ลังเลเลือกไม่ถูก ซื้อ OnePlus 6 หรือ xiaomi Mi 8 ดี? มาเลยพี่อาร์ตมีคำตอบให้

#ซื้อเองรีวิวเองไม่ต้องอวย

เทียบสเปคกันอีกสักรอบเผื่อใครไม่ได้อ่านรีวิวเดิม

xiaomi Mi8 OnePlus6
ขนาดตัวเครื่อง 154.9 x 74.8 x 7.6 155.7 x 75.4 x 7.8
น้ำหนัก 175 g 177 g
ขนาดหน้าจอ 6.21′ 6.28′
ความละเอียด FHD FHD
1080 x 2248 1080 x 2280
หน้าจอ Super AMOLED Optic AMOLED
ซีพียู Snapdragon 845 AIE Snapdragon 845
ความเร็ว 2.8 GHz + 1.8 GHz 2.8 GHz + 1.7 GHz
ชิพกราฟฟิก Adreno 630 Adreno 630
แรม 6 กิ๊ก 6 กิ๊ก หรือ 8 กิ๊ก
หน่วยความจำ 64/128/256 กิ๊ก 64/128/256 กิ๊ก
SD Card ไม่มี ไม่มี
ช่องเสียบหูฟัง ไม่มี มี 3.5 มม.
กล้องหลัง กล้องคู่ 12 ล้านฯ f/1.8,  1/2.55″, 1.4µm Dual Pixel กล้องคู่ 16 ล้านฯ f/1.7, 1/2.6″, 1.22µm
12 ล้านฯ f/2.4,  1/3.4″, 1.0µm 20 ล้านฯ f/1.7, 1/2.8″, 1.0µm
กล้องหน้า กล้องเดี่ยว 20 ล้านฯ f/2.0, 0.9µm กล้องเดี่ยว 16 ล้านฯ f/2.0, 1.0µm
แบตเตอรี่ 3,400 มิลิแอปม์ 3,300 มิลิแอมป์
ปลดล็อค ใบหน้า ลายนิ้วมือ ใบหน้า ลายนิ้วมือ
SIM 2 SIM 2 SIM
ราคาเปิดตัว 15,990 – 17,990 บาท 17,999 – 19,999 บาท

จากตารางเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่า สเปค และ ราคาแทบจะเหมือนกันเลย โดยจุดเด่นของทั้งสองรุ่นคือ

Mi8

  • กล้องหลังเล็กกว่า แต่มี DualPixel
  • กล้องหน้าใหญ่กว่า ที่ 20 ล้านพิกเซล
  • มีฟีเจอร์ต่าง ๆ มากกว่า รวมถึง 3D Face และ เลเซอร์สแกนใบหน้า
  • แบตเตอรี่มีความจุมากกว่า…นิดนึง
  • เครื่องเบากว่า

OnePlus 6

  • จอใหญ่กว่า (นิดนึง)
  • แรมเยอะกว่าที่ 8 กิ๊ก
  • ชุดกล้องดีกว่าที่ 16+20 ล้านพิกเซล f/1.7 ทั้งคู่ แต่ถ่ายแล้วเหมือนไม่ต่าง
  • เครื่องศูนย์ สบายใจ
  • ยังมีช่องเสียบหูฟัง

หลังจากได้ลองใช้ทั้ง 2 ตัว พบว่าการใช้งานพื้นฐานส่วนมากแทบไม่แตกต่างกัน เร็ว แรง ลื่นที่สุดที่เคยทดสอบมา ซึ่งต้องบอกว่าเป็น Snapdragon 845 สองตัวแรกที่ได้ลอง เพราะ S9+ ผมซื้อเครื่องศูนย์ เลยเป็นซีพียู Exynos ที่ถือว่าแรง แต่ไม่ติดนิ้วเท่า Snapdragon 845

น้ำหนักตัวเครื่องตากสเปคต่างกัน 2 กรัม โดย Mi8 เบากว่า แต่พอใช้งานจริงแทบไม่รู้สึก แถมรูปทรงของ OnePlus 6 ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมกว่า จับแล้วต้อง “ตกหลุมรักทันที” ในขณะที่ Mi 8 นั้นอารมณ์เหมือน Huawei P20 ตัวไม่โปร โดยรวมพอได้แต่หาจุดเด่นไม่เจอ

หน้าจอที่บากมากของ Mi8 เกิดจากชุดอุปกรณ์เทพ ๆ ที่ใส่มาให้สารพัดไม่ว่าจะเป็นชุดเลเซอร์ เซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่รองรับ face 3d กล้องหน้า และอื่น ๆ ทำให้ขนาดรอยบากยาวพอ ๆ กับ iPhone X

แต่….ไอโฟน ไม่เน้น Notification bar ด้านบน พอมาเป็นแอนดรอยด์ก็จะมีปัญหาพื้ที่ไม่พอใช้อย่างรุนแรง ขนาดยังไม่ได้เตือนอะไร แค่แสดงสถานะ 2 ซิมก็เบียดกันจนมองรายละเอียดลำบากแล้ว

เรื่องกล้องก็ออกรีวิวไปแล้ว คงไม่ต้องพูดอะไรเยอะ สรุปสั้น ๆ ได้ว่า

xiaomi Mi 8 ฟีเจอร์กล้องเยอะกว่า ภาพคมชัด ซูมได้คมและลึกกว่า โหมด portrait สนุกสุด ๆ

OnePlus 6 ถ่ายง่าย ฟีเจอร์พอใช้ สีเข้มกว่า เล่น portrait แล้วแต่งเพิ่มไม่ได้

ใครสนใจไปเสพพร้อมคลิปได้ที่

พิสูจน์กล้อง OnePlus 6 ปะทะ xiaomi Mi8 ใครจะเจ๋งกว่ากัน – รูปเยอะเหมือนเคย

หน้าจอต่างกันเล็กน้อยคือโดย Mi 8 จอใหญ่กว่าเล็กน้อย หากเปิดเอกสารจะเห็นมากกว่า 1 บรรทัด แต่จอของ Mi 8 สีซีดกว่า เวลาถ่ายรูปตอนได้เครื่องมาแรก ๆ ถึงกับบ่นเลยว่า รูป Mi 8 ถ่ายแล้วสีไม่สวย ภาพไม่คม แต่พอเอาลงคมนี่คนละเรื่อง เพราะ Mi 8 ได้ภาพสีสวยงาม คมชัด ต่างกับดูบนหน้าจอของตัวเองราวฟ้ากับเหวทีเดียว นั่นขนาดยังไม่ได้ติดกันรอย

ส่วนตัวผมไม่ชอบคุณภาพหน้าจอของ Mi8 แต่เชื่อว่าสามารถเข้าไปปรับที่การตั้งค่าช่วยได้บ้าง ซึ่งผมพยายามแล้วแต่ MIUI 9.5 ในตอนที่รีวิวคงปรับได้แค่นี้

บทสรุป

ข้อดีมีมากมายคงไม่ต้องบอกแล้ว มาดูข้อด้วยที่ผมเห็นใน 2 ตัวนี้แล้วกัน

xiaomi Mi 8

  • จอซีดกว่านิดนึง
  • จอบากกว้าง ทำให้มองไม่เห็นการแจ้งเตือนบนแถบบน
  • รอมตัวนี้กล้องโฟกัสไม่เทพเท่าไหร่ในโหมด Portrait
  • อุปกรณ์ ของเล่น เคสต่าง ๆ น้อยกว่า หาซื้อยากกว่า
  • ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.

OnePlus 6

  • กล้องสีสวย แต่ความคมสู้ Mi 8 ไม่ได้ ซูมก็สู้ไม่ได้
  • ฟีเจอร์ และ ฟังชั่นน้อยมาก ออกแนวคลีน ๆ ในขณะที่ Mi8 มีมาให้ครบเกือบเท่า Samsung เลย
  • แบตเตอรี่น้อยกว่า Mi 8

จากข้อแตกต่างที่บอกไป ผมว่าหลาย ๆ คนน่าจะพอได้คำตอบแล้วว่าจะซื้อตัวไหน เอ๊ะ…..หรือเลือกยากขึ้นไปอีก 555

หากวันใดที่ xioami Mi8 นำมาขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย นับเครื่องศูนย์เทียบเครื่องศูนย์ ผมบอกได้ดังนี้

xiaomi Mi 8 – เหมาะสำหรับคนชอบโทรศัพท์ครบเครื่อง เก่งรอบตัว กล้องเทพ ฟีเจอร์เยอะอัดแน่นมาในระดับเดียวกับ Samsung Galaxy S9+  แต่จ่ายในราคาหมื่นห้า หมื่นหก….สำหรับผมมันคือ Flagship Killer ตัวจริง

OnePlus 6  – เหมาะสำหรับคนชอบอะไรมีเอกลักษณ์ ถือแล้วพรีเมี่ยมฟิลลิ่ง “กู๊ด” ทรงคุณค่า ชอบมือถือคลีน ๆ ไม่ต้องการอะไร “เยอะ” สเปคสามหมื่นในราคาสองหมื่น (ทอนบาทนึง) รับประกันว่าคุณต้องรัก OnePlus 6 แน่นอน

ส่วนผมเหรอ……รัก OnePlus 6 เพราะเป็นสาย “ฟิลลิ่ง” ตัวจริง แต่ชอบฟีเจอร์ Mi 8 เลยกลับไปถือ Note 8 ต่อ รอดู Find X ว่าจะเป็นยังไง ^^

ทิ้งท้ายกันไว้ด้วยภาพคู่ของ OnePlus 6 vs xiaomi Mi 8 ให้เสพกัน

เจอกันใหม่บทความหน้าครับ….ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ เฉย ๆ ก็ไลค์ไว้ก่อนไม่เสียหาย 555

_________________________________________________

#ซื้อเองรีวิวเองไม่ต้องอวย

ฝากกดไลค์ติดตามเพจ “ไลฟ์สไตล์ไอที กับพี่อาร์ต” ด้วยนะจ๊ะ

https://www.facebook.com/xenonartpage

Facebook-Like

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art