Mercedes Benz C Class W024 มือสองราคา 7 – 8 แสน ที่ยังดูหรูหรา ขับไปไหนยังคงไม่อายใคร ในราคาแค่รถญี่ปุ่นตัวล่าง รถเบ้นซ์รุ่นนี้มีอะไรต้องระวังบ้าง แล้วถ้าจะซื้อมือสอง ควรซื้อรุ่นไหนดี ปีไหนดี เตรียมค่าซ่อมเท่าไหร่
#พี่อาร์ต #W204 #มือสอง #ต้องดูอะไรบ้าง #อาการประจำรุ่น
Mercedes Benz C-Class W204 มีอายุในช่วงปี 2008 – 2014 เป็นรถหรูขนาดเล็กที่ใช้งานดี มีดีไซน์ที่ผมมองว่าทันสมัย ในปี 2021 นี้ มันยังดูไม่ตกยุค ขับไปไหนยังดูหรูหราภูมิฐานอยู่ เปิดตัวด้วยราคาสองล้านกว่าบาท ถึงสามล้าน แต่ปัจจุบันมือสองหล่นลงมาเหลือ 5 – 9 แสนบาท ซึ่งความกว้างของราคามันแปรผันไปตามปี คือ ก่อน Minor Change หรือ Facelift นั้น W204 จะราคาอยู่ที่ 5 – 6 แสนบาท พอเป็น Facelift แล้วก็จะ 6 – 9 แสนบาท แล้วแต่รุ่นแล้วแต่ปี ทีนี้เรามาดูรายละเอียดกันแบบเร็ว ๆ ประกอบการตัดสินใจในการซื้อกันครับ
ปี 2008 เปิดจำหน่าย โดยยุคนั้นเป็นช่วงที่เบนซ์ยังคงบูม Kompressor หรือ คนไทยติดปากใช้คำว่า Super Charge ซึ่งคือตัวอัดอากาศ ทำงานคล้าย Turbo แต่ใช้แรงปั่นลมด้วยสายพานที่ไปพ่วงกับตัวเครื่อง โดยมีรุ่นต่าง ๆ ดังนี้
- C180 Kompressor
- C200 Kompressor
- C250 Komporssor
- C200 CDI
- C250 CDI
ปี 2011 ออกตัว Facelift ถือเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่มากที่สุดรุ่นนึงในประวัติศาสตร์รถยนต์ เพราะไม่ใช่แค่เปลี่ยนไฟหน้าเล็กน้อย แต่เปลี่ยนยกชุดเกือบเหมือนเปลี่ยนรุ่นใหม่กันเลยทีเดียว โดยมาบูมคำว่า Blue Efficiency ซึ่งคือการเปลี่ยนไปใช้ Direct injection พร้อม Turbo แทน รุ่นนี้ตลาดรถมือสองเรียกเครื่อง M271 Evo อีกทั้งยังเปลี่ยนเกียร์รุ่นใหม่อีกด้วย
มีรุ่นย่อยดังนี้
- C180 CGI Blue Efficiency
- C200 CGI Blue Efficiency
- C250 CGI Blue Efficiency
- C200 CDI Blue Efficiency
- C250 CDI Blue Efficiency
ประมาณปี 2010 อัพเกรดเครื่องใหม่เป็น Blue Efficiency หรือ เครื่อง Evo และ ได้เกียร์ใหม่แล้วเหมือนตัว Facelift แต่ภายในยังเป็นตัวเก่า ภายนอกได้กระจกมองข้างใหม่มา
วิธีการดูว่าได้เครื่อง Evo มาหรือไม่ ให้ดูฝาปิดหน้าเครื่อง ถ้ามีฝาปิดตรงนี้ คือ เครื่องใหม่ ใช้ Turbo แล้ว
W024 Pre Facelift vs Facelift
- เปลี่ยนเครื่อง Evo ตัวใหม่ ใช้ Turbo แทน Kompressor
- เปลี่ยนเกียร์ 7 Speed
- เปลี่ยนคอนโซลหน้า
- เปลี่ยนพวงมาลัย
- เปลี่ยนเรือนไมล์ใหม่จากจอขาวดำ เป็นจอสี
- เปลี่ยนเวอร์ชั่นจอ Command
- เปลี่ยนไฟหน้าทรงใหม่
- เปลี่ยนไฟท้ายเป็น LED แต่ทรงเดิม
- เปลี่ยนกระจกมองข้าง
อาการประจำรุ่น
เฟืองแอดวานซ์ หรือ อีกชื่อนึงง่าย ๆ คือ เฟืองแคม ตัวนี้ชอบเสีย สมัยก่อนโดนกันห้า หก หมื่น เดี๋ยวนี้อะไหล่ลงมาเยอะ ซ่อม-เปลี่ยนกัน 2 – 3x,xxx บาท
ปั๊มแรงดันสูง หรือ คนโบราณเรียกปั๊มติ๊ก ในระบบรถใหม่ ๆ จะใช้แรงดันสูงมาก ๆ และก็จะเป็นจุดที่ชอบเสียของ W204 ตัวนี้ เปลี่ยนอะไหล่ก็ 3x,xxx บาท (ยังไม่รวมค่าแรง)
กล่องสมองเกียร์ จริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าควรจะเป็นอาการประจำรุ่นหรือไม่ เพราะรถเกียร์ไฟฟ้ามันก็จะต้องโดนกล่องสมองเกียร์เกือบทุกคน โดนช้า โดนเร็วเท่านั้น คนรอดน้อย แต่ก็ควรรู้ไว้ เปลี่ยนกล่องใหม่ ๆ 6x,xxx บาท หามือสอง หรือซ่อมก็ 2 – 3x,xxx บาท
อื่น ๆ ไม่มีอะไรให้หนักใจ หรือ เป็นจุดอ่อนประจำรุ่นมากนักครับ พวกอะไหล่ใช้แล้วเสื่อตามสภาพพวกชิ้นส่วนยาง สายพาน ท่อน้ำต่าง ๆ ชิ้นส่วนพลาสติคต่าง ๆ ลูกรอกสายพาน
เรียกได้ว่าเป็นรถเบนซ์ที่ถึก ทน ไม่จุกจิก ดังนั้นสำหรับผม W204 เป็นรถมือสองที่น่าเล่นอีกตัวหนึ่ง
ซื้อรุ่นไหนดี?
Facelift ตัวไฟหน้า xenon ปี 2011 ขึ้นไป ไฟหน้า xenon และ มีเซ็นเซอร์รอบคัน คือคำตอบสุดท้าย!!!
ง่าย ๆ ครับ รุ่นนี้ไม่ต้องอธิบายเยอะ ให้ซื้อตัวที่บอกนี่จบเลย เพราะอะไรมาดูกัน
W204 ก่อน facelift หน้าตามันดูโบราณ ภายในไม่สวย แถมราคาที่ไม่ได้ถูกกว่า facelift มากนัก เอาหน้าใหม่ที่ดูไฉไลกว่าขับไปอีก 5 ปีจากวันนี้ ยังดูโอเคอยู่ เผลอ ๆ อนาคตอาจเข้าทำเนียบคลาสสิคด้วยซ้ำ แถมยังได้เครื่องใหม่ เกียร์ใหม่ เทคโนโลยีใหม่ด้วย
อีกทั้งหน้าใหม่มี daytime running light เป็น LED สวยงาม จะซื้อหน้า AMG หรือ หน้าธรรมดาเหมือนคันของผมก็สวย และ หรูหราทั้งคู่
ที่เน้นเลยคือ ให้เลือกรุ่นที่เป็นไฟ xenon
แล้วต้องรุ่นไหนถึงจะ xenon หากเป็นรถศูนย์จะเป็น Avantgarge ครับ แต่เพื่อให้ง่ายในการจำ แค่เปิดไฟหน้าดูว่าไฟขาว หรือ ไฟส้มครับ ตัวไฟหน้า xenon จะมาพร้อม option ที่เต็มกว่าตัวไฟฮาโลเจน ผมจำแค่นี้เพราะมันมีทั้งรถศูนย์สเปคศูนย์ และยุคนั้นเป็นยุครุ่งเรืองของรถนำเข้า หรือ รถเกรย์ ที่ option จะดูงง ๆ ดังนั้น ผมเน้นดูไฟหน้าเป็นหลัก
เพราะ C Class W204 จะมีรุ่นย่อย คือ Classic, Elegant และ Avantgarde ซึ่งจะมี Option ติดรถมาไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะไฟหน้า Halogen vs Xenon ภายในได้ลาย piano black, ลายไม้ หรือ trim สีเงิน พวงมาลัย 4 ก้าน และ 3 ก้าน รวมไปถึงเซ็นเซอร์รอบคัน โอยปวดหัว
ตัว Avantgarde ที่ผมเชียร์เพราะสมัยนั้น ราคา Avantgarde แพงกว่า 150,000 ได้ option เต็มกว่า ส่วนปัจจุบันราคาต่างกันหลักหมื่นบาท ทำให้ผมเชียร์เล่นรุ่น Avantgarde ตัวท๊อปไปเลย ถ้าเจอ Amg look ยิ่งดี
ทว่าหากเจอรถสวยถูกใจ แต่ option ไม่ครบ ก็ลองพิจรณาดูครับ อันนี้เป็นความชอบส่วนบุคคล
สำหรับกล้องถอย W204 เท่าที่ดูรถมือสองส่วนมากจะไม่ค่อยเจอ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ ไปติดจอแอนดรอยด์ แล้วเพิ่มกล้องถอยพร้อมเส้นที่หมุนตามพวงมาลัยได้ในราคาเริ่มต้น 20,900 บาท ตามที่ได้รีวิวไป
คร่าว ๆ กับเจ้า W204 รถหรูขนาดเล็ก คล่องตัว ไม่จุกจิก ก็ประมาณนี้ครับ เตรียมค่ารถเอาไว้สัก 700,000 และ ซ่อมบำรุงครั้งแรกแบบทำแล้วใช้ยาว ๆ สัก 80,000 บาท คุณจะได้รถที่ขับดีมาก หน้าตาดีมาก ในราคารถญี่ปุ่นขนาดเล็ก
ผมเองตอนแรกมองรถไม่ใหญ่มากสำรองเอาไว้ที่บ้านอีกสักคัน ใครควัาไปขับก็สะดวก หรือจะให้ลูกชายเอาไว้หัดขับก็ดี เริ่มมองหากจาก Honda City ไล่ไปยัง Jazz แต่สุดท้ายมาจบที่ C Class W204 ด้วยราคาค่าตัวที่ขี่กับรถญี่ปุ่นขนาดเล็ก ตัดสินใจเอา Benz เพราะผมว่าค่าซ่อมบำรุงไม่ได้แพง แต่ได้ความปลอดภัย ความสบายใจมากกว่าครับ
ตกหล่นตรงไหน มีอะไรช่วยกันเสริมความรู้ได้ที่หน้าเพจ หรือ จะช่องยูทูปก็ได้เช่นกันครับ
_______________________________________________
ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage
และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
https://www.youtube.com/user/artxenonart