รีวิวแกะกล่อง Huawei P10 Plus สเปคแรง กล้อง Leica หน้าตาดี

Huawei P10 Plus ที่จุดขายคือกล้องคู่ Leica ที่เค้าคาดกันว่ามันเป็นมือถือที่จะมาเขย่าบัลลังก์ Samsung

ส่วนจะเขย่าได้หรือไม่คงต้องมามองเกมส์กันว่า Samsung แก้คืนจากอาการเป๋ Note 7 ระเบิดได้ดีแค่ไหน โดยเท่าที่สัมผัสแบบชาวบ้าน รู้สึกได้เลยว่ากระแสของ P10 และ P10 Plus ค่อนข้างดีทีเดียว

P10 เปิดขายก่อน และพี่อาร์ตก็ได้แต่มองบน เพราะชอบจอใหญ่ และ ต้องการทดสอบกล้อง Leica ตัวใหม่ที่มีเฉพาะ P10 Plus เท่านั้น จึงต้องรอวันจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันนี้ คือวันที่ 10 เมษายน ด้วยค่าตัว 23,900 บาท พร้อมของแถมมากมาย และผ่อน 0% กับบางตัวแทน

พี่นี่รีบไปซื้อ รีบกลับบ้านมาปั่นรีวิวโดยพลัน เพราะพรุ่งนี้ต้องบินพาครอบครัวไปเที่ยวฮ่องกง จะได้พาน้อง P10 Plus ไปทดสอบกล้องกันด้วย

บล็อคเกอร์สายไม่เกรงใจแบรนด์นี่ต้องอาศัยซื้อเครื่องมารีวิวเอง แบรนด์ไม่ได้ให้ยืมเครื่องมาทดสอบก่อนเหมือนท่านอื่น ๆ แถมเวลาเค้าเชิญไปงานเปิดตัวก็มักจะติดภารกิจทุกที……รีวิวพี่เลยต้องอ่านกันสด ๆ ในวันจำหน่ายจริง 555

สเปคอย่างเป็นทางการ Huawei P10 Plus

ขนาดตัวเครื่อง 153.5 x 74.2 x 6.98 มม.
น้ำหนัก 165 กรัม
หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล
ซีพียู Kirin 960 ของ Huawei แบบ Quad-Core ความเร็ว 2.4 + 1.8 GHz
แรม 4 กิ๊ก
หน่วยความจำในตัวเครื่อง 64 กิ๊ก
เพิ่มเมมโมรี่แบบ Micro SD ได้สูงสุด 256 กิ๊ก โดยใช้ช่อง SIM 2
กล้องหลัง 20 ล้านพิกเซล เลนส์คู่ Leica มหาเทพ f/1.8
กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Leica f/1.9
แบตเตอรี่ 3,750 มิลิแอมป์ พร้อมระบบ Super Charge
รองรับ 2 ซิมแบบ Nano SIM
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 7.0

ฟีเจอร์เด็ด 7 ประการของ Huawei P10 Plus

กล้องหลังเลนส์คู่ Leica คือ เลนส์ขาว-ดำ 20 ล้านพิกเซล และ เลนส์สีปกติ 12 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์ SUMMILUX ดีกว่า P9 Plus ตัวเดิมแถมระบบ Leica Dual Camera 2.0 Pro Edition พร้อมระบบกันสั่น OIS, Hybrid Zoom 2 เท่า และ 4-in-1 hybrid auto-focus
กล้องหน้าคราวนี้ใช้เลนส์ Leica แล้ว เซลฟี่หล่อ ๆ สวย ๆ หายห่วงเพราะมีระบบ Adaptive Selfie ที่กล้องจะปรับเฟรมให้อัตโนมัติเมื่อมีคนอยู่ในเฟรมมากขึ้น…….คนเยอะมุมจะกว้างขึ้นอัตโนมัติว่างั้น
แบตสุดอึดขนาด 3,750 มิลิแอมป์ พร้อมระบบ Super Charge ยัดไฟเร็ว ใช้งานยาวนานหายห่วง
ปุ่มโฮมสแกนลายนิ้วมือแบบใหม่ใช้งานได้ 3 หน้าที่ คือแตะเพื่อ back, กดค้างเพื่อเรียกหน้า home และถ้ารูดจะเปิด recent apps หรือ สามารถเลือกตั้งใช้งานปุ่มบนหน้าจอเหมือนเดิมก็ได้เช่นกัน เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง
Huawei Geo Technology ระบบช่วยให้การใช้งาน GPS แม่นยำขึ้นด้วยการใช้ข้อมูล offline ประกอบ
ตัวเครื่อง และ แผงวงจรภายในเคลือบสาร Nano-Coating ป้องกันน้ำ และ ความชื่น ทำให้สบายใจได้ในระดับนึง
หน้าจอ 2K QHD โคตรคมขัด พร้อม Corning Gorilla Glass 5 ป้องกันรอยขีดข่วน

แกะกล่อง

อุปกรณ์ในกล่องประกอบด้วย

ตัวเครื่อง
สายดาต้า USB-Type C
หัวปลั๊กชาร์จไฟบ้าน
หูฟังแบบ In-Ear
ที่จิ้มซิม
เคสใส
คู่มือ
ใบรับประกัน

อุปกรณ์ต่าง ๆ มีให้มาอย่างครบครันไม่น้อยหน้าใคร แถมมีเคสใสมาให้ในกล่องเลย ที่สำคัญตัวนี้มีฟิลม์กันรอยมาให้แล้วด้วย เรียกได้ว่าซื้อออกจากช๊อปแล้วไม่ต้องไปเข้าร้านตู้ติดฟิลม์ หรือ ซื้อเคสกันเลย

อุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นสีขาวบริสุทธิ์สบายตา คุณภาพเยี่ยมมาก ทั้งหัวปลั๊กแบบ Super Charge สาย USB Type C ที่เป็นมาตรฐานใหม่ของวงการแอนดรอยด์ และ หูฟังหน้าตาเหมือน EarPod ของค่ายผลไม้แหว่ง

คู่มือมีภาษาไทยมาให้เรียบร้อย

เคสอยู่ในกล่องพร้อมกับเข็มจิ้มซิม

แต่น แตน แต๊นนนนนนน Huawei P10 Plus มาแล้ว……

คราวนี้จัดสีดำมารีวิวให้ชมกัน ผิดกับทุกครั้งที่มักจะเอาสีขาว สีทอง หรือ สีชมพู ด้วยเหตุที่เค้าวางขายแค่ 3 สีในตอนนี้คือสีดำ น้ำเงิน และ ทอง

สีน้ำเงินหมด สีทองไม่เข้ากับดีไซน์ตัวเครื่องอย่างแรง เลยเหลือตัวเลือกเดียวคือสีดำดุดัน ให้ความเข้มขรึมดีทีเดียว

Huawei P10 Plus มาพร้อมหน้าจอ 5.5 นิ้ว ขนาดในมือพี่นี่กำลังดีมีความละเอียด 2K QHD 1440 x 2560 พิกเซล สีจัด คมชัด และ สว่างมากจนต้องลดความสว่างลงเหลือครึ่งเดียวเพื่อความสบายตา

ซีพียู Kirin 960 เหมือนใน Mate 9 และ Mate 9 Pro พร้อมเทคโนโลยี Machine Learning ที่เค้าเคลมว่าเครื่องจะไม่หน่วงเมื่อใช้งานไปนาน ๆ …….ต้องรอพิสูจน์กันยาว ๆ ป่านนั้นไม่รู้ลืมกันไปหรือยังว่ามันต้อง “ไม่หน่วง” O_o$

คราวนี้ Huawei มีการใช้ฝาหลังที่แตกต่างกันในในแต่ละสี บางสีจะเป็นพื้นผิวแบบ Diamond Cut ลายสามเหลี่ยมปิรามิดที่เล่นแสงเหลือบสีอย่างน่าสนใจ สีที่มีขายในตอนนี้คือ ดำ ทอง และ น้ำเงิน

ถ้าเป็นเครื่องสีขาวจะใช้พื้นผิวแบบ เซรามิค หรือ สีขาว High Gloss มันวาวสุด ๆ แบบไม่ต้องไปเคลือบแก้ว เสียดายไม่เข้ามาขายในตอนนี้ ^^

เท่าที่ลองจับเครื่องโชว์สีทอง จะเป็นพื้นผิวลายขวาง จับแล้วจั๊กกะจี้จนตัดสินใจซื้อสีดำด้านมารีวิวอย่างที่เห็น โดยสีดำจะเป็นดำแบบด้าน ลดรอยนิ้วมือ

กล้องหลังเลนส์คู่ Leica คือ เลนส์ขาว-ดำ 20 ล้านพิกเซล และ เลนส์สีปกติ 12 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์ SUMMILUX ดีกว่า P9 Plus ตัวเดิมแถมระบบ Leica Dual Camera 2.0 Pro Edition พร้อมระบบกันสั่น OIS, Hybrid Zoom 2 เท่า และ 4-in-1 hybrid auto-focus

เท่าที่ลองถ่ายเล่น ๆ 3 – 4 ภาพ ผมว่าภาพสีสดกว่า P10 Plus แก้ไขโทนสีมืดที่น่าผิดหวังได้ดีทีเดียว เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวฮ่องกงแล้วเก็บรูปมาฝากน้า ตอนนี้เอาภาพแซมเปิ้ลมาฝากก่อนภาพนึง

กล้องหน้าที่มาไม่เต็มจากครั้ง P9 Plus คราวนี้แก้ตัวใหม่ จัดเต็มด้วยการใช้เลนส์ Leica เซลฟี่หล่อ ๆ สวย ๆ ละลายหลังสวยงามหายห่วง แถมความเทพด้วยระบบ Adaptive Selfie ที่กล้องจะปรับเฟรมให้อัตโนมัติเมื่อมีคนอยู่ในเฟรมมากขึ้น…….คนเยอะมุมจะกว้างขึ้นอัตโนมัติว่างั้น

คิดดูละกันว่ากล้องหน้า Leica เจ๋งขนาดไหน ขนาดเซลฟี่บนแท๊กซี่ยังดูดีได้ขนาดนี้ (ภาพนะ ไม่ใช่พี่)

ปุ่มโฮมที่ทำหน้าที่เป็นตัวสแกนลายนิ้วมือ และเป็นปุ่มควบคุมการใช้งานไปในตัว โดยการแตะเบา ๆ จะเป็นการย้อนกลับไปหน้าที่แล้ว หากกดแรงแช่ไว้จะกลับไปหน้าโฮม ถ้าจะเปิด multi task หรือ ปิดแอพฯอย่างเร็ว ให้รูดนิ้วจากขอบผ่านไปบนปุ่ม จากซ้ายไปขวา หรือ ขวาไปซ้ายก็ได้

ส่วนใครใช้ไม่ชินสามารถเปลี่ยนไปใช้ปุ่มบนหน้าจอได้ในหน้าการตั้งค่าได้เช่นกัน

ตั้งแล้วจะได้หน้าตาปุ่มควบคุมที่คุ้นเคย

ตัวเครื่องขอบโค้งมนโดยรอบเหมือนไอโฟนเป๊ะ ๆ เลย แต่เจ้าหัวเหว่ยนี้มีขนาดที่บางมาก บางเพียง 6.98 มิลลิเมตร เท่านั้น บางกว่า และ เบากว่าไอโฟน 7 พลัส โดยรวมถือจับถนัดมือดี ไม่ใครเคสไม่ค่อยลื่นเท่าไหร่ (ถ้าเหงื่อไม่ออก)

โดยด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นปุ่มปรับเพิ่มลดเสียง และ ปุ่ม Power ที่ตัดขอบแดงสวยงาม มองเห็นชัดเจนกดไม่ผิดแน่นอน

ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นถาดใส่ซิมแบบไฮบริด คือช่อง SIM1 เอาไว้ใส่ซิม ส่วน SIM2 สามารถเลือกใส่ได้ว่าจะเอา SD Cardเพิ่มเมม หรือจะใส่ซิมโทรหากิ๊ก

ถึงแม้ว่า P10 Plus จะใส่ได้ 2 ซิม แต่เป็นเทคโนโลยีเก่าที่น่าเสียดาย ไม่สามารถใช้งาน 2 ซิมพร้อมกันได้ตามที่ระบุไว้ในคู่มือชัดเจน ถ้าใช้ซิม 1 โทรอยู่ แล้วมีคนโทรเข้าซิม 2 จะโทรไม่ติด เหมือนอยู่นอกเขตสัญญาณ ต่างกับซัมซุงรุ่นหลัง ๆ ที่สามารถสแตนบายรับสายได้ทั้ง 2 ซิมแบบสายซ้อน

ด้านล่างตัวเครื่องมาแนวซัมซุง โดยโคลนไอโฟนกันมาแบบเนียน ๆ O_O! กระนั้นก็ตาม ผมก็ไม่รังเกียจนะ สวยดี 555

ช่องต่าง ๆ ก็มาตรฐานนะ ช่องเสียบหูฟัง ลำโพง ช่อง USB Type-C ที่ช่วยให้ชาร์จเร็วขึ้น และ โอนถ่ายข้อมูลเร็วขึ้น

ด้านบนมีอินฟราเรทสามารถใช้ร่วมกับแอพฯ ได้หลายตัว และ สามารถใช้เป็นรีโมทควบคุมระยะไกลได้ ส่วนรูปเล็ก ๆ ข้าง ๆ กันเป็นไมโครโฟนถ่ายวีดิโอ

โดยรวมตัวเครื่องผมชอบมาก วัสดุ การประกอบ เยี่ยมยอดให้ความประทับใจตั้งแต่เปิดกล่องออกมาครั้งแรกทีเดียว อีกทั้งยังต้องตะลึงกับบรรดาของแถม #ชุดใหญ่ไฟกระพริบ ซึ่งเค้าแถมแคสมาให้ 2 อัน คือ เคสใสอย่างดีที่มีมาในกล่อง และ เคส Leica หนังแท้

เคสใสแนบตัวเครื่อง ถอด-ใส่ ง่ายมาก แค่ระวังไม่ให้กินขอบเท่านั้น

ส่วนเคส Leica ก็เป็นเคสหนังที่ปั๊มโลโก้ Leica นั่นแหละ ไม่ได้ช่วยในการถ่ายภาพเท่าไหร่ แค่เพิ่มความฮิโซเท่านั้น 555

เคส Leica แบบหนังให้สัมผัสที่นุ่มลึก ^^

นอกจากเคสที่ว่ามา ของแถมอื่น ๆ ที่ไม่ต้องจองก็ได้ชุดใหญ่เหมือนกัน คนจองคงเสียใจน่าดู

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนวางแผนให้ขายวันที่ 10 เมษา ทั้ง ๆ ที่มันเป็นวันรอยต่อของวันหยุดยาวที่คนเริ่มออกไปเที่ยวสงกรานต์กันหมดแล้ว จากการสอบถามพนักงานหน้าร้านเกือบทุกร้าน ของเข้าตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ได้แต่เก็บไว้ในสต็อคมองตาปริบ ๆ เอาออกมาขายไม่ได้ วันนี้พี่เดินไปซื้อ ทุกร้านเงียบมาก แหม ขนาดถนนยังโล่ง คงต้องรอให้คนกลับจากสงกรานต์ค่อยว่ากันใหม่

เอ้าของแถมมีอะไรบ้างเลื่อนลงไปดูเลย