เคยเห็นเค้าโพสรับ coding ตามกลุ่ม BMW ต่าง ๆ แล้วเคยสงสัยมั๊ยว่าเค้าทำกันยังไง จริง ๆ มันเป็นเรื่องง่ายมาก ไม่ได้ดูลึกลับและยากอย่างที่คิด วันนี้มานั่งเม้าท์กันครับ (ไม่ใช่รีวิว)
#bmwcoding #bimmercode #obd2 #bmw #mini #coding #vlogเรื่องรถ #พี่อาร์ต
สิ่งที่ต้องใช้
- แอปเพื่อทำ Coding ซึ่งผมเลือกใช้ Bimmercode ที่ง่าย และ เสถียรกว่า Carly
- ตัวต่อ OBD2 ซึ่งผมเลือกใช้ OBDLink CX จาก amazon.com
สิ่งที่ต้องทำ
- โหลดแอป Bimmercode มีทั้ง iOS และ Android
- เปิด demo mode ดูว่าเราชอบหรือไม่ ถ้าชอบแล้ว เข้าไปที่ setting ของแอป คือ ไอค่อนรูปฟันเฟืองมุมล่างขวาขอจอ ดู supported cars เพื่อดูว่ารถเรารองรับหรือไหม่
- เลือกซื้อ OBD2 ตัวที่ชอบ ซึ่งตรง setting ของแอปเองก็มีบอก บรรทัดถัดจาก supported cars จะเป็น purchase adapter กดเข้าไปมีรุ่นให้เลือกเพียบครับ เพราะ Bimmercode ไม่ได้ขาย OBD2 เอง ทำให้รองรับ OBD2 หลายยี่ห้อ หลายสเปค
- ผมเลือก ODBLink CX เพราะป้ายกำกับว่า made for bimmercode เท่านั้นเอง ราคาแพงเกือบจะที่สุดแล้ว แต่รองรับรถทุกรุ่นที่ bimmercode สามารถโค้ดได้ เลยซื้อความสบายใจ แต่ใครซื้อใช้เอง เอารุ่นอื่น ๆ เช่น Veepeak ก็ได้ ใช้ดีเหมือนกัน ถูกกว่าครึ่งนึง
- OBD2 สั่งจากเวป amazon.com ส่งถึงไทย ราคาตอน check out จะมีให้เลือกส่ง รวมค่าขนส่ง รวมภาษีนำเข้าของไทยเสร็จ OBDLink CX ของผมประมาณ 100 เหรียญ ก็ประมาณ 3,200 บาท นั่งรอ 8 วันของก็ถึง
- เสร็จแล้วก็เข้าแอปไปจ่ายเงินเพื่อซื้อ Full version ของแอป ราคา 949 บาท
ขั้นตอนการ coding
- เสียบ OBD2 เข้ากับรถของท่าน ซึ่งส่วนมากอยู่ใต้แผงคอพวงมาลัย หาไม่เจอ เสิชเอาครับ
- กดปุ่ม start ในตัวรถ แบบไม่เหยียบเบรค กดเพื่อให้หน้าจอติดเฉย ๆ ไม่สตาร์ทรถนะ
- เปิด bludtooth ในมือถือ เปิดแอพ เลือกยี่ห้อของ OBD2 ของเรา แล้วกด connect
- เครื่องจะหาสัญญาณ พอเชื่อมต่อได้แล้วก็จะอ่านค่าตัวรถของเรา
- อ่านค่าเสร็จ แอป จะแสดงรายการที่สามารถ code ได้
- เลือกสิ่งที่เราต้องการจะ code แล้วเลือก activate จากนั้นกดปุ่ม Code มุมบนขวามือ
- กดแล้วระบบจะทำการ activate สิ่งที่เราเลือกให้ หน้าจอ iDrive ในตัวรถจะมีการบูตใหม่
- จบตรงนี้สามารถ code รายการอื่นต่อได้เลย หรือ จะสตาร์ทเครื่องรอบนึงก่อนก็ได้ หากสตาร์ทเครื่องรอบนึงเสร็จ ก็ให้ดับเครื่องแล้วเริ่มขั้นตอนการ code ตามปกติต่อ หากสัญญาณหลุด ให้เชื่อม bluetooth แล้ว connect ใหม่
- ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจ จะทำกี่ครั้งก็ได้เพราะของเราเอง ทำแล้วไม่ชอบก็กลับเข้ามาแก้ได้ ขั้นตอนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนจาก activate เป็น deactivate เท่านั้น
Note:
- ตอนทำ coding แนะนำให้เปิด airplane mode คือ โหมดปิดสัญาณโทรศัพท์ ป้องกันคนโทรเข้ามาตอนเรา coding อยู่
- หาก coding อย่างต่อเนื่อง แล้วเหมือนรายการที่ coding มีน้อยลง หรือ ไม่มีรายการที่ควรจะมี ให้ disconnect แอป แล้วเชื่อมต่อกับ ODB2 ใหม่
- หากเกิดการรวนหลังจาก code ไปแล้ว ให้กลับเข้าไปใช้ code ใหม่ แต่ถ้าไม่หายสามารถกดปุ่ม Backup ตรงมุมล่างขวาของหน้าจอ เพื่อเรียกคืน
นอกจากส่วนของการโค้ดปลดล็อคการทำงานด้วยแอป Bimmercode แล้วนั้น ทางบริษัทยังมีแอปอีกตัวนึงคือ Bimmerlink ซึ่งเป็นแอปเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการ ลบ fault พวกไฟเตือนต่าง ๆ register battery เวลาเปลี่ยนแบตฯ ใหม่ รถ BMW เค้าจะต้องลงทะเบียนแบตฯ ในระบบของรถยนต์ รวมไปถึงการดูสถานะการทำงานต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ และ ระบบไฟฟ้า
ราคา Bimmerlink คือ 949 บาท สามารถย้ายมือถือได้กรณีเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ และ รองรับ OBD2 ได้เหมือนกับ Bimmercode เพราะแอปเป็นของบริษัทเดียวกัน
ซึ่งการทำงานก็เหมือนกับ Bimmercode คือ เสียบตัวอ่าน OBD2 แล้วเชื่อมต่อผ่านไวไฟ จากนั้นก็กดเลือกเมนูการใช้งานที่ต้องการเลยครับ รายละเอียดผมคงไม่ลงเยอะเพราะมันเป็นแอปที่เหมาะกับคนที่เข้าใจว่าทำอะไรอยู่
แต่เอาที่ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้คือส่วนของการลงทะเบียนแบตเตอรี่รถใหม่ กรณีเปลี่ยนแบตฯ และ การใช้ dashboard ที่เราสามารถเลือก Add ข้อมูลที่เราอยากรู้ได้ เห็นฝรั่งหลาย ๆ คนต่อกับรถ แล้วใช้เป็นเกจ์วัดแบบ realtime กันเลย ซึ่งผมลองแล้วก็สนุกดีแบบใช้งานชั่วคราว ใส่เกจ์จริงน่าจะดีกว่า
สรุปว่าใครที่ไม่ค่อยได้โค้ด หรือ หาความจะเป็นที่จะเสียเงินกว่าสามพันบาทได้อย่างคุ้มค่า แนะนำให้จ้างเค้ามาโค้ดให้
บทความนี้เล่าให้ฟังเฉย ๆ ไม่ได้รีวิว และ ไม่ได้บอกให้ไปซื้อมาทำเองนะครับ
_______________________________________________
ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage
และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
https://www.youtube.com/user/artxenonart