BMW ซีรีย์ 7 รหัสตัวถัง F02 ของผม โช้คอัพถุงลมหลังรั่ว จัดการซ่อมเรียบร้อยในราคาไม่กี่หมื่นบาท วันนี้เลยแวะมาแชร์ประสบการณ์ และข้อมูลให้เพื่อน ๆ ได้สนุกกัน
#พี่อาร์ต #BMW7 #F02 #ถุงลหลัง #ซ่อมที่ไหน #Vlogเรือ่งรถๆ
สำหรับ BMW F02 นั้น ช่วงล่างด้านหน้าเป็นโช้คอัพไฟฟ้า ที่ทนมาก แทบไม่ค่อยเสียกัน นอกจากเกิดอุบัติเหตุ หรือ ตกหลุมรุนแรง ส่วนที่จะเสียมักจะเป็นยางกันกระแทกกับปลอกยางกันฝุ่นที่เสื่อมตามสภาพ โดยชิ้นนี้นั้นเราได้คุยไปแล้วตอน Vlog BMW F02 EP.1 ที่เอารถไปซ่อมช่วงล่างร้าน StopShop แยกลำสาลี
ส่วนที่จะเสียจริง ๆ มักจะเป็นถุงลมโช้คอัพหลัง ที่ใช้คำว่าถุงลมเสีย เพราะโช้คหลังไม่ค่อยมีใครเสียกัน ปัญหาที่จะเจอคือถุงลมรั่ว ขาว เปื่อย ตามอายุ เพราะวัสดุของถุงลมเป็นยาง อายุ 5 – 6 ปี แล้วขาด ถือว่า ทนมาก แล้วครับ
ดังนั้นในตลาดก็จะมีหลายทางเลือกในการซ่อม โดยเท่าที่เช็คมาได้ดังนี้
- เบิกโช้คใหม่ศูนย์ ผ่านร้าน กรุงเทพไพบูลย์ยนต์ วรจัก คู่ละ 12x,000 – 13x,000 ใช้เวลา 10 วัน เพราะไม่ค่อยมีสต็อค อันนี้สำหรับคนใจแกร่ง และ ขอบแท้ทั้งชุด
- โช้คอัพยกชุด Aftermarket ที่ไม่มีแบรนด์ พวกไต้หวัน กับ จีน ตัวละหมื่นกว่าบาท เสิชขึ้นมาเพียบเลย แต่บอกตรง ๆ ว่าหากเสียแล้วจะเคลมกันรู้เรื่องมั๊ย ใช้ไป 8 เดือนแล้วรั่วทำยังไง?
- โช้คอัพยกชุด Aftermarket แบรนด์ไทย รับประกัน 1 ปี ซึ่งก็ไม่เคยลอง และคนรอบตัวรวมถึงอู่ยังไม่เคยลอง แต่บอกเลยผมเชื่อใจของไทยมากกว่าของจีน เพราะอย่างนั้นเป็นบริษัท มีปัญหาตามเคลมกันง่าย
- ให้อู่ที่เราไว้ใจ เลือกถุงลม และ เปลี่ยนให้ อันนี้แล้วแต่อู่ แล้วแต่ฝีมือ แต่ส่วนตัวผมว่า ถ้าไม่เบิกแท้ แบบนี้จบสุด
แน่นอนว่าผมเลือกทำแบบที่ 4 เพื่อรีวิว และ ทดสอบไปในตัว โดย BMW F02 คันนี้ยังคงทำที่อู่เดิมคือ RR Roadrunner เพราะหากรถคันนี้มีปัญหาอะไรขึ้นมา ก็กลับไปที่เดิม สะดวกดี
โดย คุณนนท์ แจ้งว่าปกติของที่อู่ใช้ของนอก ยี่ห้อไม่ระบุ แต่ Supplier เจ้านี้ทางอู่ซื้อประจำ ไม่มีปัญหา ในราคา 34,000 บาท รวมค่าแรงติดตั้ง เบ็ดเสร็จ พร้อมประกัน 1 ปีเต็มจากอู่เอง
ขั้นตอนการทำก็เริ่มจากรื้อโช้คอัพหลังทั้งคู่ โดยด้านบนต้องถอดจากในตัวรถด้วยการ รื้อฝาครอบลำโพง -> ถอดลำโพง -> เปิดแผ่นเก็บเสียง -> แล้วจะเจอน็อตหัวโช้ค 3 ตัว จึงจะถอดโช้คลงมาได้
ถอดแล้วก็ดำเนินการถอดถุงลมออกจากโช้คเดิม ที่สภาพของผมยังคงดีอยู่ ไม่รั่ว ไม่ซึม ระบบไฟฟ้าไม่มี Fault โดยก่อนดำเนินการทางอู่ได้มีการเช็คกับคอมพิวเตอร์ก่อน
พอถอดออกมาแล้วก็จัดการใส่ถุงลมใหม่เข้าไป ซึ่งฟังดูง่ายแหละ แต่มีขั้นตอนมากมาย มีซีล มีแหวนอะไรที่ต้องประกอบให้ตรงจุด ต้องอาศัยทักษะ และ ความคุ้นเคยของช่าง ผมเห็นว่าสูตรใคร สูตรมัน ตรงนี้ไม่ขอพูดถึงนะครับ
หลังจากประกอบเสร็จแล้วก็ใส่เข้าไปตามสูตร ต้องใส่ให้ตรงมาร์คเก่า และ ประกอบสายลม และสายไฟต่าง ๆ ของตัวโช้คอัพไฟฟ้าในกล่องเก็บหัวสายบนซุ้มล้อหลังด้วย
เพียงแค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ ใช้เวลาไปจริง ๆ ประมาณ 4 ชั่วโมง โดยทางอู่ขอให้ทิ้งรถเอาไว้ข้ามคืนเพื่อที่จะเช็คอีกครั้งว่าจอดค้างคืนแล้วระบบลมมีรั่วหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่างานออกมาสมบูรณ์ไม่เสียเวลาเราต้องเอากลับมาแก้ (กันพลาดว่างั้น)
ผลการใช้งาน
ขับออกมาจากอู่ ปราดแรกเลยคือ เออ ดีแฮะ ไม่ได้รู้สึกว่าไปซ่อมอะไรมา นั่นคือการส่งสัญญาณว่าคุณภาพเทียบเท่าของเดิม
แต่…เราตั้งใจทำรีวิวทดสอบ จึงพยายามหาที่ขรุขระบนถนน ลูกระนาด ฝาท่อน้ำ รางรถไฟ และ โดดสะพาน เพื่อทดสอบแบบ “ตั้งใจ” ซึ่งผลที่ได้คือ มันไม่เหมือนเดิมแท้ 100% ครับ
แน่นอน 34,000 กับ 12x,xxx ม้นจะเหมือนกันได้อย่างไร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่ผ่านนะ สำหรับผมมันผ่านอย่างแรง เพราะที่บอกว่ามันไม่เหมือนเดิมนั้น ผมให้ 10% ไม่เหมือนเดิม จังหวะลงแรง ๆ หรือ โยนสะพาน มันเหมือนว่ามันไม่นิ่มเท่าเดิม ซึ่งตรงนี้ “อาจจะ” เป็นเพราะของมันยังใหม่ หากขับนวดไปสักสัปดาห์อาจจะดีขึ้นก็ได้
ซึ่งหากยังเก็บคันดีเซลนี้ไว้ใช้ ครบปีแล้วจะมาเล่าให้ฟังใหม่อีกครั้ง 555
ใครที่ถุงลมหลังรั่ว หรือ ขับ ซีรีย์ 7 F02 อยู่ สำหรับผม ผมมองว่าการเปลี่ยนเฉพาะถุงลม แต่ยังคงใช้โช้คเดิมนั้น เป็นทางเลือกที่เหมาะสม ตามไปทำกันได้เลย แต่ที่ต้องคุยกับอู่ให้รู้เรื่องคือ การรับประกัน หรือความรับผิดชอบต่อถุงลมที่ใส่เข้าไป
ใครไม่มีอู่ประจำที่ทำได้ ผมแนะนำ RR Roadrunner เพราะเค้าทำมาหลายคัน ผมเป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ คันของเค้า ไม่ใช่คันแรก ดังนั้นสบายใจกว่า
ส่วนการตรวจสอบว่ารถของเรามีปัญหาหรือไม่ ทำดังนี้
- ก่อนนอน เอาตลับเมตรวัดจากขอบล้อล่าง ถึงขอบซุ้มล้อ แล้วจดไว้
- ตื่นมา เอาตลับเมตรวัดเหมือนเดิม แล้วดูว่าความสูงรถเราลดลงหรือไม่ หากลดลง 1 – 2 มม ก็ไม่เป็นไร
- หากเตียลงมากก็แสดงอาการว่ามีอะไรในระบบของเราเสีย
ซึ่งยากจะบอกได้ว่าอะไรเสีย แต่จากปากคำของ RR Roadrunner แจ้งว่า จากประสบกาณ์ลูกค้านำรถเข้ามา พบว่าถุงลมไม่ค่อยเสีย แต่ตัว Valve ควบคุมการจ่ายลมจะเสียซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งราคาเปลี่ยนก็หลักไม่กี่พันบาท (ยังไม่รวมค่าแรง)
แต่กรณีผม จอดรถปุ๊ป รถอยู่ได้ประมาณ 40 นาที ก็ “กอง” ลงมาบนพื้น พร้อมเสียง “ฟี่ ๆ ๆ ” ตรงซุ้มล้อ แน่นอน…ถุงลมรั่ว 555
ก็หวังว่าบทความนี้จะพอเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่สนใจเจ้า F02 หรือ ใช้ F02 อยู่แล้ว จะได้หมดกังวลเรื่องโช้คถุงลมด้านหลังเสียที
ติดตามกันใหม่ในบทความต่อ ๆ ไป อยากรู้เรื่องไหน มีคำถามอะไรเพิ่มเติม สื่อสารกันทาง เฟสบุ๊คแฟนเพจ ได้เหมือนเดิมครับ
_______________________________________________
ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage
และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
https://www.youtube.com/user/artxenonart