มารื้อฟื้นความทรงจำการนั่ง Business Classกันเสียหน่อย สำหรับคนที่ห่างหายไปนานจากช่วงไปไหนไม่ได้ของ Covid-19 หรือแม้กระทั้งเพื่อน ๆ ที่กำลังจะมีโอกาสได้ลองหลังประเทศต่าง ๆ เปิดให้เดินทางได้สะดวกกันแล้ว
เรียนรู้เอาไว้ว่าเค้ามีสิทธิพิเศษอะไรบ้าง มีบริการอะไรบ้าง เราร้องขออะไรได้บ้าง เพื่อการเดินทางอย่างมืออาชีพ
#thaiairways #businessclass #กินบินช้อป #พี่อาร์ต #howto #เครื่องบิน #การบินไทย #ท่องเที่ยว
ตั๋วเครื่องบิน จะมีคลาสหลัก ๆ อยู่ 3 คลาสคือ
- First Class การบินไทยเรียก Royal First Class
- Business Class การบินไทยเรียก Royal Silk Class
- Economy Class
ซึ่งบอกตรง ๆ ว่า First Class พี่อาร์ตยังไม่มีปัญญาได้สัมผัส เพราะทุกไฟลท์ ทุกทริป และ ทุกคลิป จ่ายเองแบบไม่ง้อสปอนเซอร์ ดังนั้นอะไรดี อะไรไม่ได้ พี่ฟาดได้เต็มปาก 555
บางไฟลท์จะมีชั้น Premium Economy ที่จะแพงกว่า Economy แต่ถูกกว่า Business โดยจะได้ที่นั่งใหญ่กว่า Economy แต่ไม่ได้เป็นคอกเหมือน Business พร้อมการบริการ และอาหารเหมือน Economy
สำหรับ Business Class ทริปนี้เป็น กรุงเทพฯ – แฟรงเฟิร์ต ระยะการบิน 11 ชั่วโมงครึ่ง และ สำหรับไฟล์ระยะกลางอย่าง ญี่ปุ่น ประมาณ 5 ชั่วโมงก็ไม่ต่างกันมาก ทั้งนี้ที่นั่งอาจแตกต่างกันตามแต่ชนิดของเครื่องที่การบินไทยใช้ดำเนินงาน
แต่โดยรวม สิทธิพิเศษเหมือนกัน บทความนี้จึงขอเหมารวมถึงไฟล์ระยะกลางไปด้วย
มาตรการ Covid 19
ไม่มีครับ ไม่มีการตรวจใด ๆ เอกสารทางการแพทย์ หรือ หมอพร้อม ก็ไม่ต้องดู
หน้ากากไม่ต้องใส่ก็ได้ บนเครื่องแทบไม่มีใครใส่ แต่ พนง. ใส่ทุกคน (ผมก็ใส่ เพื่อครอบครัว)
แอลกอฮอล์ ควรพกไปเอง เพราะบนเครื่องไม่มีให้นะครับ ในห้องน้ำก็หาไม่เจอ ไม่แน่ใจว่าผมมองพลาด หรือเค้าไม่มีจริง ๆ
เอาเป็นว่าบรรยากาศเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะรู้สึกถึง Covid19 ได้ก็ตอนที่ผมถอดหน้ากากกินข้าวนี่แหละ ทุกคนชิลด์มาก
สิทธิพิเศษสำหรับ Business Class
1. เราเช็คอินที่ Row A ซึ่งถ้ามีคนมาส่ง ก็ลงประตูแรกของชั้น Departure หรือ ขาออก ได้เลย เดินเข้าไปจะเป็นการเช็คอิน โหลดกระเป๋าเฉพาะ Business Class แยกเฉพาะของการบินไทยเท่านั้น ไม่ปะปนรวมกับใด ๆ เลย ไม่ว่าจะบินไฟลท์ไหนก็เช็คอิน Row A ครับ
2. Business Class สามารถโหลดกระเป๋าได้ 2 ใบ น้ำหนักรวม 40 กก. และ carry on หรือ cabin ได้อีก 1 ใบ
3. พอโหลดกระเป๋าแล้ว พนง จะติด tag – priority หมายถึง กระเป๋าของเราจะออกมาถึงสายพานก่อน economy class
4. เช็คอินเสร็จเแล้วหันซ้าย เดินตรงไปจะผ่านการตรวจความปลอดภัย / security check ที่สแกนสัมภาระ และตัวเรา พร้อมกับเดินผ่าน ตม. ในช่องทางพิเศษ เฉพาะ First และ Business เท่านั้น
5. สิทธิการใช้ Royal Silk Lounge ที่มีอยู่ทั่วทุกมุมของสนามบินสุวรรณภูมิ อันไหนใกล้ Gate เราก็เลือกใช้อันนั้น ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละ lounge จะมีขนา จำนวนที่นั่งไม่เท่ากัน แต่อาหารก็จะคล้าย ๆ กัน Lounge ไหนใหญ่หน่อย ก็อาจมีอาการมากกว่า อันนี้ต้องพิจรณาเอาว่าเน้นใกล้ Gate หรือ เน้นใหญ่ ของกินหลากหลาย
6. Boarding หรือ การขึ้นเครื่อง First กับ Business จะเข้าแถวแยกต่างหาก รวมถึงทางเข้าเครื่องก็ (มัก) จะแยกคนละประตู ดังนั้นขึ้นเครื่องง่าย สบาย คิวสั้น
7. เก้าอี้กว้างใหญ่ สะดวกสบาย บางไฟลท์เป็นแบบแคปซูล บางไฟลท์เป็นแบบเก้าอี้ใหญ่ ขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่องบินและ ระยะทางการบิน
ที่สำคัญคือ ที่เก็บของเหนือศีรษะ กว้างมากกกกก ที่สำคัญคือ ช่องใคร ช่องมัน ไม่ต้องรีบขึ้นเครื่องเพื่อไปแย่งชิงพื้นที่เก็บของอีกต่อไป
8. อาหารจะได้พิเศษกว่าปกติ เครื่องดื่มไม่อั้น มีให้เลือกเยอะมาก
9. มีอาหารว่างระหว่างมื้อ สั่ง พนง. ได้ตลอดเวลา
10. เครื่องลงแล้ว จะได้ออกจากเครื่องบินก่อน ดังนั้นจะไปถึง ตม. ก่อนชาวบ้าน คิวสั้นสบายใจ
11. กระเป๋า สัมภาระ ออกมาที่สายพานกระเป๋าก่อน เรียกว่าได้ priority ในทุก ๆ สิ่ง
Tips ที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว
1. เราสามารถเลือกที่นั่งได้ตั้งแต่ตอนจองตั๋ว ไม่ว่าจะจองออนไลน์ หรือ จองผ่าง call center
2. เราสามารถเลือกประเภทอาหารก่อนได้ผ่านเวปไซท์การบินไทย ในหน้าจองตั๋ว หรือ หน้า booking โดยเฉพาะผู้โดยสารที่มีความต้องการพิเศษเช่น มังสวิรัติ, เด็กเล็ก และ อื่น ๆ
4. ขึ้นเครื่องไปแล้ว พนง. จะมาจดอาหารที่เราต้องการ โดยตอนนี้ยังไม่มีเมนู แต่จะเป็น พนง. มาแจ้งให้ทราบ ซึ่งเค้าช่วยอธิบายได้อย่างดีว่าเมนูนี้เป็นอย่างไร โดยมีให้เลือก 3 อย่าง เราก็เลือก 1 อย่าง
5. กรณีไฟลท์ยาวอย่างยุโรป จะเสริฟ 2 มื้อ มื้อแรกคือ หลังเครื่องขึ้น 1 ชั่วโมง มื้อที่สองคือ ก่อนเครื่องลง 2 ชั่วโมง พนง. จะจดอาหารทั้ง 2 มื้อตั้งแต่เครื่องขึ้น
6. ตลอดไฟลท์ สามารถสั่งอาหารว่างได้ รายการอาหารว่างขึ้นต่างกันไปในแต่ละเที่ยวบิน เช่น แซนวิช, เค้ก, มาม่า, ข้าวผัด, สปาเก็ตตี้ เป็นต้น ระหว่างไฟล์ เกิดหิวก็สั่งได้ตลอก หรือ หากเมนูอาหารมื้อหลักไม่ชอบสักอย่าง ก็สามารถเลือกอาหารว่างมาเสริฟแทนได้ ยังไงให้สอบถาม พนง. ตอนสั่งอาหารจานหลักเลย
7. ปุ่มควบคุมเก้าอี้ต่าง ๆ อยู่ข้างโต๊ะ โดยเวลาเครื่องขึ้น-ลง กัปตัน จะสั่งให้เราปรับเก้าอี้ให้ตรง ซึ่งง่ายมากเพียงกดปุ่มรูปเครื่องบินค้างไว้ เก้าอี้จะกลับมาอยู่ในตำแหน่งพร้อมทันที
8. ปุ่มเปิดไฟอ่านหนังสือข้างโต๊ะ อยู่ปุ่มซ้ายสุด กด 1 ครั้ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง เพื่อปรับความสว่างวน ๆ ไป
9. ไฟทานอาหารเหนือศีรษะ อยู่บนปุ่มรีโมทนะ
10. โดยขนาดของ Carry on จะสามารถใหญ่กว่า Economy ปกติได้เล็กน้อย ตอนไปซื้อกระเป๋า cabin size อย่างแบรนด์ Rimowa เค้าจะบอกเลยว่าไซส์นี้เฉพาะ Business เท่านั้น
11. กระเป๋า amenities หรือ กระเป๋าที่แถมเฉพาะ business จะมีพวกแปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าปิดตา ที่อุดหู น้ำยาบ้วนปาก และ หวี เสียดายที่ลิปมันไม่ได้ให้แล้ว คราวนี้ต้องพกไปเอง
12. ปุ่มเรียก พนง อยู่บนรีโมทด้านข้าง
13. คราวนี้ไม่เห็นถุงเท้านะ ไม่แน่ใจว่าจำผิดสายการบินหรือเปล่า แต่เอาเป็นว่าตอนนี้การบินไทยให้รองเท้าผ้ามาใส่บนเครื่อง เห็นบาง ๆ แบบนี้ ทนอยู่ครับ
14. มีช่อง USB สำหรับชาร์จแบตฯ ต่าง ๆ 2 ช่อง
15. มีช่องเสียบปลั๊กไฟให้ 1 ช่อง
16. หัวหมอนสามารถพับเข้ามาเพื่อรองรับท่านอนของเราได้ ป้องกันคอเคล็ดได้เป็นอย่างดี
17. จะมีชุดผ้าปูเตียงเตรียมไว้ให้ กรณีไฟลท์ยาว หรือ ไฟลท์กลางคืน อยู่ในถุงผ้าสีม่วงหน้าตาเหมือนหมอนข้างครับ จะใช้งานก็เรียก พนง. มาปูให้
สรุปประสบการณ์ หลัง Covid 19
สำหรับผม พนง. ให้บริการดีเสมอต้น เสมอปลาย เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ความสุขที่ได้ใช้บริการ ต่างกับบางสายการบินที่ พนง. เหมือนผู้คุ้มกฏดุ ๆ คนหนึ่ง ขนาดมีรถเข็นเด็กมา ยังสั่งให้เราพับ และใส่ถุงเองครับท่าน (อย่าให้เอ่ยชื่อสายการบินเลย)
อาหาร ใครจะว่ายังไงไม่รู้ แต่ผมว่าปรับปรุงดีขึ้นกว่าก่อน Covid 19 นะ งวดนี้อร่อยทุกอย่าง แต่อย่าคาดหวังรสชาติระดับภัตตาคาร เพราะนี่คืออาหารอุ่นร้อนบนเครื่องบิน
บางเมนูถูกปาก บางเมนูไม่ถูกปาก แต่โดยรวมยังคงความประทับใจ อาจจะเพราะ พนง. เอาใจใส่มาก ๆ เห็นเราไม่ทานก็พยายามหาอย่างอื่นมาเสริฟ ดีต่อใจมากครับ
อ้อ…แต่อาหารใน Lounge สนามบินสุวรรณภูมิ ยังคงน้อย และ ไม่อร่อยเหมือนเคยนะครับ อันนี้ควรปรับปรุง ผมบิน Emirate ใช้ Lounge ที่สุวรรณภูมิเหมือนกัน อาหารคนละเรื่องกันเลย TT
เครื่องยังคงเก่า แต่คงความเก๋า ฝ่าวิกฤติให้ได้ก็เก่งแล้ว อย่าไปฝันที่จะได้นั่งเครื่องรุ่นใหม่หลังช่วงเวลาที่ไม่มีรายได้กว่า 2 ปีเลย ผมไปนั่งสายการบินต่างชาติในยุโรป ก็แทบไม่ต่าง แถมบริการยังสู้การบินไทยไม่ได้
เอาเป็นว่า ผมยังให้ความคุ้มกับการใช้บริการ Business Class การบินไทยอยู่เหมือนเคย เชื่อว่าเพื่อน ๆ จะได้ประสบการณ์ที่ดีเช่นเดียวกัน
ทั้งหมดก็ประมาณนี้ครับ รื้อฟื้นความทรงจำกับการนั่ง Business Class การบินไทยกันหน่อย ขึ้นไปอีกทีจะได้ยังดูคล่องเหมือนเคย
สนนราคาค่าตั๋ว Business Class รบกวนเช็คกันเอาเอง เพราะแต่ละช่วง แต่ละจุดหมายปลายทาง ราคาไม่เท่ากัน
ก็หวังว่าบทความ และ คลิปด้านบนจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่วางแผนเดินทางนะครับ มีคำถาม หรือข้อชี้แนะ สามารถไปคอมเม้นท์ได้ในเฟสบุ๊คเพจเหมือนเคย
_____________________________________________
www.facebook.com/xenonartpage
https://www.youtube.com/user/artxenonart
