Preview BMW ซีรีย์ 7 รหัสปีศาจ 740Li พละกำลัง 318 แรงม้าจากโรงงาน ยังไม่ทันได้จูนก็ออกตัวตูดสะบัดแล้ว 

 ตัวนี้เป็น LCI ต่างกับตัวก่อน LCI ตรงไหน แล้วช่วงล่างต้องซ่อมอะไรบ้างมาดูกัน

#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต #รถมือสอง #Howto #BMW #F02 #740Li #suspension

จริง ๆ BMW ซีรีย์ 7 ผมปั้นมาหลายคันแล้ว ทั้ง 730Li และ 730Ld แต่คันนี้เป็นอีกหนึ่งรถในฝัน กับ 740Li เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ Twin Power Turbo ให้แรงม้าติดต้วจากโรงงานมาที่ 318 แรงม้า ด้วยเครื่อง N55

ในขณะที่ 740Li ตัวก่อน LCI จะมีจุดแตกต่างดังนี้

  1. ไฟหน้า LCI จะเป็น Adaptive LED 
  2. กันชนหน้าใหม่ พร้อมสปอร์ตไลท์ใหม่
  3. LCI หน้าปัทม์เรือนไมล์แบบดิจิตอล ในขณะที่ตัวก่อนจะเป็นเข็มธรรมดา
  4. จอหลังเป็นแบบลอย ทรง iPad ในขณะที่ตัวก่อนจะเป็นจอฝังหลังเบาะ

ส่วนลายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถตามไปอ่านบทความเก่าได้ที่

How to ซื้อรถมือสอง BMW ซีรีย์ 7 F02 ยังไงไม่ให้เจ็บ!!

ส่วนอีกหนึ่งความเจ๋งคือ ซีรีย์ 7 รหัส F02 ในประเทศไทยจะมีตัวท๊อปออฟชั่น มาพร้อมกับเครื่องเสียงชุดใหญ่จาก Bang & Olufsen หรือ B&O รอบคัน พร้อมลำโพงกลางที่คอนโซลหน้าสุดล้ำ ที่เมื่อสตาร์ทรถปุ๊ป ลำโพงกลางตรงคอนโซลจะเปิดออกมา พอดับเครื่อง จะปิดกลับเข้าไปเหมือนเดิม

โดยชุดลำโพงเทพนี้ มีเฉพาะใน 740Li และ Active 7 และ ต้องเป็นตัว LCI เท่านั้น ก่อน LCI ไม่ได้ครับ ดังนั้นใครอยากไปให้สุดต้อง LCI เลย

ส่วนในเรื่องการซ่อมบำรุง จุดอ่อนต่าง ๆ ของ 740Li ตัวแรงนี้ ขอติดเอาไว้เป็น Ep.2 นะครับ

วันนี้เรามาเน้นที่ช่วงล่างกันก่อน…ซึ่งบอกเลยว่าช่วงล่าง BMW F02 หรือ ตระกูล ซีรีย์7 ต่าง ๆ นั้น จะมีคาแรคเตอร์ให้ความนุ่มแต่เฟิร์ม คือจะไม่ได้นุ่มสบายเหมือนเบนซ์

เค้าออกแบบมาดีมาก ๆ ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นมีขนาดใหญ่ บางชิ้นเพื่อต้องการลดน้ำหนักจึงใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม ลูกหมากกันสะเทือนต่าง ๆ ลูกใหญ่มาก โช้คอัพหน้าเป็นแบบไฟฟ้า พร้อมสปริง โช้คอัพหลังเป็นโช้คอัพไฟฟ้าคู่กับถุงลม

เมื่อประกอบองค์ทั้งหมดลงไปในรถคันละ 2 ตันกว่า การขับขี่จึงกระชับ เกาะถนน โยนตัวน้อย แต่นุ่ม เงียบ เก็บรอยต่อ ความขรุขระได้เป็นอย่างดี 

ส่วนผลที่ตามมาก็คือ เวลามันเริ่มเสีย เราจะแทบไม่รู้สึกเลย ถ้าคุณยังไม่คุ้นเคย หรือไม่ค่อยได้นั่ง ช่วงล่างต้องเสียแบบยับเยินจริง ๆ ถึงจะจับความรู้สึกได้

มันคือช่วงล่างที่อัศจรรย์มาก

หากใครที่ติดตามผมมาตั้งแต่ปี 2564 ผมปั้น ซีรีย์7 F02 มากี่คันต่อกี่คัน ตอนไปซื้อรถที่เต้นท์ ขับฟิลดีทุกคัน ขนาดพาเต้นท์ไปช่วยลองรถก็ยังบอกช่วงล่างดี น่าจะโดนไม่เยอะ

แต่…ยกขึ้นมา โดนยกแพทุกลำ โดนทีครึ่งแสนตลอด

คันนี้ก็เช่นกันดังนั้นรายละเอียดคงไม่ลงลึก เอาเป็นว่าผมเอาไปทำที่ Stop Shop Break Service ตรง ศรีนครินทร์ เจ้าเก่าที่ดูแลช่วงล่าง F02 ของผมมา 3 คัน กับ S Class อีก 2 คัน ยังไม่นับ Toyota Velfire และอื่น ๆ อีกมากมาย

ทีนี้ไม่ได้ไปนานแล้ว เลยแวะไปให้พี่อี๊ด Stop Shop จัดการเปลี่ยน ปีกนกตัวตรง ตัวงอ ลูกหมากคันชัก แถมด้วยผ้าเบรคหมดทั้ง 2 ล้อ ก็ไล่เปลี่ยน ไล่เจียรจานเบรคกัน เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรคทั้งระบบกันไป

แต่ไฮไลท์ของคันนี้คือ โช้คอัพไฟฟ้าคู่หน้า อ่อนแรง คือ กดลงไปแล้วไม่คืนตัว แกนโช้คลงไปนอนนิ่ง ๆ ตรงนั้นเลย

ไม่ต้องตกใจครับ หากใครเจออาการนี้ ทางเลือกมี 3 ทางดังนี้

  1. เบิกของใหม่จากวรจักร หรือ หลังวัดโสมฯ ราคาไม่ได้เช็คนานแล้ว แต่สองปีก่อนก็ 7 หมื่นบาท
  2. หามือสองสภาพดี ราคาประมาณ 2 หมื่นบาท
  3. ซ่อมเอาในราคาไม่เกิน 1 หมื่นบาท

คราวนี้พี่อี๊ด Stop Shop กับ บิ๊ก Hyper Garage ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ทั้งสองคนแนะนำเหมือนกันคือ เอาไปซ่อม แบบอัดน้ำมัน แล้วซีลใหม่ เค้าบอกทำไปหลายคันแล้ว ใช้งานได้ดีอยู่ แม้จะไม่เหมือนของแท้เดิม ๆ 100% แต่กับราคาเสนอซ่อมที่ คู่ละ 8,900 บาท มันเร้าใจมาก

ตัดสินใจลองครับ เพราะสไตล์ผม ซ่อมจากถูกไปแพง ทดลองให้เพื่อน ๆ ได้ดูประกอบการตัดสินใจซ่อมรถของท่านในอนาคต

ส่วนซ่อมแล้วดีมั๊ย ทนมั๊ย ฟิลต่างจากเดิมแค่ไหน เดี๋ยวขอลองขับสัก 1 สัปดาห์ จะกลับมาเล่าให้ฟังใน Ep.2 ครับ

ทางด้านหลังผมเห็นจากประวัติศูนย์เมื่อกลางปีที่แล้ว (2564) มีรายการเจ้าของเก่าเอาเข้าตรวจเช็คถุงลมหลังซ้ายทรุด แต่ไม่มีรายการซ่อม คาดว่าน่าจะเอาออกมาซ่อมอู่นอก เหมือนที่เราทำ ๆ กันนี่แหละ

พอยกขึ้นมาดูพบว่าเปลี่ยนมาใหม่แล้วทั้งซ้าย-ขวา โดยเป็นยี่ห้อ PP ซึ่งสอบถาม Stop Shop เค้าก็ว่าโอเคนะ ผ่านอยู่ เลยโทรไปถามนนท์ RR RoadRunner นนท์ก็บอกว่าโอเคเช่นกัน

ไอ้เราก็เลยรอดไป ได้ถุงลมใหม่ ๆ ที่ทดสอบมาแล้ว 1 ปี 

ส่วนราคาผมให้อู่ลองเช็คอีกที เผื่อใครสนใจ แล้วจะกลับมาบอกใน Ep.2 เหมือนเคย

สรุปค่าใช้จ่ายดังนี้

  1. ปีกนกตัวตรง x 2 = 6,450 บาท
  2. ปีกนกตัวงอ x 2 = 7,700 บา
  3. ลูกหมากคันชัก x 2 = 4,430 บา
  4. สายเตือนเบรค x 2 = 1,560 บาท
  5. ผ้าเบรคหน้า = 3,900 บาท
  6. ผ้าเบรคหลัง = 3,250 บาท
  7. น้ำมันเบรค ATE x2 = 1,040 บาท
  8. เจียจานเบรค 4 ล้อ = 1,800 บาท
  9. ซ่อมโช้คไฟฟ้าหน้า 1 คู่ = 8,900 บาท
  10. ตั้งศูนย์ล้อ = 650 บาท
  11. ค่าแรงถอดล้างระบบเบรค = 2,500 บาท
  12. ค่าแรงทำช่วงล่าง = 3,500 บาท

รวมทั้งสิ้น 45,680 บาท

เราได้ BMW 740Li ที่ช่วงล่าง และ เบรค ทำมาให้ทั้งระบบ โดยเฉพาะแม่ปั๊มเบรคทั้ง 4 ตัวที่ถอดล้างเป็นชิ้น ๆ แล้วไล่น้ำมันเบรคใหม่ทั้งหมดนั้น กับเครื่องที่ให้กำลังถึง 318 แรงม้าของ 740Li บอกเลยมั่นใจกว่าเดิมเยอะครับ

งานนี้จบไปไม่ถึงครึ่งแสน ใช้อะไหล่คุณภาพ ไม่มีงานจีนที่ชอบเรียกแบบผิด ๆ หลอกผู้บริโภคว่า “OEM” รวมซ่อมโช้คอัพไฟฟ้าคู่หน้าแล้ว บอกเลย สำหรับรถระดับนี้ ไม่แพงเลย ใช้ไปยาว ๆ สบายใจ อีก 5 ปีค่อยว่ากันใหม่

ส่วนการเก็บงานอื่น ๆ สไตล์ “พี่อาร์ตปั้น” ติดตามในตอนต่อไปที่เราจะเอาไปเช็คเกียร์ และ เครื่องยนต์ให้กลับมาสมบูรณ์ใกล้ป้ายแดงที่สุด พร้อมทั้งแยกแยะให้เพื่อน ๆ ที่สนใจเข้าใจว่า 740Li ตัวก่อน LCI กับตัว LCI แล้วนั้นเครื่องยนต์ต่างกันอย่างไร จุดอ่อนต่างกันตรงไหน

สำหรับวันนี้ขอไปทดสอบโช้คไฟฟ้าที่ซ่อมมาก่อนนะครับ

ใครสนใจตามรอยไปทำระบบช่วงล่าง ระบบเบรค รวมถึงเครื่องยนต์ก็ตามไปได้เลยที่ Stop Shop ศรีนครินทร์ครับ

แนะนำโทรนัดคิวก่อนจะได้ไม่เสียเวลา

สำหรับอู่ต่าง ๆ ที่ผมเข้าใช้บริการ ได้รวบรวมเอาไว้ในบทความนี้ครับ

รวมรายชื่ออู่ที่พี่อาร์ตแนะนำ ซ่อม Benz, BMW

_____________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art