รีวิวหูฟังสำหรับเด็กรุ่นใหม่ล่าสุด buddyphones Wave ราคา 2,890 จาก Buddykid ไอเท่มเทพที่พ่อ-แม่ ทุกคนต้องมี!!!!!

#เค้าส่งให้รีวิวแบบไม่ต้องอวย

จากคราวก่อนที่รีวิวแนะนำหูฟังดี ๆ สำหรับเด็กที่มนุษย์พ่อ มนุษย์แม่ทุกคนทควรมี โดยเฉพาะเวลาเดินทางแล้ว วันนี้ขอเอารุ่นใหม่ล่าสุดมารีวิวให้ชมกัน Budyphones Wave รุ่นใหม่ล่าสุดประจำปี 2018 เลย

รีวิวเก่า รีวิว Buddyphones หูฟังเด็ก….ไอเทมเด็ดที่พ่อ-แม่ควรมี

โดยหูฟังเด็กนี้เป็นแบรนด์ onanoff นี้เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งโดยชาวไอซ์แลนด์ ซึ่งมาตั้งรกรากที่ ฮ่องกง ร่วมกันออกแบบรังสรรขึ้นมา และมันปังมากเพราะแทบไม่มีตัวเลือกอื่นเลยในตลาดที่จำกัดความดังของเสียงที่ 85 เดซิเบล ซึ่งปลอดภัยสำหรับประสาทหูของลูก ๆ

เหตุผลที่ควรมีหูฟังสำหรับเด็กให้ลูกของคุณ

  1. เพื่อเป็นการไม่ให้เสียงจากอุปกรณ์รบกวนคนรอบข้าง…..มันคือมารยาททางสังคม
  2. เพื่อให้ลูกฟังเสียงในระดับที่เหมาะสม ไม่ทำลายประสาทการได้ยิน เดี๋ยวจะหูตึง
  3. หูฟังเด็กย่อมพอดีหัวกว่าของผู้ใหญ่ ใส่พอดีไม่ต้องคอยจับ ไม่รำคาญ

คือ….ตรงนี้บอกเลย หูฟังจำเป็นมากในสังคมปัจจุบันครับ ผมนี่ไม่ชอบเลยเวลาไปไหนมาไหนแล้วเห็นเด็กดูยูทูปแล้วเปิดเส่ียงลั่นโดยผู้ปกครองไม่แคร์ใคร ซึ่งผมถือว่าเรากำลังรบกวนคนอื่น ไม่มีหูฟังไม่ว่ากันแต่ควรเปิดเสียงในระดับที่พอดี

สเปคอย่างเป็นทางการ Buddyphones Wave

  • น้ำหนัก 109 กรัม
  • ใช้แจ๊คเชื่อมต่อขนาด 3.5 มม. เคลือบทอง
  • DRIVER UNIT: 40mm Neodyminum
  • IMPEDANCE: 32oHM
  • สามารถเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth โดยมีระยะใช้งานไกลถึง 10 เมตร
  • ยังคงสามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้ถึง 4 คนต่อ 1 อุปกรณ์กันนํ้าได้ มาตรฐาน IP67
  • มีไมค์โครโฟน
  • แบตเตอรี่ที่สามารถใช้ได้ยาวนานถึง 24 ชม.
  • แบตฯหมดปุ๊ปสามารถเปลี่ยนมาใช้สายแทนได้เหมือนเดิม
  • ใช้หนังสุดนุ่ม สบาย ป้องกันผื่นแดงหรือการแพ้อื่นๆ
  • ปรับขนาดได้ให้เข้ากับขนาดศีรษะได้อย่างพอดี
  • วัสดุทนทาน ต่อการใช้งาน สามารถบิดงอได้
  • พกพาสะดวก มีถุงผ้าให้ในกล่อง
  • รับประกัน 1 เดือน

สามารถปรับระดับเสียงได้ 4 ระดับ

  • 75 db ปลอดภัยสำหรับเด็กเล็ก 1-3 ขวบ
  • 85 db ปลอดภัยสำหรับเด็ก 3 ขวบขึ้นไป
  • 94 db ปลอดภัยสำหรับ Flight mode ซึ่งยังเป็นระดับเสียงที่องค์การอนามัยโลกแนะนำสำหรับเด็กๆ อยู่
  • พิเศษสุดด้วย Study mode โหมดการเรียนรู้ที่จะทำให้น้องๆสามารถได้ยินเสียงพูดได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เหมาะกับการเรียนภาษาอย่างยิ่ง เอกสิทธิ์เฉพาะของ BuddyPhones

ว่าแล้วมาชมคลิปรีวิวฉบับดูโอ้ครั้งแรกที่ พี่อาร์ต รีวิวคู่กับลูกสาว Oh Yeahhhh (ง”)ง

เจ้าหูฟังตัวนี้ขนาด น้ำหนัก และ วัสดุนุ่มสบายเหมือนรุ่นก่อนหน้า โดยเมื่อเทียบกับรุ่นเดิมราคา 1,890 บาท กับรุ่นใหม่ wave ราคา 2,890 บาท ส่วนต่าง 1,000 บาท ได้ฟีเจอร์เพิ่มดังนี้

  1. ระบบไร้สายผ่านบลูทูธ สายไม่เกะกะรำคาญ ไม่ต้องห่วงว่าจะพันคอลูกเล็ก ๆ หากเผลอหลับ
  2. เป็นหูฟัง 2 ระบบ คือไร้สายกับมีสาย
  3. กันน้ำ กันฝุ่น มาตรฐาน IP67 กันน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตรนาน 30 นาที
ซึ่งทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น เกะกะน้อยลง ที่สำคัญมันมีไมโครโฟนติดอยู่ที่หูฟังด้วย ทำให้เมื่อแพร์กับโทรศัพท์แล้วสามารถกดรับสายที่หูฟังเพื่อสนทนาโทรศัพท์ได้เลยพ่อ-แม่ท่านใดให้ลูก ๆ พกมือถือเอาไว้โทรตามน่าจะชอบฟีเจอร์นี้พอสมควรเพราะเด็ก ๆ สามารถเอาใส่กระเป๋าแล้วฟังเพลง หรือ ฟังคลิปสอนภาษาโดยไม่ต้องถือเครื่องให้เป็นเป้าล่อตามิจฉาชีพ แถมยังไม่ขาดการติดต่อสื่อสารอีกต่างหาก
อุปกรณ์ในกล่องมีดังนี้
  1. หูฟัง
  2. คู่มือฉบับย่อ พร้อมสติ๊กเกอร์เขียนชื่อเจ้าของ
  3. สายชาร์จ
  4. สายหูฟังขนาด 3.5 มม. ที่มีช่องเชื่อมต่อหูฟังเพื่มสำหรับดูคราวละหลายคน
  5. ถุงผ้าลายเดียวกับหูฟัง
โดยทั้งหมดนี้สามารถใส่ลงไปในถุงลายน่ารักพกพาสะดวก
ด้านการใช้งานแบบไร้สายนั้น เมื่อชาร์จแบตเต็ม เปิดเครื่องครั้งแรกโดยการกดปุ่มหน้าเด็กใส่หูฟังตรงกลางประมาณ 1 วินาที อุปกรณ์มือถือ หรือ แท๊ปเล็ตของเราก็จะหาเครื่องเจอทันที และ สามารถแพร์ได้เลยโดยไม่ต้องใส่รหััสใด ๆ
การเร่ง-ลดเสียงก็กดปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียงใกล้ ๆ กับปุ่มเปิดเครื่องนั่นเอง ส่วนโหมดต่าง ๆ มีให้เลือกใช้ 4 โหมด โดย โหมดเครื่องบิน และ โหมดการเรียนรู้ จะเป็นโหมดที่เสียงดังที่สุด 94 เดซิเบลล์ ซึ่งการปรับโหมดนั้นต้องกดปุ่มเพิ่ม+ลดเสียงพร้อมกันวนไล่ไปเรื่อย ๆ ซึ่งแรก ๆ อาจไม่ชิน ใช้ไปสักสองสามครั้งก็ชิน
ส่วนผมปรับเป็นโหมดเครื่องบินตลอดเวลาเลยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ เพราะโหมดนี้แม้จะมีเสียงดังที่สุดแต่ถือว่าเบามาก ๆ เทียบได้กับหูฟังผู้ใหญ่เปิดเสียงครึ่งนึง
หมายเหตุ – สามารถสังเกตุโหมดการใช้ต่าง ๆ ได้จากไฟกระพริบได้จากแถบ LED ตรงหูฟัง (รูปบน) ซึ่งแต่ละโหมดจะกระพริบไม่เหมือนกัน ศึกษาได้จากคู่มือในกล่องนะจ๊ะ
กรณีต่อกับมือถือ ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ที่เป็นหน้าเด็กน้อยใส่หูฟังนั้น กดครั้งนึงจะเป็นรับสาย กดอีกครั้งนานนิดนึงจะเป็นวางสาย และนอกจากนี้เรายังสามารถกดค้างที่ปุ่มปรับเพิ่ม-ลด เสียงเพื่อเปลี่ยนแทรคเพลงได้ด้วย….แจ่มกว่ารุ่นเดิมเยอะเลย
อีกจุดที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือ ความสามารถกันน้ำ กันฝุ่นระดับ IP67 ซึ่งเทียบเท่ากับมือถือแพง ๆ หลายรุ่นทีเดียว สามารถลงน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตรได้นาน 30 นาที ซึ่งตรงนี้บอกเลยว่าไม่ได้แนะนำให้ใส่ว่ายน้ำนะครับ มันอันตรายเพราะเด็กจะไม่ได้ยินเสียงพ่อ-แม่
แต่….สำหรับผม ประโยชน์ของมันคือ สามรถเอาไปล้างทำความสะอาด และ ฆ่าเชื้อโรคด้วยของเหลวได้อย่างสบายใจ อีกทั้งไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะพังเวลาลูกใส่ไปแล้วทำนมหกใส่ หรือ หล่นใส่ชามก๋วยเตี๋ยว 555
พับแล้วได้ขนาดประมาณนี้เอง พกพาสะดวกสุด ๆ
หากใช้งานระหว่างเดินทางแล้วแบตฯ หมดก็ไม่ต้องกังวล ความสนุกสามารถใช้ได้ต่อเนื่องด้วยสายหูฟังที่แถมมาในกล่อง สามารถใช้เป็นหูฟังปกติได้ทันทีไม่ต้องชาร์จไฟ
จุดขายตั้งแต่รุ่นก่อนหน้านี้คือ สามารถเสียบหูฟังต่อกันได้สูงสุดถึง 4 เครื่อง เรียกว่าดูหนังพร้อมกันได้ทั้งครอบครัว พี่น้องไม่ต้องแย่งกันอีกต่อไป 555

บทสรุป

เป็นหูฟังที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เหมาะมาก ๆ กับผู้ปกครองที่อนุญาติให้ลูกหลานใช้อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ได้ ไม่ว่าจะเพื่อความบันเทิง หรือ การเรียนรู้ หูฟังพอดีขนาดของเด็ก มีน้ำหนักเบาไม่กดหัวเด็ก ที่สำคัญนุ่มใส่สบายแม้จะใส่ฟังเพลงโมซาร์ตจนผล๊อยหลับไปคาอ้อมอกของเรา
รุ่นใหม่นี้เพิ่มฟีเจอร์มากมาย คุ้มค่าน่าเป็นเจ้าของ แม้ราคาจะพาไปถึง 2,890 บาท แต่ได้หูฟังไร้สายที่รับโทรศัพท์ได้ เปลี่ยนเพลงได้ ปรับโหมดได้หลากหลาย และที่สำคัญไม่ทำลายประสาทหูของเด็กด้วยการให้เสียงในระกับพอดี เหมาะกับการได้ยินของเด็ก…..ราคานี้ แลกกับความสะดวก สบาย และ ปลอดภัย ถือว่าไม่แพงเลย
อ้อ จากในคลิปจะเห็นว่ามีกระเป๋าใส่หูฟังแบบพกพาสวยงาม ตัวนั้นเรียก Buddycase ปกติขายแยกในราคา 690 บาท แต่สามารถซื้อพร้อม Buddyphones Wave ได้ในราคาพิเศษเพียง 3,290 บาท จากปกติ = 3,580 บาท (WAVE 2,890+ Case 690) ซึ่งจะได้ราคาโปรฯ นี้เมื่อซื้อโดยตรงกับบริษัทเท่านั้น ใครสนใจลองสอบถาม และ สั่งสินค้าได้ตามนี้ครับ
Lazada: buddykid
Messager Fb:
Tel: 081-980-8216
Buddyphones Wave นี้ิมี 4 แบบให้เลือกดังนี้
  • Blue Robot
  • Unicorn Pink
  • Yellow Bee
  • Green Monkey

 

_________________________________________

หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย

ฝากกดไลค์ติดตามเพจ “ล้านเรื่องราว กับพี่อาร์ต” ด้วยนะจ๊ะ

https://www.facebook.com/storywithArt

Facebook-Like

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art