการใช้งาน ใครมีโรงงานแบตเตอรี่เป็นของตัวเอง ย่อมมีต้นทุนที่ถูกกว่า และเจ้าของรถอย่างพวกเราก็กังวลน้อยกว่า เพราะเราก็จะได้เปลี่ยนแบตฯ แท้ศูนย์ในราคากระเป๋าไม่ฉีก ไม่ต้องพึ่งยาดมว่าหลังจากหมดประกันแล้ว ค่าแบตฯ จะโหดแค่ไหน

ในข่าวว่า BOI อนุมัติ MG ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในไทยแล้วดูแล้วอนาคต ราคาไม่น่าโหดเหมือนแบตฯ นำเข้าที่ผมบ่นเป็นประจำ

อีกส่วนที่ผู้ใช้รถมองข้าม คือ การจัดการแบตเตอรี่ที่ไม่ใช้แล้ว ว่าจะทำอย่างไรต่อไปให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด ซึ่งอย่างน้อยในข่าวก็บอกว่า MG ได้วิจัยในเรื่องของวิธีการจัดการแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดมลพิษกับประเทศไทยอีกด้วย

4. การสร้างความรู้พื้นฐานและความเข้าใจไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่  ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าระบบนิเวศน์ที่สำคัญที่สุด คือ “คน” ทั้งผู้ใช้งานที่ควรเข้าใจรถ EV จริง ๆ โดยในข่าวบอกว่าจะเข้าไปให้ความรู้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งคาดว่าน่าจะให้ความรู้ความเข้าใจระบบ EV รวมไปถึงทิศทางในอนาคตของตลาด

เชื่อว่า หลังจากคนรุ่นใหม่ ๆ ได้รับทราบ นอกจากจะใช้งาน EV ได้อย่างดีแล้ว น่าจะเห็นทิศทางอาชีพในอนาคต รวมไปถึงบุคลากรที่ได้รับการอบรม เพื่อให้บริการรถ EV ทั้งการให้คำปรึกษา คำแนะนำอย่างถูกต้อง

และสำคัญที่สุดคือช่าง EV ที่ดูแลรถของเรา เพราะช่างซ่อมรถเดิม อาจไม่สามารถซ่อมรถ EV ได้อีกต่อไป เทคโนโลยีเปลี่ยนไปเยอะมาก ตรงนี้ผู้ผลิตรถยนต์ EV ที่ดี ย่อมสร้างกองทัพบุคลากรออกมารองรับลูกค้าตัวเอง เพื่อลูกค้าอย่างพวกเราจะได้ขับอย่างสบายใจ

รถ EV เพิ่งเริ่มเติบโตแบบจริงจังในช่วงไม่นาน คงจะตอบยากว่าแบรนด์ไหนพร้อม แต่สังเกตง่าย ๆ คือ แบรนด์ไหนขยายสาขาเยอะ ออกรถรุ่นใหม่ ๆ มาตลอด ผมว่าแบรนด์นั้นน่าสนใจ เค้าต้องมีการพัฒนา ลงทุนมหาศาล คงไม่ทิ้งเราไปง่าย ๆ

ที่กล่าวมาทั้งหมด แน่นอนเป็นเพียงปัจจัยเสริมจะทำให้เราใช้ EV ได้อย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง แต่ตัวรถย่อมเป็นส่วนสำคัญหลัก ถ้ารถเสถียร ไม่รวน มีศูนย์บริการครอบคลุม ไม่ทิ้งลูกค้า รวมไปถึงราคาอะไหล่ที่จับต้องง่าย เจ้าของรถอย่างเรา ๆ ย่อมสบายใจในการครอบครองรถระยะยาว ไม่ใช่ขับไปเสียวไป

ส่วนเพื่อน ๆ ที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ผมมองว่ามันเริ่มน่าสนใจมากขึ้นแล้วครับ เมื่อมีแบรนด์ที่ลงทุนสร้าง EV Ecosystem แบบเต็มระบบ

งานนี้คงต้องรอดูงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ว่ารถ EV จะว้าวแค่ไหน

ที่มา: https://www.mgcars.com/th/NewsActivities/Detail/ev-ecosystem-zero-emission?utm_source=BM_Facebook_Mar22&utm_medium=AWO_FB&utm_campaign=4Mar22_PhotoAlbum&fbclid=IwAR3blwHU2BJYAeJCmLb40meT-EstGmzMnUBSEsACHdbUbub6KW79XbEay-Q

#EVLeader #MGThailand #EVEcosystem

_______________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art