ทนการเรียกร้องไม่ไหวก็ต้องจัด Huawei P40 Pro มารีวิวกล้องแบบเน้น ๆ และบทสรุป AppGallery มันมีแอปฯ พอใช้งานไหม 

ขอบคุณร้าน @bomchatmbk ที่ให้ยืมเครื่องมาทดสอบครับ #พี่อาร์ต #huawei #p40pro #review

สเปคอย่างเป็นทางการ Huawei P40 Pro
  • ขนาดตัวเครื่อง 72.6 x 158.2 x 8.95 มม.
  • น้ำหนัก 209 กรัม
  • หน้าจอ 6.58 นิ้ว แบบ Flex OLED 90Hz
  • ความละเอียด 1200 x 2640 พิกเซล
  • ซีพียู Kirin 990 5G
  • ความเร็ว 2.86 + 2.36 + 1.95 GHz
  • ชิพกราฟฟิก Mali G76 MC16
  • แรม 8 กิ๊ก
  • หน่วยความจำ 256 กิ๊ก
  • เพิ่มเมมได้แบบ Nano Memory
  • กล้องหลัง 3 ตัว + TOF 3D camera
    • เลนส์ wide 50 ล้านฯ 23mm f/1.9 1/2.8″ PDAF OIS
    • Ultrawide 40 ล้านฯ 18mm f/1.8 1/1.54″
    • เลนส์ซูม Periscope 12 ล้านฯ 125mm, f/3.4, 5x Optical Zoom
  • กล้องหน้า 32 ล้านฯ 26mm f/2.2 AF 1/2.8″ + Depth camera
  • กันน้ำ กันฝุ่น IP68
  • แบตเตอรี่ 4,200 มิลิแอมป์
  • รองรับการชาร์จเร็ว 40w / wireless 27w
  • สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
  • 2 SIM ไฮบริด (SIM 2 เลือกใส่เมมฯ)
  • ราคาเปิดตัว 31,990 บาท

ส่วนจะต่างกับ P40 ธรรมดาอย่างไร สเปคดี-ด้อยกว่ากว่าคู่ปรับตลอดกาลอย่าง Samsung ตรงไหนบ้าง ไปดูบทความเก่าได้ที่

เทียบสเปค P40 Pro vs S20 Ultra vs P30 Pro

อย่าให้เสียเวลา ไปดูคลิปกันเลย ส่วนน้ำลายย้ายไปโม้ด้านล่างนะจ๊ะ

และใครที่เรียกร้องให้รีวิว P40 Pro+ ตัวท๊อปของซีรียส์นี้ที่เปิดตัวราคา 40,990 บาท มากันหลายคนนั้น ส่วนตัวมองว่าดูรีวิว P40 Pro ไปก่อนก็พอเป็นแนวทางตัดสินใจได้ เพราะจริง ๆ มันเหมือนกันทุกสิ่งอย่าง ต่างกันแค่กล้องชุดซูม หน่วยความจำในตัวเครื่อง และ การรองรับ Fast Charge ที่ 40W เท่านั้น

ซึ่งในเรื่องการซูม Huawei P40 Pro จะซูมด้วยชุดเลนส์ Periscope 12 ล้านฯ ได้ 50 เท่า ส่วน P40 Pro+ ซูมด้วยชุดเลนส์คู่ 8 ล้านฯ Periscope + เลนส์ Tele 8 ล้านฯ ได้ออกมา 100 เท่า

หากตัดเรื่องซูมที่มากกว่าแล้ว ดูผลงานภาพถ่ายของ P40 Pro นี้ก็เหมือนกันครับ อีกทั้งการซูม 100 เท่าน่าจะเอาไปใช้จริงได้ค่อนข้างยาก หากใครชอบจริง ๆ ไม่ต้องดูรีวิวก็ได้ เพราะซูมระดับนี้มีตัวเลือกแค่ 2 ตัวคือ Huawei P40 Pro+ และ Samsung S20 Ultra 5G เท่านั้น 

จุดเด่นของ Huawei P40 Pro

  1. Fast Charge 40w / wireless 15W
  2. เพิ่มความปลอดภัยด้วยการตรวจจับเวลามีคนแอบดู Notification จะปรากฏขึ้นโดยไม่มีรายละเอียดใดๆ หากไม่มีใครแอบดู Notification จะแสดงรายละเอียดปกติ
  3. Super Charge 40w / wireless 15w

สำหรับเรื่องกล้องของ P40 Pro นั้นมีฟีเจอร์หลายอย่างที่น่าสนใจ

กล้องถ่ายรูป

  1. ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 นิ้ว และบอาร์เรย์ตัวกรองสี RYYB ที่ช่วยให้เปิดรับแสงได้มาก ช่วงไดนามิกสูง และน๊อยซ์ต่ำ
  2. การรองรับระบบรวมพิกเซล 4-in-1 ทำให้ได้ภาพคมชัดกว่าเคย ถ่ายรูปได้ดีในสภาพแสงน้อย 
  3. ชุดเลนส์ Periscope กล้อง 12 ล้านพิกเซล ซูมสูงสุด 50x (P40 Pro) หรือ 100x (P40 Pro+)
  4. ปรับระบบ AI ใหม่ช่วยให้ถ่ายภาพบุคคลได้ดีขึ้น รายละเอียดเส้นผม ขนคิ้วเค้าว่าเป๊ะมาก
  5. ระบบ Golden Snap AI ถ่ายภาพแล้วได้ผลงานออกมา 3 ภาพให้เลือก โดยระบบจะถ่ายเป็น VDO 4K แล้วใช้ AI ช่วยเลือกภาพออกมา 
  6. Golden Snap AI ช่วยลบคนเดินในฉากหลัง
  7. Golden Snap AI ลบเงาสะท้อนในกระจกโดยเลือกเลเยอร์ในการลดเงาได้
  8. กล้องหน้า 32 ล้าน พร้อมกล้องความลึก IR ทำให้ถ่ายเซลฟี่ได้สีสรรดีกว่าเดิม ปรับโบเก้ได้เนียนกว่าเดิม

VDO

  1. กล้องหน้า 4K
  2. ถ่ายกล้องหน้า กล้องหลังพร้อมกันได้ 4K
  3. มี Zoom Mic มาให้แล้ว
  4. ระบบกันสั่นที่ดีขึ้น
  5. ถ่ายกลางคืนได้ดีขึ้น
  6. ถ่าย ซูเปอร์สโลว์โมชั่น 7680 fps
  7. มี Ultrawide Timlapse

บทสรุป

เรื่องกล้อง สวยงาม ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีมาก ๆ ทั้งภาพนิ่งและวีดิโอ เรื่องการซูมผมว่ายังไง 30 เท่าก็ยังเป็นระยะซูมที่ใช้งานได้จริง และ Huawei P40 pro ก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว 

ความคมของภาพโดยรวมดูดี แต่หากซูมขยายลงไปจะพบว่าไม่คมกริ๊ปมากนัก ยิ่งเทียบกับเรือธงค่ายผลไม้อย่าง iPhone 11 ไม่ Pro เห็นชัดเลยว่าเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า โดยดูได้จากภาพตัวอย่างด้านล่าง ซึ่งถ้าจำไม่ผิดก็ไม่ต่างจากปีก่อนมากนักด้วยเทคโนโลยี RYYB ที่ Huawei นำมาใช้เพื่อเพิ่มความสามารถในการเก็บแสงได้ดีกว่าเดิม

แน่นอนว่าลูกเล่น สกินโทน Leica มาเต็มมาก สวยมาก ทรงพลังเหมือนเช่นเคย แถมมีฟีเจอร์เพิ่มขึ้นกว่า P30 Pro ในปีก่อนพอสมควร แต่ความคมชัดของภาพไม่ต่างจากปีก่อนมากนัก อีกทั้งยังคงสไตล์ถ่ายอาหารสวย แต่ไม่น่ากินเช่นเคย (ความเห็นส่วนตัว) เรียกได้ว่าหากใครไม่ชอบสกินโทนของ Huawei มองยังไงก็ไม่สวย แต่ถ้าคนที่ชอบแล้วมันโดนมาก อาร์ตมาก ๆ

ส่วนสิ่งที่ไม่ชอบคือ กล้องหน้า แพ้แสงน้อย ถ่ายแล้วออกเป็นวุ้น ๆ แต่ถ้าแสงปกติภาพขาวสว่างสวยงาม รายละเอียดดี 

กล้องวีดิโอจากคลิปรีวิวเห็นได้เลยว่าทำงานได้ดีมาก ๆ แต่กล้องหน้าแคบไปหน่อย ถ่ายตัวเองแล้วมันแน่น ๆ คับเฟรมเกินไป กันสั่นสมบูรณ์มาก 

ส่งท้าย

แน่นอนว่า Huawei P40 ทุกรุ่นไม่สามารถใช้ Google Play Store ได้ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าไม่สามารถใช้ GMS ได้ นั่นหมายถึงโอกาสการเข้าถึงแอปฯ ทั่วไปไม่เท่าคนอื่น ต้องอาศัย App Gallery แทน

แน่นอนมีหลายสำนัก หลายเพจสอนแฮกใส่ Google Play สำหรับคนที่สนใจ ซึ่งสำหรับผม ที่ผ่านการแฮก Google Play Store ลง Blackberry มานั้น บอกเลยว่ายุคนี้ต่างกับยุคก่อน แฮก ได้แปปเดียว เดี๋ยวพอออก security patch มาก็โดนบล็อคอีก เพราะงานนี้มันคือการ “จงใจ” จัดการกับ Huawei โดยตรง ไม่ได้ลูกหลงแต่อย่างใด พูดง่าย ๆ ม้นพึ่งพาไม่ได้ตลอดเวลา และไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะคนที่ไม่มีเวลามานั่งตามแก้แฮกไปเรื่อย

ตรงนี้เป็นจุดตายที่ loose loose กันทั้งคู่ ทั้ง Google เอง และ Huawei ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะนโยบาย “การกีดกันทางการค้า” กลาย ๆ ที่ส่วนตัวผมเชียร์มวยรองอย่าง Huawei

แต่สุดท้ายเราก็คือผู้บริโภคคนหนึ่งที่เสียเงินซื้อของเค้ามา ก็อยากใช้ได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนแอนดรอยด์รุ่นอื่น ๆ แม้จะเอาใจช่วยแค่ไหน ก็ไม่สามารถเชียร์ให้คนทั่วไปซื้อมาใช้ได้อยู่ดี นอกจากคุณจะรักการลง GMS และพร้อมจะคอยตามแก้ไปตลอดอายุการใช้งาน

หวังว่าเลือกตั้งครั้งต่อไป ได้ประธานธิบดีคนใหม่ จะสามารถตกลงกันได้ (ว่าแต่ปล่อยตัวลูกสาวเค้าออกมาหรือยัง? ใครรู้บอกด้วย)

สู้ ๆ ครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei P40 Pro

ภาพทั้งหมดใส่ลายน้ำ และย่อลงมาเท่านั้น สามารถคลิ๊กที่ภาพเพื่อชมขนาดใหญ่ได้เหมือนเคย

_________________________________________________

ฝากกดติดตามเพจ www.facebook.com/xenonartpage

และ ช่องยูทูปเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

https://www.youtube.com/user/artxenonart

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art