ช๊อปปิ้งอิตาลี ดินแดนในฝัน มีวิธีขอคือภาษี หรือ Tax Refund อย่างไร วันนี้พี่อาร์ตมาเล่าให้ฟังพร้อมเทคนิคที่ควรรู้ก่อนไปเที่ยว
#กินบินช้อป #พี่อาร์ตเอง #italy #taxrefund #taxfree #howto
ใครชอบดูแบบคลิป กดดูได้เลยครับ ส่วนใครชอบอ่านแบบละเอียด เลื่อนลงไปด้านล่างได้เช่นกัน บทความนี้จัดให้ละเอียดหน่อย
ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับ Tax Refund
- ที่ยุโรป การคืนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยว หรือ Tax Refund นั้นเค้าเรียกว่า “Tax Free” เป็นคำที่รู้จักโดยทั่วไป ไม่ว่าจะสื่อสารภาษาอังกฤษกับเราได้หรือไม่ หากเราบอกว่า “แท๊กฟรี” ปุ๊ป เข้าใจตรงกันทันที
- ที่อิตาลี สามารถใช้คำว่า Tax Refund หรือ Tax Free ก็ได้
- การทำ Tax Free จะทำผ่านตัวแทนนายหน้า ซึ่งมีเจ้าหลักที่ให้บริการ หลายเจ้าเช่น Global Blue, Premier Tax Free, Planet Tax Free แล้วแต่ร้านค้าว่าใช้ของเจ้าไหน ไม่สามารถเลือกได้
- ไม่ว่าจะได้รับบริการจากนายหน้าเจ้าไหน อัตราการคืนก็เท่ากันทั้งหมด ต่างกันเพียงบริการ ค่าธรรมเนียม และ ความสะดวกเท่านั้น
ข้อกำหนด
- การทำ Tax Free ในแต่ละครั้ง ต้องมียอดซื้อขั้นต่ำ 155 ยูโร
- การขอคืนภาษี สามารถขอเป็นเงินสด หรือ ผ่านบัตรเครดิตตามสกุลเงินประเทศของเราได้ หากคืนเป็นเงินสดจะมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อย ไม่กี่ยูโร
- กรณีคืนเป็นเงินสด กฏหมายกำหนดวงเงินคืนสูงสุดต่อคน ต่อวันไม่เกิน 2,000 ยูโร หากเกินกว่านั้นจะแบ่งส่วนที่เหลือเข้าบัตรเครดิต โดยจะแบ่งยอดตามใบเสร็จ
- การตรวจลงตราศุลกากรขาออก ต้องทำที่สนามบินสุดท้ายในยุโรปเท่านั้น กรณีเดินทางหลายประเทศ Italy ต้องเป็นประเทศสุดท้ายเท่านั้น
- กรณีมีการต่อเครื่องประเทศอื่นในสหภาพยุโรป แต่เป็นแบบ CIQ คือผู้โดยสารต่อเครื่อง ไม่มีการนำกระเป๋าออกมา ก็นับประเทศที่ออกตั๋วถือเป็นประเทศสุดท้าย
อัตราการคืนภาษี
ที่ Italy อัตราการคืนภาษีเป็นแบบขั้นบันได ขึ้นอยู่กับยอดใช้จ่ายในแต่ละใบเสร็จ เริ่มต้น 11.6% – 15.5% เช่น
- ยอดซื้อ 1,000 ยูโร จะได้คืนประมาณ 11.6 – 12.9% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า
- หากซื้อ 10,00 ยูโร จะได้คืนประมาณ 15.5% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า
การขอคืนภาษีที่อิตาลี แบ่งเป็น 2 แบบแล้วแต่ว่าเราออกจากสนามบินไหน ดังนี้
ขั้นตอนการคืนภาษีสนามบิน Milan Malpensa Airport
1. ก่อนจ่ายเงิน ให้แจ้งพนักงานว่า “I want Tax Free” “ไอว้อนท์แท๊กฟรี”
2. ทางร้านจะขอ Passport ของเรา (บางร้านใช้สามารถใช้ภาพถ่ายจากมือถือ) เพื่อออกเอกสาร Tax Free Form
3. เอกสาร Tax Refund ให้เก็บรวมกับใบเสร็จ เผื่อโดนตรวจ (แต่ถ้าเซียนแล้ว แยกใบเสร็จออก เอา Tex Refund ก็ได้)
4. ไปถึงสนามบินให้มองหาเคาเตอร์ตามยี่ห้อเอกสารของเราไม่ว่าจะเป็น Global Blue หรือ Premier Tax Free หากได้มากี่ยี่ห้อ ต้องไปทำให้ครบตามยี่ห้อที่เรามี
6. ต่อแถว ยื่นเอกสาร Tax Refund, Passport และ บัตรเครดิตให้พนักงาน
7. พนง จะสแกนเอกสาร และพาสปอร์ตของเรา
กรณีสแกนผ่านทุกใบ
1. พนักงานจะถามว่าจะคืนเป็นเงินสด หรือ บัตรเครดิต กรณีรับเงินสด รับได้ไม่เกิน 2,000 ยูโร นอกนั้นคืนผ่านบัตรเครดิต
2. หากคืนเป็นบัตร ก็กรอกรายละเอียดในเอกสาร Tax Free Form มาให้เรียบร้อย ดังนั้นขั้นตอนนี้ใครไม่อยากเสียเวลา นั่งกรอกจากโรงแรมมาเลยจะประหยัดเวลาไปมาก
3. กรณีรับเงินสดจากในเมืองหรือ Down town cash refund มาแล้ว ก็เสร็จ ไม่มีอะไร จะจ่ายเฉพาะที่ยังไม่ได้ขอคืนเงินสดจากในเมืองมา เค้าจะเอาเอกสารเราไปหมด และให้ใบสรุปยอดเงินคืนมาเป็นหลักฐาน
4. เสร็จพิธี ไปเช็คอินกระเป๋า รอขึ้นเครื่องได้เลย ไม่ต้องไปยุ่งที่ศุลกากรเลย เคาเตอร์เดียวจบ
กรณีสแกนไม่ผ่าน
1. ใบไหนสแกนไม่ผ่านให้นำไปลงตราที่เคาเตอร์ศุลกากร / Customs ซึ่งมักจะอยู่ใกล้กันโดยเคาเตอร์หน้าตาดังรูปด้านบน
2. จนท จะขอดูของ และ ใบเสร็จตัวจริง แล้ว จนท ก็จะสแกนเอกสารผ่านให้ โดยไม่มีการประทับตราใด ๆ (ทุกอย่าง Online หมด อัพเดทเดือน พฤษภาคม 2562)
3. กลับไปที่เคาเตอร์ Global Blue / Planet เพื่อรับเงิน โดยไม่ต้องต่อแถวใหม่ ให้เดินเข้าตรงทางออกที่เราออกมา แล้วไปยืนรอหน้าเคาเตอร์ที่เราไปสแกนเอกสารครั้งแรก
5. รับเงิน พร้อมใบสรุปยอดเป็นหลักฐานแล้วไปเช็คอินกระเป๋า รอขึ้นเครื่องได้เลย
ขั้นตอนการคืนภาษีสนามบิน Rome Fiumicino Airport
- ไปเช็คอินกับสายการบิน เอา Boarding pass ให้เรียบร้อย แล้วแจ้งพนักงานสายการบินว่าในกระเป๋ามีสินค้า Tax Free พนักงานจะติดแทคที่กระเป๋าเราตามปกติ แต่เค้าจะคืนกระเป๋ามา
- นำเอกสาร Tax Refund ไปตรวจลงตราที่เคาเตอร์ศุลกากร พร้อมพาสปอร์ต บอร์ดดิ้งพาส (ตั๋วที่นั่ง) และกระเป๋าที่มีสินค้าที่เราจะขอคืนภาษี
- จากนั้นก็จะประทับตราให้เรา ซึ่งจะดูของหรือไม่ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่
- เมื่อประทับตราแล้ว เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะให้เราเอากระเป๋าโหลดตรงเคาเตอร์ศุลกากรเลย เราจึงต้องเช็คอินสายการบิน และ มี Boarding Pass + กระเป๋าติดแท๊คแล้ว ไม่งั้นกระเป๋าหายแน่นอน
- เมื่อเอากระเป๋าให้ศุลกากรแล้ว ถ้าเราขอคืนเงินสดแล้วจากในเมืองมา ให้เอาเอกสารใส่ซองแล้วหยอดตู้ตามยี่ห้อ ซึ่งมักจะอยู่แถวนั้น
- หากไม่ได้ทำเรื่องขอคืนจากในเมืองมา ให้ไปต่อแถวตามยี่ห้อต่าง ๆ เพื่อยื่นเอกสารที่ประทับตราศุลกากรแล้วให้พนักงานเค้าประทับตรา / ยิง Barcode แล้วเก็บเอกสารเราไปเลย ขั้นตอนนี้เราสามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินสด หรือ คืนผ่านบัตรเครดิต ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน
- กรณีรับเงินสด ต้องแสดงบัตรเครดิตชื่อของเรา เพื่อการันตีว่าเราจะเอาของออกนอกยุโรปจริง ๆ หรือเกิดกรณีเอกสารผิดพลาด เค้าขอเงินคืนจากรัฐบาลไม่ได้จะเรียกเก็บจากบัตรเครดิตของเราพร้อมค่าปรับ (Fee) บัตรเดบิตไม่ได้
- หากทริปนี้ได้รับฟอร์ม Tax Refund มา 3 ยี่ห้อ ก็ต้องไปต่อแถวแต่ละยี่ห้อ ดังนั้นเผื่อเวลาการไปสนามบินด้วย
หมายเหตุ 1:
หลัง ๆ นี้ระบบที่อิตาลีเปลี่ยนไปบ้าง บางครั้งหลังจากประทับตราศุลกากรแล้ว ต้องนำกระเป๋าไปส่งที่เคาเตอร์สายการบินเอง ไม่ได้ทิ้งไว้ที่ศุลกากร
หมายเหตุ 2:
จะมีบางยี่ห้อที่ไม่มีเคาเตอร์ในสนามบิน ต้องเอาเอกสารไปให้ศุลกากรสแกน จากนั้นหาตู้หยอด โดยตู้ที่จะหยอดจะระบุเอาไว้บนซองเอกสาร Tax Refund ที่เราได้มาจากร้านค้า
การทำ Down Town Tax Refund หรือ ขอคืนเงินสดจากในเมือง
- เราสามารถขอเงิน Tax Refund ล่วงหน้าได้โดยยังไม่ต้องไปที่สนามบิน โดยตามตัวเมืองต่าง ๆ ในอิตาลีมักจะมีบริการขอคืนภาษี หรือ เรียกว่า Downtown Tax Refund เช่นที่ Milan, Rome, Florence
- วิธีการง่ายมาก เดินเข้าไป แสดงเอกสาร Tax refund, บัตรเครดิต ชื่อของเรา และ Passport ที่เหลือเค้าทำให้เราหมดเลย
- การขอคืนในเมืองต้องใช้บัตรเครดิตเพื่อการ้นตีควบคู่ไปด้วย แม้จะรับคืนเป็นเงินสด (ไม่สามารถใช้บัตรเดบิต)
- สามารถขอคืนเงินสดในเมืองได้ก่อนวันที่บินกลับ 7 วัน หากเกินกว่านั้นไม่สามารถทำได้ และขอคืนได้วันละไม่เกิน 2,000 ยูโร
- เท่าที่เจอมา ในอิตาลีจะมียี่ห้อเดียวที่มีบริการรับเงินคืนในเมือง คือ Global Blue Lounge ซึ่งจะรับทำเฉพาะแบบฟอร์มที่ออกโดย Global Blue เท่านั้น ส่วน Lounge อยู่ตรงไหนบ้างสามารถหาจาก Google Maps
เทคนิคที่ควรรู้
- ที่สนามบินคิวยาวมาก ๆ และ ใช้เวลานานมาก ๆ และ ต้องเข้าแถวแยกตามยี่ห้อของตัวแทนคืนภาษี Global Blue และ Planet/Premier Tax Free หากมีทั้ง 2 แบบ ต้องเข้าแถว 2 ครั้ง ให้เผื่อเวลามาก่อน ยิ่งช่วง 8 โมงเช้า ทัวร์จีนจะเยอะมาก ๆ
- หากถามว่าต้องทำเงินคืนจากในเมืองมาหรือไม่? หากอยากประหยัดเวลา บอกเลยไม่จำเป็นทำจากในเมืองเสียเวลาสองรอบ คือในเมือง และ ที่สนามบิน ถ้าไม่ทำมา เสียเวลาที่สนามบินที่เดียว
- แต่หากต้องการทำในเมืองเพื่อเอาเงินสดมาเที่ยวต่อ ลองดูตามห้างสรรพสินค้า มักจะมีเคาเตอร์ Global Blue อยู่ สามารถใช้บริการได้ หรือ ดูที่ลิ้งค์ https://www.globalblue.com/tax-free-shopping/italy/#refund-points
- ส่วนตัวแนะนำ ให้ขอเป็นเงินสด แม้จะได้คืนน้อยกว่า แต่คำนวณอัตราแลกเปลี่ยนผ่านบัตรเครดิตจะได้ออกมาพอ ๆ กัน แต่ได้เงินแน่นอน ไม่ต้องลุ้น
- กรณีเดินทางบ่อย แล้วไม่มีเวลาประทับตรา สามารถเก็บเอาไว้ครั้งหน้า โดยเอกสารมีอายุ เดือนที่ออก + 3 เดือน ยังสามารถนำไปทำเรื่องได้ แต่อาจต้องพกสินค้ามาด้วยเผื่อโดนตรวจ
- กรณีเดินทางบ่อย สแกนแล้วไม่มีเวลาไปต่อแถวรับเงินคืน สามารถเก็บเอกสารไว้ มารับเงินคืนครั้งต่อไปได้ โดยเอกสารมีอายุ เดือนที่ออก + 3 เดือน คราวหน้าบินมาลงอิตาลี ก็แวะไปรับเงินที่เคาเตอร์ได้ตั้งแต่ลงเครื่อง ไม่ต้องรอขากลับ เค้าไม่ดูสินค้าอีกแล้ว
Trick สำหรับคนเดินทางหลายประเทศ
เป็นธรรมดาที่เที่ยวยุโรปแล้วเดินทางหลายประเทศ หากอิตาลีเป็นหนึ่งในแผนการเดินทาง แต่ไม่ได้กลับออกจากอิตาลี การยื่นขอคืนภาษีจะทำที่ประเทศสุดท้ายในยุโรป
กรณีนี้หากประทับตราศุลกากรแล้ว ต้องใส่ซองหยอดตู้ ขอให้หลีกเลี่ยงเพราะมันมีโอกาศที่เอกสารตกหล่น แนะนำให้ส่งเอกสารไปทางไปรษณีย์ลงทะเบียนแทน ซึ่งถ้ามีเวลาก็ทำที่สนามบินได้ หากไม่มีเวลาก็พกติดตัวกลับมาส่งแบบ EMS ก็ได้เช่นกัน แต่กลับมาต้องรีบส่งนำครับ เดี๋ยวโดนปรับ
ที่อยู่ในการส่งเอการกลับ
Global Blue
P.O. Box 363, 810 00 Bratislava
Slovakia, Europe
สุดท้ายก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับนักเดินทางทุกท่าน
ขอให้มีความสุข สนุกกับชีวิต LifeStyle IT ครับ
credit photo from: globalblue.com , https://www.romewise.com/
________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผม
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ