เกียร์ก็จูนมาแล้ว วันที่หลายคนรอคอยมาถึงแล้ว กับการเอา 420d ไปจูนแรงม้า
จะจูน Stage ไหน แล้วได้กี่แรงม้า มามะ มาดูกัน
#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต #รถมือสอง #bmw #420d #remap
คำเตือน
บทความ และ คลิปนี้ เป็นเพียงเรื่องเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัว และข้อมูลจาก Motion Garage เท่านั้น อาจแตกต่างกับที่อื่น ๆ หรือ ที่คุณเข้าใจ
โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล
เจ้า BMW 420d F32 คันนี้ รถปี 2015 ผ่านการใช้งานมาแล้วจนถึงวันที่นำไปจูนแรงม้าคือ 68,xxx กม. และ ได้ผ่านการ “ปั้น” เก็บความสมบูรณ์ทุกจุด
โดยเครื่อง เกียร์ ช่วงล่าง จากบทความนี้
รถ 8 ปี วิ่ง 67,xxx km ใครว่าไม่ต้องซ่อม ประวัติดีขนาดนี้พี่ยังโดน – Vlog ปั้น F32 420d ep.2
จากนั้นนำไปจูนเกียร์ Stage 3 ให้ดูว่ารถเดิม ๆ แล้วจูนเกียร์ ไม่ได้เพิ่มแรงม้า จะขับสนุกขึ้นแค่ไหน จากบทความนี้
รีวิวการจูนเกียร์ มันจะทำให้รถเดิม ๆ เจ๋งขึ้นขนาดไหนเชียว
ทีนี้ได้ฤกษ์จูนแรงม้าเสียที ซึ่งเดิม ๆ ตามสเปคแจ้งว่ามีกำลัง 184 แรงม้า กับแรงบิด 380 นิวตันเมตร รถเดิม ๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย แม้แต่กรองอากาศ คันนี้ นำไปขึ้นวัดแรงม้าบนเครื่อง Dyno ได้แรงม้าจริงออกมาที่ 167 แรงม้าที่ล้อ กับแรงบิดที่วัดออกมาได้ 280 ฟุตปอนด์ หรือคำนวณออกมาได้ 380 นิวตันเมตร (1 ft lbf = 1.36 nm.)
หลังจากจูนด้วยไฟล์ Project A ของ Motion Garage ผลที่ได้คือ
- ก่อนจูน 167hp ที่ล้อ l 192hp ที่เครื่อง แรงบิด 281 ft.lbs หรือ 280 นิวตันเมตร
- หลังจูน 202hp ที่ล้อ l 232hp ที่เครื่อง แรงบิด 312 ft.lbx หรือ 424 นิวตันเมตร
+ 35 แรงม้า ที่ลงล้อจริง ๆ เต็ม ๆ กับแรงบิดที่เพิ่มมาเป็น 424 นิวตันเมตร
ใช่ครับผมจูน Stage 1
ในขณะที่เพื่อน ๆ หลายคนโหวตให้จูน Stage 2 แต่สุดท้ายตัดสินใจเอาแค่นี้
ทำไมเหรอ? เพราะหาความจำเป็นในการจูน Stage 2 ให้ตัวเองไม่ได้ จูนเนอร์เจ้าอื่นนับการจูนแต่ละ Stage อย่างไรไม่ทราบได้ แต่วันนี้ผมเอารถกลับมาจูนที่ Motion Garage ซึ่งนิยามการจูนแต่ละ Stage เอาไว้ดังนี้
- Stage 1 เครื่องเดิม ๆ จะเปลี่ยนกรองซิ่ง ทำท่อไอเสียมาก็ได้ แต่ไม่ได้เอาแคตออก หรือ ที่ภาษาจูนเนอร์เรียกว่า Downpipe ซึ่งเป็นท่อแคตฯ ลดมลพิษหลังเทอร์โบ
- Stage 2 เพิ่มเติมจาก Stage 1 คือ ใส่ Downpipe หรือ เอาท่อแคตฯ ออกนั่นเอง จะใส่เป็นแป๊ปโล่ง ๆ หรือ ใส่ Sport Cat จะมี Intercooler หรือ อื่น ๆ ก็ได้ แต่ไม่ได้ยุ่งกับตัวเครื่องยนต์
- Stage 3 เปลี่ยนเทอร์โบ โมดิฟายไส้ในเครื่องยนต์ เช่น แคมชาร์ฟ ลูกสูบ โมฯ หัวฉีดเพิ่ม cc เป็นต้น
ช่วงที่วางแผนทำรถนั้น ผมถามคุณออป Motion Garage ว่า Stage 1 กับ Stage 2 สำหรับเครื่อง N47 ตัวนี้ได้ม้าต่างกันแค่ไหน
คุณออปตอบแบบรวม ๆ ว่า เครื่องดีเซล โดยเฉพาะ BMW นั้น Stage 2 จะได้ม้าเพิ่มจาก Stage 1 ประมาณ 5 ตัว แต่ Stage 2 ต้องเอาท่อแคตฯ ออก ผลที่ได้คือ ควันดำ และ ท่อเหม็นมาก ผมกับคุณออป เห็นตรงกันว่ารถ BMW ไม่ควรกระแทกคันเร่งแล้วมีควันดำออกมา มันเสียบุคลิค
ค่าจูน
- Stage 1 คือ 39,000 บาท
- Stage 2 คือ 45,000 บาท
ส่วนต่างการจูนคือ 6,000 บาท ยังไม่นับรวมกับการทำ Downpipe ที่ต้องใช้เงินประมาณ 8,000 – 15,000 บาท เรียกว่าเสียเงินเพิ่มประมาณ 2 หมื่นบาท ได้ม้าเพิ่มแค่ 5 ตัว + ท่อเหม็น ควันดำ ผมมองว่าไม่คุ้มในมุมของผม
ซึ่งแน่นอนครับ Stage 2 แม้จะได้แรงม้าเพิ่มไม่มาก แต่อัตราการเร่งในรอบสูง ความเร็วสูงย่อมดีกว่า Stage 1 เนื่องจากท่อไอเสียโล่งขึ้น
ทว่า มุมของผม การใช้ความเร็วสูง และ รอบสูงไม่บ่อย เท่ากันการขับรอบต่ำในเมือง การกดเร่งได้อย่างทันใจนั้น Stage 1 ตอบโจทย์กว่า
ส่วนคำถามคาใจอีกคำถามนึงคือ ถ้าจูน Stage 1 ไปสักพัก แล้วไม่พอใจ เอาไปเปลี่ยน Downpipe แล้วกลับไปจูนเป็น Stage 2 ได้ไหม
คำตอบคือ ได้ครับ ทาง Motion Garage เก็บค่าจูน Stage 2 เพิ่มเพียง 8,000 บาท
อ้อ…ลืมบอกไปครับว่าที่ Motion Garage ก่อนจูนทุกครั้ง ทีมช่างจะทำการตรวจสอบความสมบูรณ์ของตัวรถ รวมถึงทำ smoke test เช็ครอยรั่วซึมของท่ออากาศด้วย
ผลการขับขี่
ขับสนุก อัตราเร่งดีขึ้นชัดเจน รอบกวาดเร็วมาก และ เข็มความเร็ววิ่งวาบขึ้นตามแรงกดคันเร่ง ไม่มีแลค ไม่ต้องรอ ที่สำคัญจังหวะ “มุด” ที่ต้องกดคันเร่งแบบ กด ยก กด ยก มันตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม
ให้คนขับรถที่บ้านลองขับทั้งก่อน และ หลังจูน (จริง ๆ ตอนไปไดโน่ให้คนขับรถขับ ผมขี้เกียจ 555)
ขนาดคนไม่รู้เรื่องยังร้อง “โหหหหห มันแรงขึ้นแบบนี้เลยเหรอ”
ที่สำคัญสไตล์การจูนของ Motion Garage ที่ใช้ไฟล์ Project ‘A จะได้คาแรคเตอร์ที่ “แรงที่สุด เท่าที่จะปลอดภัยกับเครื่องยนต์ที่สุด”
ทำให้เราขับได้อย่างมั่นใจว่า ไม่ได้จูนมั่ว ๆ เน้นแรง แล้วค่อยซ่อมทีหลัง โดยลักษณะการจูนคือ ดึงไฟล์เดิมของรถยนต์ออกมา แล้วเอาไฟล์ไปโมฯ แล้วค่อยเอามาใส่รถเรา
อีกอย่างที่ชอบคือ อาการของรถเดินนิ่ง ไม่หอบ ไม่แกว่งเหมือนพวกรถซิ่งจัด ๆ ขับไปไหนมาไหนยังดูหรูหรา แต่ใครอย่ามาดันนะ พี่กดก็หายเหมือนกันจ้า เรียกว่าเหมือนรถแรงออกมาจากโรงงาน กับอาการกดแล้วพุ่ง ถอนแล้วค่อย ๆ ลง ไม่มีอาการหัวผงก ผงะ ควบคุมง่ายไม่ต้องเลี้ยงคันเร่ง ขับเหมือนรถเดิม ๆ นั่นแหละ แต่มันไปไวขึ้นเยอะ ๆ
อาการรถคุมง่ายในทุกสภาพการขับขี่ ไม่ว่าจะรถติด รถไหล ๆ หรือ รถโล่ง ๆ ขับสนุกหมดทุกสภาวะ
จะเกรี้ยวกราด โมโหชั่ววูบ กระแทกคันเร่งลงไป รถก็พุ่งไปแบบตามใจเรา ไม่มีงอแง ไม่มีหยุดคิดว่าเอาไงดี เรียกว่าตอบโจทย์มาก
ส่วนความเร็วสูงสุดไม่ได้ลอง เพราะปกติวิ่งไม่เกิน 180 ผมก็ยกแล้ว (ภาระครอบครัวเยอะครับ)
ของแบบนี้ เล่ายังไงก็ไม่เหมือนได้ลองเองครับ
แต่เชื่อผมเถอะ ไม่ผิดหวัง และ ไม่เสียดายเงิน 39,000 บาท แม้แต่นิดเดียว
ส่วนใครสนใจทำ สอบถามข้อมูล นัดคิวกับทางร้านโดยตรง ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ ทั้งสิ้น
สำหรับอู่ต่าง ๆ ที่ผมเข้าใช้บริการ ได้รวบรวมเอาไว้ในบทความนี้ครับ
รวมรายชื่ออู่ที่พี่อาร์ตแนะนำ ซ่อม Benz, BMW
_____________________________________________
ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage
และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
https://www.youtube.com/user/artxenonart