มาดู OnePlus 6 กับสเปคจัดเต็มกับราคาเบา ๆ กับของแรร์ว่าหน้าตาจะสวยแค่ไหน #ซื้อเองรีวิวเองไม่ต้องอวย #ธรรมดาโลกไม่จำ

ขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยพร้อมประกันศูนย์เสียที กับ OnePlus 6 แบรนด์ที่เกิดมาจากความอินดี้ เน้นสเปคเทพที่สุด แต่ราคาไม่แพง จนได้ชื่อว่าเป็นเพชรฆาตเรือธง แต่นั่นธรรมดาเกินไปเพราะเห็นว่าหลายเวปเค้ารีวิวกันไปแล้ว กลัวไม่เบื่อเลยซื้อ OnePlus 6 Limited Edition – Avengers Infinity War มาแกะกล่อง แล้วแฮชแทค #ธรรมดาโลกไม่จำ ซะเลย

หากใครไม่รู้จัก OnePlus ลองไปอ่าน >>> มารู้จักยี่ห้อ OnePlus กัน มันคืออะไร – ยาวหน่อยนะ

OnePlus 6 มีจำหน่าย 3 สีคือ ดำด้าน ดำเงา และ ขาว โดยแยกเป็น 3 รุ่นย่อยดังนี้

  • OnePlus 6 แรม 6 กิ๊ก ความจุ 64 GB ราคา 17,999 บาท
  • OnePlus 6 แรม 8 กิ๊ก ความจุ 128 GB ราคา 19,999 บาท
  • OnePlus 6 แรม 8 กิ๊ก ความจุ 256 GB ราคา 21,999 บาท

ส่วนรุ่นลิมิเต็ดในมือพี่อาร์ตตัวนี้จะเป็นรุ่นแรม 8 GB หน่วยความจำในตัวเครื่อง 256 GB ที่นำมาอัพเกรดภายนอกใหม่ พร้อมเพิ่มของแถมในกล่อง สนนราคา 23,300 บาท เครื่องนอก (มาบุญครอง) ประกันนอก ถือว่าคุ้มค่ามากเพราะแพงกว่าเครื่องศูนย์ไทยแค่ 1,400 บาทเท่าน้้นแต่ได้รุ่น Limited Edition ที่แฟน Marvel ร้องกรี๊ดดดดด

สเปคอย่างเป็นทางการ OnePlus 6 Avengers Infinity War

  • หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.28 นิ้ว
  • ความละเอียด FHD+ 1,080 x 2,280 พิกเซล
  • ขนาดตัวเครื่อง 155.7 x 75.4 x 7.8 มม.
  • น้ำหนัก 177 กรัม
  • ซีพียู Snapdragon 845 ความเร็ว 2.8 GHz + 1.7 GHz
  • GPU Adreno 630 รองรับการเล่นเกมทุกรูปแบบ
  • แรม 8 กิ๊ก
  • หน่วยความจำ 256GB
  • ไม่มีช่อง microSD เพิ่มเมมไม่ได้
  • กล้องหลังแบบเลนส์คู่ 16 ล้านฯ f/1.7, 1/2.6″, 1.22µm และ 20 ล้านฯ f/1.7, 1/2.8″, 1.0µm มี OIS และ EIS เป็นเลนส์ Sony
  • กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0, 1.0µm
  • รองรับ 2 ซิม สแตนบาย 4G พร้อมกัน
  • มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
  • แบต 3,300 mAh รองรับชาร์จเร็ว
  • ปลดล็อคด้วยใบหน้า และ ลายนิ้วมือ
  • แอนดรอยด์ 8.0 ครอบด้วย Oxygen OS

เมื่อหากมองดูคู่ฟัดที่แฟนเพจถามหาอย่าง xiaomi Mi8 ไปลองอ่านดูได้เพราะแถมเทียบสเปค Samsung Galaxy S9+ กับ Note 8 ให้ด้วย

เทียบสเปค OnePlus 6 กับ xiaomi Mi8 – ใครมีดีตรงไหน?

**แก้ไขความผิดพลาด**

ในคลิปพูดเกินไปนิดเรื่องกล้องครับ OnePlus 6 ไม่ได้มาพร้อมกล้องคู่ เลนส์ซูม 20 ล้านพิกเซล แต่เป็นกล้องคู่ 16 + 20 ล้านพิกเซลครับ ขออภัยในความผิดพลาดครับ พูดเพลินสับสนไปหน่อย _/\_

OnePlus 6 Avengers Infinity War มีเฉพาะเครื่องนอกเท่านั้น เครื่องศูนย์เอาเข้ามาแต่รุ่นธรรมดา ตัวกล่องก็แตกต่างกัน จากกล่องธรรมดาสีขาวขลิบแดง กลายเป็นกล่องดำด้านพร้อมโลโก้ A (Avengers) ลายเคฟล่าห์ตัวเบ่อเร่อ แล้วมีขลิบส้ม 1+ ที่ด้านบน เรียกว่าอลังการสมกับ Limited Edition จริง ๆ

อุปกรณ์ในกล่องรุ่นปกติประกอบด้วย

  • ตัวเครื่อง
  • สายชาร์จ / สายดาต้า
  • อแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้าน เป็น Dash Charge รองรับการชาร์จเร็ว
  • คู่มือ
  • เข็มจิ้มซิม
  • เคสซิลิโคน
  • สติกเกอร์

อุปกรณ์ในกล่องรุ่น Avengers Infinity War ประกอบด้วย

  • ตัวเครื่องสีพิเศษ
  • สายชาร์จ / สายดาต้า
  • อแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้าน เป็น Dash Charge รองรับการชาร์จเร็ว
  • คู่มือ
  • การ์ด Avengers
  • เข็มจิ้มซิม
  • เคสสี Ironman สุดคูล
  • แผ่นโลหะ Avengers พร้อมโลโก้ตัวละครหลัก
  • สติกเกอร์

อุปกรณ์ต่าง ๆ มีมาให้เช่นเดียวกับตัวธรรมดา โดยเป็นสายดาต้าสีแดงเอกลักษณ์ของ OnePlus พร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้าน Dash รองรับการชาร์จเร็วที่แม้จะพับขาเสียบไฟไม่ได้แต่แอบมีกิมมิคสีแดงด้านในช่อง USB

นอกจากนั้นในชุดที่ปกติแถมแค่สติ๊กเกอร์ 1+ ก็จะได้เป็น 1+ Avengers Infinity War พร้อมการ์ดลาย Avengers ด้วย

OnePlus 6 มากับหน้าจอใหญ่ถึง 6.28″ อัตราส่วน 19:9 ซึ่งถือว่าหน้าจอใหญ่สะใจ เล็กกว่า Note 8 ที่มีหน้าจอขนาด 6.3″ ไปนิดเดียว เทียบกับรุ่นอื่นๆในตลาดแล้ว จะได้พื้นที่จอต่อขนาดของเครื่องสูงทีเดียว กระจกหน้าไม่ต้องพูดถึง สเปคเข้ายุค Gorilla Glass 5

หน้าจอ AMOLED Full HD ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล ซึ่งเทียบกับเรือธงอย่าง Note 8 หรือ S9+ หน้าจอสู้ไม่ได้ครับ เพราะเรือธงตัวจริงให้หน้าจอมาแบบ Super AMOLED  ขนาด QHD ความละเอียด 1440 x 2960 พิกเซล แต่ก็นะ…ราคาต่างกันเป็นหมื่น 555

สำหรับรุ่น Avengers นี้ จะมี Wallpaper ของ Marvel มาพร้อมให้ใช้งาน เอาใจสาวกให้ฟินกันแบบถูกลิขสิทธิ์

ด้านหลังโค้งนิด ๆ สวยงาม หากเป็นรุ่นปกติจะมีสีดำด้าน ดำเงา ที่…เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก และ ขาวขอบทอง

รุ่นลิมิเต็ดตัวนี้นี้ด้านหลังจะทำสีให้คล้ายลาย คาร์บอนไฟเบอร์ หรือ ที่คนชอบเรียกติดปากว่าเคฟล่าห์ พร้อมโลโก้ 1+ และ Avengers สีทองสวยงาม น่าเสียดายที่ไม่ใช่ คาร์บอนฯ จริง ๆ เหมือนสมัย BlackBerry ไม่งั้นคงจะสุดกว่านี้

OnePlus 6 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 845 ความเร็ว 2.8 GHz + 1.7 GHz พร้อมชิพกราฟฟิก Adreno 630 สเปคท๊อปที่สุดในปัจจุบัน รองรับการเล่นเกมทุกรูปแบบ แบตเตอรี่ 3,300 มิลิแอมป์ ที่ถือว่าให้มาน้อยที่สุดในกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “เรือธง” ถ้าติดเกม PUBG แนะนำ Power Bank หมื่นมิลิแอมป์อีกตัว

สำหรับ OnePlus 6 มีแรมให้เลือกซื้อ 2 ขนาดคือ 6 กิ๊ก กับ 8 กิ๊ก….จริง ๆ ควรเขียนว่า จิ๊ก นะ แต่เคยพิมพ์ไปมีหลายคนค้าน แต่รุ่นลิมิเต็ดในมือพี่อาร์ตตัวนี้จะเป็นรุ่นแรม 8 GB หน่วยความจำในตัวเครื่อง 256 GB ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากกับตัวเครื่องที่ไม่เหมือนใคร และ อุปกรณ์ในกล่องที่แตกต่าง

กล้องหลังเลนส์คู่ขนาดมหึมา16 ล้านฯ f/1.7, 1/2.6″, 1.22µm และ 20 ล้านฯ f/1.7, 1/2.8″, 1.0µm โดยเป็นเซนเซอร์ Sony ทั้ง 2 กล้อง มีระบบกันสั่น OIS และ EIS ด้านใต้เป็นที่สแกนลายนิ้วมือ

เรื่องกล้องเป็นเรื่องหลัก ๆ ที่หลายคนรอการพิสูจน์ เพราะสเปคเทพขนาดนี้ การทำงานอื่น ๆ คงลื่นหัวแตกแทนไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่มีสเปคที่สูงกว่านี้อีกแล้วในตลาด

ด้านหน้ามีติ่งตามกระแส “หน้าจอข้ามีพื้นที่มากกว่า” เพราะแต่ละคนไม่รู้จะเอาอะไรมาข่มกันแล้ว เลยเอาปริมาณหน้าจอมาแข่งกัน จำต้องมีติ่งกล้องหน้าขึ้นมา จริง ๆ ถ้ามองอีกมุม เค้าไม่ได้เว้าหน้าจอเพื่อใส่กล้องนะ แต่เค้าขยายหน้าจอขึ้นไปด้านข้างของกล้องที่ว่าง ๆ อยู่ต่างหาก 55555

กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0, 1.0µm พร้อมโหมดการถ่ายภาพมากมายที่ต้องพิสูจน์กันต่อไป แต่ด้วยสเปคสูงถึง 16 ล้านพิกเซล f/2.0 25mm, 1/3″, 1.0µm ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยเพราะ S9+ ให้มา 8 ล้าน f/1.7 25mm, 1/3.6″, 1.22µm และ เล็กกว่าเทพเจ้า Huawei P20 pro ที่ให้มา 24 ล้าน f/12.0 26mm

ด้านล่างของตัวเครื่อง OnePlus ยังคงให้ช่องหูฟัง 3.5mm เอาไว้ ต่างกับค่ายอื่น ๆ ที่ถอดทิ้งหมดแล้ว คนชอบใช้หูฟังน่าจะรัก OnePlus 6 มากขึ้น เพราะตอนนี้รุ่นเทพที่จะเห็นรูเสียบหูฟังก็เหลือเพียง Samsung กับ OnePlus เท่านั้นเอง

ตรงกลางเป็นพอร์ต USB-C พร้อมฟังก์ชั่น Dash Charge หรือ ชาร์จเร็วของ OnePlus ด้านข้างเป็นลำโพงเสียงภายนอก ซึ่งจะสังเกตุว่ารูลำโพงจะมีข้างเดียว ต่างกับแบรนด์อื่น ๆ ที่มีรูลำโพงหลอกอีกข้างนึง ตามสไตล์ไอโฟน นับว่า OnePlus ยังสร้างความต่างเนอะ

ด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง หรือ ด้านขวาของเรา เป็นปุ่ม Power เปิด/ปิด เครื่อง ถัดขึ้นไปเป็นสวิชท์ที่ใช้สลับโหมด เสียง/สั่น/ปิดเสียง ด้วยการเลื่อน 3 ระดับ นับว่าน่าสนใจไม่น้อยเพราะเพิ่มความสะดวกในการใช้งานเป็นอย่างมาก โดยบนปุ่มนี้จะมีผิวสัมผัสต่างจากปุ่มอื่นทำให้สามารถกดได้อย่างแม่นยำแม้ในที่มืด หรือ แอบปรับในกระเป๋ากางเอง ^^!

ด้านขวามือของตัวเครื่องเป็นปุ่มปรับ เพิ่ม-ลด เสียง ซึ่งเป็นสีดำเดียวกับสีขอบเครื่อง ดูกลมกลีน และ มองหายากไปในคราวเดียวกัน ถ่ายรูปยากมาก

OnePlus 6 ยังคงใช้ UI เป็น Oxygen OS ซึ่งอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดมีการปรับให้การใช้งานลื่นไหล สมูทมาก อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งปุ่มสามสหายอย่างปุ่ม Back, Home และ Multi Task โดยการสลับตำแหน่ง หรือปิดไปเลยแล้วใช้เป็น Gesture แทน ซึ่งมันคือการรูดจอเหมือน iPhone นั่นเอง ใช้งานง่ายมาก ๆ มีสอนในหน้าการตั้งค่าด้วย ส่วนตัวเปลี่ยนมาใช้โหมดนี้แล้วได้หน้าจอเต็มตาขึ้น การควบคุมง่ายกว่าใช้ปุ่มอีก ชอบ ชอบ ชอบ

นอกจากนี้เค้ายังมี Hidden Space ที่เป็นการซ่อนแอพฯ ของเราที่ไม่ต้องการให้ใครเห็นได้ด้วยการเข้าไปหน้าแอพฯ แล้วปัดจากขอบจอ ซ้ายไปขวาจนสุด #พ่อบ้านใจกล้า

นอกจากตัวเครื่องที่แตกต่าง และ โดดเด่นแล้ว อุปกรณ์แตกต่างในบางชิ้นแล้ว แผ่นโลหะ Avengers พร้อมโลโก้ตัวละครหลัก และ เคส Ironman สวย ๆ ที่หาซื้อไม่ได้มันทำให้ชุดนี้เพิ่มคุณค่าอีกไม่น้อย ในขณะที่รุ่นธรรมดามีเพียงเคสซิลิโคนแถมมาเท่านั้น

ตัวเคสสวยงามทุกมุมมองเพราะเป็นเคสแบบ 3D คือไม่ใช่เคสแบน ๆ แล้วสกรีนลายลงไป แต่เป็นหน้ากาก Ironman นูน ๆ ด้วย

แรกสัมผัส

OnePlus 6 ก็เป็นมือถือสเปคเทพ ราคาถูก ที่เมื่อเทียบกับราคาเดียวกันในตลาดตอนนี้ ถือว่าสุดตารางจริง ๆ การใช้งานลื่นไหล แบตฯ เพียงพอต่อการใช้งานปกติ งานประกอบที่เบา บาง แน่นหนา วัสดุดูพรีเมี่ยมทำให้แรกสัมผัส OnePlus 6 นั้นประทับใจมาก ถึงมากที่สุด เสียก็แต่ตัวเครื่องเป็นรอยนิ้วมือง่ายเกินไปหน่อยหากไม่ใส่เคส แถมเคสรุ่นนี้ในบ้านเราก็หาซื้อยากมากอีกต่างหาก

การใช้งานเบื้องต้นลื่นปรื๊ด ๆ สมกับเป็นซีพียูที่แรงที่สุดในปัจจุบันพร้อมแรม 8 กิ๊ก เหลือเฟือ เท่าที่ทดสอบ Facebook เข้าเวปไซท์ต่าง ๆ ลื่นมาก ลื่นหัวแตกแทบปรับตัวไม่ทันกันเลยทีเดียว

หน้าจอแม้จะเป็น FullHD เหมือนจะอ่อนด้อยไปหน่อยสำหรับการเป็นเรือธง เมื่อเทียบกับ Note 8 ของผมที่เป็นเครื่องหลักที่มีหน้าจอ QHD แต่ผมปรับใช้แค่ FullHD ตลอดเวลาเพื่อให้เวลาอ่านอีเมลแล้วสบายตากว่านั้น OnePlus 6 ไม่ต่างกันเท่าไหร่

และด้วยขนาดจอ 6.28″ ของ OnePlus 6 เมื่อดู Facebook เทียบกับ Note 8 ที่ได้ขนาดจอ 6.3″ แล้ว การแสดงผลบนแอพฯ ต่าง ๆ แทบไม่ต่างกันเลย

สำหรับแป้นพิมพ์ OnePlus 6 เครื่องนอกของพี่อาร์ต ทางร้านที่มาบุญครองอัพจากรอมจีน เป็นรอมอินเตอร์ให้ ไม่มีแอพฯ ประหลาด ๆ ของจีนติดมา แถมเป็น Google Keyboard ในรอมมาเลย ทำให้การใช้งานสบายตา และคุ้นชินมาก ๆ อีกทั้งฟีเจอร์เพียบเลย

จุดด้อย

นอกจากความประทับใจต่าง ๆ ที่ได้รับแล้ว ยังมีจุดด้อยที่จริง ๆ อาจจะไม่ด้อย แต่หากคุณจะใช้คำว่า “เพชรฆาตเรือธง” แล้ว คุณควรจะไม่มีจุดด้อยเหล่านี้จึงจะสมคำว่า Flagship Killer อย่างแท้จริง เช่น

  • ไม่มีชาร์จไร้สาย / wireless charge
  • ไม่กันน้ำ กันฝุ่น หรือมีแต่ไม่การันตีก็ไม่รู้
  • ลำโพงเป็น Mono ธรรมดา ไม่ใช่ Stereo ไม่มีระบบเสียงพิเศษใด ๆ
  • หน้าจอความละเอียดแค่ FullHD ธรรมดา
  • สแกนใบหน้าด้วยกล้อง ไม่ใช่อินฟราเรท ทำให้สแกนในที่มืดไม่ได้

วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ รูปเยอะไปหน่อย แต่อยากให้เต็มอิ่มกัน ส่วนกล้องจะเทพแค่ไหน ไม่ต้องห่วงครับ จะรีบจัดให้อย่างรวดเร็วพิสูจน์กันว่าจะเทพแค่ไหน

_______________________________________

#ซื้อเองรีวิวเองไม่ต้องอวย

ฝากกดไลค์ติดตามเพจ “ไลฟ์สไตล์ไอที กับพี่อาร์ต” ด้วยนะจ๊ะ

https://www.facebook.com/xenonartpage

Facebook-Like

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art