บทสรุปการใช้งาน ปัญหาความร้อน แบตฯ ไหล หน้าจอ ยังเป็นอยู่ไหม แล้วมันน่าซื้อหรือไม่?

#Note20ultra #พี่อาร์ต #Samsung #review #ดีมั๊ย #ซื้อเองรีวิวเองไม่ต้องอวย

ไม่ต้องเสียเวลามากไปดูคลิปกันเลย ส่วนใครชอบอ่านเลื่อนลงไปต่อกันได้ครับ

รีวิวอื่น ๆ ของ Note 20 Ultra ดูได้ที่

ผลการใช้งาน

ได้เครื่องมาสองวันแรก เครื่องร้อน แบตฯ ไม่ค่อยทน แต่พอผ่านเข้าวันที่ 3 ทุกอย่างเริ่มนิ่ง ซึ่งใครเคยใช้ Samsung รวมถึงแอนดรอยด์หลาย ๆ ยี่ห้อก็คงจะคุ้นชินกับ “ระยะ เรียนรู้” ของระบบ

เข้าวันที่ 3 เครื่องร้อนน้อยลง แต่ยังคง “อุ่น” อยู่หากใช้งานหนัก ๆ

เครื่องศูนย์ไทย ซีพียู Exynos 990 ใช้ 4G ถามว่าแบตฯ ไหลมั๊ย….ไหลนิดหน่อย ไม่มาก

ซึ่งหากใช้ 5G คงอยู่ไม่ถึงวันแน่นอน เรียกว่า Exynos 990 ใน Note 20 Ultra ทำได้ดีกว่า S20 Ultra แต่ก็ยังไม่สามารถให้เราไว้วางใจได้ว่าจะอยู่รอดได้เต็มวันเหมือนเคย

ด้านอื่น ๆ การใช้งาน “ยอดเยี่ยม” มาก ๆ แม้แต่จอโค้งที่ผมไม่ชอบที่สุด ปีนี้โค้งน้อยลง มือไปพลาดน้อยลง หน้าจอสวยงาม งานประกอบยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการออกแบบของ Note 20 ultra ถูกใจผมมาก ๆ (คหสต)

Samsung Note 20 Ultra เป็นเรือธง ที่มาพร้อมปากกา คนที่ชอบใช้ปากกามันคือตัวเลือกเพียงตัวเดียวในตลาด แต่เค้าก็ทำออกมาได้ “เทพ” อย่างไร้ข้อกังขา

ปากกา S Pen แม้ผมจะไม่ค่อยได้ใช้ แต่รับรู้ได้ถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และสร้างสรรการใช้งานในรูปแบบใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึง Dex ที่มีฟีเจอร์มากมายบรรยายไม่หมด เรียกว่าแม้เครื่องจะแพง แต่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์

รุ่น Ultra ตอนไปรับเครื่อง Butler แจ้งว่า สามารถใส่ได้ถึง 3 SIM แต่ทำงานได้จริง 2 SIM โดยมันรองรับ eSIM, SIM 1 และ SIM 2 ซึ่งตัวช่อง SIM 2 สามารถใส่ เมมฯ แทนได้ ดังนั้นใครใช้รุ่นนี้อยู่ แนะนำไปใส่ eSIM จะทำได้เราได้ 2 SIM + 1 เมมฯ สบายแฮ

ข้อติ 

แบตเตอรี่

ใช้งานตั้งแต่ 5:30 น. ถึง 21:00 น. แบตฯ เหลือ 20% โดยเฉลี่ย ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน แต่ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับผมได้ เค้าควรมีระบบบริหารจัดการแบตฯ ได้ดีกว่านี้ เพราะหากวันไหนออกข้างนอกทั้งวัน แล้วใช้งานหนักหน่อย ก็อยู่ไม่ครบวัน ต้องหา power bank หรือ สายชาร์จในรถ

หากคนเล่นเกมส์ ผมเชื่อว่าคุณใช้มือถือตัวไหนก็อยู่ไม่รอด และพก Power Bank หรือ สายชาร์จเร็วเอาไว้อยู่แล้ว ดังนั้นปัญหาของสายเกมส์คือ ต้องชาร์จบ่อยหน่อย หรือ ใช้ Power Bank ความจุอย่างน้อย 10,000 มิลิแอมป์ ที่รองรับ fast charge ก็น่าจะแก้ปัญหาได้

ความร้อน

หากเทียบกับ S20 Ultra ที่ร้อนทั้งหน้าจอ และ หลังเครื่อง Note 20 Ultra ของผมร้อนที่หน้าจอเป็นหลัก และร้อนน้อยกว่าเยอะ ไม่ร้อนขนาด S20 Ultra ที่ร้อนจนต้องหยุดใช้งาน ผมจึงขอเรียกว่า “อุ่น ๆ”

หลักจากเริ่มอุ่นมาก ก็ลองหยุดใช้งานสักนาทีนึง ตัวเครื่องกลับมาสู้อุณหภูมิปกติ แต่หากใช้ต่อไปความ อุ่นมาก ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

จากข้อสังเกตุ ผมไม่ได้เล่นเกมส์ และอาการจะเป็นเฉพาะตอนใช้หน้าจอโหมด adaptive ที่จะปรับ refresh rate เป็น 30 – 120Hz อัตโนมัติ ทำให้รู้สึกว่าความร้อนเป็นที่หน้าจอ ไม่ใช่ ซีพียู ส่วนใครเล่นเกมส์ลองมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังด้วย

ทั้งนี้ เคสมีส่วนอย่างมากที่ทำให้ตัวเครื่องระบายความร้อนได้ไม่ดีพอ

กล้อง

กล้องหลัง ถ่ายของเล็ก ๆ ที่อยากให้ชัดทั้งภาพยากมาก ๆ โดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายเอกสารก็จะพบว่าตัวหนังสือไม่คม หากถ่ายบัตรต่าง ๆ จะได้ความชัดแค่กลางภาพ หรือ ตรงที่แตะโฟกัสเท่านั้น ส่วนอื่น ๆ จะเบลอหมด

กล้องหน้าทำงานไม่ดีในที่แสงน้อย และ สกินโทนดูเฟคเกินไป ส่วนตัวไม่ชอบ ในขณะที่หลาย ๆ คนอาจจะชอบ ซึ่งผมรู้สึกว่า “เรือธง” ที่กล้องหลังเทพขนาดนี้ กล้องหน้าควรจะได้อะไรที่สมน้ำสมเนื้อ ไม่ใช่พอสลับมาใช้กล้องหน้าปุ๊ป ได้ฟิลมือถือราคาประหยัดทันที….เซ้ง

ราคานี้ไม่แถมเคส กับ หัวปากกาสำรอง

ราคาเต็ม 42,900 บาท ที่ถือว่าแพงมาก ๆ แต่เคส กับ หัวปากกาสำรอง พร้อมแหนบหนีบหัวปากกา ไม่แถมมาให้ ต้องซื้อเพิ่มทั้ง ๆ ที่จ่ายแพงขนาดนี้ แต่รู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบ แม้ว่าตัวผมเองจะบอกว่าเคสแถมก็ไม่ค่อยได้ใช้ แต่ราคานี้มันควรจะได้สิ

บทสรุป

จากความสามารถรอบตัว ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม งานประกอบ วัสดุดระดับพรีเมี่ยม กับข้อติเพียง 3 ข้อ บอกได้เลยว่าใครที่ชอบเรือธงซัมซุงแล้วหล่ะก็ Note 20 Ultra ตอบโจทย์ที่สุด และดีที่สุดในตลาดตอนนี้ (ไม่นับ Z Fold 2)

ปัญหาต่าง ๆ ไม่ต่างกับ S20 Ultra แต่ดีกว่าเดิม ประมาณ 50% แม้จะแก้ไม่หมด แต่ถือว่ารับได้แล้วสำหรับผม

ไม่ว่าคุณจะลังเลระหว่าง Note 10+ หรือ S20 Ultra ผมว่าตัวนี้จบครับ คุ้มค่ากับการเปลี่ยนอย่างยิ่ง

ทิ้งท้ายกันไว้ด้วยสเปคอย่างเป็นทางการ Samsung Note 20 Ultra 5G เครื่องศูนย์ไทย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ นะครับ

สเปค Note 20 Ultra 5G
  • หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.9 นิ้ว
  • ความละเอียด WQHD+ 3088 x 1440 รีเฟรชเรท 120Hz (ในโหมด FHD+ เท่านั้น)
  • ขนาด 164.8 x 77.2 x 8.1 มม.
  • น้ำหนัก 208 กรัม
  • ซีพียู Exynos 990 2.73 + 2.50 + 2.0 GHz
  • แรม 12 กิ๊ก (รุ่น LTD แรม 8 กิ๊ก)
  • ความจำในตัวเครื่อง 256GB / 512GB
  • เพิ่มเมมได้ในช่อง SIM2
  • กล้องหลัง
    • เลนส์ Wide 108 ล้านฯ f/1.8 เซนเซอร์ 1/1.33″ พิกเซล 0.8µm
    • เลนส์ Ultrawide 12 ล้านฯ f/2.2, เซนเซอร์ 1/2.55″ พิกเซล 1.4µm
    • เลนส์ซูมแบบ Periscope 12 ล้านฯ f/3.0 เซนเซอร์ 1/2.0″ พิกเซล 1.0µm, 50x hybrid zoom ซูม Optical 5x / Digital สูงสุด 50 เท่า
    • มี Laser Autofocus
  • กล้องหน้า 10 ล้านฯ f/2.2 เซนเซอร์ 1/3.2″ พิกเซล 1.22µm
  • กันน้ำกันฝุ่น IP68
  • แบตเตอรี่ 4500 มิลิแอมป์ ชาร์จไว 25W
  • มี 2 สี คือ ดำ และ บรอนซ์
  • ราคา 42,900 บาท ROM 256 / 46,900 บาท ROM 512

_________________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art