รีวิว Apple TV Gen4 2015 ฉบับคนติดซีรียส์

แกะกล่องพร้อมรีวิว Apple TV รุ่นล่า สไตล์บ้าน ๆ เมื่อเปลี่ยนจาก Gen3 มาใช้ Gen4 ชีวิตติดซีรียส์ของผมจะเป็นอย่างไร

จากปีก่อนผมไปถอย Apple TV Gen3 ตัวที่ดูหนังความละเอียด 1080p ได้มาให้คุณแม่ดูซีรียส์ พร้อมฟันธง “3,800 บาท ซื้อมาดูซีรียส์โคตรคุ้ม” ล่าสุด (ปลายปีที่แล้ว) Apple ก็ออกรุ่นปรับล่าสุดภายใต้ระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับ TV โดยเฉพาะ เรียกว่า tvOS ซึ่งบอกตรง ๆ ว่าเดิมเค้าก็เคยบอกว่าออกแบบมาเพื่อให้ความบันเทิงกับทีวีโดยเฉพาะเช่นกัน…งงมั๊ย? อารมณ์อวยแบบลืมของเก่า 555

สำหรับเจ้า Gen 4 ที่ใช้ tvOS นั้นวางจำหน่ายได้สักพักแล้ว แต่เพิ่งเอามารีวิวให้เสพ โดยมี 2 รุ่นให้เลือกดังนี้

รุ่นความจุ 32 กิ๊ก ราคา 8,500 บาท
รุ่นความจุ 64 กิ๊ก ราคา 10,500 บาท

ปล. เครื่องนอกถูกกว่า 2,000 บาททั้งสองรุ่น

ที่มีความจุให้เลือกเพราะมันมีความพิเศษจากเดิมคือ สามารถลงแอพฯ ผ่าน App Store เพิ่มได้ มีแอพฯ พอสมควรไม่ว่าจะเป็นแอพฯ เพื่อความบันเทิงอย่าง Youtube, Dailymotion เอาไว้ดูหนัง หรือ แอพฯ อย่างพวก Plex และ Air VDO HD ที่เอาไว้ stream หนังจากคอมพิวเตอร์ และ Airport Extreme

พวกเกมส์ก็มีให้เลือกพอสมควร ไม่เท่าพวก iPad หรอกนะเพราะเค้าเพิ่งเริ่มไม่กี่เดือนนี้เองแต่เกมส์สนุก ๆ ที่เหมาะกับการใช้รีโมทของ Apple TV มีให้เล่นพอสมควร

กรณีของผมซื้อมาเน้นดูซีรียส์เป็นหลัก เรื่องแอพฯ เลยไม่ได้คิดมาก ที่ตัดสินใจเสียเงิน 8,500 บาท มานั้นเพราะฟีเจอร์เดียวเท่านั้น คือ พิมพ์ไทยได้~~แล้วเว้ยเฮ้ย~~ โดยไม่ต้องพึ่งแอพฯ บนไอโฟน มันดีงามมากโดยเฉพาะตอนเสิช Youtube หาหนังจีน หรือ หนังไทยดู ซึ่งจะคุ้มหรือไม่อ่านกันต่อไป

เกริ่มมาพอสมควร เรามาชมแกะกล่องส่องรอบตัวเครื่องกันก่อน

สเปคอย่างเป็นทางการ Apple TV Gen4 2015

ระบบปฏิบัติการ tvOS 9.0
ซีพียู A8
แรม 2GB
หน่วยความจำในตัวเครื่อง 32 หรือ 64 กิ๊ก แล้วแต่จะซื้อ
ขนาด 98 x 98 x 33 มม.
น้ำหนัก 425 กรัม

การเชื่อมต่อ

Bluetooth 4.0
Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac + MIMO
10/100 Ethernet
IR receiver
USB Type-C
HDMI 1.4

อุปกรณ์ในตัวเครื่องประกอบด้วย

ตัวเครื่อง Apple TV Gen 4
รีโมทรุ่นใหม่มีทัชแพด
สายไฟ
สาย USB/Lightning
คู่มือภาษาไทยฉบับย่อ (ย่อสุด ๆ)

เราจะเห็นว่าอุปกรณ์ในกล่องแทบไม่ต่างจากของเดิมมากนัก จะมีเพิ่มก็เพียงแต่สาย USB/Lightning เท่านั้น โดยเจ้าสายนี้ทำหน้าที่ชาร์จรีโมท พวกสาย HDMI ไม่มีให้เหมือนเดิม ไปหาซื้อเอาเอง

สาย Lightning เหมือนที่แถมมากับ iPhone , iPad เอาไว้เสียบตูดรีโมทเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งอะแดปเอตร์ชาร์จไฟบ้านแอปเปิ้ลไม่ได้แถมมาให้ ให้เราไปใช้ร่วมกับหัวปลั๊กอื่น ๆ ที่เป็น USB ได้ตามใจชอบ

ส่วนตัวชอบแบบชาร์จนะเพราะหากใช้ถ่าย เวลาถ่านหมดกลางคัน ซีรียส์กำลังมันส์ ๆ นี่เครียดเลย แบบชาร์จยังวิ่งไปเอาสายชาร์จไอโฟนมาชาร์จเพิ่มพลัง เล่นหนังต่อไปได้ไม่มีสะดุด ^^

คู่มือย่อฉบับภาษาไทย พร้อมสติ๊กเกอร์โลโก้ Apple สีขาว

ตัวเครื่องขนาดกระทัดรัด กว้าง x ยาว ส่วนการระบายอากาศก็เหมือนเดิมคือไม่มีพัดลม หรือ ครีบระบายอากาศแต่อย่างใด ซึ่งการใช้งานจริง ๆ ผมเอาไว้ในช่องของโต๊ะทีวีก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น

ความหนามากกว่ารุ่นเก่าประมาณเท่านึง ดีนะที่ช่องเดิมยังใส่เข้าไปได้

ด้านหลังมีช่องให้เพียงพอต่อการใช้งานอันจำกัดของระบบ มีช่องเสียบสายไฟ ช่อง HDMI, LAN และ USB-C สิริรวมเพียง 4 ช่องเท่านั้น ส่วนการเชื่อมต่ออื่น ๆ ผ่านไวไฟ หรือ Bluetooth ซะเป็นส่วนใหญ่

เจ้า Apple TV รุ่นล่าสุดของโลก ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อน คือ……ไม่สามารถต่อ HDD ภายนอกเพื่อเล่นไฟล์ของเราเองได้ Apple เค้าเป็นระบบปิด จะขายของตัวเองเท่านั้น ไม่แบ่งใครกินจ้า

สายไฟเครื่องศูนย์ไทยเป็นแบบขากลม 2 ขา มีแต่สายนะอะแดปเตอร์ฝังในตัวเครื่อง

รีโมทควบคุมต่างจากเดิม เพิ่มแทรคแพดเพื่อใช้งานด้านบน (สีดำด้าน) ซึ่งการใช้งานลื่นไหลมากกกกกก บางทีเลื่อนแล้วเลย 555

ปุ่มเมนู เอาไว้ย้อนกลับมาทีละสเต็บ อารมณ์เหมือนปุ่ม Back ในแอนดรอยด์นั่นแหละ ส่วนปุ่มรูปหน้าจอเป็นปุ่มโฮม กดเพื่อกลับมายังหน้าจอหลัก ถ้ากดปุ่มโฮมค้างไว้สามารถเลือกปิดเครื่องได้โดยไม่ต้องเข้าไปปิดจากหน้า Setting เหมือนเดิมแล้ว สะดวกขึ้นเยอะ

งานนี้มีปุ่นปรับเพิ่ม – ลดเสียงมาให้ใช้ด้วย โดยเวลาผมดูหนังผ่าน Apple TV แล้วใช้ปุ่มนี้ปรับเสียง เค้าจะปรับที่ตัวทีวีโดยไม่ต้องไปยุ่งกับรีโมททีวีแต่อย่างใด เจ๋งดีเนอะ

ส่วนเจ้าปุ่ม Siri (รูปไมโครโฟน) ในประเทศไทยไม่สามรถใช้ได้นะแจ้ ด้วยแนวคิดที่ว่าภาษาไทยไม่รองรับ ทำให้ในประเทศไทยกดแล้วกลายเป็นปุ่ม Search แทนซะงั้น กรรม

ด้านหลังของรีโมทเป็นโลหะสีเงินสวยงาม ทำให้ระลึกถึง iPhone ตัวแรกเมื่อ 9 ปีก่อน ซึ่งเค้ารียกว่าดีไซน์สุดคลาสสิค (แต่ถ้ายี่ห้ออื่นทำ เค้าเรียกเชย ไม่พัฒนา โบราณ บลา บลา) 555

จิกกันเล่น ๆ ให้อ่านสนุก ๆ อย่าคิดมาก ^^!

ตูดรีโมทเอาไว้เสียบสายชาร์จ ซึ่งสายที่เค้าแถมให้ผมเก็บลงกล่องไม่ได้ใช้ เอาสายไอแพดมาเสียบแทน เท่าที่ลอง ชาร์จเต็มทีนึงใช้ลืมโลกเลยครับ ไม่ได้วัดว่าชาร์จนานเท่าไหร่จะเต็มนะ เพราะก็ไม่รู้ว่าเวลามันเต็มแล้วจะรู้ได้ไง

เปิดเครื่อง จัดการใส่ Apple ID เลือก Region เป็นประเทศไทย และที่สำคัญต้องตั้งเมนูภาษาไทย เพื่อจะได้มีแป้นพิมพ์ภาษาไทย หากไม่ตั้งเมนูไทย แค่เพียงเลือก Region เป็นไทย ไม่สามารถพิมพ์ไทยได้นะฮ๊าฟฟฟฟ

บังคับผู้ใช้งาน แบบนี้สไตล์แอปเปิ้ลเค้าหล่ะ

อ้อ หากใครใจถึงซื้อเครื่องศูนย์แพงกว่าเครื่องหิ้ว 2,000 บาทเหมือนผม บอกเลยใช้ Siri ไม่ได้นะ เค้าล็อคไม่ให้ใช้เลยไม่ว่าจะตั้งประเทศ และ เวลาในเครื่องเป็น USA ก็ไม่ให้ใช้ Siri นอกจากจะใส่ Apple ID ของประเทศที่รองรับ อย่าง USA, England เป็นต้น

โห!!!! อดคุย Hello Siri กับรีโมทเลย O_o#

หน้าตาของหน้าจอเมื่อเทียบกับรุ่นเก่า สวยงามขึ้น การใช้งานทั่วไปไม่แตกต่างจากเดิมนัก แทบไม่รู้สึกว่าเป็นรุ่นใหม่ ถ้าไม่มองรีโมท

สังเกตุว่าจะมีไอค่อน Photo มาด้วย ทำให้เราสามารถเข้าไปดูรูปจาก iCloud ของเราได้ตาม Apple ID ที่ลงในเครื่อง หากใครใช้บริการนี้คงจะชอบครับ เห็นรูปจอใหญ่ ๆ กันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และ อุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Apple ได้อย่างง่ายดาย ผ่าน Airply เช่นเคย

ในส่วนของภาพยนตร์ลิขสิทธิ์ก็จัดเต็มเช่นเคย มีทั้งแบบเช่า และ แบบซื้อ ซึ่งการซื้อเป็นการซื้อเพื่อดูผ่านอินเตอร์เน็ตนะครับ ไม่สามารถโหลดมาเก็บไว้ได้ หนังที่เคยซื้อไว้ด้วย Apple ID เดียวกันสามารถดูผ่าน Apple TV ได้ทันที ไม่ต้องซื้อซ้ำ

เพลงก็เช่นเดียวกับหนัง คือสามารถฟังเพลงที่เคยซื้อไว้เช่นกัน อันนี้คนขายบอกว่าเพลงสามารถดาวโหลดลงเครื่องได้ ซึ่งผมไม่ได้ซื้อมาฟังเพลงเลยไม่ได้ลอง ใครลองแล้วบอกด้วยนะจ๊ะ ^^

ในส่วนของ App Store มีแอพฯ ให้เล่นพอสมควรอย่างที่บอกไว้ในตอนแรก แบ่งหมวดหมู่เรียบร้อย มีแอพฯ แนะนำที่เราคุ้นเคย

เนื่องจากสามารถลงแอพฯ ได้ ความฝันบ้า ๆ ของผมก็เกิดขึ้นเมื่อฝันหวานว่าจะมีพวก Chrome Browser หรือ แอพฯ Browser เอาไว้ท่องเน็ต แต่…..วันนี้น้ำตาซึมครับ ยังไม่มีให้เห็นแม้แต่เงา หวังว่าอนาคตจะทำได้กะเค้าบ้างนะ พี่อาร์ตจะเอาไว้เล่นเวปดูซีรียส์หน่ะ ^^

ไม่เป็นไร เอาแอพฯ ยูทูป กับ Dailymotion มาแก้ขัดพลาง ๆ ก่อน เพราะตอนนี้เราพิมพ์ไทยได้แล้ว เย้ ๆ ๆ

คราวก่อนภรรยาต้องดู ปดิวรัดา แบบยาก ๆ เพราะพิมพ์ไทยใน Youtube ไม่ได้ คราวนี้ง่ายแระ 555

อ้าวเฮ้ย!!! มันพิมพ์ได้แต่ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นครับ เพราะความอินดี้ของแอปเปิ้ลที่ทำอะไรตามใจตัวเอง คิดว่าตัวเองทำนั้นดีที่สุดแล้ว (ซึ่งส่วนใหญ่ก็จริงนะ) แต่สำหรับภาษาไทยนั้น แอปเปิ้ล พลาดมาตลอด คราวนี้อุตส่าห์ใส่แป้นไทยมาให้ แต่ดันไม่ให้แป้นมาตรฐานแบบคอมพิวเตอร์ ดันใส่แป้นพิมพ์เป็นแถวอย่างที่เห็นด้านล่าง

คือ….ลุงครับ อุตส่าห์แยกแป้นไทยมา 2 แถวทำไม?????

งานนี้ต้องค่อย ๆ ปรับตัวเพื่อพิมพ์ไทยกันสักพัก เล็งกันนิ้วที่รูดรีโมทเกร็งกันเส้นยึด แต่เอาหน่ะ สาวกผลไม้ทนได้อยู่แล้ว ขนาดไอโฟนยังทนใช้แป้นไทยเพี้ยน ๆ ได้ตั้งหลายปี 555

จิกกัดตามสไตล์พี่อาร์ตพอหอมปากหอมคอ มาทดสอบกับ Daily Motion กันก่อนเลย

จริง ๆ แล้ว Apple TV รุ่นเก่าแม้ลงแอพฯ เพิ่มไม่ได้แต่ก็มี Daily Motion มาให้ใช้งานภาพที่ผมว่ามันไม่ชัดเลย ก็ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า พอโหลดมาใช้กับ Gen 4 ตัวใหม่ ทั้งบ้านบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าชัดกว่าเดิมเยอะเลย

อย่างซีรียส์เรื่อง Legend of Qin 2015 เดิมดูไม่ได้เลย ตอนนี้ชัดแจ๋วจร้า

ทดสอบ Daily Motion ประทับใจกับคุณภาพ และ การใช้งานไปแล้ว แต่โฆษณาเยอะมากดูไปสักพักเดี๋ยวก็มีโฆษณาคั่น ผมเข้าใจนะว่าต้องหาตังค์แต่เยอะไปก็ไปไหว

ดังนั้นปกติหากเรื่องไหนใน Youtube มีจะดูผ่าน Youtube มากกว่าเพราะมีแค่โฆษณาตอนต้นเท่านั้น ว่าแล้วก็มาลองเล่น Youtube กันต่อเลยละกัน

หน้าตาแอพฯ Youtube ที่ต้องโหลดเพิ่มเองจาก App Store ก็คล้าย ๆ ของเดิม แต่การควบคุมการใช้งานทำได้ดีกว่าเดิมเยอะ เพราะเป็นระบบปฏิบัติการ tvOS แถมได้รีโมทใหม่ที่เป็น TrackPad ด้วยแล้ว การค้นหา การพิมพ์ หรือกระทั้งการเร่ง / Fast forward ฉากที่น่ารำคายก็ทำได้รวดเร็ว แม่นยำกว่าเดิม

เมื่อเรารูดนิ้วจากจากบนลงล่างของ TrackPad จะเป็นการเรียกเมนูเพิ่มของไฟล์วีดิโอนั้น ๆ จะเปิดซับไตเติ้ล จะดูข้อมูลของวีดิโอ ต่าง ๆ ก็ทำได้แบบมีสไตล์ 555

(เดิมใช้กดปุ่มกลางค้างไว้ ซึ่งส่วนตัวรู้สึกทำงานง่ายกว่า)

คุณภาพของภาพยนต์ที่ได้ผ่านจอทีวีนั้น สวยงามไม่ต่างกับของเดิมมมากนัก เนื่องเพราะข้อจำกัดของไฟล์ในยูทูป และ ความเร็วอินเตอร์เน็น ทุย ของบ้านผม ที่ดูแบบ 720p ลื่น ๆ ก็ดีใจน้ำตาไหลแล้ว บางช่วงได้ดู 1080p นี่แทบจะปิดซอยเลี้ยงเพราะในยูทูปคนอัพซีรียส์ไม่ค่อยอัพไฟล์ใหญ่ขนาดนั้นครับ ตอนมันเยอะ เหนื่อยแทนคนอัพเลย ^^

หากใครต้องการใช้ Apple TV มาเป็นเครื่องเล่น มัลติมีเดีย บอกเลยว่าเหนื่อยหน่อย เราสามารถเล่นไฟล์หนังจาก HDD ได้นะแต่ต้องพึ่งคอมฯ Mac และ Airport Extreme ที่มี HDD ในตัว เพื่อเล่นผ่านแอพฯ พวก Air VDO HD นะจ๊ะ ยากไปนะ ไปซื้อพวก Media Player ไม่กี่พันจบกว่าถ้าคุณจะมาสายน้้น แต่หากปกติใช้ Mac อยู่แล้วก็สบายมากจ้า

บทสรุป

ข้อดี

การใช้งานทั่วไปลื่นไหลกว่า Apple TV Gen 3 ตัวเก่า แบบรู้สึกได้ทันทีที่เปิดใช้งาน
การใช้งานรีโมทแบบใหม่สะดวกคล่องตัวกว่าเดิม
มี App Store เพิ่มอิสระในการใช้แอพฯ
สามารถ Air Play หรือ Mirror อุปกรณ์ แอปเปิ้ล ขึ้นหน้าจอได้
ใช้ Apple ID ร่วมกับอุปกรณ์อื่น ซื้อครั้งเดียวเล่นได้ทุกเครื่อง
เอาไว้โม้ในวงเพื่อนได้ว่า “ของกรูรุ่นล่าสุด พิมพ์ไทยเฟ้ย”

ข้อเสีย

แป้นไทยห่วยที่สุด ที่เหลือเยอะขนาดนั้น ทำแป้นมาตรฐานที่คุ้นเคยมาให้ไม่ได้หรือไง?
ไม่มี Siri และ อนาคตก็ไม่รู้จะได้ใช้หรือเปล่า (เครื่องศูนย์)
ราคาแพงไปนิด แพงกว่าเดิมกว่าสองเท่าตัว
เป็นระบบปิดที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับอะไรได้เลยนอกจากผลิตภัณฑ์ แอปเปิ้ล ถ้าจะทำได้ก็ต้องใช้วิธีสารพัดมาช่วย….เหนื่อยนะจะบอกให้

การเล่นเกมส์บน Apple TV ยังไงก็ไม่สนุกเท่าเล่นบน iPad หรือ พวกเล่นเกมส์อย่าง xbox, PS4 และ Wii ครับ ความสามารถลงเกมส์มาเล่นผ่าน Apple Remote นั้น ผมถือว่าเป็นของแถม หากใครคิดจะซื้อมาเพื่อเล่นเกมส์บอกเลย “โคตรไม่คุ้ม” เพราะถ้าจะเล่นเกมส์หนัก ๆ ต้องซื้อรุ่น 64 กิ๊ก เครื่องไทยราคา 10,500 บาท เครื่องหิ้ว 8,500 บาท ไปถอย PS3 มาเล่นเหอะ หรือไม่ก็เพิ่มอีกไม่กี่พันซื้อ PS4 ฟินกว่าเยอะ

ใครที่ชอบการใช้งานของ Apple TV แล้วอยากพิมพ์ไทยได้ ลงแอพฯ ได้หลากหลาย สำหรับผมราคา 8,500 บาท ตอบเลยว่า

ราคานี้แพงเกิ้น…..แต่โคตรฟินเลยครับพี่น้อง

ถามว่าเสียดายเงินมั๊ย บอกเลยว่าไม่!!!

ส่วนเพื่อน ๆ ที่คิดจะซื้อมาเล่น ลองพิจรณาการใช้งาน และ เงินที่ต้องเสียไปว่าฟินหรือไม่ ของทุกอย่างขึ้นอยู่กับกิเลสล้วน ๆ

เปรียบเทียบกับ Apple TV Gen3 ตัวก่อนโน้น

หากใครมีรุ่นเก่าใช้งาน ~~แล้วไม่ได้เน้นต้องพิมพ์ไทยได้~~ แล้วสะดวกใจในการใช้แอพฯ Remote บนไอโฟนเพื่อควบคุม Apple TV และ พิมพ์ไทย ผมว่าใช้ตัวเก่าก็ได้ ประหยัดไปตั้งเยอะ

หากใครยังไม่เคยมี แล้วมีไอแพด หรือ ไอโฟนใช้งาน ซื้อ Gen 3 ถูกกว่า การใช้งานลื่นไหล จะเสิชอะไรก็ทำในไอแพด จะเล่นอะไรก็ Air Play ขึ้น Apple TV ยังสะดวกกว่าใช้ Gen 4 อีกนะขอบอก

หากใครชอบรุ่นล่าสุด อยากลองอะไรใหม่ ๆ อยากเล่นแอพฯ บนหน้าจอทีวี (แบบยาก ๆ) จัด Gen 4 ไปอย่าให้เสีย

ส่วนผมเจ้า Gen 3 ได้ระหกระเหินขึ้นห้องนอนไปเรียบร้อย ส่วนเจ้า Gen 4 ไว้ให้แม่เล่นที่ห้องดูหนัง

ใครสนใจ Gen3 อ่านรีวิวได้ที่ แกะกล่อง ลองเล่น Apple TV ค่าตัว 3,800 บาท โคตรคุ้มขอบอก

อัพเดท 21/2/2559

แฟนเพจแจ้งเตือนมาว่าใน App Store มีแอพฯ Remote สามารถแปลงร่าง iPhone เราเป็นรีโมทควบคุม Apple TV ตัวเก่าได้ ทำให้ Apple TV ของเราพิมพ์ไทยได้ และ รูด ๆ เพื่อควบคุมเจ้า Apple TV ได้เหมือนรุ่นใหม่เป๊ะเลย พี่อาร์ตเลยเอามาอัพเดทบทความซะหน่อย

ซึ่งจริง ๆ แล้วแอพฯ นี้มีมานานแล้วแหละ แต่สมัยนั้นแม่ผมใช้ไม่ถนัด เลยไม่ได้ใช้อีกเลย คราวนี้มาลองโหลดใช้ใหม่ เฮ้ย….มันใช้สนุกดีเหมือนกัน ซึ่งการทำงานนี้เชื่อมต่อผ่าน ไวไฟ วงเดียวกัน (เหมือน Air Play)

โดยรวมใช้ได้ดีหากไวไฟที่บ้านคุณนิ่งพอ เพราะจะมีปัญหาสัญญาณหลุดให้น่ารำคาญเป็นบางครั้ง