LegoLand สวรรค์ของเด็ก ๆ ที่มีพร้อมทุกอย่างที่เป็นเลโก้ เป็นโลกอีกโลกหนึ่งที่ xenon_art ต้องบอกว่า หากคุณมีลูก คุณควรจะพาไปพบกับประสบการณ์ดี ๆ แถมยังได้เรียนรู้ ได้คิด ได้สร้างสรร อีกด้วย
วันนี้จะพาไปเที่ยว Legoland Discovery Center ที่โอไดบะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นกัน
Legoland มีหลายที่ทั่วโลก ใกล้เมืองไทยที่สุดก็คงเป็น มาเลเซีย โดยบางคนเลือกที่จะบินไปนอน สิงค์โปร แล้วนั่งรถบัส หรือ ซื้อทัวร์วันเดียว (one day trip) ข้ามไปเที่ยว Legoland มาเลเซีย หรือ ใครชอบบินไกล ๆ ก็บุกไป ฟลอริด้า อเมริกา โน้นเลย ซึ่งผมไปมาแล้วเมื่อปีกลาย ที่นั่นใหญ่มาก ๆ ไม่น้อยหน้า Disneyland กันเลย
ด้วยโปรพิเศษยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยว อยู่ได้ไม่เกิน 15 วันของประเทศญี่ปุ่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมาก พร้อมกับบรรดาสายการบินขานรับด้วยราคาตั๋วพิเศษ ทริปนี้เลยไปลุย Legoland ญี่ปุ่นกัน
xenon_art เก็บภาพมาฝากกันเหมือนเคย Legoland ตั้งอยู่ในห้าง Decks / Island Mall ตรงข้ามสถานีวิทยุ Fuji ตรงสถานี Daiba
วิธีเดินทาง
1 หากเหมือนผม ที่นอนใน โอไดบะ โรงแรม Grand Pacific Le Daiba ก็เดินบน skywalk จากล็อบบี้โรงแรม ข้ามไปทาง Aqua City ที่มี Toy R Us นั่นแหละ จากนั้นทะลุ Aqua City ผ่าน Skywalk เช่นเคยมายังห้าง Decks เดินเข้ามาปุ๊ปก็เจอ Legoland ทันที
2 หากนอนฝั่งโน้นพวก ชินจูกุ ชิบูยะ สามารถเดินทางด้วย รถไฟ หรือ แท๊กซี่ ข้ามสะพานจากในเมืองโตเกียวมา ระยะทางอารมณ์ประมาณ กรุงเทพข้ามไปฝั่งธนนั่นแหละ แต่แท๊กซี่แพงมาก
หากนั่งรถไฟมาก็จะต้องมาสถานี Daiba station โดยจะเป็นรถโมโนเรล ที่เชื่อมกับบรรดา JR ต่าง ๆ ที่สะดวกที่สุดเห็นจะเป็นการต่อรถไฟที่สถานี Shimbashi จากนั้นนั่งรถไฟสาย Yurikamome มาสถานี Daiba แล้วเดินนทะลุ Aqua City ผ่าน Skywalk เช่นเคยมายังห้าง Decks เดินเข้ามาปุ๊ปก็เจอ Legoland ทันที
ด้านหน้าของ Legoland และ ที่นี่มี หุ่นขึ้ผึ้ง มาดามทรูโซ่ ต้้งอยู่ข้าง ๆ กันเลย ดำเนินงานด้วยบริษัทเดียวกัน คล้าย ๆ บ้านเราที่ มาดามทรูโซ่ กับ สยามโอเชี่ยนเวิล์ด ดำเนินงานโดยบริษัทเดียวกัน
จัดการซื้อบัตรให้เรียบร้อย โดยผมเข้าไปกับลูกชาย 2 คน ตั๋วแพคคู่ 3,800 เยน วันแรกที่ไปถึงพอดีเข้าช่วงบ่าย ๆ แล้วคนไม่ค่อยเยอะ ส่วนอีกวันมากันแต่เช้าห้างเปิด โห….คนเป็นร้อยรอคิวซื้อบัตรอยู่
Tips: แนะนำให้จอง online มาก่อน เพราะจะเข้าแถวซื้อบัตรเข้าคนละแถว หากคนเยอะ ๆ และ ไม่ได้จองมา รอกันเพียง 8 คิว ก็ครึ่งชั่วโมงแล้วครับ เพราะเค้าจะให้คนที่จองเข้าใช้บริการก่อน หากพนักงานว่างค่อยให้คนไม่ได้จองเข้าไปซื้อบัตร
พนักงานน่ารักดี อิ อิ อิ
ซื้อบัตรแล้วก็เดินเข้าไปขึ้นลิฟท์มุ่งหน้าชั้น 7
มีแผนที่แจกให้ด้วยเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งจริง ๆ แล้วการจัดวางของสถานที่ไม่มีอะไรซ้บซ้อนครับ เดินไปเรื่อย ๆ (แบบทางเดินบังคับ) พอถึงส่วนหลักก็จะอยู่รวม ๆ กัน เดินไปจนสุดก็ครบแล้ว แต่ทางออกต้องเดินย้อนกลับมา
ห้องน้ำ และ ทางออกอยู๋ฝั่งเดียวกันใกล้ ๆ กับ ส่วนร้านอาหาร
พอเข้าขึ้นมาชั้น 7 เดินเข้าสู่โลกแห่ง Legoland Discovery Center ซึ่งส่วนแรกจะเป็นส่วนเล็ก ๆ แสดงโรงงาน Lego จำลองน่ารัก ๆ พร้อม วีดิโอ ที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ตรงนี้ลูกชายเมินอย่างแรง วิ่งทะลุไปเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากนะ
พ้นจากส่วนแสดงโรงงาน Lego น่ารัก ๆ ก็จะเจอกับนี่แลย ลูกชายผม…เอ้ยไม่ใช่ครับ
จะเจอกับ Kingdom Quest ซึ่งเป็นเครื่องเล่นน่ารัก ๆ สไตล์ Buzz Lightyear ของ Disneyland ซึ่ง Kingdom Quest เราจะสวมบทบาทอัศวินที่นั่งเกวียนไปเรื่อย ๆ พร้อมปืน ที่เราต้องคอยช่วยยิงเหล่าปีศาจร้ายที่จะมารุกรานอนาจักรของเรา
ด้านในจะเล่าเป็นเรื่องราวอันน่าตื่นเต้น แต่……เป็นภาษาญี่ปุ่น สำหรับผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ คงจะมึนตึ๊บ แต่สำหรับเด็ก ๆ ภาษาไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะการรับรู้ของเด็ก ๆ นั้นผสมผสานหลายช่องทางกว่าพวกเราที่ชินกับการฟังเพียงอย่างเดียว
พอถึงฉากสุดท้ายที่เหล่าร้ายโดนทำลายหมดแล้ว สังเกตุทางขวามือจะเห็นไฟสว่าง ๆ ว่าสุดทางแล้ว เตรียมตัวให้ดี จะมีกล้องถ่ายรูปถ่ายเราอยู่ ให้ทำท่าเจ๋ง ๆ เอาไว้
เดินออกมาปุีปก็มีบู๊ธขายรูปทันที รูปใหญ๋สุด 1,000 เยน หรือ 330 บาท รับได้นะครับกับความประทับใจดี ๆ แบบนี้
ส่วนนี้จะเป็น Mini Land เป็นการจำลองสถานที่สำคัญ ๆ ของโตเกียวด้วยตัวต่อ Lego น่ารักมาก ๆ มีการจัดไฟสลับกลางวัน – กลางคืนด้วย ใครชอบถ่ายรูปคงได้เก็บบรรยากาศกันหลายแบบเลย
Rainbow Bridge จำลอง
สังเกตุดี ๆ แต่ละจุดจะมีปุ่มให้กดด้วย อย่างส่วนนี้กดปุีป ก็อตซีล่า โผล่ขึ้นมา “แฮ่” ใส่เราจากหลังคาตึก
จุดนี้จะมี 2 ปุ่ม กดรัว ๆ ในแต่ละฝั่งเพื่อแข่งปล้ำซูโม่กัน สนุกดีครับ
มีการสอนเทคนิคต่อเลโก้ด้วย แต่ก็อีกนั่นแหละ ภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ เลยผ่านไปแบบไม่มีเยื่อใย
ตารางสอน ใช้ตัวต่อเลโก้ทำน่ารักดี
สภาพภายในห้องเรียนที่เค้าเลิกเรียนพอดี
ส่วนสร้างสรรตามจินตนาการของ Duplo ตัวต่อเลโก้ที่ใหญ่กว่า
อยากต่ออะไรก็เชิญ เล่นกันให้เต็มที่ ส่วนนี้สบายหน่อย อยู่ติดกับ Cafe หรือ ร้านอาหารเล็ก ๆ ที่เราสามารถซื้อขนมมานั่งทางแล้วดูเด็ก ๆ เล่นกันอย่างอิสระ
ร้านอาหารเล็ก ๆ แบบบริการตัวเอง มีน้ำ ชา กาแฟ บริการ ส่วนอาหารมีไม่มากเป็นอาหารนกล่อง กับ แซนวิช เหมือนที่ขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปในญี่ปุ่น แต่มีของให้เลือกน้อยกว่า
เราสามารถพกอาหารมาทานเองได้นะ แต่ซื้อน้ำเค้าหน่อยแล้วกัน
มีโรงหนัง 4D ฉายให้ดูกันด้วยมีหลายเรื่องแล้วแต่รอบ ใครอยากดูก็มองหาดี ๆ มันอยู่ในซอกตรงข้ามกับร้านอาหาร
วันนั้นดู Legend of Chima กัน สนุกมาก มีทั้งลม ทั้งฝน ทั้งโฟม ลูกชายตื่นเต้นใหญ๋เลย
มีเครื่องเล่นอีกเครื่องนึงตั้งอยู่ข้าง ๆ โรงหนัง 4มิติ นั่นคือ Merlin’s Apprentice คิวยาวเหมือนกัน แต่ลูกชายเมินอีกแล้ว เลยไม่ได้ลอง
เท่าที่ไปยืนเล็ก ๆ ก็เป็นเครื่องเล่นแบบหมุน โดยเราต้องถีบที่ปั่น (เหมือนจักรยาน) เพื่อให้รถของเราลอยขึ้น
ดูแล้วคงเหนื่อยน่องกันไม่น้อย อิ อิ อิ
Racers Build & Test นี้อยู่เกือบสุดแล้ว เป็นที่ ๆ ลูกชายชอบมาก ๆ แต่ละวันจะมาขลุกที่นี่ไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง
จุดนี้เป็นจุดที่เด็ก ๆ (รวมถึงผู้ใหญ่) ได้ใช้อิสระของจินตนาการ สร้างรถในแบบของตัวเองจากตัวต่อเลโก้ จากนั้นก็เอาไปทดสอบในสนามที่เค้าจัดเตรียมไว้ให้ ถ้าทดสอบแล้วยังไม่เจ๋งพอ ก็กลับมา “โม” ใหม่ตามใจ
สนามแข่งความเร็วว่ารถใครต่อแล้วแรงกว่ากัน ล้อลื่นกว่า กระจายน้ำหนักได้ดีกว่า รวมถงทรงตัวดีกว่า ก็จะเข้าเส้นชัยก่อน
สถานีทดสอบความอึดของรถว่าสภาพผ่านการกระโดดแล้ว ชิ้นส่วนหลุดมากน้อยเพียงใด
ใกล้ ๆ กันมีเก้าอื้นั่งพักผ่อน ผมกับภรรยา ทิ้งลูกชายไว้ใน Racers คนเดียวแล้วปลีกตัวออกมานั่งพักสบาย ๆ
ทีญี่ปุ่นนี้เรื่องความปลอดภัยหายห่วงครับ ผมวาง Sony Nex5 ไว้แล้วเดินไปเดินมา กลับมามันก็อยู่ที่เดิมครับ ลูก ๆ ก็ปล่อยวิ่งไป ไม่หาย และ มีพนักงานน่ารัก ๆ คอยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
ถัดไปอีกนิดซึ่งเป็นส่วนสุดท้ายปลายทางของ Legoland Discovery Center Tokyo ก็คือ Lego Friends เอาใจเด็กสาวซะหน่อย
เจ้า Lego Friends เป็นไลน์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดบ้านเราไม่นาน เน้นไปที่เด็กผู้หญิง มีตัวละครน่ารัก ๆ หลายตัว ส่วนนี้เด็ก ๆ สามารถจินตนาการได้หลากหลายไม่แพ้ผู้ชายเลย
ด้านในมีคาราโอเกะเด็กให้เล่นกันด้วย
พอหมดแล้วก็เดินย้อนกลับมา ใกล้ ๆ กับร้านอาหารจะมีห้องน้ำ และ ทางออก อย่าลืมว่าตั๋วที่เราซื้อนั้น สามารถเข้ามาได้ครั้งเดียว เมื่อออกไปแล้วถึอว่า “จบ” ไม่สามารถเข้ามาได้ใหม่ ดังนั้นก่อนออกไปตัดสินใจดี ๆ
ร้านขายของเล่น “ดูด” เงินพ่อ – แม่ ตามสูตรสำเร็จสวนสนุก เจ้า Chima ยืนรออย่างสบายใจเพราะโรงหนัง 4 มิติ กำลังฉายหนังของเค้าอยู่ เล่นเอาเด็ก ๆ ที่ยังอินอยู่วิ่งไปคว้าของเล่นไลน์ Chima กันสนุกเลย
และนี่คือตัวอย่างเด็กที่่ยัง “อิน” อยู่ เลยจัดาบโฟมไปซะ
พวกมินิฟิเกอร์ที่เอาไว้สะสม หรือ เป็นพวงกุญแจ หรือ เป็นแม่เหล็ก ก็มีให้เลือกซื้อเช่นกัน ผู้ใหญ่ใจเด็กอย่างเรา ๆ ก็จะได้เพลินไปด้วย
มุมเสื้อผ้า
ไซส์เสื้อที่นี่เป็นแบบนี้ครับ ใครจะฝากซื้อ หรือ ซื้อฝากก็เก็บไปเป็นข้อมูลก่อนเดินทาง
มีมุมนึงสนุกมาก ๆ เพราะเราสามารถสร้าง มินิ ฟิเกอร์ ของเราเองได้จากบรรดาชิ้นส่วนที่เค้าเตรียมไว้ให้
3 ตัว 1,000 เยน หรือ 330 บาท เลือกได้ตามใจชอบ จะต่ออะไรก็ได้ มีอาวุธ หรือ อุปกรณ์ตามรูปที่ต้องไปรับตอนจ่ายเงิน
บรรดาชิ้นส่วนต่าง ๆ จัดเก็บไว้เป็นหมวดหมู่ ทั้งหัว ตัว ขา และ หมวก ลูกชายผมหยิบสนุกเลย
ได่ครบ 3 ตัว ไปจ่ายเงินแล้วเลือกอาวุธ เค้าก็จะใส่กล่องเก๋ ๆ แบบภาพด้านบนให้เราเอากลับไปพร้อมรอยยิ้มปิดท้ายการมาเปิดโลกแห่งความคิดสร้างสรร Legoland Discovery Center Tokyo โอไดบะ
จบแล้วครับพี่น้อง ใครที่มีแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่น แนะนำว่าหาเวลาสักครึ่งวัน แวะมาสนุกกันที่นี่ก็ดีนะครับ แอร์เย็นสบาย แถมในห้างนี้ก็มีของเด็กให้เลือกซื้อเพียบ รวมถึงงานวัดโบราณที่จำลองมาใส่ในห้าง Decks นี้ด้วย สนใจส่วนอื่น ๆ ของการตะลุยญี่ปุ่นของผม อ่านเพิ่มเติมกันได้เรื่อย ๆ ในส่วน “เที่ยวเรื่อยเปื่อย” ของผมนะครับ
หวังว่าโพสนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ นะครับ
เที่ยวให้สนุก มีความสุขกับชีวิตที่ไม่เบียดเบียนใคร
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ