Mercedes Benz C180 รหัส W205 ที่มาพร้อมกับเครื่อง M274 รุ่นใหม่ ความจุ 1600cc Turbo ปี 2014 คันนี้ที่วิ่งมา 100,000 กิโลฯ ผมเอาเข้าอู่เช็คเรียบร้อย มาลุ้นกันว่าจะโดนอะไรบ้าง

#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต #รถมือสอง #Mercedes #Benz #W205 #Howto

คราวนี้ยังคงเอาเข้าใช้บริการที่ TMS Benz Service ซอยโรงพยาบาลเจ้าพระยา 2 ย่านปิ่นเกล้าเหมือนเคย ด้วยความที่คุ้นเคยกัน ช่างอู่นี้ทุกคนจะรู้ว่ารถผมทุกคันที่เอาเข้าไป ให้ซ่อมเต็มที่ไม่ต้องกลัวแพง แค่ไม่มั่วก็พอแล้ว ด้งนั้นทุกครั้งที่เห็นหน้าผม อู่จะรู้เลยว่า เงินแสนมาอีกแล้ว โดยเฉพาะรุถระยะ 1 แสนกิโลฯ ซึ่งเป็นระยะซ่อมพอดี

ทว่า งานนี้เกมพลิกครับ 

หลังจากตรวจเช็คอย่างละเอียด 2 วันเต็ม ๆ วันที่ 3 อู่โทรแจ้งว่ารถเสร็จแล้ว พอเข้าไปดูบิลเท่านั้นแหละ พูดไม่ออกเลย เพราะสิ่งที่อู่ทำไปทั้งหมดคือ

  1. น้ำมันเครื่องแท้ 7 ลิตร ลิตรละ 550 บาท รวม 3,850 บาท
  2. ไส้กรองน้ำมันเครื่อง 400 บาท
  3. ไส้กรองแอร์เบิกแท้ 2,600 บาท
  4. โช้คอัพฝากกระโปรงแท้ คู่ละ 2,900 บาท
  5. แผ่นรองป้ายทะเบียนเบิกแท้ 3,250 บาท
  6. ยางปัดน้ำฝน 1,280 บาท
  7. ค่าแรง งานนี้ไม่คิด

รวมทั้งสิ้น 14,280 บาท

ช่างใช้คำว่า “พยายามหาสิ่งที่ต้องซ่อม” แบบเต็มที่แล้ว แต่คันนี้พื้นฐานมาดีจริง ๆ เจ้าของเก่าทำมาหมดแล้ว ปีกนกหน้าทั้งระบบ เปลี่ยนมาปีก่อน เป็น Lemforder ผสมกับเบนซ์แท้ หูย…ซ่อมถึงเหมือนผมเลย

โช้คอัพต่าง ๆ ระบบช่วงล่างทั้งหมดอยู่ในสภาพสมบูรณ์ 

ส่วนของเครื่องยนต์ไม่มีอาการรั่วซึมใด ๆ สิ่งที่ควรต้องดูแลอย่าง ปั๊มแรงดันสูง หรือ High pressure pump เจ้าของเก่าก็เปลี่ยนมาแล้วจากศูนย์เบนซ์ ระบบน้ำตรวจเช็คแล้วปกติดีทุกอย่าง

ทว่ารุ่นนี้เป็นปั๊มน้ำไฟฟ้า มันตรวจอะไรมากไม่ได้เพราะก่อนจะเสียไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ แต่เท่าที่ดูด้วยสายตา ระบบน้ำยังใหม่มาก ๆ (นี่ขนาดยังไม่ได้ล้างห้องเครื่อง)

เอาคอมพิวเตอร์เสียบอีกครั้งเพื่อหาข้อบกพร่องของรถยนต์ ก็ไม่มี fault ใด ๆ รถสมบูรณ์ทุกประการ เป็นอันจบปิ้งกับการทำคอนเท้นต์ซ่อม W205 ที่จบแบบดื้อ ๆ เลย

ใครที่สนใจคันนี้ก็เตรียมซื้อไปดูแลต่อได้ครับ เพราะเหลืออีกแค่ EP เดียว คือ เก็บความสวยงามรอบตัวรถตามสเต็ปของผม สนใจก็ทัก Inbox เพจมาได้เหมือนเคย 

www.facebook.com/xenonartpage

แต่….เพื่อประโยชน์ของเพื่อน ๆ ที่ติดตามการซ่อมคุณน้ำทอง ผมจึงขอราคา และ รายละเอียดการซ่อมที่อู่ TMS Benz Service เคยทำมา เพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อน ๆ ได้วางแผนเก็บเงินซ่อมถูก

รายการที่ซ่อมบ่อยดังนี้

ช่วงล่างหน้า

เป็นเรื่องปกติของรถยนต์ทุกรุ่นที่ช่วงล่างควรได้รับการดูแล ทั้งการวิ่งในถนนเมมืองไทยนั้น ช่วงล่างจะพังเร็วกว่าคนอื่น สำหรับช่วงล่างหน้า W205 นั้น พัฒนามาจาก W204 เยอะ โดยปีกนก และ บูชยางต่าง ๆ ใหญ๋ขึ้นกว่าเดิม เพิ่มเติมคือมีการเพิ่มปีกนกบนมาด้วย

ทำให้การขับขี่นุ่ม กระชับ คมกว่าเดิม แต่ก็แลกมากับรายการอะไหล่ที่รุนแรงกว่าเดิม

  1. ปีกนกบน ประมาณ 5 – 6,000 บาาท
  2. ปีกเหล็ก 4 พันกว่าบาท
  3. ปีกนกอลูมิเนียม 5 พันกว่าบาท
  4. ลูกหมากกันโคลง ตัวละ 3 พันกว่าบาท
  5. เหล็กกันโคลง หมื่นต้น ๆ
  6. โช้คอัพคู่ละหมื่นกว่าบาท

โดยรวม หากจะพูดง่าย ๆ คือ ถ้าช่วงล่างพังทั้งระบบ แต่โช้คอัพไม่เสีย ให้เตรียมเงินไว้ประมาณ 3 หมื่นบาท ซึ่งสำหรับผมถือว่าโอเคมาก ๆ เพราะเห็นขนาดปีกนกแล้ว ใหญ่ไม่อาย E Class กันเลยทีเดียว

แต่ช่วงล่างจริง ๆ ส่วนมากไม่เสียทั้งระบบหรอกครับ โดยเฉพาะปีกนกบน ตามหลักการแล้วเสียน้อยกว่าปีกนกชุดล่าง

จะสังเกตุว่าผมใช้คำว่า “กว่าบาท” หมดเลย เพราะช่วงที่เขียนบทความนี้ ตลาดโลกอยู่ในสภาวะราคาไม่แน่นอนจากพิษสงคราม ปัญหาพลังงาน และค่าขนส่งที่สูงขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้ราคามีการปรับขึ้นตลอดเวลา เรียกว่าถ้าวันนี้ไม่ซ่อม วันหลังมาซ่อมแพงกว่าเดิม

ช่วงล่างหลัง

W205 มีสิ่งพิเศษหน่อยนึงตรงที่ยางเต้าคานชอบเสีย ซึ่งอาการนี้ใน W204 เจอไม่บ่อยในรถอายุเดียวกัน โดยยางเต้าคานหลังจะมีทั้งหมด 4 ตัว

ราคารวมค่าแรงเปลี่ยนทั้งระบบไม่เกิน 15,xxx บาท

เครื่องยนต์

เครื่อง M274 เบนซินตัวนี้ ค่อนข้างทน เพราะพัฒนาจากตัวก่อนเยอะมาก สิ่งที่ต้องดูแลเบื้องต้นก็เช็ครั่วซึมทั่วไป เช็คท่อน้ำว่าเสื่อมหรือยัง สายพาน มู่เล่ย์สายพาน ซื้งเป็นการตรวจพื้นฐาน

  1. สายพายแท้ 2 พันกว่าบาท
  2. ลูกรอกตัวตั้ง 3 พันกว่าบาท
  3. ลูกรอกตัวตาม พันกว่าบาท

จุดที่เสียบ่อยของรถเบนซ์เครื่องเบนซิน ยังคงเป็นปั๊มแรงดันสูง ที่ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงป้อนเข้าหัวฉีด จะเรียกว่าจุดอ่อนก็ไม่เชิง เพราะของพวกนี้ใช้งานหนัก ทำงานตลอดเวลา ถึงเวลา ถึงอายุมันก็ต้องเปลี่ยน 

ปั๊ม High Pressure ราคา 2 หมื่นกว่าบาท

ระบบน้ำ – รถยุโรปเจนเนอเรชั่นนี้เกือบทุกยี่ห้อ เริ่มหันมาใช้ปั๊มน้ำไฟฟ้า โดยปั๊มไฟฟ้ามีความแม่นยำสูงกว่า ทำงานได้ดีกว่า แต่ถ้าเสียก็จะราคาแพงกว่า อีกทั้งไม่สามารถตรวจก่อนเสียได้ เพราะมันคือเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง เวลามันจะเสียมันก็เสียเลยครับ

อาการคือ ความร้อนขึ้นไปแตะ 120 องศา หรือ เต็มเกจความร้อนที่หน้าปัทม์ หากใครมีอาการนี้ก็เรียกรถสไลด์ เอาเข้าอู่เปลี่ยน โดยการเปลี่ยนควรเปลี่ยนทั้งระบบ คือ

  1. ปั๊มน้ำ หมื่นกลาง ๆ 
  2. วาล์วน้ำ 
  3. น้ำยาหม้อน้ำ 

ระบบแอร์

ระบบแอร์ของเครื่องเบนซินตัวนี้อายุการใช้งานก็ทั่วไปครับ ถ้าจะเสียราคาอะไหล่ประมาณนี้

  1. คอมเพรซเซอร์แอร์ 16 – 18,xxx บาท
  2. รังผึ้งแอร์ 6,xxx บาท
  3. ตู้แอร์ (คอยล์เย็น) รวมวาล์ว โอริง ยกชุดรวมค่าแรงก็ 2 หมื่นบาท

นอกจากจุดที่เสียบ่อยแล้ว อะไหล่อื่น ๆ ก็จะเป็นการเสื่อมเสียตามสภาพ และความโชคร้ายของแต่ละท่านครับ

คร่าว ๆ ก็นับว่าเครื่อง M274 ตัวที่วางอยู่ใน W205 มีจุดอ่อนน้อยมาก ค่าดูแลรักษาจะแพงหน่อยตรงช่วงล่างที่งวดนี้ใหญ่ขึ้น ซับแรงได้ดีขึ้น การขับขี่คมขึ้น กว่าเดิม เอาเป็นว่าคุ้มค่ามาก

สำหรับเครื่องดีเซลอย่าง C200d, C220d หรือ C300 Bluetechybrid และ C350e Plugin-Hybrid รอชมรายละเอียดใน “How to ซื้อ W205 อย่างไรไม่ให้เจ็บ” 

ส่วนใครจะตามรอยไปซ่อมอู่นี้ ก็นัดคิวกันไปก่อนได้ตามเบอร์โทรด้านล่าง

อู่อยู่ต้นซอย รพ. เจ้าพระยา 2 เสิช Google Map ว่า TMS Benz Service (ใหม่) เจอเลยจ้า

สำหรับอู่ต่าง ๆ ที่ผมเข้าใช้บริการ ได้รวบรวมเอาไว้ในบทความนี้ครับ

รวมรายชื่ออู่ที่พี่อาร์ตแนะนำ ซ่อม Benz, BMW

_____________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art