ว่าด้วยเรื่องการชงรถ เค้าทำอะไรกัน ทำกันแค่ไหน แล้วรถมือสองที่เค้าชง กับ ยังไม่ชง หรือ ชงไม่ดี ซื้อมาแล้วเราต้องทำอะไรต่อ

#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต #รถมือสอง #Howto #ชงรถ

จากบทความ #ปั้นให้ดู Final Touch ปิดจ๊อบ Benz E Coupe W207 Ep.3 (ชงรถ)

เราพูดถึงการ “ชงรถ” เอาไว้ เห็นว่าน่าสนใจจึงทำหัวข้อแยกออกมาให้เพื่อน ๆ ได้เสพกันแบบสนุก ๆ และย้ำว่าสนุก ๆ อย่าไปคิดมาก 

โดยทั้งหมดนี้เป็นมุมมองของ “คนซื้อรถมือสอง” คนหนึ่งเหมือนทุก ๆ ท่าน ไม่ใช่เต้นท์รถแต่อย่างใด และ พยายามไม่พาดพิงใด ๆ 

ชงรถ คืออะไร?

การชงรถ หลัก ๆ คือ การที่เต้นท์รับซื้อรถมาแล้ว เอามาทำความสะอาดคราบประสบการณ์ของตัวรถ ขัดขี้ไคล ปั่นเงาสีรถ ล้างห้องเครื่อง จริง ๆ คล้าย Car Detailing แต่การทำงาน อุปกรณ์ และ น้ำยานั้น ต่างกับที่เราคุ้นตาจาก Car Care อย่างน้อยก็ที่ผมใช้บริการประจำอย่าง Be Clean

การชงรถสไตล์เต้นท์เท่าที่เห็นจนคุ้นตาคือ “เด็กชง” จะใช้แปรงสีฟันเก็บทุกซอกทุกมุมทั้งคัน ส่วนพรมก็ใช้แปรงซักผ้ามาขัด จากนั้นแล้วตากแดด ชิ้นส่วนพลาสติคบางที่ก็ใช้แปรง บางที่ก็สก็อตช์ไบรท์ตามแต่สภาพคราบสกปรกว่าฝังแน่นแค่ไหน ส่วนน้ำยาอันนี้ไม่ทราบเค้าใช้อะไร เพราะไม่เคยละลาบละล้วงไปถามเค้า 

ในขณะที่ Car Care หรือพวก Car Detailing จะ “ดู” ไฮโซวกว่า ที่ใช้คำว่า “ดู” เพราะเราไม่สามาถตั้งสมการง่าย ๆ ว่า Car Care ต้องดีกว่าเต้นท์ เต้นท์ที่ใช้น้ำยาเทพ ๆ น่าจะมีเหมือนกับ Car Care ที่ใช้น้ำยาห่วย ๆ ก็น่าจะมี ดังนั้นห้ามใช้สมการว่า เต้นท์ห่วยกว่าคาร์แคร์นะ

แต่เท่าที่ผมทำร้านประจำภายอย่าง Be Clean กรุงเทพกรีฑา 7 และอนุมานว่า Car Detailing เจ้าดี ๆ ที่อื่นก็คงคล้ายกันนั้น เค้าจะใช้แปรงพิเศษในการทำความสะอาดตามซอก น้ำยาก็แชมพูเฉพาะทางยิงเป็นโฟม ภายในก็น้ำยาฟอกเบาะหนังโดยเฉพาะ ใช้แปรงขนม้าที่ไม่เป็นอันตรายต่อหนัง…อะไรประมาณนี้

ผิวตัวรถมียาขัดหลายแบบ ทั้งยาตามสีรถ ยาตามสภาพผิวสี เครื่องขัดก็จะมีหลายแบบตามแต่สภาพผิว และ พื้นที่ในการขัด

อารมณ์เหมือนร้านตัดผมทั่วไป ใช้แชมพูธรรมดา ครีมนวดพื้น ๆ กับ ร้านตัดผมอย่างดีที่ใช้แชมพูแพง ๆ ครีมนวดแพง ๆ แบบนั้นแหละครับ

การชงรถนั้น มีทั้งแบบชงมาก ชงน้อย แล้วแต่สไตล์ของแต่ละเต้นท์ ผมขอแบ่งเต้นท์เป็น 4 เลเวล ดังนี้

Level 0

ที่เป็นระดับ 0 เพราะเค้าไม่ได้ชงเลย พอเค้าซื้อรถมา ก็ทำเพียงล้างทำความสะอาด แล้วตั้งขายเลย ไม่เก็บงานใด ๆ ประหนึ่งซื้อมาแล้วเอาเข้าเข้าปั๊มล้าง แล้วเอามาตั้งขาย

เบาะจะมีคราบดำฝังอยู่หรือไม่ สีจะเงาหรือเปล่า ไม่สน

Level 1

สเต็ปนี้จะทำเบา ๆ เน้นสภาพเดิม แต่ทำมากกว่าล้างหน่อย เพราะยังมีการขัดสี ฟอกเบาะ ฟอกพรม กรีดกระจกให้ใส ๆ ซึ่งอาศัยให้เด็กชงรถประจำเต้นท์จัดการ ส่วนจะใช้เครื่องมือดีแค่ไหน น้ำยาดีเพียงใด และ ทำเก่งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเต้นท์ว่าใส่ใจแค่ไหน

Level 2

เป็น Level ที่เราจะเน้นในบทความนี้ เพราะผมชอบซื้อรถ Level นี้ มันสบายใจ สบายตากว่า

ระดับนี้เค้าก็ฟอกทำความสะอาดภายในแบบทุกซอกทุกมุม ขัดสี ชักเงาให้รถดูดี ส่วนจะเก็บละเอียดแค่ไหน น้ำยาที่ใช้จะกัดหนัก หรือการขัดสีจะดีแค่ไหน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือ “เด็กชง” ของแต่ละเต้นท์

แต่ Level 2 นี้จะเพิ่มเติมตรงที่เค้าจะเก็บงานตัวถังด้วยสำหรับรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกรอยครูดไม่หนัก โดยเค้าจะเลี่ยงไม่ทำให้รถเสียราคา หรือ สร้างข้อกังขากับผู้ซื้อ เช่นฝากระโปรงหน้า มักจะไม่เก็บ เดี๋ยวคนซื้อจะหาว่ารถชนมา หลังคาก็มักจะไม่ทำ เดี๋ยวคนซื้อหาว่ารถคว่ำมา เป็นต้น

ภายใน นอกจากฟอกทำความสะอาดแล้ว หากพบว่าปุ่มลอกเยอะน่าเกลียดก็เอาไปซ่อมเสียหน่อย เบาะขาดก็เอาไปโป้วพ่นสี ถ้าเป็นเพียงรอยถลอก หรือ หนังแตกตามสภาพ เค้ามักจะปล่อยไว้ ซึ่งเราก็ต้องเข้าใจเค้าครับ เก็บเนี๊ยบต้นทุนก็สูง ใช้เวลาทำนานดอกเบี้ยก็เดินเยอะ สุดท้ายเดี๋ยวจะกลายเป็นแพงกว่าเต้นท์อื่นในตลาด

Level 3

กลุ่มนี้จะอัพจาก Level 2 โดยจะเพิ่มจุดขายตรงสปาห้องเครื่อง สปาภายใน แถมเคลือบแก้วเต็มระบบ ฟังแล้วได้อารมณ์ชุดใหญ่ไฟกระพริบ พยายามทำให้รถพร้อมใช้งานที่สุด

หมายเหตุ:

Level ต่าง ๆ เป็นระดับการ “ชงรถ” ไม่ใช่คุณภาพของเต้นท์รถนะครับ เต้นใหญ่ ๆ หรู ๆ ที่เจอหลายแห่งยัง “ชงรถ” แค่ Level 1 ก็มี ดังนั้น อย่าสับสนกับระดับความอลังการของเต้นท์ กับระดับการเก็บงานของรถ

ซื้อรถชงแล้ว หรือแบบสด ๆ ดีกว่า?

สำหรับผม Level 1 ผมไม่ค่อยได้ซื้อเท่าไหร่ ส่วนมากอยู่นอกเมือง บางทีอยู่ในโซนที่ผมไม่ไปซื้อ ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดว่า Level 1 ราคาจะถูกกว่า พราะเน้นขายไว ไม่เสียเวลาจมทุนมานั้งชงรถเป็นสัปดาห์ แต่จากประสบการณ์จริงไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกครั้ง

บางเต้นท์ออกแนวขี้เกียจ ตั้งราคาตลาดเท่าชาวบ้าน แต่ไม่ทำอะไรเลย เคยเจอแบบ เฮ้ย…ฝาพลาสติคครอบเครื่องหาย พี่ยังไม่หามาใส่ ราคาก็เบียด Level 2

โดยมากผมจะซื้อเต้นท์ Level 2 โดยคัดเต้นท์ที่ปรานีต ไม่มั่ว ซื้อแล้วเอามาทำต่อง่ายกว่า เสร็จเร็วกว่า เอาง่าย ๆ เจ้า W207 E Coupe คันล่าสุด ต้องมาชองเองด้วยความจำเป็น เสียเวลาชงไปร่วม 10 วัน

ส่วน Level 3 ไม่ต้องพูดถึง ไม่เอาครับ ชอบเอามาทำเองมากกว่า เพราะการขัดสี เคลือบแก้ว สปาภายในนั้น มีรายละเอียดเยอะ แม้แต่ Car Care/Car Detailing ยังต้องเลือกร้านที่น้ำยาดี ๆ อุปกรณ์ดี ๆ และฝีมือดีเลย จะให้ พนง. ประจำเต้นท์มาเคลือบแก้ว อันนี้ไม่สบายใจเท่าไหร่ เพราะเราเป็นคนจุกจิก

รวมถึงเคยเจอรถที่เต้นท์ใหญ่เคลือบแก้วมาแล้ว หดหู่ครับ เค้าเคลือบแค่ให้ได้เรียกว่าเคลือบ แต่งานออกมาลำบากสายตามาก เคลือบไม่ทั่วไม่พอ บางจุดเคลือบแล้วด่างด้วย เลยเป็นภาพจำของการแก้งานชุดใหญ่ที่บอกตัวเองว่าเลี่ยงได้ เลี่ยงดีกว่า 

หากไปเจอรถที่เข้าตา ถูกใจ ไมล์เป๊ะจากเต้นท์ Level 3 ก็จะบอกเค้าเลยว่าไม่ต้องสปาอะไรมา เคลือบแก้วไม่ต้อง เดี๋ยวผมเคลือบเอง แล้วลดราคาไปสบายใจทั้ง 2 ฝ่าย

ถามว่าการชงรถดีมั๊ย สำหรับผม ผมไม่ติดว่ารถชงมาแล้ว เพราะถ้าชงมาดี เราก็ไปต่อง่าย แต่ถ้ารถชงมาไม่ดี บางทีแก้แล้วเหนื่อยยิ่งกว่า

ซื้อรถชงแล้ว ทำอะไรต่อ?

เนื่องจากแต่ละเต้นท์ใช้น้ำยาคุณภาพต่างกัน ฝีมือเด็กชงก็ต่างกัน คงตอบแบบสรุปไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละคัน ดังนั้น หากเราซื้อรถที่ชงแล้ว ก็ตรวจสภาพดังนี้

  1. สีภายนอก เราพึงพอใจแล้วหรือยัง ต้องซ่อมสี หรือทำอะไรมั๊ย
  2. สภาพสียังมีขนแมวหรือเปล่า ยังเงาขึ้นได้อีกหรือเปล่า เอาไปจอดกลางแดดแล้วขึ้นรอยวาวเป็นวงหรือไม่
  3. สภาพหนังภายในสะอาดพอแล้วยัง หนังแห้งแตกหรือเปล่า
  4. ผ้ายางบวมเก่าหรือไม่

ทั้งหมดนี่ง่ายครับ เอาเข้าร้าน Car Detailing ที่คุณไว้ใจ ให้เค้าดูสภาพว่าต้องทำอะไรต่อ ส่วนมากก็ขัดลบรอยชักเงาที่ผมทำประจำ คำว่าลบรอยนี่ ลบทั้งรอยขนแมว และรอยวาวจากการขัดสีไม่ถูกวิธีด้วย

ภายในก็เช็คสภาพหนังดูว่าต้องลง Conditioner เพื่อให้หนังมีน้ำมีนวลเพิ่มมั๊ย พรมแบนเกินไปหรือเปล่า ถ้าแบนไปก็ตีฟูเพิ่มได้ (ต้องร้านที่มีอุปกรณ์ครบเท่านั้น)

หากในรถมีกลิ่นก็จัดการ “กำจัดกลิ่นรถเก่า” อย่างที่เคยทำให้ดูแล้ว

หากใครไม่มีร้านประจำ หรือ ขึ้เกียจหาร้านที่เข้าใจวิธีการ “ชงรถ” สามารถตามรอยผมไปทำที่ Be Clean กรุงเทพกรีฑา 7 ได้ เพราะรถผมชงที่นี่ทุกคัน ไม่ว่าเต้นท​์จะชงมาแล้ว หรือ ไม่ได้ชงมาก็ตาม ดังนั้นเค้าเข้าใจดีว่าต้องทำอะไรต่อ

นอกจากนี้ที่ Be Clean เค้ายังมีบริการ “ชงรถ” ให้เจ้าของรถกรณีจะเอารถไปขายต่อในราคาย่อมเยาด้วย เอาเป็นว่า เค้าทำรถผมมาทุกคัน + ประสบการณ์ car detailing ของเค้า ทำให้เค้าเข้าใจการ “ชงรถ” ครับ ไม่ต้องอธิบายเยอะ อยากได้รถสภาพไหนบอกเค้า เดี๋ยวเค้าจัดให้

google map >>> https://goo.gl/maps/YNogtcHQ3sPTMUV4A

ซื้อรถไม่ผ่านการชง ทำยังไงต่อ?

อันนี้ง่ายเลย เพราะเพิ่งทำเสร็จให้ดูไปคันนึง รถสดมาก ๆ เพราะเต้นท์ยังไม่ได้ “ชง” แต่ผมใจร้อนบอกไม่ต้องน้อง เดี๋ยวพี่ชงเอง พี่จะได้ทำคอนเท้นต์ด้วย

เพื่อน ๆ คงเห็นทุกขั้นตอนไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าพลาดไป ก็ตามไปเก็บได้ตามนี้

#ปั้นให้ดู Final Touch ปิดจ๊อบ Benz E Coupe W207 Ep.3 (ชงรถ)

นอกจากนี้ ผมลองถามราคาหลาย ๆ อย่างจากร้าน Be Clean มาฝากเพื่อน ๆ เป็นไอเดียนะ จะมาทำที่นี่ หรือ จะหาร้านประจำของคุณก็ได้ เอาที่เราสะดวกใจที่สุด 

  1. ฟอกเบาะ + แผงประตู 3,000 บาท
  2. ซักพรม เป่าลมร้อนด้วยเครื่องมือพิเศษ แห้งว่าตากแดด 3,000 บาท
  3. ฟอกท้ายรถ ตัวเก็บกลิ่นเลย 1,000 บาท
  4. ล้าง ทำความสะอาดห้องเครื่องแบบมืออาชีพ 1,000 บาท
  5. ขัดสีลบรอย ชักเงาเต็มระบบ พร้อมเคลือบสี 5,000 บาท

ทั้งนี้ราคาเป็นเพียงไอเดียเท่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพรถของท่านด้วย ร้านอื่นอาจมีแพง หรือ ถูกกว่านี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจครับ

ของถูกและดีไม่มีในโลก ทุกอย่างมีต้นทุนของมัน 

ส่วนท่านที่เป็น Car Care / Car Detailing แล้วเข้ามาอ่าน ก็ลองเอาไปปรับใช้กับร้านของท่านได้ไม่ ตรงไหนสงสัย inbox ถามได้หน้าเฟสบุ๊คแฟนเพจ ยินดีช่วยครับ

สรุป

ซื้อรถอย่าคิดมากครับ ดูตามสภาพ รถที่ชงมาดี ชงมาแล้วส่วนหนึ่ง เรามาเก็บต่อไม่เหนื่อย ค่าใช้จ่ายไม่เยอะ ถ้าทำมาเรียบร้อยก็สบายใจไปเปาะหนึ่ง ถ้าไม่เรียบร้อยก็ลองประเมิณว่าจุดที่ไม่เรียบร้อย ในบทความต่าง ๆ ของผมเคยทำให้ดูหรือไม่ ราคาเท่าไหร่

รถที่ไม่ได้ชงเลย ก็ดูสภาพ เทียบกับค่าใช้จ่ายด้านบน เราก็จะได้ไอเดียว่าเราต้องเตรียมงบเท่าไหร่ แล้วก็ต่อราคากับเต้นท์ไปครับ

รถที่ชงไม่ได้เรื่อง ดูแล้วขัดตา เดินหนีไปหาคันอื่น เพราะงานแก้ลำบากกว่า และ ทำให้สวยยากกว่ารถที่ไม่ได้ชงเลยครับ

ขอให้เพื่อน ๆ สนุกกับการทำรถ และมีความสุขกับรถอันเป็นที่รักของคุณ อย่าลืมว่าเราทำรถให้เป็นรถ ไม่ใช่ทำรถให้เป็นภาระ….บ๊ายยยย

สำหรับอู่ต่าง ๆ ที่ผมเข้าใช้บริการ ได้รวบรวมเอาไว้ในบทความนี้ครับ

รวมรายชื่ออู่ที่พี่อาร์ตแนะนำ ซ่อม Benz, BMW

_____________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

 

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art