เมื่อก่อนหาร้านติดง่าย ไถฟีดหน้าเฟสเดี๋ยวก็เจอ สงสัยฮิตกันไปหมดแล้ว คนมาทีหลังจะมาหาร้านติด ทำไมมันยากจัง
ได้ช่างยอดฝีมือมาทำ เลยเอามาเล่าให้ฟังสนุก ๆ
#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต #รถมือสอง #alphard #vellfire #ปุ่มเปิดประตูสไลด์ #พับกระจกอัตโนมัติ #ฝาท้ายไฟฟ้า #ช่องชาร์จUSB #usbcharger #vehicles #car
สิ่งที่ทำไป
- ปุ่มกดเปิด-ปิด ประตูสไลด์ไฟฟ้า ราคา 4,500 บาท
- กล่องพับกระจกมองข้างอัตโนมัติเวลาล็อครถ 2,500 บาท
- กล่องเปิดฝาท้ายไฟฟ้า เวลาเอามือดึง 3,000 บาท
- ช่องชาร์จ USB คอนโซลหน้า 650 บาท
บอกก่อนเลยว่าช่างโรจน์ Sound Maker ที่มาให้บริการเปลี่ยนปุ่มต่างในบทความนี้ เป็นช่างเครื่องเสียงมือฉมัง และที่สำคัญ FC ตามไปซ่อมหน้าจอ Mercedes Benz W221 ที่ชอบมีอาการจอด่าง จอลอก จอเสียต่าง ๆ กับช่างอั๋น
แต่วันนี้เบนซ์ผมอาการปกติดี เลยเรียกพี่เค้ามาติดปุ่มต่าง ๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเซอร์วิสของ Sound Maker
Sound Maker
ช่างโรจน์ 093-583-7888
สามารถแอด LINE จากเบอร์โทรได้เลย
แผนที่ร้าน Google Map >>> SoundMakerSpiritShop
ปุ่มเปิด-ปิด ประตูสไลด์
ก่อนอื่น ถ่ายรูปมือเปิดประตูสไลด์ให้ช่างโรจน์ดูก่อน เค้าจะได้เตรียมปุ่มถูกรุ่นมาให้เรา เพราะมีของมาแบบมีสีตรงตัวรถมาเลย อีกทั้งมือจับประตูสไลด์มีทั้งแบบสีล้วน และ สี+โครเมี่ยม
ปุ่มติดตั้งไม่นาน เปิดแผงประตูออกมา ใส่กล่องพ่วงเข้าไปพร้อมปลั๊กตรงรุ่น จากนั้นเปลี่ยนชิ้นบนประตูเดิมเป็นแบบมีปุ่ม เป็นอันเสร็จภาระกิจ
ทั้งหมดกินเวลาแค่ 30 นาที โดยประมาณ
ตัวปุ่มนั้นต้องบอกว่าผมเคยเจอที่ราคา 4,000 บาทจากในเน็ต สอบถามช่างโรจน์ว่าทำไมของแกถึง 4,500 บาท ช่างโรจน์อธิบายได้ดีครับ ว่าหน้าตาเหมือนกัน แต่ให้สังเกตุวัสดุตัวปุ่มกดยาง จะมีงานทั่วไปแข็ง ๆ กับเกรดญี่ปุ่นแบบที่เราใช้ในคลิปนี้ ตัวเนื้อยางจะนุ่มมือ เนียนนิ้วกว่าในการกด ที่สำคัญวัสดุ และ อะไหล่ที่ใช้ทนทานกว่า
อันนี้ก็แล้วแต่จะพิจรณาครับ
กล่องพับกระจกอัตโนมัติ
กล่องนี้ก็ติดตั้งง่ายครับ 30 นาทีเอง โดยเปิดแผงข้างประตูหน้าทั้ง 2 บานออกมา รื้อชุดสายไฟเซ็นทรัลล็อค รวมไปถึงสายไฟปุ่มพับกระจกเดิมออกมา
ชุดกล่องพับกระจก จะมาพร้อมสายไฟ และหัวปลั๊กตรงรุ่น สลับสายไป เอากล่องติดกับแผงประตู จากนั้นประกอบประตูกลับ เพียงแค่นี้ก็เรียบร้อย
สำหรับผม กล่องนี้สะดวกมาก เพราะกระจกข้าง Alphard / Vellfire บานใหญ่ เวลาจอดถ้าไม่พับ คนเดินชนประจำ กลับมาถึงรถทีไรต้องคอยพับกระจกกลับตำแหน่งเดิมหลายครั้งจนรำคาญ และ สงสารรถ
อีกจุดนึงคือ เวลาจอดรถแล้วเดินไปสัก 10 เมตร ชอบเหลียวกลับมาดูความเรียบร้อยของตัวรถ รวมถึงตำแหน่งจอดว่าเกะกะใครหรือไม่ แล้วชอบมีอาการ “เอ๊ะ…เราล็อครถแล้วหรือยังหว่า”
หลังจากติดกล่อง พอล็อครถปุ๊ป กระจกข้างพับปั๊ป เหลียวมาดูอีกที เออ เราล็อครถแล้ว สบายใจ ไปช้อปปิ้งต่อได้
กล่องเปิดฝาท้ายไฟฟ้า
กล่องนี้ออกแบบมาสำหรับรถที่มีฝาท้ายไฟฟ้าอยู่แล้วเท่านั้น รถคันที่ไม่มีออฟชั่นฝาท้ายไฟฟ้าไม่สามารถใช้ได้
โดยปกติ รถที่เป็นฝาท้ายไฟฟ้า เวลาเปิดเองด้วยการกดปุ่มที่ฝาท้าย จะเป็นแบบแมนนวล คือ ต้องยกฝาเอง หลังจากใส่กล่องนี้ เวลาเปิดเองจากฝาท้าย จะเปิดด้วยไฟฟ้า ทำให้สะดวกมาก สำหรับคนที่รู้สึกว่าฝาท้ายหนักไป และ ไม่สะดวกกดเปิดจากรีโมท
แต่มีข้อควรรู้คือ เมื่อใส่กล่องนี้แล้ว เราจะเปิดแง้มฝาท้ายไม่ได้ครับ มันได้แค่ เปิดสุด หรือ ปิดเลย
หากต้องการแง้มฝาท้ายกรณีติดกำแพง หรือ รถคันอื่น แนะนำให้ไปปิดปุ่ม Power Door ตรงข้างพวงมาลัย เพื่อปิดระบบประตูไฟฟ้า แล้วเดินมา “แง้มฝาท้าย” เสร็จแล้วก็ไปกดปุ่ม Power Door อีกครั้งให้ระบบประตูไฟฟ้ากลับมาทำงานเหมือนเดิม
สุดท้ายช่างโรจน์มีช่องชาร์จ USB ติดรถมาด้วย ผมเลยซื้อไปอีกตัวนึง โดยเอาใส่ในช่องข้าง ๆ ช่อง 12V คอนโซลหน้า จากปกติต้องเอาหัวชาร์จแบบที่จุดบุหรี่ใส่ ตอนนี้ เอาสาย USB เสียบได้เลย แถมมีไฟสีฟ้าสวยงาม และ บอกปริมาณบแบตเตอรี่ในรถเราด้วย
ทั้งหมดวันนี้โดนไปดังนี้
- ปุ่มเปิดประตูสไลด์ 4,500 บาท
- กล่องพับกระจกมองข้าง 2,500 บาท
- กล่องเปิดฝาท้ายไฟฟ้า 3,000 บาท
- ช่องชาร์จ USB 650 บาท
รวมทั้งสิ้น 10,650 บาท
โดยรวมถือว่าแฮปปี้ดีครับ งานเรียบร้อย ชิ้นงานคุณภาพสูงแบบเดินไปลองดูของน้องอีกคนเทียบชิ้นงานแล้ว ภูมิใจว่าขอเรางานสวยกว่า วัสดุดีกว่า แม้ราคาจะแพงกว่านิดนึง 555
ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ ที่คิดจะอัพเกรด Toyota Alphard / Vellfire รวมถึงซ่อมจอรถเบนซ์ด้วยนะครับ
ส่วนอู่ที่ซ่อมในคลิปนี้ และอู่ ซ่อมรถอื่น ๆ ผมรวบรวมให้แล้วในบทความนี้
รวมรายชื่ออู่ที่พี่อาร์ตแนะนำ ซ่อม Benz, BMW
_______________________________________________
ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage
และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
https://www.youtube.com/user/artxenonart