มือถือจอพับที่เล็กลงมาจาก Fold ใช้ชื่อ Z Flip ราคาเกือบครึ่งแสน จะได้ใช้จริง และ ใช้ได้ดีแค่ไหน วันนี้มาดูคำตอบกัน

#ซื้อเองรีวิวเองไม่ต้องอวย  #พี่อาร์ตเอง #xenonart

เป็นมือถือที่รีวิวยากมาก เพราะมันมีอะไรให้พูดเยอะไปหมด ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ประกอบกับความที่เป็นคนชอบมือถือฝาพับ เลยยิ่งตื่นเต้นดีใจกับการได้ใช้ฝาพับที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีมากมาย แต่พอมานั่งย่อยสลายประสบการณ์การใช้งาน และ ความกังวลของตัวเอง จึงขอเริ่มจากประสบการณ์ การใช้งานก่อนแล้วกัน

เอ้า ใครไม่ชอบอ่านไปดูคลิป ใครชอบอ่านเลื่อนลงไปเสพได้เลย

คำถามแรกของทุกคนคือ แอนดรอยด์ ฝาพับ หน้าจอทัชสกรีน ใช้งานจริงมันจะสะดวกเหรอ?

คำตอบคือ สะดวกครับ สะดวกมาก และ สะดวกมากกว่าที่คิดเสียอีก ด้วยความแข็งแรงของบานพับ และ การออกแบบให้พับกี่องศาก็ได้ ตัวเครื่องแข็งแรงแน่นหนากว่าที่คิดเอาไว้หลายเท่า (ตอนแรกแอบกลัวว่าจะบอบบาง)า ทำให้เราสามารถเลือกใช้งาน Samsung Galaxy Z ได้หลากหลายโดยผมสามารถใช้งานได้ 3 แบบดังนี้

  1. ฝาพับ – พกพาสะดวก ใส่กระเป๋ากางเกงทรง Super Skinny โดยไม่ต้องห่วงเครื่องโผล่ออกนอกกระเป๋ากางเกง หรือลองให้คุณภรรยาเอาไปใช้ ก็สามารถใส่ในกระเป๋าไซส์ mini ได้สบาย ๆ ผมว่ามันพกสะดวกมาก ๆ เลย ยิ่งเป็นคุณผู้หญิงที่บางจังหวะจำเป็นต้องใช้กระเป่าใบจิ๋ว ยิ่งลงตัว
  2. กางใช้ตลอดเวลา – จะได้อารมณ์ใช้มือถือปกติ หมดกังวลเรื่องขี้เกียจเปิดฝามาอ่าน Line หรือ Messenger แถมยังมี Always On Display ใช้ดูข้อมูลได้ตลอดเวลา แถมตอนกางออกมาเครื่องบางกว่า Note 10 Plus อีก ซึ่งจากการใช้งานมานั้น ตอนแรกกังวลเรื่องเครื่องจะพัง แต่เอาจริง ๆ ชุดพับของ Z Flip แข็งแรงมาก แทบไม่มีอาการพลาดปิดฝาเองเลย
  3. ใช้เป็นตลับแป้ง – อันนี้เหมาะกับคนที่นั่งทำงาน พอวางเป็นตลับแป้งเอาไว้ใกล้ ๆ ยิ่งสะดวกกว่ามือถือปกติมาก ๆ เพราะเห็น notification ตลอดเวลา หรือ จะเปิดคลิป เช็ค Line ก็สบาย ปรับเอนจอให้พอดีกับสายตา ฟินสุด ๆ ครับ

หน้าจอกระจกพับได้ ฟิลลิ่งเป็นยังไง? พังง่ายมั๊ย?

เทียบกับฟิลลิ่งการทัช การกด กับ Samsung Galaxy Fold ผมชอบ Z Flip มากกว่า แบบมาก ๆ เลย เพราะมันได้ฟิลลิ่งกระจกเหมือนสมารถโฟนปกติ อาการกดแล้วเหมือนจอนิ่ม ๆ จนเสียไส้นั้น ไม่มีให้เห็นใน Z Flip 

ส่วนหน้าจอจะพังง่ายมั๊ย แน่นอน จอกระจกพับได้ มีโอกาสพังมากกว่าจอธรรมดา แต่ถ้าตกแล้วจอแตก อะไรก็แตกทั้ง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระจก Gorilla 6 ก็เหอะ

หากเทียบความรู้สึกกับ Galaxy Fold แล้ว เจ้า Fold ให้ความรู้สึกเป็นพลาสติคมากกว่า กดแล้วจะให้ตัวนิดนึง แต่ Z Flip กดแล้วจะสู้มือมากกว่า ได้อารมณ์จกกระจกแทบไม่ต่างกับมือถือปกติทั่วไปเลย

ส่วนบานพับแข็งแรง ใช้งานเปิด-ปิด ทั้งวัน เดี๋ยวรับโทรศัพท์ เดี๋ยวอ่านข้อความ เดี๋ยวตอบอีเมลล์ ชุดบานพับทำได้ดีมาก ๆ มั่นคง แข็งแรง จะเปิดกี่องศาก็นิ่ง ไม่ดีด ไม่เด้งให้เสียจังหวะ

การใช้งานทั่วไปหล่ะ?

ถามว่าลื่นไหม แรงไหม อันนี้คงไม่ต้องสืบ เพราะด้วยสเปค Snapdragon 855+ คู่กับ แรม 8 กิ๊ก แถมหน่วยความจำในตัวเครื่องเป็น UFS 3.0 ไม่ว่าจะเล่นเกมส์ เล่นโซเชี่ยล เปลี่ยนธีม เล่นซนทุกสิ่งอย่างบนตัวเครื่องนี้หายห่วง ให้ห่วงอย่างเดียวเลยว่าเราใช้มันสุดความสามารถของตัวเครื่องแล้วหรือยังมากกว่า สบายใจได้ มันคือมือถือกลุ่มท๊อป แล้วจ้า

การรับโทรศัพท์สามารถตั้งให้เปิดฝาแล้วรับสายอัตโนมัติ การ VDO Call สามารถพับตั้งโต๊ะแล้วใช้งานได้ นั่งจิบกาแฟแล้วพับวางบนโต๊ะนั่งดูข่าว ดูซีรียส์ สบายไม่ต้องหาที่พิง หรือจะเปิด 2 หน้าต่างใช้งานสนุก ๆ ก็สบายสุด

เรียกว่าสามารถใช้งานได้ร้อยแปดพันเก้า แล้วแต่จินตนาการของเราเลย

กล้องเทพมั๊ย?

กล้องใช้สนุกมาก ด้วยเราสามารถพับได้หลายองศา ทำให้เปิดมิติการใช้งานได้หลายรูปแบบ โดยเฉพาะการถ่ายกล้องหน้าแบบพับจอครึ่งหนึ่ง จะทำให้ได้ระยะไกลออกไปอีกโดยไม่ต้องพึ่งไม้เซลฟี่ 

ที่สำคัญสามารถถ่ายแนวนอนได้โดยไม่ต้องเอียงเครื่อง กันสั่นทำงานได้สมบูรณ์แบบ จะมีติหน่อยตรงที่กล้องหลังถ่ายวีดิโอออกมาแล้วสีซีด เป็นเฉพาะวีดิโอ ภาพนิ่ง กับ VDO Live Focus กลับไม่เป็น อันนี้น่าจะเป็นที่ software หวังว่าการอัพเดทครั้งหน้าจะแก้ไขจุดนี้

Single Take เป็นลูกเล่นสนุก ๆ แต่ส่วนตัวไม่อินเท่าไหร่ เพราะชอบถ่ายเองคิดเอง เลือกมุมเอง 555 เลยไม่ได้ทดสอบให้ดู

ส่วนคุณภาพกล้องดูจากในคลิปด้านบน และ ภาพนิ่งท้ายบทความ

บทสรุป

ฟินมากครับ…..

มันตอบโจทย์ที่สุดแล้วสำหรับคนโหยหาฝาพับ คนอยากได้ “ความแตกต่าง” ที่มาพร้อมความหรูหรา และ สเปค “ระดับบน” ตัวเครื่องแน่นหนา ได้ความรู้สึก “แพง” จริง ๆ ไม่ใช่แค่ราคาแพง ฟิลลิ่งในการใช้งานลื่นไหล อีกทั้งยังสามารถพลิกแพลงการใช้งานให้เหมาะกับชีวิตประจำวันในแต่ละช่วงเวลา ไม่ว่าจะขับรถ เดินทาง นั่งโต๊ะทำงาน หรือ ไปออกกำลังกาย

งานวีดิโอ และ งานกล้องสวยงามตามสไตล์มือถือเรือธงของซัมซุง เชื่อขนมกินได้สบายหายห่วง ติดนิดนึงตรงที่กล้องหน้าเป็น Fixed Focus คือมันจะมีระยะชัดของมัน แต่ฟีเจอร์ล้ำ ๆ ที่มากับฝาพับให้เราใช้กล้องหลังมา selfie ได้ ก็ช่วยกลบข้อด้อยนี้ไปได้ไม่น้อย

ใครที่มองหาความต่าง และพร้อมจ่าย 44,900 บาท แลกกับสิ่งที่ไม่เหมือนใคร หยิบขึ้นมามีแต่คนมอง ผมว่ามันตอบโจทย์สุดแล้วในเวลานี้

สิ่งที่ไม่ชอบ

บอกก่อนนะครับว่าผมมองว่า Samsung Galaxy Z Flip นั้นเจาะลูกค้ากลุ่มบนด้วยราคาเกือบครึ่งแสน แถมเป็นกลุ่มชอบความต่าง และ โฉบเฉี่ยว ดังนั้นขอ “ติ” ในมุมมองคนกลุ่มนี้แล้วกัน

  1. เคสที่ซื้อยากมาก ต้อง Online เท่านั้น
  2. เคสที่แถมมาเป็นรอยง่าย 2 วันผ่านไปในกระเป๋า Clutch รอยเพียบเหมือนใช้มาเป็นสัปดาห์
  3. ประกันจอแตกที่ซับซ้อน ยุ่งยาก ต้องลงทะเบียนภายในเวลาที่กำหนด ผ่านแอพฯ Galaxy Reward แล้วต้องรอแจ้งผลด้วย ทั้ง ๆ ที่สามารถทำเหมือนอุปกรณ์ iPhone โดยเช็คที่ IMEI หากเป็นเครื่องศูนย์ไทยก็ประกันอัตโนมัติไปเลย ไม่ควรจะมอบประสบการณ์ “ใช้ยาก” ให้ลูกค้าที่คิดจะหันมาเล่น ซัมซุง
  4. กล้องหน้า Fixed Focus โดยรวมถ่ายได้ดี แต่มักจะมีช็อตหลุด ภาพไม่คมออกมาให้เจ็บใจเล่น
  5. เวลาพับเครึ่องครึ่งหนึ่งเป็นทรงตลับแป้ง กล้องหลังบังคับถ่ายแนวตั้งเท่านั้น เปลี่ยนเป็นแนวนอนไม่ได้ ต้องเอียงเครื่อง หรือ ปรับเป็น 1:1 แทน
  6. เวลาพับแล้วใช้กล้องหลังถ่าย Selfie หน้าจอเล็ก ๆ นั่นใช้งานได้ดี แต่ภาพที่ได้บังคับเป็น 1:1 อีกแล้ว
  7. เคสหายากสุดชีวิต <<< ทำใจก่อนซื้อแล้ว แต่เป็นคนขี้บ่น
ตัวอย่างภาพถ่าย
Outdoor / แสงธรรมชาติ

Auto vs Night Mode

Indoor / แสงไฟฟ้า

Wide vs Ultrawide

Selfie / กล้องหน้า

Selfie / กล้องหลัง

Live Focus / หน้าชัด – หลังละลาย

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับ Gadget ต่าง ๆ และอย่าลืมว่า

มือถือที่แพงที่สุด ไม่ใช่มือถือที่ดีที่สุดสำหรับเรา แต่ต้องเป็นมือถือที่เราใช้ประโยชน์ได้สูงสุดต่างหาก

_________________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art