มาแล้ว BlackBerry KEY2 มือถือแอนดรอยด์พร้อมแป้นพิมพ์ “บีบี” จากสาวกตัวพ่อ!!!!
#ซื้อเองรีวิวเองไม่ต้องอวย #สาวกบีบี #BBAddict ที่ตอนนี้บริษัท TCL ได้ซื้อสิทธิ์ในผลิตภัณฑ์ ไปผลิด และ จำหน่ายตั้งแต่สมัย KEYone ซึ่งทาง TCL ก็พยายามสานต่อตำนานบีบีให้สาวกที่ยังรัก BlackBerry ได้ใช้กันต่อไป
ต้องยอมรับว่าท่ามกลางการแข่งขันอันแสนดุเดือนของตลาดสมาร์ทโฟนนั้น แต่ละยี่ห้อก็สร้างจุดเด่นเพื่อสร้างความแตกต่าง อย่าง ซัมซุง ที่เน้นกล้อง และ นวตกรรมใหม่ ๆ หัวเหว่ยเน้นกล้อง Leica ส่วน Oppo และ Vivo ก็เน้นคุณภาพเกินราคา (ราคาถูกนั่นเอง) รวมไปถึง Oppo Find X ที่สุดล้ำยุคด้วยกล้องซ่อนที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้
แล้ว…..BlackBerry จะเอาอะไรมาสู้???
คำตอบที่ผมสามารถตอบได้คือ “คียบอร์ด” เพราะ……มันคือแป้นพิมพ์ที่ดีที่สุดในโลก!!! และ เป็นมือถือเพียงยี่ห้อเดียวในโลกที่ยังมี QWERTY คียบอร์ดให้คนรักปุ่มให้ใช้
พูดง่าย ๆ คือ ถ้าจะเอามือถือที่มีแป้นพิมพ์ คุณมีตัวเลือกเดียวคือ BlackBerry
บีบี พยามยามมาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนวตกรรมใหม่ ๆ ที่ผมได้ไปร่วมพิสูจน์ด้วยตามามากมายในอดีต แต่ดันเป็นช่วงขาลง ทำอะรก็เหมือนจะผิดที่ ผิดเวลาไปซะทุกอย่าง ถถถถ
ต้องยอมรับว่าในช่วง “จุดเปลี่ยน” ในยุค ซัมซุง ปะทะ ไอโฟน นั้นไม่มีใครมีที่ยืนเหลืออยู่ แม้แต่แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Nokia และ Windows Phone ที่ทุกวันนี้ยังดิ้นรนเหมือนเพื่อนร่วมยุคอย่าง บีบี ของเรา ในขณะซึ่งแบรนด์ที่เหลือรอดจาก “มหาสงคราม” ในครั้งนั้นเป็นแบรนด์จีนเกือบทั้งหมดอย่างที่กล่าวไปในรีวิว OnePlus 6 ที่ผ่านมา
และเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ฺBlackBerry ก็เปิดตัว BlackBerry KEY2 อย่างเป็นทางการเโดยมีความจุ 64 GB และ 128 GB มีสีเงิน และ ดำล้วน ซึ่งที่น่าสนใจคือ วางจำหน่าย 2 สเปคคือ แบบใส่ 2 SIM และ แบบ 1 SIM ซิมซึ่งตลาดที่จำหน่าย 2 SIM มีดังนี้
- จีน
- เยอรมันนี
- ดูไบ / UAE
- ซาอุดิอารเบีย / KSA
สเปคอย่างเป็นทางการ BlackBerry KEY2
- ขนาดตัวเครื่อง 151.4 x 71.8 x 8.5 มม.
- น้ำหนัก 168 กรัม
- หน้าจอ 4.5 นิ้ว ความละเอียด 1620 x 1080 พิกเซล 434 ppi
- ซีพียู Sanpdragon 660 ความเร็ว 2.2 GHz + 1.8 GHz
- ชิพกราฟฟิก Adreno 512
- แรม 6 กิ๊ก
- หน่วยความจำในตัวเครื่อง 64 หรือ 128 กิ๊ก
- กล้องหลังคู่ 12 ล้านฯ f/1.8, 1/2.3″, 1.55µm และ 12 ล้านฯ f/2.6, 1.0µm,
- กล้องหน้า 8 ล้านฯ f/2.0
- แบตเตอรี่ 3,500 มิลิแอมป์
- รองรับสแกน ลายนิ้วมือ
- มีรุ่น 1 SIM และ 2 SIM แล้วแต่ประเทศที่จำหน่าย
- ราคากลางรุ่น 64 GB คือ 649 USD
KEY2 พัฒนาจาก KEYone อย่างไร
- ตัวเครื่องยาวขึ้น แต่บางลง และ เบาลง
- CPU Sanpdragon 660 ตัวใหม่ ประหยัดพลังงาน
- ได้แรม 6 กิ๊ก ใช้งานลื่นไหลกว่าเดิมเท่าตัว
- ปุ่มกดใหญ่ขึ้นประมาณ 20% ทำให้กดใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- แป้นพิมพ์ QWERTY เปลี่ยนจากดำเงา เป็นดำด้านทำให้กดดีกว่าเดิม
- พัฒนาให้การกดปุ่มมีอารมณ์ คลิ๊ก ๆ เหมือน Bold ในตำนาน พิมพ์สนุกกว่า KEYone เยอะ
- มาพร้อมแอนดรอยด์ตัวล่าสุด
- กล้องหลังเปลี่ยนเป็นกล้องคู่ พร้อมฟีเจอร์เพิ่ม
- กล้องหน้าพัฒนาขึ้นโดยปรับจาก f/2.2 เป็น f/2.0 สวยขึ้นแน่นอน
อุปกรณ์ในกล่องประกอบด้วย
- BlackBerry KE2
- สายดาต้า / ชาร์จ
- หัวปลั๊กชาร์จไฟบ้าน
- หูฟัง
- ซิลิโคนหูฟังสำรอง
- เข็มจิ้มซิม
- คู่มือฉบับย่อ
KEY2 มาพร้อมกับ FastCharge เหมือนเดิม ผมลองชาร์จจาก 60% ไป 90% ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีโดยประมาณ แต่เพิ่งลองได้ครั้งเดียว ไว้ยาว ๆ ค่อยว่ากันใหม่
นอกจากอุปกรณ์มาตรฐานที่สมาร์ทโฟนยุคปัจจุบันมีมาให้ในกล่องแล้ว ส่งที่ BlackBerry ยังคงแถมให้เหมือนเดิมคือ หูฟังพร้อมโลโก้ บีบี สวยงาม รูปทันสมัย และแน่นอน นั่นแสดงว่าเรายังมีรูหูฟังอยู่นะจ๊ะ ปรบมือสิครับจะรออะไร 555
อ้อ นอกจากนั้น ด้วยความที่เค้าพยายามคงคอนเซ็ปต์เดิมของบีบี เค้ายังคงแถมซิลิโคนสำรองอีก 2 คู่ ให้เลือกใช้ตามสรีระของเราด้วย เดี๋ยวนี้มีน้อยมากที่แถม เพราะส่วนใหญ่ตัดช่อง 3.5 มม. ไปหมดแระ
แต่น แตน แต๊นนนนนนนน
ชาว BBAddict ครับ กระผมขอเสนอ BlackBerry KEY2 บีบีระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นใหม่ล่าสุดของโลก ตัวเป็น ๆ ในประเทศไทย เครื่องหิ้วมาบุญครองสีเงิน ความจำ 64 กิ๊ก รองรับ 2 ซิม เมนูไทยครบ พิมพ์ไทยครบถ้วน โดนมาเต็มสูบเพราะของเข้าวันแรกจัดไป 24,500 บาท คงไม่ต้องบอกร้านไหน ของเข้าปุ๊ปแหม LINE มาทันที พี่ก็จัดไปแบบไม่ลังเล
ตัวเครื่องเบา และ บางกว่าเดิมเยอะมาก โดยมีน้ำหนักแค่ 168 กรัม เทียบกับ คีย์วัน ที่มีน้ำหนักสูงถึง 180 กรัม ถือว่า แบล็คเบอรี่ เค้าปรับปรุงเรื่องน้ำหนักมาดีมาก ๆ หยิบจากกล่องครั้งแรกรู้สึกถึงความเบา และ บางลงกว่าเดิมทันที
ปล. เทียบกับ KEYone แล้ว เจ้า KEY2 บางลงถึง 1 มม.!!!!
หน้าจอยังคงขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียด 1620 x 1080 พิกเซล 434 ppi เท่าเดิม ปุ่มโฮม-ย้อนกลับ-Task manager ถูกปรับจากแสดงตลอดเวลา เป็นแสดงเฉพาะเวลาหน้าจอติด โดยรวมทำให้ตัวเครื่องดูดีขึ้นเยอะ แป้นพิมพ์ได้รับการออกแบบปรับปรุงใหม่ แป้นพิมพ์ใหญ่ขึ้น 20% มาพร้อมผิวสัมผัสที่เปลี่ยนจากดำเงาเป็นดำด้าน รวมถึงการออกแบบไส้ในใหม่ จำลองการกดได้อารมณ์ Bold 9900 กลับมาใหม่
กดทุกปุ่ม คลิ๊กถึงใจทุกปุ่ม…..คนรักบีบี รับรองพิมพ์แล้วฟินแน่นวล เพราะมันได้อารมณ์เดียวกับสมัยนั้นเป๊ะ ๆ นี่แหละสิ่งที่สาวกถวิลหา
กิมมิกที่ใช้แป้นพิมพ์เป็น touch pad เลื่อนหน้า ขึ้น-ลง ซ้าย-ขวา ต่าง ๆ จาก KEYone มาครบถ้วน จะปัดขึ้นเพื่อเลือกคำที่เดา จะตวัดกลับเพื่อลบคำผิด หรือ สั่งพิมพืด้วยเสียงทำได้หายห่วง เรียกว่าเป็นมือถือสำหรับคนที่จำเป็นต้องพิมพ์เยอะ ๆ จริง ๆ
ส่วนภาษาไทยยังคงไม่สามารถพิมพ์บนแป้นพิมพ์ไม่ได้เช่นเคยนอกจากจะลงโปรแกรมแก้ ที่ไม่เสถียรเอาเสียเลย ดังนั้นไม่ต้องถามนะจ๊ะ แนะนำพิมพ์บนหน้าจอ
นอกจากนั้น KEY2 ยังเพิ่มปุ่ม Shortcut มาให้ (วงกลมสีแดง) โดยปกติเราสามารถตั้งปุ่มลัดได้ทุกปุ่มบนแป้นพิมพ์ ซึ่งสายขอ PIN น่าจะเคยตั้งกันมา เช่น กด C จะเรียก Chrome Browser หรือ กด L จะโทรหากิ๊ก อะไรงี้
ซึ่งทั้งหมดนั้นต้องกดจากหน้าโฮมเท่าน้้น ซึ่งหลายคนบอกไม่สะดวก แบล็คเบอรี่ เค้าเลยจัดปุ่มเพิ่มให้ โดยเรากดปุ่มนี้คู่กับปุ่มลัดที่ต้องการ จะสามารถเรียกโปรแกรมลัดจากหน้าไหนก็ได้ สะดวกกว่าเดิมเยอะมาก เช่น กำลังพิมพ์ email อยู่ แต่อยากกลับไปดูรูปที่ถ่ายไว้ก็กดปุ่มลัดใหม่นี้ได้เลย เท่าที่ลองบอกเลยสลับแอพฯ เร็วเทพ
ตัวเครื่องมีขนาดยาวกว่าเดิม แค่บกว่าเดิม รวมถึงขอบรอบตัวเครื่องไม่โค้งมนเหมือนเดิม ฟังเหมือนจะจับไม่สบายมือ แต่เอาเข้าจริง ๆ แบบนี้ทำให้กระชับกว่าเดิม หากใครเคยใช้ KEYone มาจะรู้ว่าน้องวันถ้าไม่ใส่เคสจะลื่นมาก ๆ กลับกันน้องคีย์ทู ไม่ใส่เคสถือสบายมือมาก
เรื่องความแรงไม่ต้องพูดถึง ตัวนี้เป็นซีพียู ตัวกลาง Sanpdragon 660 ความเร็ว 2.2 GHz + 1.8 GHz ชิพกราฟฟิก Adreno 512 เน้นการทำงาน และ แบตเตอรี่อึดทนเพราะมังกร 660 ตัวนี้กินพลังงานต่ำมาก ทำให้แบตเตอรี่ขนาด 3,500 มิลิแอมป์อยู่ได้วันครึ่งสบาย ๆ
ด้านหลังเป็นวัสดุยางทำลาย diamond cut ยิ่งทำให้กระชับมือมาก ๆ มีโลโก้ บีบี ทึ่คุ้นเคยอยู่ตรงกลาง
ด้านบนเป็นกล้องหลังคู่ 12 ล้านฯ f/1.8, 1/2.3″, 1.55µm และ 12 ล้านฯ f/2.6, 1.0µm โดยการใช้กล้อง 2 ตัวจะทำให้ได้ภาพที่มีมิติมากขึ้น น่าเสียดายที่ไม่มี portrait mode ส่วนการถ่ายรูป และ วีดีโอจะงดงามแค่ไหน รอนิดเดียว เดี๋ยวจัดให้เช่นเคย
ช่องใส่หูฟังยังคงอยู่ด้านบนเหมือนเคย ทำให้การใช้งานสะดวกมาก โดยเฉพาะเวลาเอาใส่กระเป๋าเสื้อ แล้วใช้สมอลทอล์คประชุมทางโทรศัพท์
ด้านล่างของตัวเครื่องมีการปรับปรุงการออกแบบใหม่ แต่ตำแหน่งต่าง ๆ ยังคงตามมาตรฐาน ช่อง USB-C เชื่อมต่อโอนข้อมูลรวดเร็ว ชาร์จเร็ว ลำโพงเสียงดังลั่นมาก พี่ลดเสียงริงโทนแทบไม่ทัน ^^!
ปุ่มต่าง ๆ โดนย้ายไปด้านซ้ายของตัวเครื่อง หรือ ด้านขวาของเราก็แล้วแต่จะเรียก แต่ที่เป็นการปรับที่ผมชอบมาก ๆ เพราะจริง ๆ แอนดรอยด์เกือบทั้งหมดปุ่ม power อยู่ข้างซ้ายกันหมดแล้ว ทำให้ด้านขวาของตัวเครื่องจะเรียบร้อยมาก มีเพียงถาดใส่ซิม/เมมฯ เท่านั้น
โดย KEY2 จะเป็น 2 ซิมแบบไฮบริด คือ SIM2 เลือกใส่ซิม หรือ เมมฯ ขนาด MicroSD ได้
ปุ่มทั้งหมดรวมตัวอยู่ด้านเดียวกัน โดยปุ่ม power จะมีลายอยู่ทำให้สามารถกดได้อย่างแม่นยำแม้ไม่ต้องมอง โดยปุ่มล่างสุดเป็นปุ่ม convenience key ที่เราสามารถตั้งค่าได้เพียบ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังคราวหน้า
ด้านหน้ามาพร้อมเซ็นเซอร์ต่าง ๆ รวมถึงไฟ led บอกสถานะข้อความเตือนต่าง ๆ รวมถึงกล้องหน้า 8 ล้านฯ f/2.0 ที่คมชัดสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ
หลังจากที่เคยใช้ BlackBerry KEYone เมื่อปีก่อน สาวกตัวจริงอย่างพี่ดีใจมากที่ได้แกะกล่องลองเล่น KEY2 ตัวนี้ สำรับสาวกแล้ว การได้กลับมากดแป้นพิมพ์อีกครั้งพร้อมฟิลลิ่งการกดที่ “มันใช่” ในครั้งนี้ คงเขียนเป็นตัวหนังสือไม่ได้ แต่เชื่อว่าคนที่รักปุ่มกด เด็กโข่งจากยุค “ขอพินเธอหน่อยได้ไหม” คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก
โดยรวมมันพัฒนาจากเดิมไปเยอะมาก คือมันเป็นความเก่า เก๋า แต่ใส่ลูกเล่นเข้าไป มันยังมีทุกอย่างที่คนยุคนั้นรัก ไม่ได้ตัดไปจนหมดเหมือนถือถือยุคใหม่ ๆ ที่น่าชัดใจ แต่ใส่เทคโนโลยีของวันนี้เข้าไป อย่างซอฟท์แวร์ตัวล่า ฟีเจอร์ล้น ๆ ซีพียู แรมเหลือเฟือ กล้องคู่ พร้อมพัฒนาฟีเจอร์เก่า ๆ ให้เก๋ากว่าเดิมอย่างแป้นพิมพ์ ปุ่มลัด และอีกมากมาย ทำให้มันเป็นส่วนผสมของทั้ง 2 โลกได้อย่างลงตัว
BlackBerry หาจุดยืนของตัวเองได้แล้ว ในมุมที่ตัวเองแข็งแกร่งที่สุด นั่นคือ การเป็นมือถือที่มีแป้นพิมพ์เต็ม QWERTY มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนทำงาน ผู้บริหาร คนที่เน้นใช้สมาร์ทโฟนเพื่อ Productivity มากกว่า Entertainment หรือ แปลง่าย ๆ ว่า เป็นคนซื้อมือถือมาใช้ ไม่ได้เอามาเล่น
มันคือมือถือที่เกิดมาเพื่อ “Get the Job DONE!!!” อย่างแท้ทรู
ทิ้งท้ายไว้ด้วยภาพเปรียบเทียบ BlackBerry KEYone vs KEY2 แล้วเจอรีวิวภาคต่อเร็ว ๆ นี้ว่าการใช้งานต่าง ๆ จะเป็นอย่างไร กล้องแจ๋วแค่ไหน ใครอยากให้รีวิวจุดไหนเป็นพิเศษทิ้งคอมเม้นท์ได้ที่หน้าเพจเลย
วันนี้ป่วย ปั่นได้แค่นี้ ผิดพลาดตรงไหนขออภัยล่วงหน้าครับ
เทียบเสปค KEYone vs KEY2
KEYone | KEY2 | |
ขนาดตัวเครื่อง | 149.1 x 72.4 x 9.4 | 151.4 x 71.8 x 8.5 |
น้ำหนัก | 180 กรัม | 168 |
แป้นพิมพ์ | QWERTY | QWERTY |
ขนาดหน้าจอ | 4.5 นิ้ว | 4.5 |
ความละเอียด | 1620 x 1080 | 1620 x 1080 |
433 ppi | 434 ppi | |
ซีพียู | Snapdragon 625 | Sanpdragon 660 |
ความเร็ว | 2.0 GHz | 2.2 GHz + 1.8 GHz |
ชิพกราฟฟิก | Adreno 506 | Adreno 512 |
แรม | 3 / 4 กิ๊ก | 6 กิ๊ก |
หน่วยความจำ | 32 กิ๊ก | 64/128 กิ๊ก |
กล้องหลัง | 12 ล้านฯ f/2.0, 1/2.3″, 1.55µm | 12 ล้านฯ f/1.8, 1/2.3″, 1.55µm |
12 ล้านฯ f/2.6, 1.0µm, | ||
กล้องหน้า | 8 ล้านฯ f/2.2 | 8 ล้านฯ f/2.0 |
แบตเตอรี่ | 3,505 มิลิแอมป์ | 3,500 มิลิแอมป์ |
ปลดล็อค | ลายนิ้วมือ | ลายนิ้วมือ |
SIM | SIM เดียว | SIM เดียว |
ราคาเปิดตัว | 549 USD | 649 USD |
_______________________________________
ชอบ #ซื้อเองรีวิวเองไม่ต้องอวย
ฝากกดไลค์ติดตามเพจ “ไลฟ์สไตล์ไอที กับพี่อาร์ต” ด้วยนะจ๊ะ