มีงบ 1 ล้านบาท ซื้อรถ SUV มือสองเอาไว้ใช้ ควรซื้อรุ่นไหน เตรียมงบซ่อมเท่าไหร่

ดูให้ครบก่อนตัดสินใจ

#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต #รถมือสอง #Howto #SUV #งบ1ล้าน

รายชื่อรถ SUV ที่แนะนำในงบ 1 ล้านบาท

  1. BMW X1 E84 ปี 2014 – 2016
  2. BMW X1 F48 1.8i sDrive
  3. BMW X3 F25 sDrive 2014
  4. Benz GLA W156 2014 – 2015
  5. Lexus RX270 Gen3 2012 – 2015

BMW X1 E84

ปี 2014 – 2016

ตัวเลือกที่แทบไม่ต้องคิด เพราะเป็นรุ่นยอดฮิตสำหรับรถทรง SUV ต้องเป็น BMW X1 เจนเนอเรชั่นแรก รหัสตัวรถ E84 ซึ่งในงบ 1 ล้านบาท บอกเลยว่าเหลือเฟือ เลือกปี เลือกไมล์ เลือกสีได้ตามใจชอบ แถมเหลือเงินซ่อนหนัก ๆ อีกแสนกว่าบาทสบาย ๆ

ตอนนี้ X1 ตัวฮิตราคาปีท้าย ๆ 2015 – 2016 มือสองจากหน้าเวปเฉลี่ยน ตัวเบนซินอยู่ประมาณ 599 – 699,xxx บาท ส่วนดีเซลอยู่ประมาณ 7 – 8 แสนบาท โดยดีเซลจะแพงขึ้นแสนกว่าบาท ด้วยความนิยม และ ความขึ้นชื่อเรื่องการประหยัดน้ำมันของเค้า ประกอบกับตอนป้ายแดง ถ้าจะเอาตัวออฟชั่นเต็ม ๆ ต้องเลือกดีเซลครับ พอเป็นรถมือสอง BMW ดีเซลราคาจึงแรงกว่าเบนซิน

หากถามว่าซื้อเบนซิน หรือ ดีเซลดีกว่ากัน อันนี้คงต้องพิจารณาว่าชอบแบบไหน

เครื่องดีเซลมือสอง ซ่อมหนักกว่า มีจุดที่ต้องดูแลมากกว่า โดยเฉพาะจุดอ่อนโซ่ไทมมิ่ง และ รางดันโซ่ ที่เวลาเปลี่ยนทีต้องยกเครื่องออกมา และ ควรเช็คหากรถท่านวิ่งเกิน 120,000 กม. แต่แลกมากับการประหยัดน้ำมันมากกว่า อีกทั้งขับในเมืองสนุกกว่าด้วยแรงบิดที่มาเร็ว และ มามากกว่า

เบนซิน ซ่อมน้อยกว่าหน่อย แต่เป็นเครื่องไม่มีเทอร์โบ ไม่ประหยัดเท่าดีเซล ขับแล้วอาจจะไม่ปรู๊ดปร๊าดเหมือนดีเซล เรียกว่าเหยียบแล้วไปเรื่อย ๆ ผมไม่ชอบ

ระยะยาวถ้าเป็นคนขับเยอะ ๆ วิ่งทั้งวัน เดี๋ยวส่งลูก เดี๋ยวไปซื้อของ เดี๋ยวไปหาลูกค้าสารพัดอย่างใน 1 วัน เรียกว่าปีนึงขับเกิน 25,000 กม. ผมว่าเอาดีเซล แต่ถ้าเช้าขับไปจอด เย็นขับกลับ ระหว่างวันออกไปทานข้าวบ้าง และไม่ได้ขับรถเร็ว เร่งกระชากบ่อย ๆ แนะนำซื้อเบนซินคุ้มกว่า เพราะลำพังค่าตัวรถก็ประหยัดไปเป็นแสนแล้ว ยังไม่นับการซ่อมใหญ่ที่ถูกกว่า

เวลาไปดูรถมือสอง มีข้อควรรู้ดังนี้

  1. xDrive คือ ขับเคลื่อน 4 ล้อ sDrive คือ ขับเคลื่อน 2 ล้อ ขับ 4 สนุกกว่า เกาะกว่า แต่ถ้าเสียแพงกว่า ขับ 2 อีกเท่าตัว
  2. ออฟชั่นที่ควรมีคือ Keyless GO ส่วนหน้าจอกลางรุ่นล่างไม่มีให้ แต่ไม่ต้องซีเรียส ใส่จอแอนดรอยด์ + กล้องถอย 2x,xxx บาท จบเรื่อง ได้ปุ่ม iDrive แถว ๆ เบรคมือด้วยนะ
  3. รุ่นที่มีจอกลาง ก็ยังไม่มีกล้องถอยนะครับ ถ้าจะเอา ก็ต้องรื้อจอเก่าทิ้ง แล้วใส่แอนดรอยด์อยู่ดี จบ 2x,xxx บาท เช่นกัน
  4. ถ้าทำได้ให้เล่นปีท้าย ๆ เป็น LCI แล้ว พวงมาลัยเบาแล้ว ขับดีกว่าเยอะ
  5. จะมีกันชนธรรมดา กับ กันชน M Sport ที่แพงกว่า
  6. ไฟหน้ามีตัวถูก เป็นไฟหน้า ฮาโลเจน ให้เลือกตัวไฟหน้า LED สังเกตุง่าย ๆ จะมีไฟวงแหวนอยู่ในไฟหน้า ติดตลอดเวลา

BMW X1 F48

ถ้าอยากได้ทันสมัยหน่อย เครื่องตัวใหม่ที่ประหยัด และ ขับสนุกกว่า คงต้องขยับไปเล่น X1 รุ่นต่อมา แต่ว่าราคาจะเกินงบไปหน่อย ที่สำคัญงบนี้เล่นได้ตัวเบนซิน 3 สูบเทอร์โบ เท่านั้น เครื่องดีเซลจะเกินงบไปเยอะ

ราคา X1 sDrive 1.8i  ปีแรก ๆ ณ. วันนี้อาจจะเจอมือสอง 9 แสนกว่าบาท ซ่อมใหญ่สัก 1 แสน รถจะจบที่ 1,0xx,xxx บาท

X1 F48 1.8i sDrive น่าเล่นกว่า E84 ในแง่ของความสดใหม่ทั้งการออกแบบ และ เทคโลโลยีต่าง ๆ ที่ทันสมัยกว่า รวมไปถึงการขับขี่ที่นุ่มนวลขึ้น เกาะถนนมากขึ้น แต่หลายคนไม่ชอบเครื่อง B38 ที่เป็นเครื่องเบนซิน 3 สูบ เทอร์โบ ให้กำลัง 141 แรงม้า แต่ถ้าถามผม เครื่องนี้ขับสนุกอยู่นะ

และถ้าคุณเริ่มเสิชหารถ คุณจะเห็นราคา X1 F48 20d มือสองอยู่ที่ 1,1xx,xxx บาท อาจจะเริ่มลังเลว่าจะเพิ่มงบอีกสักหน่อยแล้วเล่นตัวดีเซลดีมั๊ย ก็ต้องบอกว่าเครื่องดีเซล ควรเตรียมงบซ่อมสัก 140,xxx – 15x,xxx บาท ซ่อมเสร็จน่าจะเห็น 1.2 – 1.3  ล้าน ทีนี้เงินโจทย์ 1 ล้านถึง 30% ถ้าไหว ไม่ลำบากก็ลุยครับ ขับดียิ่งกว่า ประหยัดน้ำมันมาก

ผมขอให้ข้อคิดเล็ก ๆ ว่า “อย่าเพิ่มงบไปเรื่อย ๆ” ด้วยกิเลส การซื้อของใด ๆ ที่ไม่ได้เอาฟังค์ชั่นการใช้งาน ความจำเป็นในการใช้งานมาเป็นที่ตั้ง แต่เอากิเลสนำแล้วเพิ่มงบไปจนเพลิน คุณอาจออกทะเลได้ 555

BMW X3 F25 Pre-Facelift

ปี 2013 – 2014

ราคาตลาดปัจจุบัน ทั้งดีเซล และ เบนซิน ในงบ 1 ล้านบาทเราสามารถเล่น X3 F25 ได้ตัวก่อน LCI หรือ เรียกง่าย ๆ ว่าตัวก่อนเฟสลิฟ แน่นอนว่าตัว LCI แล้วเค้าเปลี่ยนไฟหน้าแบบมีหยัก เปลี่ยนไฟท้ายใหม่ ทำให้รถโดยรวมดูทันสมัยมากขึ้น แต่ก่อน LCI ผมก็ว่าไม่ขี้เหร่นะ

ตอนนี้ตัวรถมือสองอยู่ที่ 8 – 9 แสนบาท ไม่ข้าม 1 ล้าน มีเงินเหลือซ่อมแสนกว่าบาท แต่พอขยับไป LCI ราคาจะดีดไปอีกประมาณ 2 แสนบาท ดังนั้นใครต้องการคุมงบ ให้เลือกตัวก่อน LCI

เครื่องตัวเดียวกับ F10 และ F30 ตามที่เคยรีวิวไปแล้ว ดังนั้น เตรียมเงินซ่อมไว้สัก 150,000 บาท สำหรับดีเซล และ 120,000 บาท สำหรับเครื่องเบนซิน กรณีเกียร์ไม่เสีย

หากรักรถ SUV แล้วมีงบ 1 ล้านบาท ผมเชียร์ X3 F25 สุดใจเลยครับ เพราะขนาดกำลังดี จุของได้เยอะ ขับสนุก ช่วงล่างดี เครื่องดีเซลประหยัดน้ำมัน เครื่องเบนซินเดินเงียบดูแลง่าย เรียกว่าครบเครื่องเลย

ส่วนจะเล่น xDrive ขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ sDrive ขับเคลื่อน 2 ล้อ ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน แต่สำหรับผมเลือก sDrive เพราะเน้นขับในเมือง และไม่อยากลุ้นซ่อมเกียร์ขับ 4 ครับ

อ่านบทความที่เกียวข้องได้ที่นี่

Mercedes-Benz GLA W156

ตัวนี้เป็นรถเบนซ์เพียงตัวเดียวที่เป็นทรง SUV ที่ซื้อได้ในงบ 1 ล้านบาท โดยเล่น GLA180 หรือ GLA 200 ปีแรก ๆ ประมาณ 2014 – 2015 ที่วันนี้มือสองอยู่ประมาณ 9 แสน +/- พอซ่อมใหญ่แล้วอาจจะเกิน 1 ล้านไปสักหน่อยแต่ยังพอรับได้

GLA จะตัวเล็กสักหน่อย ท้ายรถบรรทุกของได้ไม่เท่า X1 แถมใส่ถุงกอล์ฟแบบวางขวางไม่ได้ ต้องพับเบาะเท่านั้น แต่ถือเป็น Sport Compact SUV (ผมตั้งชื่อเอง) ที่ทรงโฉบเฉี่ยวที่สุดแล้วในงบ 1 ล้านบาท ขับแล้วอย่างหล่อ

การขับขี่สนุกสนาน ช่วงล่างเกาะถนน แต่อาจจะไม่นุ่มสบายเท่าไหร่นัก ขับในเมืองคล่องตัวหาที่จอดง่าย ออกต่างจังหวัด หรือ ไปในที่ขรุขระต้องการถที่ท้องรถสูงกว่ารถเก๋ง คันนี้ตอบโจทย์เลย

การซ่อมบำรุงไม่ซับซ้อน ช่วงล่างน้อยชิ้น ทำให้ดูแลง่าย เก็บเงินซ่อมใหญ่ไว้สัก 1 แสนบาทก็เหลือเฟือ


อ่านบทความที่เกียวข้องได้ที่นี่

Lexus RX270 

เรากำลังพูดถึง Lexus RX 270 รหัสตัวถัง AL10 หรือเรียกง่าย ๆ ว่า Gen 3 ที่เริ่มวางขายตั้งแต่ ปี 2008 แล้วออกตัว facelift ในปี 2012

เป็นรถญี่ปุ่นที่นาน ๆ ผมจะพูดถึงที แต่มันคือรถ SUV ขนาดกลางที่สุดยอดทั้งสมรรถนะการขับขี่ เร่งแซงตอบสนองได้ดีมาก ช่วงล่าง นุ่มเงียบ กระชับไม่แพ้รถยุโรป รูปลักษณ์ดูดี ขับไปไหนก็หรูหรา โดยเฉพาะมันติดแบรนด์ Lexus สุดยอดลัคชัวรี่เชื้อสายญี่ปุ่นที่เติบโตในยุโรป และ อเมริกา

ถ้าตึง ๆ งบหน่อยก็เล่น facelift แล้วปี 2012 – 2015 ที่ตัวรถอยู่ประมาณ 9 แสนบาท ซ่อมใหญ่สัก 1 แสน ไม่น่าเกิน งบอยู่ประมาณ 1 ล้าน หรือ อาจเกินเล็กน้อย ซึ่งรับได้

แต่ถ้าเอาสบาย ก็เล่นก่อน facelift สักปี 2011 เรียกว่าอ่อนแค่ปีเดียว ราคาถูกลงไป 1 แสนบาท ซอมใหญ่สัก 1 แสน ทำเสร็จขับสบายเหมือนกัน แต่มีเงินเหลือเป็นแสน

ในตลาดอาจจะเห็น RX350 เป็นเครื่อง V6 ซึ่งหากชอบเครื่องใหญ่ขับมันส์ ให้หาตัวนี้เล่น แต่อาจเกินงบเล็กน้อย ส่วนใครเน้นใช้งานสบาย ๆ ผมว่า RX270 ก็ขับสนุกเพียงพอแล้ว ผมขับจากคาลิฟอร์เนีย ไปลาสเวกัส ก็กระฉับกระเฉง เร่งแซงสบายมาก ส่วนประหยัดน้ำมันแค่ไหน อย่าถามนะผมไม่เคยวัดเลย

ส่วนเครื่องไฮบริด ตลาดบ้านเราไม่ค่อยเห็น แต่ผมก็ยังคงบอกว่า ถือมือสองอย่าเล่นไฮบริดเลยมันไม่คุ้มหรอกนอกจากคุณจะได้รถราคาถูกกว่าตลาดครึ่งหนึ่งอันน้้นค่อยน่าสน

สรุป

5 รุ่นที่วันนี้เราสามารถซื้อมาซ่อมใช้ได้ในงบ 1 ล้านบาท บางคันอาจจะตึง ๆ งบไปบ้าง บางคันจะสบาย ๆ หน่อย อันนี้ก็พิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละท่านเอานะ

แต่ถ้าถามผม ผมชอบซื้อรถที่สบายกระเป๋า ไม่กดดันตัวเองเกินไป เพราะไม่อยากประหยัดส่วนอื่นแล้วเอาเงินมาลงกับรถ อีกทั้งผมชอบแต่งรถด้วย เวลาซื้อนอกจากจะกันเงินเอาไว้ซ่อมใหญ่แล้ว ยังเผื่อเอาไว้แต่งเพิ่มเสมอ ส่วนคุณชอบรุ่นไหนบ้าง และเพราะอะไร แวะมาพูดคุยหน้าเฟสบุ๊คเพจได้เหมือนเคยครับ

สำหรับอู่ต่าง ๆ ที่ผมเข้าใช้บริการ ได้รวบรวมเอาไว้ในบทความนี้ครับ

รวมรายชื่ออู่ที่พี่อาร์ตแนะนำ ซ่อม Benz, BMW

_____________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art