BMW X1 รถอเนกประสงค์ครบเครื่อง กระทัดรัด รุ่นล่าสุดที่วันนี้ราคามือสองแค่ล้านนิด ๆ จะเป็นอย่างไร ขับดีมั๊ย ท้ายรถจุของได้แค่ไหน แล้วซื้อรุ่นไหนดี

#vlogเรื่องรถ #พี่อาร์ต #ิbmw #x1 #f48 #รถมือสอง

BMW X1 F48

จำหน่ายครั้งแรกในไทยปี 2016 เป็นรถประกอบนอก แล้วปีต่อมาคือ 2017 จะเป็นรถประกอบไทย ซึ่งจะได้ฝาท้ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมา และในตอนที่เปิดตัวนั้นจะมีรุ่นย่อยดังนี้

  • X1 sDrive18i xLine เครื่องเบนซิน 3 สูบเทอรโบ ราคา 2,299,000 บาท
  • X1 sDrive18d xLine เครื่องดีเซล 4 สูบเทอร์โบ ราคา 2,499,000 บาท
  • X2 sDrive18d M Sport เครื่องดีเซล 4 สูบเทอร์โบ พร้อมชุดแต่ง M ราคา 2,599,000 บาท

ซึ่งตอนนี้รถล็อตแรกเพิ่งเริ่มหมด BSI ไป ดังนั้นเท่าที่สอบถามอู่นอกต่าง ๆ ยังไม่ค่อยมีใครได้ซ่อมเจ้า X1 F48 กันมากนัก แต่หากดูตัวเครื่องยนต์แล้ว ดีเซลตัวนี้ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกอะไรนัก หรือ ถ้าจะมีก็ยังไม่ออกอาการเพราะรถยังใหม่ อย่างมากก็ซ่อมบำรุงทั่วไป พวกอุปกรณ์เสื่อมตามสภาพ เช่นสายพาน ท่อยางต่าง ๆ ซึ่งหากเจ้าของเก่าเคลม BSI ก่อนจะหมด warranty 5 ปี ช่างอู่นอกก็ยังไม่ได้กินส่วนนี้

แต่ที่ได้ยินเค้าร่ำลือกันกลับเป็นเครื่องเบนซิน 3 สูบ ที่ชอบมีปัญหาจุ๊ก ๆ จิ๊ก ๆ บ้าง ไม่หนักหา ไม่ว่าจะเป็นพวกท่อแวคคั่มหลุด สายมีปัญหา ระบบรวนบ้างเล็กน้อย แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ก็เพียงพอให้รำคาญได้ อีกทั้งบางคัน (รุ่นน้องผม) เครื่อง 3 สูบขับ ๆ ไปควันขาวออก แล้วก็น็อคไปเลย ซึ่งเป็นไปได้หลายอย่างว่า เท้าหนักเหยียบมันเกินไป หรือ เครื่องเปราะ อันนี้เล่าสู่กันฟังแบบกลาง ๆ ครับ เพราะเอาจริง ๆ ก็อย่างที่บอกว่า รถส่วนมากเพิ่งหมด BSI ไป และส่วนมากในตลาดมือสองยังมี BSI เหลือ ดังนั้นยังฟันธงอะไรไม่ได้

สำหรับเจ้า X1 สีดำคันที่รีวิวนี้เป็นรถปี 2017 ยังมี BSI เหลือถึงปี 2022 ต้นปี เป็นตัว 18d xLine เครื่องดีเซล ที่ใช้งานได้ดี ไม่ค่อยจุกจิกนัก 

ส่วนคันที่นำมาทดสอบรีวิวตามรีเควสของ FC คันนี้ยืมมาจากเต้นท์ครับ ใครสนใจก็ไปซื้อได้ครับ ผมลองแล้วใช้งานได้ดีไม่มีปัญหา ตัวถังสวยงาม รอยเชื่อมโรงงามเดิมครบทุกจุด

BMW X1 F48 มือสอง

รถปี 2017 วิ่งมาแล้ว 86,000 กิโลฯ

BSI เหลือถึง กุมภาพันธ์ปี 2565

ราคาตั้ง 1,190,000 บาท (ไปต่อกันเอาเอง)

คุณโอม โทร 065-639-9445

LINE ID: ohmyyy

สมรรถนะ

เท่าที่ลองขับดูแล้ว เครื่องดีเซลเทอร์โบ ตอบสนองดีมาก อาการแลคมีเล็กน้อยในช่วงรอบต่ำ พอกดคันเร่งให้รอบไปแตะ 2500 รอบ เทอร์โบก็ดึงอย่างสนุก ขับเพลิน ๆ ไป 140 กม/ชม แบบไม่รู้ตัว

เสียงเครื่องไม่ดังมาก เครื่องนิ่ง ไม่สั่น ไฟไม่โชว์ เรียกว่าเนียน ๆ 

ช่วงล่าง

ด้วยความที่เค้าเป็นรถ SAV – Sport Activities Vehicles ซึ่งผมว่ามันคือลูกครึ่งของ SUB + Sedan ทำให้มันก็ไม่ได้เกาะเหมือนซีดาน (ด้วยมิติรถที่สูง) ทำให้ย่านความเร็วสูงช่วง 140 กม/ชม ไปแล้วก็แอบเหวอ ๆ เล็กน้อย

ในทางกลับกัน มันก็ไม่ได้ย้วย ยวบยาบเหมือนสไตล์รถ SUV เสียเท่าไหร่ เพราะมันเกาะถนนมากกว่าพวก SUV กรณีขับในเมือง

ด้วยขนาดตัวที่ไม่ใหญ่มาก ทำให้มันคล่องตัว ไปไหนมาไหนสะดวก จะขับมุดก็คล่องตัว เข้าที่จอดรถก็สบาย วงเลี้ยวพวงมาลัยทำออกมาได้ดีครับ

ภายใน

แม้เป็นรุ่นเล็กแต่ความหรูหราไม่ได้ดูด้อยแต่อย่างใด เริ่มจากตัวเบาะหนังที่เล่นรูไล่ระดับ รวมถึงการตัดเย็บ เดินตะเข็บสวยงามตามสไตล์ BMW 

หน้าปัทม์ ปุ่มต่าง ๆ รวมถึง iDrive ทันสมัย ใช้งานง่าย ที่สำคัญได้ HUD หรือ Head Up Display ที่จะแสดงข้อมูลบางส่วนบนกระจกหน้ารถ 

การทำงานของมันคือจะมีจออยู่บนหน้าปัด แล้วกระจกหน้ารถจะสะท้อนขึ้นมาแสดง หลัก ๆ เอาไว้ดูความเร็วได้ โดยไม่ต้องละสายตาจากถนนลงมามองเรือนไมล์ อีกทั้งหากใช้ระบบนำทางของ iDrive บน HUD ยังมีลูกศรชี้ไปยังทิศทางที่ของจุดหมายปลายทางด้วย

แต่ตรงนี้เท่าที่ทดสอบคือ มันไม่ได้บอกเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาแบบ Google Map แต่ให้อารมณ์เหมือนเข็มทิศบอกทิศทางมากกว่า

ตัวเบาะหน้านั่งสบายมาก ผมนั่งตำแหน่งคนขับได้อย่างสบาย มีพื้นที่เหนือศีรษะประมาณ 1 กำปั๊น ส่วนคนเบาะหลังคนขับ เมื่อผมยัายไปลองนั่งดูเอง หัวเข่าเหลือที่อีก 1 กำปั้น ดังนั้นผมว่ามันกว้างกว่าที่คิดมากครับ กว้างพอ ๆ กับ X4 ตัวแรกเลยแหละ

เพียงแต่เบาะสไตล์ BMW จะแข็งเป็นเอกลักษณ์ ใครที่ชินก็จะเฉย ๆ แต่ใครที่ชอบเบาะนิ่ม ๆ คงต้องปรับตัวสักพัก แต่เท่าที่ขับดู ยังไม่เจออาการเมื่อยครับ

ท้ายรถ

จุของได้เยอะกว่าที่คิด เพราะผมเคยใช้ X3 กับ X4 มาก่อน ไม่สามารถใส่กระเป๋า Rimowa ได้ 3 ใบเหมือนที่สามารถทำได้ใน X1 F48 คันนี้ คือยัด Trunk Plus ตัวใหญ่สุด 2 ใบ + Limbo ใหญ่สุดได้อีก 1 ใบ โดยไม่ต้องพับเบาะเลย

ปริมาตรขนาดนี้ เพื่อน ๆ ลองคำนวณเองครับ ว่าเพื่อน ๆ จะขนอะไรได้แค่ไหน

ผมลองเอา Be@rBrick 1000% ลองวางดู กะเอาด้วยสายตา ใส่ได้ 3 กล่อง พร้อมกล่องน้ำตาล หากพับเบาะหลังออก รวม ๆ แล้วน่าจะใส่ได้อย่างน้อย 7 – 8 ตัว ดังนั้นสายขนของผมว่าสนุกครับ

ถามว่าซื้อดีมั๊ย….ผมเปรียบเทียบแบบนี้ครับ

ถ้าหากคุณเคยขับ F30 มาก่อน ผมมองว่าอารมณ์การขับขี่ในความเร็วไม่เกิน 140 กม/ชม จะคล้าย ๆ กัน เพียงแต่มันพาเราไปในที่ ๆ ลำบากได้มากกว่า

ถ้าหากคุณเคยขับ X3 มาก่อน เจ้า X1 มันจะกระเด้งมากกว่า ความนิ่มนวลสู้ไม่ได้ แต่ถ้าคุณเคยขับ Benz GLA มากก่อน บอกเลยว่า X1 ให้ความรู้สึกที่ดีกว่า (ความเห็นส่วนตัว)

แต่ถ้าคุณไม่เคยขับทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่เป็นไรครับ เอาเป็นว่าเทียบกับรถญี่ปุ่นทั่วไป ภายในห้องโดยสารมัน และ ช่วงล่างการขับขี่ มันสบายกว่า HR-V และก้ำกึ่งกับ CR-V ส่วนเครื่องยนต์ และ ความหรูหรา X1 ดีเซล ให้ได้มากกว่า

ส่วนตัวผมมองว่า X1 เป็นรถใช้ง่าย ใคร ๆ ก็ขับได้แม้จะเป็นคนตัวขนาดกลางค่อนไปทางอวบแบบผม สิ่งที่ติสำหรับผมคือ สไตล์ BMW นั้น เสา C ท้ายรถจะใหญ่ และเวลามองจากกระจกมองหลัง ทัศนวิสัยไม่ดีเท่ารถยี่ห้ออื่น

ส่วนใครสนใจ X1 sDrive18d xLine คันนี้ ปี 2017 วิ่งมาแล้ว 86,000 กิโลฯ BSI เหลือถึง กุมภาพันธ์ปี 2565 (ปีหน้า) สบายใจหายห่วง

ราคาตั้ง 1,190,000 บาท (ไปต่อกันเอาเอง)

คุณโอม โทร 065-639-9445

LINE ID: ohmyyy

_______________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

 

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art