นี่ไม่ใช่รีวิวแบบจริงจัง แต่เป็นการเล่าสิ่งที่ชอบ และ ไม่ชอบกับ Samsung S23 Ultra

พร้อมจะติดทุกจุดโนสน โนแคร์ เพราะเราซื้อมารีวิวเอง

#พี่อาร์ต #รีวิว #Samsung #S23Ultra #ซัมซุง #Smartphone #android #review #ซื้อเองรีวิวเองไม่ต้องอวย

สเปคอย่างเป็นทางการ Samsung S23 Ultra

  • ขนาดตัวเครื่อง 163.4 x 78.1 x 8.9 มม
  • น้ำหนัก 234 กรัม
  • ซีพียู Snapdragon 8 Gen 2
  • หน่วยความจำมีให้เลือก 3 ขนาดคือ
    • แรม 8GB หน่วยความจำในตัวเครื่อง 256GB (43,900 บาท)
    • แรม 12GB หน่วยความจำในตัวเครื่อง 512GB (49,900 บาท)
    • แรม 12GB หน่วยความจำในตัวเครื่อง 1TB (59,900 บาท)
  • หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X 6.8 นิ้ว Quad HD+ Refresh Rate 1-120Hz
  • กล้องหลัง
    • เลนส์หลัก 200MP (OIS) f/1.7
    • เลนส์ Ultra-Wide 12MP f/2.2
    • เลนส์ซูม 10MP f/2.4 Optical Zoom 3x
    • เลนส์ Periscope 10MP f/4.9
  • กล้องหน้า 12MP  f/2.2
  • เซ็นเซอร์สแกนนิ้วในหน้าจอ Ultrasonic
  • กันน้ำ กันฝุ่น IP68
  • แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W, ชาร์จไร้สายและ Reverse wireless charging
  • ระบบปฏิบัติการ One UI 5.1 บน Android 13

การใช้งาน

บอกก่อนว่าผมใช้งานแบบทั่วไป ใช้ทำงานหาเงิน ใช้อีเมล จัดการเอกสารต่าง ๆ สั่งงานเลขา และ ลูกน้องแผนกต่าง ๆ จดบันทึกเยอะมาก ๆ ตอบคำถามหน้าแฟนเพจ + ช่องยูทูป เล่นโซเชี่ยลไม่เน้นโพสอะไร แต่เน้นอ่านติดตามความเป็นไป และกระแสต่าง ๆ ในสังคม 

และ…ไม่เล่นเกมส์

กล้องใช้เยอะมากเพราะหลาย ๆ จังหวะที่ไม่ได้พกกล้อง Sony A7C ออกไปถ่าย Vlog ก็จะใช้กล้องมือถือแทน ดังนั้น กล้องมือถือ นับเป็นจุดสำคัญในการเลือกใช้สมาร์ทโฟนของผมในการสร้าง content ลงสื่อต่าง ๆ

เพื่อความสะดวก ผมจะรีวิวส่วนที่ชอบ และ ไม่ชอบจากการใช้งานแบบที่กล่าวมาข้างต้นดังนี้

สิ่งที่ชอบ

หน้าจอโค้งน้อยลง ขอบคุณครับเครื่องเป็นเหลี่ยมมากกว่าเดิม ปัญหาจับยาก จับแล้วจะหลุดมือหมดไป ที่สำคัญจับแล้วอาการนิ้วไปโดนจอผมไม่เจอเลยครับ เรียกว่า หน้าจอโค้ง ที่ผมบ่นทุกปี ปีนี้ปรับปรุงมาใหม่ ใช้งานได้เป็นธรรมชาติแล้ว ทว่า…แถมปัญหาจอย่นมาให้แทน

ด้วย CPU Snapdragon 8 Gen 2 ที่คัสตอมมาให้ S23 Ultra บวกกับแผงระบายความร้อนตัวใหม่ ใช้งานแบบของผมเครื่องไม่ร้อนเลยครับ ถ่ายวีดิโอนาน ๆ จะร้อนที่หน้าจอแทน เพราะผมเร่งความสว่างสุด ตอนถ่ายกลางแจ้ง

เอาจริง ๆ ปกติเวลาซื้อมือถือใหม่มา 2 วันแรก ดึงข้อมูลจาก Cloud โหลดโปรแกรม ตั้งค่าต่าง ๆ เครื่องจะร้อนเป็นประจำ ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ แต่ Samsung S23 Ultra ไม่เจอเลยเช่นกัน สุดยอดมาก

แบตเตอรี่ แม้จะได้ความจุเท่าเดิม แต่อาจจะด้วย CPU และ Android เวอร์ชั่นใหม่มาช่วย ผมว่าแบตฯ อึดกว่าเดิม ใช้งานเต็มวันแบบแบบไร้กังวล ต่อไปต้องออกไปเอนเตอร์เทนคู่ค้ากลับบ้านตี 3 ผมว่าเอาอยู่โดยไม่ต้องชาร์จระหว่างวันเลย ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ผมไม่เล่นเกมส์ ไม่ดูยูทูปบนมือถือ ส่วนมากใช้เปิดเพลงตอนทำกับข้าว 555

ปากกา S Pen ไม่ต้องพูดเยอะ เค้าคือเจ้าตลาดปากกาของแท้ที่คุณยังหาตัวแทนไม่ได้เลย ฟังค์ชั่นมาให้ใช้เยอะแยะ ใช้ไม่หมด เรียนรู้แทบไม่หมด ดังนั้นใครที่ต้องการมือถือที่มีปากกา Samsung คือตัวจบที่สุดครับ

สิ่งที่ไม่ชอบ

FaceID ไร้ประโยชน์ในยุคนี้ เพราะแค่ใส่แว่นอ่านหนังสือ มือถือก็จำหน้าไม่ได้แล้ว ถ้าใส่แมสนี่เลิกคุย ดังนั้นผมใช้สแกนลายนิ้วมือแทน ซึ่งเอาจริง ๆ สะดวกกว่า โดยเฉพาะตอนใส่แมส

ตอนแรกใช้แป้นของ Samsung ในเครื่อง พิมพ์ดีอยู่ แต่เดาคำไม่เก่ง ไม่รู้ใจเรา แถมบางครั้งในบางแอปฯ แป้นพิมพ์ไม่ขึ้น ต้องออกจากแอพฯ แล้วเข้าไปใหม่

จะตอบคอมเม้นท์เพื่อน ๆ เลยเสียจังหวะไปหลายที สุดท้ายโหลด Google Keyboard หรือ GBoard มาใช้ เรื่องเงียบครับ หมดปัญหา

เฮ้ยยย หมดแล้วครับ สิ่งที่ไม่ชอบกับการใช้งานของตัวเครื่อง ถือว่าน้อยมาก ๆ ซึ่งทุกปีผมต้องบ่นเรื่องหน้าจอโค้งที่โคตรไม่ชอบ ปีนี้เค้าปรับหน้าจอใหม่ โค้งน้อยลงก็ยังคงไม่ชอบอีกนั่นแหละ แต่ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้แล้ว ไม่บ่นละกัน ทว่า อนาคตถ้าเลิกใช้จอโค้งแพง ๆ คุณอาจได้กำไรมากขึ้นนะ อิ อิ

กล้อง

กล้องถ่ายสนุก กระชับ เปิดเร็ว ถ่ายเร็ว ชัตเตอร์รัว ๆ ไม่มีสะดุด ภาพคมชัด สีสรรจะเหลืองกว่า S22 Ultra ปีก่อน รวมถึงเหลืองกว่า iPhone 14 Pro แต่ก็ไม่ได้หมายถึงภาพจะเหลืองอ๋อยนะ ผมว่าภาพเค้าให้โทนสีอุ่นขึ้น เป็นธรรมชาติมากขึ้น

หากเทียบกับ iPhone 14 Pro ผมบอกได้เลยว่า ไม่มีอันไหนตรงกับที่ตาเห็น เพราะของจริงจะไม่ฟ้าเท่า iPhone และ ไม่เหลืองเท่า S23 Ultra มันจะอยู่ตรงกลางระหว่าง ทีนี้ก็อยู่ที่ชอบแล้วครับ

สำหรับผมไม่ซีเรียสเลย เพราะถ้าไม่เอารูปมาเทียบกัน ก็ไม่มีใครรู้หรอก ถ้าถ่ายท่องเที่ยว อาหาร หรือ อะไรที่ สี ไม่ได้เป็นจุดชี้ขาด ผมว่าเล่นได้หมด แต่ถ้าสีเป็นจุดชี้ขาด แล้วทะลึ่งเอามือถือถ่าย คงต้องใช้แอปฯ ช่วยแต่งรูปให้สีเหมือนตาเห็นที่สุดเอา

เลนส์ซูม 100 เท่าที่ยืนหนึ่งในตลาดขนาดมีคนหัวใสเอาไปทำธุรกิจให้เช่ามือถือเพื่อซูมศิลปินในงาน Event และ Concert ต่าง ๆ พิสูจน์แล้วว่า “ของเค้าดีจริง”

ผมไม่ได้ทดสอบถ่ายดารา หรือ เอาไปถ่ายดวงจันทร์นะ เอาแบบบ้าน ๆ ก็ตกใจแล้ว

หลายคนคงคิดว่า ซูม 100 เท่าอาจไม่ได้ใช้ จริงๆ ตอนไม่มีก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ถ้ามีคุณจะรู้ว่ามันช่วยได้หลายอย่างเหมือนที่ผมลองให้ดูด้านบนนี่ก็ชีวิตประจำวันเลย

ยังไม่นับซูมเบอร์โทรร้านอาหารตรงโน้นนนนน ตอนรถติด ๆ นะเออ


ท่ามกลางความเจ๋ง ความสนุก และ ความใช้ง่ายของกล้องทุกเลนส์ใน Samsung S23 Ultra ผมพบสิ่งที่ไม่ถูกจริตการใช้งานของผมดังนี้

กล้องวีดิโอ ยังคงบังคับให้ถ่ายด้วยเฟรมเรท 30fps หากต้องการใช้ 25fps ต้องปรับไปใช้ Pro Video ซึ่งคนสาย Auto อย่างผม ไม่ชอบ การจะใช้กล้อง Sony A7C ถ่ายทุกสิ่งอย่างด้วย 25fps แล้วบางช็อตใช้มือถือถ่ายมาเป็น 30fps พอเอามาตัดต่อรวมกัน มันรู้สึกแปลก ๆ แต่ถามว่ามันเป็นอะไรมั๊ย เอาตรง ๆ หลาย ๆ คลิปที่ลงยูทูปก็ผสมเฟรมเรทนะ แต่น้อยคนที่จับได้

ครั้นจะเปลี่ยนงานทั้งหมดเป็นการถ่ายด้วยเฟรมเรท 30fps เพื่อมือถือเครื่องเดียว มันก็ยังไงอยู่

 

จุดที่ใช้บ่อยคือการถ่าย Slowmotion พอเอามาใช้งานถ่ายรถ ถ่าย B-Roll เจอปัญหา เพราะ SlowMotion เค้ามีระยะเดียวให้เลือก ไม่มีซูม ไม่มี Ultra Wide เหมือน iPhone 14 Pro ที่ถือคู่กัน ดังนั้นมุมกล้องเราจำกัดมาก และ ถ้าพื้นที่ยืนน้อย หรือตอนไปถ่ายคนเยอะ เราจะเสียเปรียบมากกับการมีเลนส์ระยะเดียว

นอกจากนั้นพอเริ่มกดถ่าย Slowmotion แล้วเดินเข้าหาแบบระยะใกล้ โฟกัสจะไม่ปรับ Auto คือ ภาพจะไม่คม ต้องถอยกล้องออกมาระยะที่เริ่มถ่าย โฟกัสจึงจะได้

สามารถแก้ไขได้โดยการแตะหน้าจอเพื่อโฟกัสใหม่ แต่…มือถือเครื่องอื่นผมไม่มีปัญหานี้ เลยกลายเป็นจุดที่ขาดความเชื่อมั่น ถ่ายทุกครั้งต้องระแวง และเช็คไฟล์ทุกครั้ง บางทีมันก็ไม่สนุก

นอกจาก 2 อย่างนี้แล้ว ในการใช้งานแบบของผม ก็ไม่มีข้อติอื่น ๆ อีก และถือว่าเป็นกล้องที่ดีมาก ๆ ทีเดียว ผมชอบสี ความคม ความฉลาดของการถ่าย Portrait ละลายหลังนะ มันทำได้กว่า iPhone 14 Pro เสียอีก โดยเฉพาะการถ่ายสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่คน Samsugn S23 Ultra ชนะขาดแบบน่าเกลียด ทั้งระยะใกล้สุดที่ถ่ายได้ S23 Ultra ถ่ายได้ใกล้กว่า

การบริหารจัดการวัตถุในเฟรม S23 Ultra ฉลาดกว่า ถ่ายแล้วฉากหลังเบลอง่ายมาก แทบไม่ต้องเช็คไฟล์เลย ในขณะที่ iPhone 14 Pro ถ่ายวัตถุยากมาก แล้วชอบเบลอผิดที่

โดยรวมผมว่า Samsung S23 Ultra เป็นมือถือที่ทำให้ความตื่นเต้นในการเล่นมือถือใหม่กลับมาอีกครั้ง หลังจากเบื่อมือถือไปพักใหญ่ เพราะไม่มีอะไรว้าวเลย

คนที่อ่านถึงตรงนี้ แล้วพบว่าข้อติในมุมของผม คุณไม่ติดอะไร บอกเลย ซื้อ Samsung S23 Ultra มาไม่ผิดหวังแน่นอน

ซื้อมาแล้ว อย่าลืมติดฟิล์ม Hi-Shield UV Antishock ฟิล์มใสไม่มีกาว แต่อบ UV เพื่อให้ฟิล์มลงขอบโค้งอย่างแนบสนิท กันรอยขีดข่วน ช่วยลดแรงกระแทกบนหน้าจอ ผมใช้เอง ทดสอบแล้วว่าดี เลยรับงานเค้ามาบอกต่อครับ ของเค้าดีจริง

สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจ สามารถติดฟิล์ม Hi-Shield ได้ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ลิ้งนี้

https://bit.ly/3WSSpDH

Hi-Shield UV Antishock Premium Box Set ราคาเริ่มต้น 1,190 บาท ใช้โค้ดส่วนลด “HISHIT” ลดทันที 100 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2566 นี้ครับ

ขอให้มีความสุขครับ

_______________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art