รีวิว Mercedes Benz GLC คู่กัด BMW X3 ที่ตอนนี้ราคามือสองอยู่แค่ล้านกว่าบาท มีอะไรน่าสนใจ และ มีอะไรต้องกังวลบ้าง

#Vlogเรื่องรถกับพี่อาร์ต #พี่อาร์ต #benz #GLC #W253 #x253

หลังจากปล่อยให้คู่แข่งตลอดกาลอย่าง BMW ทำตลาด SUV แบบไร้คู่แข่งอยู่คนเดียวมาร่วม 10 ปี Mercedes Benz GLC (รหัส w253 หรือ x253) เป็น SUV ขนาดกลาง ที่เปิดตัวในปี 2015 และ วางขายรุ่นประกอบในประเทศไทย ปี 2016 โดยใช้พื้นฐานของ C Class W205

โฉมแรกที่ประกอบในประเทศไทย จะมี 2 ตัว คือ

  1. รุ่น 4 ประตู เครื่องดีเซล 250d Off-Road 
  2. รุ่น 4 ประตู เครื่องดีเซล 250d AMG

ปี 2019 ปรับโฉมเป็นรุ่น Minor Change มีขาย 2 รุ่นคือ

  1. รุ่น 4 ประตู เครื่องดีเซล 220d Off-Road
  2. รุ่น 4 ประตู เครื่องดีเซล 220d AMG

สังเกตุจากชื่อรุ่นที่เปลี่ยนจาก 250d เป็น 220d เพราะคราวนี้ Mercedes Benz เปลี่ยนไปใช้เครื่องดีเซล ความจุน้อยลง และ แรงน้อยลง ในรหัส OM654 2.0 เทอร์โบ 194 แรงม้า 400 นิวตันเมตร

แถมเปลี่ยนจาก ขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นแบบขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งหากใครที่ชอบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ คงผิดหวังไม่น้อย ยังดีที่ได้เทคโนโลยีใหม่ ๆ มาแทน

ภายนอก ปรับเปลี่ยนดังนี้

  1. ไฟหน้า
  2. กระจังหน้า
  3. กันชนหน้า
  4. ไฟท้าย

ภายใน ปรับเปลี่ยนดังนี้

  1. ระบบควบคุมเป็นสื่อบันเทิงเป็นระบบ MBUX รุ่นใหม่
  2. ทัชแพดคอนโซลกลางใหญ่ขึ้น
  3. หน้าจอหลักใหญ่ขึ้น
  4. หน้าจอกลาง เป็นทัชสกรีน
  5. พวงมาลัยเปลี่ยนทรง

โดยต่างกันเพียงชุดแต่ง และ ออฟชั่นเท่านั้น ตัวใช้เครื่องยนต์เดียวกัน คือ

  • เครื่องยนต์ดีเซล OM651 2.1 ลิตร ขนาด 2,143 ซีซี.
  • DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบคู่ + Intercooler
  • 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที
  • แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 1,800 รอบ/นาที
  • เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC

แต่หากจะให้นับพ่วงไปอีกรุ่นที่ใช้พื้นฐานเดียวกัน ก็สามารถนับ GLC 250d Coupe AMG รหัสย่อย c253 ได้ เพราะใช้เครื่องเดียวกัน ต่างกันแค่เป็นท้ายลาด ออฟชั่น AMG

ในวันนี้เราจะเอา GLC 250d ก่อน Minor Change มาให้ดูกัน โดยจะพูดเฉพาะก่อน Minor Change นะ ตัว Minor Change ยังไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง จึงไม่สามารถโม้ให้ฟังได้

GLC 250d vs GLC 250d AMG

ตอนเปิดตัว ราคารุ่นธรรมดา กับ AMG ต่างก้น 450,000 บาท แต่ราคารถมือสองตอนนี้ต่างกันประมาณ 200,000 – 250,000 บาท สิ่งที่ต่างกันคือ

  1. ชุดแต่งรอบคัน AMG Body Styling
  2. โลโก้ Mercedes-Benz ที่คาลิปเปอร์เบรกคู่หน้า
  3. ชุดแป้นคันเร่ง และ แป้นเบรกแบบสปอร์ต
  4. ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต
  5. บันไดข้างคนละทรง
  6. กุญแจ KEYLESS GO
  7. ระบบเปิดฝาท้ายอัตโนมัติ (เตะเปิด)
  8. ล้อ AMG 20 นิ้ว
  9. ใช้ลายไม้ Open-pore Black Ash wood
  10. พวงมาลัยท้ายตัด ทางสปอร์ต
  11. เบาะเมมโมรี่ รวมพวงมาลัย และ กระจกข้าง
  12. กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง Around View Camera
  13. หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า

ถามว่าซื้อรุ่นไหนดี ตอบเลยว่าแล้วแต่ชอบ ถ้าเป็นผม ผมชอบ AMG เพราะดูซิ่งดี แถมได้เบาะเมมโมรี่ แต่สำหรับหลาย ๆ คน อาจมองว่าส่วนต่างสองแสนกว่าบาท ไม่จำเป็น เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า อ้นนี้แล้วแต่ชอบ เพราะอย่างที่บอกว่าเครื่องตัวเดียวกัน

การขับขี่

เครื่องยนต์กดเร่งมาทันใจ แทบ ไม่มีช่วงรอรอบ ตอบสนองดีมาก ขับสนุก ที่สำคัญเครื่องดีเซลเบนซ์ยุคนี้ เงียบมาก นิ่งมาก 

ช่วงล่างนุ่มนวลสไตล์เบนซ์ แต่เข้าโค้งกระชับ จิกเข้าไปแบบมั่นใจ จะคนชอบเข้าลึกแล้วตวัดเข้า หรือ คนชอบเข้าเร็วแล้วกดเร่งออกจากโค้ง ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ลบภาพจำช่วงล่างย้วย ๆ ของเบนซ์ออกไปหมดเลย

สำหรับผมที่เคยมีทั้ง X3 และ X4 สไตล์ผม ผมว่า X4 ช่วงล่างดีกว่า X4 ตรงที่หนึบแต่ไม่กระด้าง หากให้เทียบกับ GLC 250d ผมว่า หนึบพอกับ X4 แต่กระด้างน้อยกว่า

ถ้าจะให้อารมณ์เดียวกันคงต้องช่วงล่างสปอร์ตของ GLC 250d AMG แต่ถามผม ผมชอบช่วงล่างของ GLC 250d ตัวธรรมดานี้มากกว่า มันลงตัวกับการใช้งานประจำวัน เป็นรถครอบครัว ลูกนั่งหลังยังสบายไม่บ่นเวลาคุณภรรยาขับแบบรีบ ๆ ไปโรงเรียนตอนเช้า

ภายในสวยงาม หรูหราสไตล์เบนซ์ เก้าอี้นั่งสบายเหมาะกับสรีระทุกขนาด ผมสูง 180 ซม และ ช่วงนี้อ้วนมาก ยังนั่งแล้วสบาย เพียงแต่ต้องให้เวลาในการค่อย ๆ ปรับเบาะให้ลงตัว

จะมีตินิดเดียวคือ หัวหมอนคู่หน้า ผมว่ามันดันหัวไปหน่อย ดันพอ ๆ กับ BMW ซีรีย์ 5 F10 เลย หากใครนั่ง F10 แล้วเฉย ๆ เจ้า Benz GLC ก็ไม่มีปัญหา

ต้องระวังอะไรบ้าง –  จุดอ่อน

ด้วยความที่เป็นเครื่องน้ำมันล้วน ประกอบกับอายุรถเพิ่งล่วงปีที่ 5 มันเลยไม่ค่อยมีอะไรมากนัก ถามอู่ ถามคนใช้งานต่าง ๆ ก็ไม่มีอะไรที่เป็นจุด “เสียประจำ” เหมือนรถรุ่นอื่น เรียกว่าเป็นอีกรุ่นที่ไม่จุกจิก โดยมีจุดที่ควรสังเกตุดังนี้

  1. เช็คหัวฉีด อาจมีการเสียหาย รวมถึงควรเปลี่ยนแหวนรองหัวฉีด กรณีวิ่งแสนโล
  2. ซีลรอบตัวเครื่องต่าง ๆ ควรตรวจเช็ค เช่น ฐานกรองโซล่า ซีลหลังเครื่อง ซีลเกียร์
  3. มอร์เตอร์แรคพวงมาลัยไฟฟ้า รวมถึงแรคพวงมาลัยไฟฟ้า อันนี้พังถึงจะรู้ มันไม่ค่อยมีอาการล่วงหน้า แต่ถ้ารถลุยน้ำสูงมาโอกาสเสียสูง
  4. สายพานราวลิ้น สำหรับรถวิ่ง 120,000 ขึ้นไป ควรลองฟังเสียงตอนสตาร์ทเช้าว่ามีเสียง “แกร๊ก ๆ” ช่วงเครื่องติดครั้งแรกหรือไม่ 

เครื่องยนต์นระบบดีเซล จุดที่ต้องดูแลก็ไม่ต่างกับ Benz GLC 250d ด้วยมันเป็นเครื่องดีเซล OM651 บล็อคเดียวกัน และ ผมเคยซ่อมให้ดูไปแล้ว โดยหลัก ๆ ที่ควรได้รับการดูแลระบบเผาไหม้ให้สะอาด และ ซีลยางต่าง ๆ ที่เสื่อมตามกาลเวลา โดยเฉพาะรอบ 5 ปี หรือ 100,000 กม มันถึงเวลาที่ควรต้องเปลี่ยน

รถมือสองถ้าเจ้าของเก่าเข้าศูนย์ตลอด หรือ บำรุงดี ซีลที่ช่างเห็นว่ารั่วก็จะได้รับการเปลี่ยนอยู่แล้ว ต่อให้มาถึงมือเรา ราคาซีลก็ไม่ได้แพง โดยค่าซ่อม บำรุงเครื่อง ดูได้จาก 

ทั้งหมดนี่เป็นเพียงข้อมูล ณ. เดือน 11 ปี 2564/2021 เท่านั้น อนาคตหากมีอะไรอัพเดทจะมา edit บทความนี้ให้

ซื้อมือสอง มาแล้วควรทำอะไรบ้าง

  1. ถ้าไม่มีประวัติซ่อมจากเจ้าของเก่า ควรรีเซ็ทของเหลวทั้งระบบ อู่ขยัน ๆ หลายอู่ สามารถจิ้มน้ำมันออกมาดูได้ว่ายังดีอยู่หรือไม่ เพื่อตัดสินใจก่อน ตั้งแต่ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และ น้ำมันเฟืองท้าย แต่ถ้าเอาสบายใจ เปลี่ยนทิ้งให้หมด โดยเฉพาะน้ำมันเกียร์ ที่ควรเปลี่ยนทุก 50,000 กิโลเป็นอย่างน้อย
  2. เช็คจานเบรค ผ้าเบรค 
  3. เช็คลูกหมากช่วงล่าง ส่วนมากยางยึดเหล็กกันโคลงจะเปื่อย ซึ่งไม่มียางแยก จะเปลี่ยนทั้งเหล็กกันโคลง (ราคาไม่เกินหมื่น)
  4. เนื่องจากเครื่องในบ้านเราส่วนมากเป็นดีเซล ดังนั้นก็ต้องเช็คระบบการดูแลรักษาในส่วนของระบบเผาไหม้ดีเซล เพราะใช้ ๆ ไปแล้วจะเกิดคราบเขม่า คราบสกปรก ไล่ตั้งแต่กรองอากาศ, เซ็นเซอร์อากาศ, ท่อไอดี, DPF, EGR เซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำการล้างทำความสะอาด
  5. ตรวจเช็คหัวฉีดดูว่าปกติหรือไม่ และไหน ๆ รื้อแล้วก็ควรเปลี่ยนแหวนรองหัวฉีดไปเลย ราคาไม่แพง
  6. เช็คสายพานราวลิ้นว่ามีอาการยืดหรือยัง
  7. เช็คอาการซึมในตัวเครื่อง ช่วงฐานกรองโซล่า ซีลท้ายเครื่อง และ อื่น ๆ เพราะส่วนมากมันจะถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว
  8. ขั้นสุดท้ายควรเปลี่ยนกรองแอร์ หรือ บางอู่เรียกกรองห้องโดยสาร เน้น แท้ หรือ Mahle จะทน และกำจัดกลิ่นได้ดีเยี่ยม 

คันนี้หล่ะ

ต้องขอขอบคุณ คุณโอม ที่ให้ยืมรถเต้นท์คันนี้มาทดสอบ และ ถ่ายรีวิวในครั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังสนใจรุ่นนี้อยู่ ทำให้ผมมีโอกาศรีวิวรถที่หลากหลายมากขึ้น

Mercedes Benz GLC 250d คันนี้ สภาพสวยมาก ตัวถังเดิม มีเก็บสีมาจากเจ้าของเก่า ซึ่งเท่าที่ทราบมา เป็นคนที่เนี๊ยบมาก (คุณหมอ) มีรอยนิดนึง หน่อยนึงแกเก็บสีเรียบ โดยทำสีที่ศูนยเบนซ์ อีกทั้งเบาะคู่หน้ามีการเคลมใหม่มาแล้ว เนื่องจากเบาะมีรอย (อะไรประมาณนี้)

warranty หมดวันที่ 23/11/2021 ซึ่งในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา มีการเข้าเคลมไปหลายจุด ทำให้หลังจากนี้น่าจะไม่เหลืออะไรมากแล้ว นอกจากจุดที่เสื่อมเสียตามระยะการใช้งาน

แต่ผมก็พูดเสมอว่า รถมือสอง ยังไงก็ต้องซ่อม รถป้ายแดงยังต้องซ่อม อย่าคิดว่าซื้อมาแล้วไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแต่ถ้ารถสวยสมบูรณ์ ก็ทำน้อยมากเท่านั้นเองครับ

รถคันนี้ไมล์ 123,xxx กิโล ปี 2016

ราคา 1,690,000 บาท 

สนใจติดต่อ คุณโอม

โทร. 065-639-9445

LINE ID: ohmyyy (มีอัพเดท รถใหม่ ๆ ใน timeline ตลอด)

ไปคุยกันเอาเองนะ ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ ไม่ได้ค่าคอมฯ ด้วยนะ ถ่ายรีวิวเฉย ๆ

_______________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

 

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art