รีวิวร้อน ๆ ปะทะกล้องเต็ม ๆ ทั้งภาพนิ่ง และ Super Slow Motion vs Slow Motion ใครเจ๋งกว่ากัน พร้อมบทสรุปจากการใช้งานจริงไม่ต้อง “มโน”

#ซื้อเองรีวิวเองไม่ต้องอวย #GalaxyS9TH #iPhoneX 

บอกก่อนเลยว่าผมเป็นสาวกแบล็คเบอร์รี่ แม้จะแลดูอนาคนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก็ตาม ^^ และคนที่ตามผมมานานก็จะรู้ว่าผมเล่น iPhone ตั้งแต่รุ่นแรกที่ต้องเจลเบรคแค่เพื่อใส่ภาษาไทยลงไปผ่าน Cydia รวมถึงเคยเป็นผู้นำพรรคซัมซุง Omnia i900 ที่ไม่รับสปอนเซอร์จากซัมซุงมาแล้ว ดังนั้นเรื่องลำเอียงคงไม่ต้องพูดถึง รักทุกค่าย มีทุกเครื่อง และซื้อเองทุกเครื่อง

สิ่งที่จะมาเล่าในบทความนี้เป็นประสบการณ์การใช้งานจริงของทั้ง 2 เครื่อง อาจจะสาธยายไม่หมดทุกประเด็นเหมือนนักรีวิวท่านอื่น ๆ เพราะผมต้องการเล่นในส่วนที่ผมได้สัมผัสจริงด้วยการใช้งานจริงเท่านั้น ……..คลิปนี้เลยไม่ได้รีวิวเกมนะออเจ้า 555

ไปดูคลิปรีวิวกันครับ จะให้ดูมุมความเร็วในการใช้งาน ความเห็นต่าง ๆ รวมถึงวีดิโอเปรียบเทียบ Super Slow Motion vs Slow Motion ว่ามันจะแจ่มเพียงใด

ภาพทั้งหมดนี้ตั้งใจถ่ายในสภาพ “แกล้ง” โทรศัทพ์นะครับ เพราะแสงดี ๆ มุมสวย ๆ พวกนั้นมัน่ถ่ายสวยง่ายไป และไม่ซาดิสม์พอ 555 ภาพที่ได้ทั้งหมดเลยเป็นภาพที่ “ต่ำกว่าปกติ” ของมือถือทั้ง 2 รุ่นนะจ๊ะ ดูเพื่อเปรียบเทียบว่าใครห่วยน้อยกว่ากันก็แล้วกัน

Portrait / หน้าชัด หลังละลาย

เริ่มจากการถ่ายภาพบุคคล หรือ Portrait ที่ช่วงนี้ iPhone X แปะป้ายโปรโมททั่วบ้านทั่วเมืองพร้อมแคปชั่น “ถ่ายด้วย iPhone X” พร้อมตัวหนังสือประกอบประมาณว่าใช้โปรแกรมเพิ่ม

มาขายของออนไลน์กันต่อ / สายแม่ค้าต้องมา

ชุดแรกใช้โหมด Live Focus ของซัมซุง เทียบ Portrait ของไอโฟน ดูว่าละลายหลังแล้วจะขายง่ายขึ้นมั๊ย สินค้าดูเด่นขึ้นหรือเปล่า จากนั้นต่อกันที่ชุด 2 มุมเดิม รองเท้าคู่เดิม แต่แบบปกติ ไฟเดิม ๆ เหมือนรีวิวที่ผ่านมา สงสัยกับรุ่นไหนหาเทียบได้จากรีวิวเก่า

คหสต. ผมว่าจากเดิมค่านิยมที่ผมมักจะพูดเสมอว่า iPhone ถ่ายขายของแล้วได้สีเหมือนจริงที่สุดลดปัญหาส่งของแล้วมีปัญหานั้น ตอนนี้คงพูดได้ไม่เต็มปากแล้ว เพราะ Samsung Galaxy S9+ ทำออกมาได้เหมือนกว่า  สว่าง สดใส และ เก็บรายละเอียดได้ดีกว่า

ร้านอาหาร แสงสลัว

ณ. ห้องอาหาร The Dining Room โรงแรมเอราวัณ วันอาทิตย์เบา ๆ กับบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน แน่นอนไฟในโรงแรม โดยเฉพาะร้านอาหารสไตล์นี้จะปรับไฟสลัว ๆ ดูคลาสสิค ยิงไฟเป็นจุด ๆ ยิ่งในไลน์อาหารจะเน้นไฟดาวไลท์เพื่อเพิ่มความโดดเด่นตามจุดต่าง ๆ ที่ต้องการ สภาพแบบนี้มือถือเป๋กันมาหลายตัวแล้ว จึงจะสังเกตุว่าไม่ค่อยมารีวิวกล้องที่นี่ แต่พอเป็นคู่เทพอย่าง S9+ กับ iPhone X มันเลยต้องจัดให้สมศักดิ์ศรีเสียหน่อย

ภาพชุดนี้บอกเลย ซัมซุงให้สีสรรสวยกว่า ภาพสว่างกว่าไอโฟนที่ได้ภาพโทนหม่น สังเกตุจากแกงเขียวหวานหม้อแรกดูไม่น่าทานเอาซะเลย ภาพอารมณ์นี้ต้องขอบคุณระบบ multi-frame noise reduction ที่จะถ่ายภาพ 4 รูป 3 ชุด รวมแล้ว 12 รูป แล้วเอามาประมวลผลรวมกันให้เหลือภาพเดียว ทำให้ลด noise ลงไปประมาณ 30% หากเจอสภาพแสงน้อย ทำให้ภาพนี้คมชัดกว่า สีสดกว่า แต่ทว่าต้องสารภาพว่าโดยรวมแล้ว Samsung Galaxy S9+ สีจะแดงกว่าความเป็นจริงนิดนนึง ในขณะที่ไอโฟนสีซีดกว่าของจริงพอควร

สว่าง ๆ กับของเล่น

หุ่นขนาดสูง 12 นิ้ว สเกล 1/6 สวย ๆ ที่เอามาวางตรงลานกลางบ้านประมาณบ่าย ๆ แสงธรรมชาติที่น่าจะถ่ายสวย แต่เจ้ากรรมแดดดันยิงลงมาพอดิบพอดีให้ภาพออกแนว “ถ่ายยาก” อีกแล้ว ตรงนี้วัดกันที่การเกลี่ยสี-แสง ในโหมด HDR Auto และรายละเอียดของกล้องว่าใครเก็บงานได้ดีกว่า

แน่นอนว่า Samsung Galaxy S9+ ดึงความสามารถในการปรับรูปรับแสงอัตโนมัติให้เหมาะกับสภาพแสงที่เราถ่ายภาพ…ผลที่ได้เลยเป็นเช่นนี้แล

กลางคืน / Night Shot

ด้วยความสามารถล้ำหน้าของ S9+ ทำให้มุมนี้แทบไม่ต้องสืบเลยว่าใครจะชนะ เพราะจริง ๆ iPhone X เคยแพ้ Note 8 มาแล้วในสภาพแสงน้อย

กล้องหน้า / Selfie

โหมดนี้เป็นโหมดฆ่าตัวตายของพี่อาร์ตเอง เพราะถ่ายทีไรหน้าอ้วน และ โทรมตลอดดดดดด T_T โดยจะเห็นความแตกต่างกับแบบสุด ๆ ระหว่าง S9+ และ iPhone X โดยที่มุมนี้จะมีแสงไฟเพดานยิงลงมาทำให้กล้องหน้า iPhone X จะมีแสงฟุ้งอย่างเห็นได้ชัด ขณะ S9+ ได้รับผลกระทบน้อยกว่า

พี่บอกแล้วโหมดฆ่าตัวตาย เพราะเดินหามุมที่ถ่ายแล้วห่วยที่สุดมาลองถ่ายให้ดู คือจะบอกว่าถ้าถ่ายแบบปกติ หรือ คนถ่ายบ่อย ๆ จะรู้มุม และ แสงที่ตัวเองเหมาะที่สุด เลยอยากย้ำอีกคร้้งว่ารีวิวนี้ให้ดูว่าใครห่วยกว่า ไม่ใช่ใครสวยกว่า เหอ เหอ เหอ

บทสรุป

  1. เรื่องกล้องต้องยอม S9+ เค้าไปตามภาพที่เห็น อันนี้บอกเลย Samsung Galaxy S9+ มีกล้องถ่ายสวย และ สนุกที่สุดเท่าที่เล่นมา (ไม่นับ Sony ที่ผมไม่เล่นนะ)
  2. จุดติหลัก ๆ ของ Samsung Galaxy S9+ คือ Super Slow Motion ที่แพ้แสงน้อย และ แพ้ไฟนีออนอย่างรุนแรง รวมถึงความถ่ายยาก บางทีถ่ายแล้วตรงที่จะให้สโลว มันดันไม่สโลว แต่ไปสโลวตนรงที่ไม่ต้องการ แถมถ่ายแล้วปรับอะไรไม่ค่อยได้ มันต้องตั้งใจถ่ายอย่างจริงจัง และมีเวลากับมัน อย่างในคลิปรีวิวนี้ ผมถ่าย 8 เทคกว่าจะได้ ต่างกับ Note 8 และ iPhone ที่ถ่ายง่ายกว่า ยกขึ้นมากดถ่าย เสร็จแล้วมาปรับช่วงที่จะ “สโลวไลฟ์” ได้เอง
  3. การใช้งานอื่น ๆ อย่างที่เห็นในวีดิโอรีวิวครับ Facebook เปิดช้ากว่าชาวบ้าน แต่ Instagram แอบเปิดเร็วกว่าไอโฟนซะงั้น ผมจึงแอบมั่วสรุปเอาเองได้ว่ามันขึ้นอยู่กับแอพ บางแอพเร็ว บางแอพช้าน่าจะเป็นผลมาจากระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่คงยังไม่ลงตัวในบางด้าน
  4. ราคาห่างกันเป็นหมื่น กล้องแพ้ราบคาบ อื่น ๆ สูสี แบตฯ ไอโฟนสิบดีกว่านิด ๆ ไม่คิดมาก
  5. จอใหญ่กว่าสวยงามอลังการ แต่หาฟิลม์ยากมากมาย

หวังว่าบทสรุปนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ นะครับ พบกันใหม่รีวิวหน้า มีอะไรไปถามหน้าเพจได้เหมือนเคย

_________________________________________

ชอบ #ซื้อเองรีวิวเองไม่ต้องอวย

ฝากกดไลค์ติดตามเพจ “ไลฟ์สไตล์ไอที กับพี่อาร์ต” ด้วยนะจ๊ะ

https://www.facebook.com/xenonartpage

Facebook-Like

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art