รีวิว Buddyphones หูฟังเด็ก….ไอเทมเด็ดที่พ่อ-แม่ควรมี

หูฟังเด็ก ไอเท็มจำเป็นสำหรับขุ่นพ่อ ขุ่นแม่ ตัวนี้น้ำหนักเบา ทนทานแข็งแรง ที่สำคัญมันคุมความดังของเสียงให้ดังพอดีไม่ทำร้ายหูลูกน้อย พันกว่าบาทเอง

จาก เทคนิคการพาครอบครัวและลูกเล็กไปเที่ยวต่างประเทศ แบบ xenon_art เคยแนะนำหูฟังเด็กแบบครอบหัวขนาดเล็ก พอดีหัว ใช้งานสะดวกตามภาพด้านล่างสมัยลูกชายใช้ ล่าสุดลูกสาวสุดเลิฟกระชากเล่นจนสายขาด “พัง” เป็นที่เรียบร้อย

ไปตามหาหูฟังอันใหม่ หลังจากค้นคว้าก็พบกับ Buddyphones onanoff ซึ่งมีขายหลายรุ่น ราคาเริ่มต้นพันกว่าบาท และ รุ่นท๊อปสุดคือ รุ่น inflight ราคา 1,890 บาท ซึ่งราคาไม่แพงเลย เพราะไปเห็นที่สิงคโปร์ราคาไม่ต่าง ซื้อเมืองไทยง่ายสุด

เดี๋ยวนะ!!…..ใครสงสัยว่าทำไม่ต้องซื้อหูฟังให้ลูกอ่านต่อตรงนี้ ใครรู้อยู่แล้วข้ามไปรูปล่างได้เลย

เหตุผลที่ควรมีหูฟังให้ลูก

เพื่อเป็นการไม่ให้เสียงจากอุปกรณ์รบกวนคนรอบข้าง…..มันคือมารยาททางสังคม
เพื่อให้ลูกฟังเสียงในระดับที่เหมาะสม ไม่ทำลายประสาทการได้ยิน
หูฟังเด็กย่อมพอดีหัวกว่าของผู้ใหญ่ ใส่พอดีน้องไม่งอแง

หูฟังมีหลายสี ราคาเท่ากันคือ 1,890 บาท หาซื้อได้หลายที่ โดยพี่ไปซื้อจากร้าน Little Monkey เซ็นทรัล พระราม 9 ชั้นใต้ดิน ออกจากรถไฟใต้ดินมา เดินเข้าห้างฯ เป็นร้านเล็ก ๆ เลยร้าน Matsumoto Kiyoshi ไปนิดเดียว

ถ้าไม่สะดวกก็ลองเข้าเวป http://www.buddykid.com/ หรือ Google ดูเอา มีหลายร้าน ซึ่งแบรนด์ onanoff นี้เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งโดยชาวไอซ์แลนด์ ซึ่งมาตั้งรกรากที่ ฮ่องกง ร่วมกันออกแบบรังสรรขึ้นมา และมันปังมากในบ้านเรา เพราะแทบไม่มีตัวเลือกอื่นเลยในตลาดที่จำกัดความดังของเสียงที่ 85 เดซิเบล ซึ่งปลอดภัยสำหรับประสาทหูของลูก ๆ

อุปกรณ์ในกล่องประกอบด้วย

หูฟังสีชมพูน่าร้ากกกก
สายหูฟัง
อะแดปเตอร์แปลงหัวเพื่อใช้บนเครื่องบิน
ถุงผ้าสีเข้ากัน
สติ๊กเกอร์สีตกแต่ง
สติ๊กเกอร์ขาว ให้ระบายสีเอง
สติ๊กเกอร์สำหรับเขียนชื่อ
คู่มือ

สติ๊กเกอร์ประดับประดาที่มีให้เลือกมากมายตามสไตล์เด็กแต่ละคน

ถ้าชอบสร้างสรรค์ก็มีแบบให้ระบายสีเองด้วย

ชอบเรียบ ๆ ก็เอาแบบสีขาวแล้วเขียนชื่อ + รายละเอียดของเราไว้เผื่อหาย

จุดเด่นของ buddyphones รุ่น airplane คือ ถ้าเป็นรุ่นปกติจะมีความดังให้เลือกเพียง 2 แบบ คือเด็กเล็ก และ เด็กโต แต่รุ่น airplane จะมีโหมดเครื่องบินที่มีเสียงดังกว่าเดิมชดเชยการได้ยินที่ลดลงเมื่ออยู่บนเครื่องบินเนื่องจากหูอื้อด้วย ดังนั้นบ้านไหนกะให้ใช้บนเครื่องบินแล้วยังได้ยินเหมือนเดิมต้องรุ่นนี้เท่านั้น มิฉะนั้นพอเครื่องไต่ระดับขึ้นไปปุ๊ปจะแทบไม่ได้ยินเลย

จุดที่ชอบมาก ๆ คือการดีไซน์สายหูฟังเป็นแจ๊กถอดจากชุดครอบหัวได้ เพราะหูฟังอันเก่าที่พังไป สายมันขาดตรงนี้เวลาลูกดึงเล่น แต่ถ้าเป็นแจ๊คแบบนี้ ลูกดึงเล่นแจ๊คจะหลุดออกมา สามารถเสียบกลับเข้าไปได้โดยสายไม่ขาด

นอกจากจุดนี้แล้ว เค้าก็มีการใช้วัสดุที่ทนทานเพื่อเด็กโดยเฉพาะ ไม่ว่าความทนทานของตัวครอบหูฟังที่ไม่หักง่าย ๆ แม้เด็กจะบิดเล่น หรือ ยื้อแย่งกัน แต่ไม่ต้องพิสูจน์นะ เพราะพี่ลองบิดเล่นมาแล้ว บิดไป บิดมา แล้วหูฟังมันดีดกลับมาเป็นทรงเดิมแล้วไปฟาดโดนเพดานรถ (ลองเล่นในรถ) ปรากฏตัวครอบหูไม่เป็นไรเลย แต่ลำโพง (ตรงที่เป็นฟองน้ำ) แตกหลุดออกมาเลย TT

คือ ถ้าใช้แบบเด็กปกติจะทนมาก แต่ถ้าผู้ใหญ่เอามาลองของ อาจพังได้

จุดขายอีกอย่างนึงคือ หัวแจ็คที่เสียบเข้ากับอุปกรณ์เป็นแบบสามารถต่อพ่วงได้ ใช้ได้ดีกรณีแบ่งกันใช้กับคนอื่น สามารถเอาหูฟังมาเสียบพ่วงได้ แบ่งกันดูได้หลายคนในคราวเดียว

พับครึ่ง ใส่ถุง พร้อมลุย

รุ่น airplane มีอะแดปเตอร์ 2 ขาแถมมาให้ด้วย ทำให้เสียบกับช่องหูฟังบนเครื่องบินได้พอดีเป๊ะ หมดปัญหาดูหนังบนเครื่องแล้วหูฟังใหญ่ไปทันที….เจ๋งมาก

เท่าที่ให้ลูกสาวทดสอบใช้งานทริปฮ่องกง 5 วัน 4 คืนที่ผ่านมา ลูกสาวชอบมากเพราะพอดีหัว เวลาไปนั่งดูในที่สาธารณะก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไปรบกวนคนอื่น แถมพ่อแม่ยังไม่ต้องคอยพะวงว่าลูกจะเปิดเสียงดังไปหรือไม่ ที่สำคัญไม่ต้องกลัวว่าลูกจะทำพังหรือเปล่าเพราะมันพังยากมาก

บทสรุป

ถือเป็นหูฟังสำหรับเด็กที่โคตรดี ดีที่สุดในประเทศไทยตอนนี้เลยครับ พ่อ – แม่ ควรมีติดกระเป๋า ติดบ้าน ติดรถเอาไว้เลย ทนทาน สร้างสรร พอดีหัว และ ปกป้องโสตประสาทการฟังได้อย่างดีเยี่ยม

แต่หากมีแผนเดินทานไปฮ่องกงเหมือนพี่อาร์ต บอกได้เลยว่าที่ Toy R Us ฮ่องกงก็มีขายนะ ราคาพอ ๆ กับเมืองไทย ไม่ต้องไปหิ้วให้เสียเวลา นอกเสียจากอยากจะได้แบบน่ารัก ๆ ที่มีให้เลือกมากมาย ที่สำคัญถูกกว่า Buddyphones เยอะทั้ง ๆ ที่จำกัดความดังไว้ที่ 85 เดซิเบลเหมือนกัน ต่างกันตรงไม่มีโหมดเครื่องบินนั่นแหละ