เมื่อ FC ส่งสไลด์ BMW E46 ตัวแรร์ เปิดประทุนที่มาพร้อมหลังคาแข็งมาให้ถึงบ้าน เพื่อให้จัดการซ่อมบำรุง บูรณะจุดต่าง ๆ ให้สมบูรณ์ที่สุด สมกับเป็นรถสะสม 

พี่อาร์ตจัดการเอาเข้าซ่อมเครื่อง ช่วงล่าง แอร์ และ อุปกรณ์ไฟฟ้ารอบคัน

#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต

โปรเจครับปั้นรถคันนี้ เจ้าของรถเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย ได้ทำรายการมาแล้วว่าอยากให้ดูแลอะไรบ้าง นอกจากนั้นถ้าผมพบส่วนใดสมควร ผมก็จะทำให้เลย โดยยึดแนว “จุกจิก” และ “ละเอียด” เน้นอะไหล่แท้ หรือ อย่างน้อยอะไหล่แบรนด์เยอรมันที่ผลิตให้ของแท้เหมือนทุกคันที่ปั้นมา

เบื้องต้นเอาเข้า RR Roadrunner ลาดพร้าว 80 โดยเบื้องต้นให้เช็คตามรายการก่อน ซึ่งเจ้าของรถเพิ่งถ่ายของเหลวมา เราจึงยกขึ้นดูใต้ท้องตามระเบียบ ก็พบว่าอ่างน้ำมันเครื่อง อ่างน้ำมัเกียร์มีคราบน้ำมันบาง ๆ 

ก็ตัดสินใจเปลี่ยนปะเก็นให้เลย เพราะราคาไม่แพง โดยปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่อง ราคา 650 บาท และ ปะเก็นอ่างน้ำมันเกียร์ ราคา 450 บาท

ส่วนน้ำมันก็ถอดดูเล็กน้อย พบว่าใสปิ๊ง ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ตามองเห็นก็ปกติดี จึงประกอบกลับ

จากนั้นตรวจสอบช่วงล่าง ก็พอบว่ามีเพียงบูชปีกนกที่เสียเท่านั้น อาการคือหลวม เวลาขับแล้วจะมีเสียงกุ๊ก ๆ เล็ก ๆ หรือ จังหวะที่รถโดด จะเป๋เล็ก ๆ ก็จัดการเปลี่ยนไปในราคาแค่ตัวละ 600 บาท 

ช่วงล่างอื่น ๆ ไม่มีอะไรเสีย สรุปซ่อมช่วงล่างไปแค่ 1,200 บาทเท่านั้น โอ้ววว รถสภาพดีเว่อร์

ในส่วนของห้องเครื่อง ทุกอย่างปกติดี สายพาน ชิ้นส่วนต่าง ๆ ปกติ แต่กระป๋องพักน้ำหม้อน้ำเริ่มดูเก่า และน่าจะร้าวในเวลาอันใกล้ เลยสั่งเปลี่ยนไปเลย และพอถอดออกมาเช็คก็พบว่าชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง เริ่มออกอาการไม่ดี ทั้งเซนเซอร์ที่เริ่มทำงานไม่เสถียร สามทางที่เริ่มผุกร่อน และแผ่นกีต้าที่แอบร้าว ดังนั้นเลยสั่งเปลี่ยนยกชุด

พอเปลี่ยนเสร็จก็ไล่น้ำหม้อน้ำเพื่อหาจุดรั่ว ก็เพิ่มเติมว่าท่อยางหม้อน้ำบนเริ่มมีอาการซึม แต่ส่วนอื่น ๆ ระบบปกติ ดังนั้นระบบหล่อเย็นโดนไป

  1. กระปุกพักน้ำหม้อน้ำ 3,630 บาท
  2. ท่อน้ำบน 3,380 บาท
  3. กีต้ายึดกระปุกพักน้ำ 2,450 บาท
  4. ข้อต่อสามทางใต้กระปุก 1,050 บาท
  5. วาล์วใต้กระปุก 1,650 บาท
  6. เซนเซอร์ใต้กระปุก 1,650 บาท
  7. โอริงวาล์ว 450
  8. ฝาหม้อน้ำ 930 บาท

ยังไม่รวมค่าแรง ซึ่งจะรวมท้ายบทความทีเดียว

จากนั้นมาไล่กระจกกันต่อ เพราะคันนี้มีอาการกระจกประตูที่เป็นกระจก “หล่น” ทำงานผิดพลาด คือ เวลาปิดแล้ว บางครั้งกระจกจะไปขบกับขอบประตู ต้องเปิด-ปิดใหม่ให้ได้จังหวะจึงจะสนิท

แก้ไขโดยการเช็ครางกระจก พบว่าเสื่อมสภาพ และ อะไหล่บางตัวชำรุด ซึ่งไม่มีขายแยก (หาไม่ได้) แต่บังเอิญหารางกระจกยกชุดมาได้ในราคาไม่แพง แค่อันละ 2,250 บาท เลยซื้อยกคู่ 4,500 บาท เปลี่ยนไปเลย ปัญหากระจกก็จบด้วยงบแค่นี้

ส่วนรางกระจกเก่าก็ให้เจ้าของรถเก็บเอาไว้ เพราะมันเสียแค่บางส่วน ส่วนอื่น ๆ ยังใช้งานได้ เอาเป็นอะไหล่ในอนาคตได้ไม่เสียของ

หลังจากนั้นก็มาแก้กระจกมองข้างที่พับแล้วมีเสียง แกรก ๆ ซึ่งตรงนี้ทางอู่รื้อมาเช็คเฟือง แก้ไข และ ประกอบกลับเข้าไป ไม่มีค่าอะไหล่ และ เค้าบอกสำหรับพี่อาร์ต ไม่คิดเงินครับ…ขอบคุณมาก ๆ ครับ

เช็คระบบแอร์เพิ่มเติม เพราะตอนผมขับทดสอบ จะได้ยินเสียงน้ำยาแอร์วิ่งในท่อ เหมือนไม่เต็ม และเย็นบ้าง ไม่เย็นบ้าง

ทางอู่ใช้เครื่องมือตรวจวัด พบว่าแรงดันคอมเพรซเซอร์ทำงานตรงตามเกณฑ์ เซนเซอร์ ในระบบส่งค่ามาถูกต้องปกติ ก็เพียงแค่ไล่ระบบอีกรอบไม่ได้เปลี่ยนอะไหล่ไป และ รายการนี้อู่แถมให้พี่อาร์ตเช่นกัน 

ตอนนี้แอร์เย็นตลอด และ เสียงเบาลงกว่าครึ่ง ถือว่ารับได้ เพราะจากการสอบถามอู่ เสียงเกิดจากอุปกรณ์มีอายุแล้ว ถ้าจะให้เสียงหมดไป ต้องเปลี่ยนยกระบบ ประมาณ 3 – 4 หมื่นบาท ผมเห็นว่าไม่จำเป็นเลยไม่ได้ทำ

จุดสุดท้ายที่เจอคือ เซนเซอร์ไฟหน้า ขาหัก

เซนเซอร์ไฟหน้านี้จะติดอยู่แถวปีกนกหน้า ทำหน้าที่แจ้งระยะให้กับระบบรถยนต์ เพื่อปรับความสูงของไฟหน้าโดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่ว่าเราจะนั่งมาก น้อยแค่ไหน ระดับไฟหน้าเราจะคงที่เสมอ ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่ล้ำหน้ามากในยุคนั้น

ทีนี้ก็จัดการแก้ไขโดนเปลี่ยนเซนเซอร์ และ ขาเซนเซอร์เป็นอันเสร็จ

สรุปจบที่ RR Roadrunner ไปที่ 26,340 บาท รวมค่าแรง โดยแยกรายการสรุปได้ดังนี้

  1. กระปุกพักน้ำหม้อน้ำ 3,630 บาท
  2. ท่อน้ำบน 3,380 บาท
  3. กีต้ายึดกระปุกพักน้ำ 2,450 บาท
  4. ข้อต่อสามทางใต้กระปุก 1,050 บาท
  5. วาล์วใต้กระปุก 1,650 บาท
  6. เซนเซอร์ใต้กระปุก 1,650 บาท
  7. โอริงวาล์ว 450
  8. ฝาหม้อน้ำ 930 บาท
  9. น้ำยาหม้อน้ำ 500 บาท
  10. รางกระจก คู่ละ 4,500 บาท
  11. บูชปีกนก คู่ละ 1,200 บาท
  12. ปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่อง  650 บาท
  13. ปะเก็นอ่างน้ำมันเกียร์ 400 บาท
  14. เซนเซอร์ปรับระดับไฟหน้า 1,000 บาท
  15. ขาเซนเซอร์ปรับระดับไฟหน้า 900 บาท
  16. ค่าแรง 2,000 บาท

อีกหนึ่งรีเควสของเจ้าของรถคือ ต้องการกุญแจสำรองเพิ่มอีก 1 ดอก

ก็เรียกช่างกุญแจแมกซ์ เจ้าเก่าเข้ามาทำให้ โดยระบบรีโมทของ E46 นั้น จะคุมด้วยกล้องที่อยู่ใต้คอนโซลหน้า (ใต้คอพวงมาลัย) ต่างกับรถรุ่นใหม่ ๆ ที่สามารถเอากุญแจรีโมทไปก๊อปได้เลย

หลังจากถอดกล่อง ก็นำกล่องไปเข้าคอมเพื่อสร้างรีโมทดอกใหม่ ตัวกุญแจก็กัดใหม่โดยเครื่องทำกุญแจระบบคอมพิวเตอร์ มันจะวัด แล้วกัดดอดให้เลย 

นอกจากนั้น กุญแจดอกหลัก พบว่ากรอบกุญแจเก่า ปุ่มกดยาก ต้องกดลึก ๆ จึงจะได้ ช่างแนะนำว่าควรเปลี่ยนกรอบใหม่ เพราะขากดมักจะหักถ้าใช้ไปนาน ๆ พอขากดหัก ต้องกดลึก ๆ จึงจะได้ นั่นจะทำให้ตัวปุ่มยางขาด เดี๋ยวพลาดน้ำเข้ามันจะช็อต เสียไม่คุ้ม

ก็เลยให้ช่างเปลี่ยนกรอบให้ใหม่ โดยกรอบใหม่จะมาพร้อมดอก จึงต้องกัดดอกใหม่ไปด้วย ส่วนไส้รีโมทย้ายได้ 

รายการนี้ช่างแมกแถมให้พี่อาร์ต…ขอบคุณมากครับ

ส่วนตัวกุญแจรีโมทสำรอง ที่สร้างขึ้นมาใหม่ ราคาดอกละ 3,500

ใครกุญแจหาย กุญแจเสีย หรืออะไรก็ตาม โทรตามช่างกุญแจแมกซ์ ได้ที่เบอร์ด้านล่างนี้ครับ บอกพี่อาร์ตแนะนำมา หรือดูรีวิวของพี่อาร์ตมาก็ได้ ช่างเค้าบอกจะดูแลให้เต็มที่ครับ

สำหรับวันนี้ BME E46 เราปั้นกันเท่านีก่อนครับ ยอดรวมทำไปแล้วประมาณ 3 หมื่นบาท ซึ่งถือว่าไม่เยอะ ด้วยพื้นฐานรถเจ้าของดูแลดีอยู่แล้ว

เดี๋่ยวตอนหน้าเอาไปทำกันต่อ ซึ่งเจ้าของรถฝากให้ไปเคลม ถุงลม / airbag เพราะได้ข่าวว่าตัวนี้เค้ามี recall แจ้งมา

ผมนี่อึ้งเลยว่า เฮ้ย รถอายะขนาดนี้ BMW ในไทยยังจะมี recall ให้อีกเหรอ ไม่ค่อยเห็นนะ เห็นแต่เมืองนอกนี่บ่อย เอาไว้เดี๋ยวบทความหน้า / คลิปหน้า เราไปลุยกันต่อครับ ติดตามกันไว้ว่าจะยังไงบ้าง

สวัสดี

_______________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

 

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art