รีวิวร้อน ๆ มาเสริฟแล้ว….. ในที่สุด LG G4 ที่หลายคนรอคอยก็พร้อมวางจำหน่ายเสียที xenon_art ซื้อมารีวิวให้เสพเช่นเคย เข้ามาเลยจ้า
หลังจากปล่อยให้ Galaxy S6 และ S6 edge ขายล่วงหน้าไปร่วมเดือน LG ก็ปล่อยมือถือแอนดรอยด์ตัวท๊อปที่จะมาต่อกรแล้ว โดยวางจำหน่ายแบ่งเป็น 2 แบบคือ
- แบบฝาหลังพลาสติค ราคา 20,900 บาท
- แบบฝาหลังหนังแท้ ราคา 21,900 บาท
เรามาเริ่มทบทวนสเปค LG G4 กันก่อนเช่นเคย
LG G4 Specs
- ขนาด: 148.9 x 76.1 x 6.3-9.8 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก: 155 กรัม
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon™ 808 พร้อม X10 LTE
- หน้าจอ IPS Quantum Display ขนาด 5.5 นิ้ว Quad HD 2560×1440 พิกเซล
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop
- หน่วยความจำในตัวเครื่องแบบ eMMC 32 กิ๊ก เหลือใช้จริง 22 กิ๊ก
- แรม 3 กิ๊ก แบบ LPDDR3
- เพิ่มเมมโมรี่ได้
- กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ 8 / OIS 2.0
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ F2.0
- แบตเตอรี่: 3,000mAh (ถอดเปลี่ยนได้)
- เครือข่ายที่รองรับ: 4G / LTE / HSPA+ 21 Mbps (3G)
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a, b, g, n, ac / Bluetooth 4.1LE / NFC / USB 2.0
- สีที่วางจำหน่าย (เซรามิก) เทา Metallic Gray / ขาว Ceramic White / ทอง Shiny Gold , (หนังแท้) ดำ / น้ำตาล / แดง / ฟ้า / เบจ / เหลือง
- อื่นๆ: ถ่ายภาพแบบ Manual Mode / Gesture Interval Shot / Quick Shot
จากการสอบถามร้านค้าที่ไปซื้อมาวันนี้ได้ความว่า ตอนนี้รุ่นฝาหลังหนังมีจำหน่ายก่อน 3 สีคือ ดำ แดง และ น้ำตาล ส่วนสีฟ้านั้นจะมาปลายเดือนมิถุนายนนี้…..สีเหลืองกับสีเบจ ต้องรออัพเดทกันต่อไป
ตอนแรกลังเลมาก ๆ ว่าจะเอาสีน้ำตาล หรือ สีแดงดี สอบถามพนักงาน (อีกแล้ว) ได้ความว่าตัวโชว์เป็นสีน้ำตาล สีแดงไม่ได้โชว์…เลยตัดสินใจซื้อสีแดงมารีวิวซะเลยเพื่อน ๆ จะได้เห็นว่าสีแดงออกโทนไหน เผื่อว่าดูบทความนี้ช่วยประกอบการตัดสินใจ
สอยมาเรียบร้อย 21,900 บาทได้ประกันหน้าจอแตก และ เมมโมรี่การ์ด 32 กิ๊ก ที่ต้องไปเอาวันหลังเพราะของยังไม่มา (Jay Mart)
ด้านหน้ากล่องสีขาวสะอาดตาพร้อมโลโก้ LG G4 อยู่บนวงกลมที่น่าจะสื่อถึง Circle View เวลาใช้ร่วมกับ Case หล่ะมั๊ง (มั่วเอานะ)
ด้านหลังกล่องก็เรียบ ๆ สีแดงสะใจไม่มีข้อมูลสเปคอะไรเหมือนแอนดรอยด์รุ่นอื่น ๆ ข้างกล่องมีคำว่า LG G4 สีทองอยู่
เปิดกล่องออกมาเจอน้องแดงสวยบาดใจรอให้เราหยิบขึ้นมายล….มือสั่นทำอะไรไม่ถูก ปราดแรกที่เห็นต้องเอามือทาบอกแล้วร้องว่า “มันสวยหรูมากกกกกก”
อุปกรณ์ในกล่องประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง LG G4
- แบตเตอรี่ ความจุ 3,000 มิลิแอมป์
- สายดาต้า / สายชาร์จ
- อะแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้าน
- หูฟัง QuadBeat 3 แบบ InEar
- จุกยางหูฟังสำรอง 1 คู่
- คู่มือฉบับย่อ
- ใบรับประกัน
- ฟิลม์กันรอย (แปะอยู่บนกล่อง)
หูฟัง QuadBeat 3 แบบ InEar มากับจุกสีดำ สายสีแดงก่ำดุดัน บรรจุอยู่ในกล่องสีแดง เป็นระเบียบเรียบร้อยสุด ๆ
จุกยางสำรอง 1 คู่ที่แถมมาในกล่อง
สายดาต้าเอาไว้โอนถ่ายข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ และ เอาไปประกอบกันอะแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้านเพื่อเติมพลังให้น้องแดงของผม
อะแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้าน จ่ายไฟที่ 1.8 แอมป์ สีขาวสะอาดตาเช่นเดียวกับสายดาต้า
Quick Start Guide หรือ คู่มือฉบับย่อ พร้อมใบรับประกันจาก แอลจี มีเบอร์โทรให้โทรเข้าไปลงทะเบียนสินค้าได้ด้วยนะ
ฟิลม์กันรอย โฟกัส ที่แถมมากับตัวเครื่อง คือเค้าจะติดซองนี้มาบนกล่อง LG G4 เลย….ได้ทุกคนแน่นอน
ด้านหน้าตัวเครื่องจะเป็นสีดำทุกเครื่องไม่ว่าจะเป็นฝาหลังสีอะไรเช่นเดียวกับสมัย LG G3
LG G4 นี้มาพร้อมหน้าจอแบบ IPS Quantum Display อันเลื่องลือของ LG ที่ให้สีเป็นธรรมชาติกว่า สว่างแบบสบายตากว่า Super AMOLED ของ ซัมซุง (อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ) ซึ่งหากเป็นคนชอบสีสด ๆ หรือ ชินกับ Super AMOLED อาจรู้สึกว่าสีของ G4 อ่อนหวานไปนิด
หน้าจอขนาดใหญ่เต็มมือ 5.5 นิ้ว ใกล้เคียงกับ Note4 จึงทำให้ตัวนี้สามารถเอาไปชนกับ Note 4 ก็ได้ S6 ก็ได้เช่นเดียวกัน แถมเค้ายังมาพร้อมความคมชัดระดับ Quad HD ความละเอียด 2560×1440 พิกเซล คมชัดสุด ๆ ทำให้การใช้งานต่าง ๆ ได้อารมณ์มากขึ้น
ประกอบกับหัวใจ Qualcomm Snapdragon™ 808 แรง ลื่น แต่ไม่ร้อนเหมือน 810 ทำให้เจ้า LG G4 ตัวนี้น่าสนใจไม่น้อย แต่จะลื่นถูกใจหรือเปล่าติดตามรีวิวกันยาว ๆ ครับ
LG ยังคงคอนเซ็ปต์เอาปุ่มทุกอย่างไปไว้ด้านหลัง แต่พัฒนาความหรูหราด้วยฝาหลังหนังแท้เข้าตะเข็บสวยงามประหนึ่งงานศิลปะเลย
กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมจุดเด่นคือ ถ่ายรูปได้รวดเร็วโดยไม่ต้องเปิดแอพกล้อง ไม่ต้องปลดล็อคหน้จอ เพียงกดปุ่ม Rear Key ด้านหลังเครื่องสองครั้งกล้องถ่ายรูปก็พร้อมให้เราเก็บภาพความประทับใจในเวลาเพียง 6/10 ของวินาที….โอ้วมายก๊อดดดด
ด้านข้างขนาบด้วยไฟแฟรช LED และเซ็นเซอร์
ลำโพงเสียงภายนอกอยู่ด้านหลังส่วนล่าง อีกข้างนึงของตะเข็บกลางปั๊มคำว่า G4 ไว้ด้วย รายละเอียดเยอะดีจริง ๆ
สีแดงเข้มนี้ทำให้นึกถึงสีหนังภายในของ Benz และ BMW ขึ้นมาทีเดียว….หรูมาก แถมตัวหนังยังเป็นหนังคุณภาพสูงที่ให้สัมผัสนุ่มมือประหนึ่งถือ Chanel กันเลยทีเดียว (เว่อร์ไปป่ะ….แต่ไม่เชื่อไปลองจับของจริงดูได้)
โดยรวมผมชอบฝาหลังหนังแท้นะครับ มันให้ความรู้สึกที่เต็มอิ่มกว่าแม้จะต้องระวังในการใช้งานมากกว่าฝาหลังพลาสติค หาก LG ใช้ฝาหลังแบบนี้มาตั้งแต่ LG G3 คงจะถล่มคุ่แข่งที่เคยใช้ฝาหลังพลาสติคอัดลายหนังอย่างสิ้นเชิง แต่…..มาช้าไปนะ 555
เปิดฝาหลังออกมาก็เป็นที่ใส่แบตเตอรี่ความจุ 3,000 มิลิแอมป์ น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานเต็มวันสำหรับคนใช้งานจริงจัง แต่หากใช้งานทั่วไปเหลือเฟือสบายมากเพราะจอ IPS กินไฟน้อย
LG G4 สามารถใส่ได้ 2 ซิม โดยเป็นซิมขนาด MicroSim หรือ ซิมสมาร์ทโฟนทั่วไป ไม่ได้เล็กจิ๋วเหมือน iPhone และ Galaxy S6
รุ่นนี้สามารถเพิ่มเมมได้ ใครที่ย้ายเครื่องจากเครื่องเก่าสามารถเอาเมมมาเสียบใช้งานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาโอนรูป โอนเพลง โดยเมมโมรี่การ์ดจะมีช่องเสียบทับอยู่บนช่อง SIM1
ด้านซ้ายของตัวเครื่องด้านล่างจะเห็นร่องเอาไว้เปิดฝาหลัง ส่วนอื่น ๆ เรียบ ๆ ไม่มีอะไร โดยขอบรอบตัวเครื่องจะเป็นสีอลูมิเนียมรมดำ ไม่ดำสนิทสวยขรึมไปอีกแบบที่สำคัญเข้ากับฝาหลังได้ทุกสีเลย
ด้านขวาของตัวเครื่องเรียบ ๆ ไม่มีอะไรเลยเพราะเค้าย้ายปุ่มทุกชนิดไปไว้ด้านหลังหมดแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าเวลาถือแล้วมือจะไปโดนปุ่มเปิดเครื่อง หรือ ถือโทรศัพท์คุย ๆ อยู่แล้วมือไปโดนปุ่มปรับเสียง
ด้านบน หรือ หัวเครื่องมีเพียงรูไมโครโฟนอัดเสียงวีดิโออยู่มุมเครื่อง ถัดเข้ามาหน่อยจะเป็นช่องยิงอินฟราเรทเวลาใช้งานเป็นรีโมทต่าง ๆ
ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลิเมตร รูเล็ก ๆ ถัดมาเป็นไมโครโฟนสนทนาโทรศัพท์ ส่วนตรงกลางเป็นช่องต่อ MicroUSB เอาไว้ชาร์จแบต หรือ โอนถ่ายข้อมูลกับคอมพิวเตอร์
ด้านหน้าสีดำเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนบนเป็นกล้องหน้าขั้นเทพระดับ 8 ล้านพิกเซล และยังมีไฟ LED บอกสถานะของโทรศัพท์ด้วย
ด้านหน้าส่วนล่างเรียบ ๆ เช่นกัน มีเพียงโลโก้ LG ตรงกลางเท่านั้น
ปุ่มต่าง ๆ เป็นปุ่มบนหน้าจอ โดย LG G4 นี้ให้ปุ่มมาใช้ 4 ปุ่มด้วยกัน คือ ปุ่มสามเหลี่ยมคือปุ่มย้อนกลับ/back ปุ่มวงกลมเป็นปุ่มโฮม ปุ่มสี่เหลี่ยมเป็นปุ่มเรียกดูโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ ส่นวปุ่มสุดท้ายปลายนิ้วก้อยของผมเป็นปุ่มสลับซิม เอาไว้เลือกว่าจะใช้ซิมไหนเป็นซิมหลัก เอ้อ….สะดวกไปอีกแบบเนอะ
สเปคเคลมไว้ว่ามีหน่วยความจำในตัวเครื่อง 32 กิ๊ก แต่เหลือให้ใช้งานได้จริงประมาณ 22 กิ๊ก โดยถูกกันไปเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Lollipop 5.1 ตัวล่าสุด รวมถึงแอพฯ ต่าง ๆ ที่ LG ติดตั้งมาให้ ซึ่ง 22 กิ๊กนี้เหลือยิ่งกว่าเหลือ เพราะเอาไว้ใช้ลงโปรแกรมเท่านั้น ส่วนรูป เพลง และ หนังนั้นผมเอาใส่เมม 32 กิ๊กอันเก่าจาก Note 4
จากการได้ลองสัมผัสตอนทดสอบเครื่อง ตั้งค่าต่าง ๆ และ ถ่ายรีวิวแกะกล่องนี้ ความรู้สึกแรกที่แรงกล้าของผมเลยคือ “ฝาหนังมันสวยมาก” กระชากวิญญาณแบบสุด ๆ เวลาถือจับได้ความพรีเมี่ยมดุจดังนั่งอยู่บนรถหรูจากเยอรมันกันเลยทีเดียว วัสดุอื่น ๆ งานประกอบแน่นไร้ที่ติ (ยังหาไม่เจอ) รวมถึงสเปคแรง ๆ ของ LG G4 เรือธงตัวล่า….ทำให้รู้สึกว่าราคา 21,900 บาทไม่ได้แพงเลย หรือ จะพูดอีกมุมนึงคือเป็นรุ่นท๊อปที่ถูกที่สุดในกลุ่ม Hi-End
ส่วนการทำงานจะเป็นอย่างไร เจ้า Snapdragon 808 จะโอเคมั๊ย กล้องจะเทพจริงหรือเปล่า….ติดตามชมกันในรีวิวตอนอื่น ๆ ดังนี้
- รีวิวกล้อง 16 ล้าน LG G4 มาพิสูจน์ความชัดแบบบ้าน ๆ (รูปเยอะมาก)
- รีวิว LG G4 ตอนจบ – บทพิสูจน์ความน่าใช้ของสุดยอดแอนดรอยด์ (ชมคลิป)
- รีวิวกล้องแบบบ้าน ๆ iPhone 6+ ปะทะ Galaxy S6 edge ปะทะ LG G4 ใครคือตัวจริง
ขอให้มีความสุข สนุกกับชีวิต LifeStyle IT ครับ
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ไปเอาของแถมมายังครับ ได้ Memory Card น่าตาไม่ได้ไว้วางใจมาตัวนึง กับ Power bank LG G2 น่าจะไม่ใช้ทั้งคู่
ยังไม่ว่างไปเอาเลยครับ
ถ้าเราซื้อรุ่นฝนหลังที่เป็นหนังไม่สามารถใส่เคสได้หรือครับ
เคสบางรุ่นจะใส่ไม่ได้เพราะฝาหลังหนังจะหนากว่าพลาสติคทำให้ใส่เคสไม่เข้า