บทสรุปการซื้อ Benz S Class รุ่น S300 W221 มือสอง มาซ่อมจบใช้งบเท่าไหร่ วันนี้มาไล่ดูกันครับ

#พี่อาร์ต #mercedesbenz #w221 #sclass #รถมือสอง #ซ่อมเท่าไหร่

S Class รถระดับท๊อปของ Mercedes Benz ที่ตอนนี้มือสองไม่แพงแล้ว แต่หลายคนกลัวเรื่องค่าซ่อม ซึ่งจริง ๆ บอกเลยว่า ค่าซ่อมไม่ได้แพงอย่างที่คิด ยิ่งได้อู่ที่ซ่อมเป็น และ เรา “กล้าซ่อม” มันจะเป็นรถที่ใช้งานทนทาน ไม่จุกจิกเลย

วันนี้เอาคลิปรวบรวมค่าใช้จ่าย รวมถึงสิ่งที่น่าจะต้องจ่ายในอนาคตของ S Class W221 มาให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

ว่าด้วยเรื่องการซ่อมนั้น รถผม เป็นปี 2012 ปลายปี ถือเป็น Facelift ล็อตเกือบจะสุดท่าย ดังนั้นถือว่าสภาพโดยรวมยังดูดีแม้จะมีอายุ 9 ปีแล้ว ตอนซื้อคัดสภาพอย่างละเอียดดังนี้รายการา ที่ต้องซ่อมสำหรับรถคันนี้มีไม่มาก โดยขอไล่รายการดังนี้

จุดที่ผมซ่อมเพื่อความสมบูรณ์ของตัวรถ
  1. ศูนย์เบนซ์สวนหลวง – เช็ค Service A พร้อมเปลี่ยนกรองแอร์ รวม 12,930 บาท
  2. ช่างแม็ค – ทำรีโมทใหม่ 1 ดอก สร้างกุญแจไข 2 ดอก รวม 6,500 บาท 
  3. อู่ TMS หลังวัดโสมฯ – เปลี่ยนข้อต่อวาล์วลม ชุดควบคุมระบบถุงลม 2 ชิ้น รวมค่าแรง 1,600 บาท
  4. อู่ TMS หลังวัดโสมฯ -เปลี่ยนกลอนฝากระโปรงหลัง แก้เวลาปิดแล้วฝากระโปรงหลังเด้งขึ้น รวมค่าแรง 12,000 บาท
  5. อู่ TMS หลังวัดโสมฯ – เปลี่ยนมอร์เตอร์ฉีดน้ำกระจก ยางรองมอเตอร์ ราคารวมค่าแรง 1,500 บาท
  6. อู่ xxxxx – ซ่อมกล่องควบคุมลมเบาะ ในฝากระโปรงหลัง แก้หัวหมอนกลางไม่ลง ราคา 8,500 บาท
  7. ร้าน TM Auto หลังวัดโสม – เบิก ถุงลมดันเบาะคู่หน้า แท้ศูนย์ไทย ราคา 20,000 บาท
  8. Be Clean – เดินท่อลมเบาะ หน้า-หลัง ใหม่ทั้งระบบ แก้ไขอู่เก่าที่โยนสายทิ้ง รวมติดตั้งถุงลมดันเบาะคู่หน้า 4,000 บาท
  9. Be Clean – ซ่อมสีเบาะทุกจุดในรถ รวมขอบทีวีหัวหมอน ราคา 5,000 บาท
  10. Be Clean เปลี่ยนหนังหลังเบาะคู่หน้า 2 ตัว รวม 4,000 บาท 
  11. Be Clean – ฟอกเบาะ ราคา 2,500 บาท (ราคาพิเศษ เพราะเบาะไม่เลอะ แค่เก็บงานที่เต้นท์ทำมาไม่เรียบร้อย)
  12. เปลี่ยนยางหน้า Michellin 20″ 2 เส้นหน้า รวม 20,000 บาท

หมายเหตุ: รายการที่ทำไปทั้งหมด รายละเอียดผมมีลิ้งค์ให้ด้านล่าง

รวม 98,530 บาท

รถผมซื้อมา 1,110,000 บาท เป็นรุ่น S300 ปี 2012 จากเต้นท์รถแนวศูนย์วัฒนธรรม

ค่าโอน 6,500 บาท ค่าประกันชั้น 1 ซ่อมอู่ 28000 บาท

รวมทั้งสิ้น 1,243,030 บาท หรือตีกลม ๆ ควักเงิน 1.25 ล้าน ได้ขับ S Class สภาพสมบูรณ์ ไม่กลัวกินข้าวลิง พร้อมวิ่งทั่วไทยแบบมีประกันชั้น 1 สบายใจในราคาที่จับต้องได้ และหากงบเหลือ หรือมีความคัน ก็เอาไปสนองความชอบของตัวเองได้ดังนี้

รายการอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์ในการการขับขี่
  1. Be Clean – หุ้มพวงมาลัยไม้สลับหนัง 5,000 บาท
  2. HMS Thailand – ติดกล่อง Asuka TV รุ่น 730 + กล่อง Interface + กล้องบันทึกหน้า 38,000 บาท
  3. ช่างพีระ – เปลี่ยนฟิลม์หน้าใหม่ 1,600 บาท
  4. Be Clean -ขัดสี เคลือบแก้ว 26,000 บาท
  5. เปลี่ยนชุดกันชน AMG  66,500 บาท

รวมความซนเข้าไปอีก 137,100 บาท

ดังนั้นรถคันนี้สมบูรณ์ พร้อมความสวยงามแบบสุด ๆ หมดไป 1,365,130 บาท ตีกลม ๆ ก็ 1.37 ล้าน กับ S Class AMG S63 Look แน่น ๆ ขับดีมาก นิ่มนวล แต่ไม่อืด กดแป๊ป ๆ ก็พาพุ่งทะยานไปแตะ 180 กม/ชม สบาย ๆ ไปเที่ยวห้างฯ หรือ ไปไหนมาไหน ก็ดูดีอลังการ แต่ไปบางที่ตัวรถอาจคันใหญ่เกะกะหน่อย 555

ผมว่ายอดเงินแบบนี้ คือ ถ้าไม่แต่งแบบผม จบที่ล้านสองกว่า ไม่เกินล้านสาม ราคานี้ป้ายแดงได้อะไรบ้างที่ถูกใจคุณ ลองพิจรณาดูครับ

สำหรับคันนี้ผมโชคดีได้รถที่สมบูรณ์มาครอบครอง หากเพื่อน ๆ โดนป้ายยา แล้วไปหามาใช้บ้าง อย่างน้อยควรกันเงินเอาไว้ซ่อมชุดระบบถุงลมอีกประมาณ 100,000 บาท ไม่รวมป้๊ม เพราะเฉลี่ยทุก ๆ 5 ปี มันจะเสียครั้งนึง เนื่องจากมันเป็นของที่ใช้แล้วเสื่อมสภาพเช่นเดียวกับยางรถยนต์ครับ

ระหว่างปี ผมจะกันเงินเอาไว้เปลี่นยของเหลว และ บำรุงรักษาปีละประมาณ 30,000 – 40,000 บาท

สำหรับรถปีเก่ากว่านี้ อาจต้องซ่อมบำรุงมากกว่าตามลำดับ โดยเฉพาะพวกชิ้นสวนยางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นยางขอบประตู ลูกหมาก สายถาน หม้อน้ำ รวมไปถึงเฟืองท้ายที่บางครั้งมีอาการหอนได้แม้รถจะวิ่งน้อย 

ยิ่งปีเก่ายิ่งต้องเตรียมเงินเอาไว้ซ่อมมาก (หากเจ้าของเก่าซ่อมไม่ถึง) เช่นหาได้รถปี 2009 ราคาเร้าใจแปดแสนกว่าบาท ปีพวกนี้ถุงลมจะไม่ค่อยมีปัญหาเพราะตามอายุ เจ้าของเก่าควรจะต้องเปลี่ยนมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี ดังนั้น 1 – 2 ปีแรกน่าจะรอด แต่จะไปโดนพวกเฟืองท้าย และ อุปกรณ์อื่น ๆ ที่มันต้องซ่อมตอนรถอายุ 12 ปี แนะนำตรียมใจเก็บงานอีก 10,000 บาท ซึ่งราคาค่าซ่อมเพื่อใช้ยาว ๆ แบบจะลดหลั่นตามไป ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้ยาวก็ซ่อมให้ถึง ๆ แต่ถ้ากะใช้ไม่กี่ปีฉาบฉวย ชอบเปลี่ยนรถ ค่าซ่อมก็ลดหลั่นลงไป

ปี 2010 ตอนนี้ราคาเก้าแสน กว่าบาท ตัวไม่เฟสลิฟ ซึ่งราคานี้ กัดฟันอีกนิดเอาตัวเฟสลิฟราคาล้านนิด ๆ จะดีกว่า ซึ่งพวกปี 2010 – 2011 มันเป็นระยะที่ถุงลมจะแตกรอบสองพอดี ดังนั้นทำใจกับการเปลี่ยนถุงลมภายในปีแรก นอกจากโชคดีเจ้าของเก่าเพิ่งแตกมา ก็รอดไปอีก 4 – 5 ปี ดังนั้นค่าซ่อมปี 2010 ขึ้นไปนั้น น่าจะต้องโดนหม้อน้ำ พัดลมหม้อน้ำ สายพาน ตัวตั้งสายพาน และ ลูกหมากช่วงล่างต่าง ซึ่งราคาไม่แพงอย่างที่คิด เตรียมเอาไว้สัก 100,000 บาท ยังไม่รวมระบบช่วงล่างถุงลมอีก 100,000 บาท

พอปีท้าย ๆ พวก 2012 ขึ้นไป ราคาก็จะประมาณ 1.2 – 1.4 ล้าน ตามสภาพ พวกนี้ซ่อมน้อยมาก เช่นตัวอย่างของผมถ้าไม่เข้าศูนย์โดนไปหมื่นกว่า และ ไม่โชคไม่ดีต้องเปลี่ยนกลอนฝากระโปรงหลังอีกหมื่นกว่า ผมซ่อมเก็บงานแบบสวย ๆ ไปเพียง 50,000 บาท แล้วก็เก็บเงินเอาไว้โดนช่วงล่างถุงลมอีกประมาณ 2 -3 ปีข้างหน้า หากยังใช้อยู่

หากดูแล้วจะสังเกตุได้ว่า เอาราคารถ มาบวกค่าซ่อม จะซื้อรถปีไหนราคารวมไม่ต่างกัน แล้วแต่ชอบครับ ผมเดิมชอบรถปีเก่า เพราะซื้อมาซ่อมเอง รับประกัน ใช้ไปอีก 5 ปี สบาย ๆ กลับกัน รถปีใหม่ ซ่อมน้อย แต่ไม่รู้เจ้าของเก่าซ่อมอะไรมาแล้วบ้าง ซ่อมถึงหรือเปล่า?

หากโชคดี ได้คันที่ดีมาเหมือนของผมคันนี้ วิ่งมาแสนกว่า แต่ซ่อมน้อยมาก คันเก่าผมปี 2009 ใช้ได้ปีนึงก่อนมีคนมาขอซื้อไปนั้นมาดูสรุปยอดรวมค่าซ่อมทั้งหมด ค่าแปลงเฟสลิฟแบบยังไม่เปลี่ยนไฟหน้า รวมราคารถแล้ว ถูกกว่าคันนี้ประมาณครึ่งแสน อันนี้ก็แล้วแต่ว่าชอบแบบไหน ซึ่งแบบไหนก็ไม่มีผิดครับ

เลือกที่ถูกใจ และ สบายใจดีที่สุด สำหรับคันนี้เตรียมนัดคิวเปลี่ยนพาร์ทรอบคันเป็น AMG S63 งานไต้หวันราคาไม่ถึงแสน เตรียมชมได้เร็ว ๆ นี้

พอเสร็จแล้วจะขายเพื่อสร้างโปรเจคต์ใหม่มารีวิวอีกสนุกดี ใครสนใจติดตามรายละเอียดหน้าเพจเร็ว ๆ นี้ หรือ ทักข้อความในเพจทิ้งไว้ได้ครับ รถพร้อมเมื่อไหร่จะได้ทักไปครับ ทุนก็เห็นหมดแล้ว ที่เหลือก็ค่าเสียเวลาผมแลกกับรถสมบูรณ์สวยพร้อมใช้ครับ

_______________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

 

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art