ซื้อรถอะไรดี ซื้อ Benz หรือ BMW ต้องเตรียมงบเท่าไหร่ ซื้อมาแล้วต้องทำอะไรบ้าง ซื้อรถมือสองคุยกันไม่มีวันจบ

บทความนี้ถือเป็น คู่มือการตัดสินใจเลือกซื้อรถยุโรปมือสอง ขั้นต้นสำหรับคนที่คิดจะมาลองเล่นรถยุโรปมือสอง เป็นแนวทางในการวางแผน

#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต #ซื้อรถอะไรดี #รถมือสอง #benz #bmw

คำเตือน

ทั้งหมดเป็นเพียงวิธีการดูรถของผม อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด อาจไม่ครบทั้งหมด เพราะผมไม่ใช่เต้นท์ ไม่ได้ช่าง ไม่ใช่คนขายรถมือสอง ก็ดูตามสภาพของ “คนซื้อรถ” คนหนึ่งเท่านั้น

ใครมีเทคนิคอื่น ๆ ช่วยแชร์ บอกเล่ากันด้วยจะขอบคุณมาก ๆ ครับ

ซื้อรถอะไรดี?

ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

  1. ตั้งงบเงินสด
  2. หักงบค่าซ่อมใหญ่ครั้งแรก
  3. เหลือเงินสดเท่าไหร่ ค่อยไปดูว่าซื้อได้รุ่นไหน
  4. ศึกษาอีกครั้งถึงจุดอ่อน และ ค่าซ่อมรุ่นที่จะซื้อ
  5. หันมาดูงบซ่อมว่าพอหรือไม่ ถ้าเหลือ เอาไปลงค่ารถเพิ่ม

ถ้ามีรถในใจอยู่แล้ว ทำตามขั้นตอน ก็จะรู้ได้ว่าเราซื้อได้ปีไหน option ไหน

ถ้ายังไม่มีเป้าหมายที่แน่ชัด หรือยังไม่มั่นใจว่าจะเอายังไงดี ผมมักจะเอาเงินสดที่พร้อมจ่ายมาเป็นตัวตั้ง ไม่ว่าจะซื้อสดหรือผ่อนก็ตาม แล้วกันเงินส่วนหนึ่งออกมาเป็นค่าซ่อม ก็จะรู้ได้ว่าเราเหลือเงินซื้อรถรุ่นไหนได้บ้าง

เช่น ตั้งงบเงินสดเอาไว้ 1.5 ล้าน ผมจะเผื่อซ่อมแสนห้า แสดงว่าคุณซื้อรถได้ 1.35 ล้าน

กรณีผ่อน ตั้งงบเงินสดเอาไว้ 400,000 บาท เผื่อซ่อม 150,000 ก็จะเหลือเงินดาว 250,000 บาท เงินดาวน์ก้อนนี้ก็จะซื้อรถคันละ 1.5 ล้าน บาท (อาจผันแปรตามเครดิต บทความนี้เป็นยกตัวอย่างลอย ๆ เท่านั้น)

แต่ถ้าไปเล่น S Class หรือ ซีรีย์ 7 ก็ต้องเผื่อซ่อมไว้สัก 200,000 ก็เหลือเงินดาว 200,000 ก็ซื้อรถราคา 1.3 ล้านได้ (โดยประมาณ)

พอได้งบแล้ว ก็มากตีกรอบให้แคบลง ด้วยการกรองดังนี้

  • ชอบ เก๋ง หรือ SUV
  • มีครอบครัวแล้วหรือยัง
  • นั่งกี่คน
  • ขับไกลแค่ไหน

ซึ่งแต่ละคน แต่ละช่วงชีวิตก็จะมีความต้องการไม่เหมือนกัน

พอตีกรอบลงมาได้ ก็มาเลือกรุ่น เช่น

  • ชอบรถเก๋ง
  • ไม่มีครอบครัว
  • นั่ง 2 คนบ้าง พาพ่อแม่ไปกินข้าวนั่ง 3 คนบ้าง
  • ชอบรถขนาดกลาง
  • ขับในเมือง

 

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเล่นรถยุโรปมือสอง

ขึ้นชื่อว่ารถมือสอง ยังไงก็ต้องซ่อม ซ่อมหนัก ซ่อมเบา ซ่อมจุดไหน คงบ่งชี้ชัด ๆ ไม่ได้เพราะรถแต่ละรุ่นมีจุดอ่อนไม่เหมือนกัน แต่จากประสบการณ์ซ่อมแบบ “เจ็บแต่จบ” เวลาผมซื้อรถมือสองมาปุ๊ป ผมจะปั้นใหญ่ครั้งแรกให้จบเพื่อให้รถสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่่จะทำได้ ใช้งานในชีวิตประจำวันจะได้ไม่ต้องกังวล

การซ่อมใหญ่ ผมมักจะตีค่าซ่อมไว้คร่าว ๆ เป็น 15% ของราคารถ เช่น BMW F30 ซีรีย์ 3 คันละ 1 ล้านบาท ผมเตรียมเอาไว้ 1.5 แสน เผื่อใจไว้ซ่อมเลย ซึ่งมักจะเหลือ ถ้าไม่ซวยจริง ๆ

แต่สำหรับรถที่มีระบบพิเศษ เช่น ระบบช่วงล่างถุงลม หรือ Plug-in Hybrid ผมจะเผื่อเพิ่มอีกประมาณ 100,000 – 150,000 บาท เอาไว้ซ่อมในจุดนั้น

ตัวอย่างคือ คุณนับทอง Benz S Class W221 ที่ผมตัดสินใจเปลี่ยนโช้คอัพถุงลมทั้ง 4 ตัว และ เปลี่ยน Valve Block ควบคุมลมไปพร้อม ๆ กัน จบที่แสนต้น ๆ ขับไปอีก 5 ปีไม่ต้องมากังวล ส่วนอื่น ๆ ซ่อม+ทำสวย ไปอีกแสนกว่าบาท เอาเป็นว่าไม่เกินงบ

รายละเอียดรถรุ่นต่าง ๆ ไปไล่ดูบทความเก่า ๆ ได้ครับ ทำไว้หลายรุ่น และ จะพยายามทำเพิ่มเรื่อย ๆ

เอา Benz หรือ BMW ดี?

ตรงนี้เป็นคำถามสำคัญที่ไม่สามารถตอบได้ง่าย ๆ เพราะคำว่าดีแต่ละคนไม่เท่ากัน และ แต่ละรุ่นก็ดีไม่เท่ากัน บางรุ่น Benz ดีกว่า บางรุ่น BMW ดีกว่า เทียบรุ่นต่อรุ่นง่ายกว่า

แต่ผมสามารถสรุปสั้น ๆ ในมุมมองของผมได้แบบนี้

  1. “Benz หรูหราไฮโซ นั่งสบาย นิ่มนวล” ขับไปไหนยามรู้จักหมด
  2. “BMW หรูหราแบบสปอร์ต” ขึ้นด่วน ขยี้ไปยาว ๆ อย่ามาแหยมกับพี่
  3. ค่าใช้จ่ายในการซ่อมไม่ต่างกันมากถ้าเป็นเครื่องน้ำมันล้วน
  4. ความสวยอยู่ที่คนชอบ อันนี้ไม่ขอฟันธง

เทคนิคการเลือกซื้อรถมือสอง

ซึ่งเป็นแนวทางในแบบของผม และ อ้างอิงจากไม่รู้ประวัติซ่อมเลยแม้แต่นิดเดียว แบบเดินไปเต้นท์รถแบบ มึน ๆ ผมมักจะยืดตามนี้

รถไมล์น้อย ปีมาก ซ่อมจุก

รถไมล์มาก ปีน้อย มักจะโทรม

ผมชอบรถ 5-8 หมื่น กิโลฯ กับ 120,000 – 140,000 กิโลฯ ผมว่าซื้อมาแล้วซ่อมน้อย (ประสบการณ์ส่วนตัว)

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุรถด้วย เพราะถ้าอายุรถได้รอบ 10 ปี  พอรถไมล์น้อย หมายถึงเจ้าของไม่ค่อยได้วิ่ง จุดที่ควรจะซ่อม มันมักจะยังไม่เสีย พอเราซื้อมาปุ๊ปมันจะมาโดนที่เรา แต่ถ้าคนชอบไมล์น้อย ผมว่าเค้ารับได้แหละ

เวลาดูไมล์รถ อย่าลืมเอาอายุมาหารด้วยนะ เพราะหากรถ 12 ปี วิ่ง 140,000 กิโลฯ ผมว่าไ่มเยอะครับ ปีละหมื่นกว่ากิโลฯ เอง

รถวิ่ง 90,000 – 110,000 กิโล ผมก็มักจะเลี่ยง เพราะรถส่วนมากรอยซ่อมใหญ่จะอยู่ช่วง 100,000 กิโล ถ้าทนขับ หรือ โชคดี จะวิ่งได้ถึง 110,000 ดังนั้นเอา 120,000 กิโล อย่างที่บอกนั่นแหละ

อะไรที่ควรเสีย มันต้องเสียไปแล้ว ถึงมือเรามันจะเหลือที่ต้องเสียไม่เยอะ

ซื้อมาแล้วถ้าไม่รู้อาการเฉพาะรุ่นให้

  1. เช็ครั่ว เช็คซึมตัวเครื่อง เกียร์ โดยเฉพาะซีลหลังเครื่องที่ถูกมองข้าม
  2. เปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งระบบ เกียร์จิ้มเช็คดูได้ว่าน้ำมันดำหรือยัง แต่ควรเปลี่ยนทุก 50,000 กิโล
  3. เช็คช่วงล่าง ลูกหมากต่าง ๆ 
  4. ผ้าเบรค จานเบรค

รายชื่ออู่ต่าง ๆ ที่ผมเคยใช้บริการแล้วประทับใจ

TMS Benz Service หลังวัดโสม

ซ่อมเบนซ์ ทุกรุ่น ทุกอาการ เช็คระยะ ดูแลช่วงล่าง เครื่องพัง เกียร์เสีย กล้องช็อต

โทร. 085-988-5515

———————————————-

Stopshop แยกลำสาลี

เบรค ช่วงล่าง เช็คระยะถ่ายน้ำมันได้

ช่างอี๊ด (เจ้าของ)

โทร. 086-699-8876 https://www.facebook.com/StopShop.th

———————————————-

United Tire รามอินทรา กม. 1

ล้อแมกซ์ ยาง ตั้งศูนย์

โทร. 02-970-7137 https://www.facebook.com/unitedtirethailand

———————————————-

Winwin Auto Service ประเสริฐมนูญกิจ 43

ซ่อมรถนำเข้าสายญี่ปุ่น Alphard, Lexus, Harrier

คุณก๊าฟ (ฝ่ายบริการลูกค้า) โทร. 086-780-7276 https://www.facebook.com/winwinservice

———————————————-

Leather Recovery พระราม 3 ซอย 12

คุณน่อย ซ่อมปุ่มลอก พ่นสีเบาะ-ภายในทุกชนิด

โทร. 093-235-0919

https://www.facebook.com/LeatherRecoveryRama3

———————————————-

Upgrade Audio

จอแอนดรอยด์ ของแต่ง Benz, Tesla และ Staria

คุณโบว์

โทร. 095-925-1920

https://www.facebook.com/UpgradeAudioOfficial

———————————————-

Sound Station

กล้องบันทึก จอแอนดรอยด์ และ เครื่องเสียงทุกชนิด

เฮียโรจน์ โทร. 084-917-4774

———————————————-

Be Clan กรุงเทพกรีฑา ซอย 7

ขัดสี ฟอกเบาะ ดูแล ปรับปรุงภายในรถยนต์

081-123-8544

https://www.facebook.com/BeCleanCarDetailing44

_______________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

 

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art