ไปเที่ยวญี่ปุ่นมีของเล่นอะไรให้ซื้อบ้าง ซื้อที่ไหน ราคาเท่าไหร่ เดินทางไปอย่างไร โดยเฉพาะคนมีเวลาไม่มากยิ่งไปกับทัวร์แล้วมีเวลาไม่กี่ชั่วโมง
สำหรับคนไปเที่ยวด้วยตัวเองคงไม่ต้องพูดถึง จ้ดสรรเวลาได้อยู่แล้ว แต่สำหรับคนไปเที่ยวทัวร์ มีเวลาจำกัด หากเค้าไปปล่อยแถวชินจูกุ แนะนำมุ่งหน้าเข้า Bic Camera เยื้อง ๆ อิเชตัน จบสุดแล้ว
ดู Wyatt WorldHD ตะลุยญี่ปุ่น Ep. 6 ช๊อปของเล่นที่ Bic Camera ชินจูกุ
ใครไปกันหลายคน ชอบที่กว้าง ๆ เดินง่าย ๆ มีของเยอะมากมาย ก็มุ่งหน้าไป Yodobashi Camera ซึ่งอยู่ตรงสถานีรถไฟ Akihabara เช่นกัน แต่คนละฝั่งกับตึกของเล่น
ดู Wyatt WorldHD ตะลุยญี่ปุ่น Ep4 ช๊อปของเล่นที่ Akihabara
แต่หากมีเวลามากหน่อย อยากได้ของแปลก ๆ แรร์ ๆ หน่อยต้องมานี่เลย อากิฮาบาระ แหล่งรวมเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ ที่สำคัญ “ของเล่น”
โดยทริปล่าสุดพาลูกชายไปตะลุยรอบที่ 4 แบบไม่มีลูกสาวไปด้วย เลยขึ้นตึกนี้ได้ เพราะมันจะเล็ก ๆ แคบ ๆ เดินขึ้นบันได เด็กเล็กมาไม่สะดวกสุด ๆ โดยเฉพาะหากมีรถเข็น อารมณ์โดยรวมมันคือ สะพานเหล็กแบบไฮโซ สะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบตามสไตล์ญี่ปุ่นนั่นแหละ
อ้อ…..รูดการ์ดได้ไม่มีชาร์จนะจ๊ะ (ส่วนมาก) แถมทำ Tax Free ให้ด้วย ถ้าซื้นเกินหมื่นเยน งานนี้ได้ Masked Rider Drive ของ PBM มาตัวนึง
ที่นี่มีอะไรบ้าง
- กันดั้ม, พลาโมต่าง ๆ
- Hottoys, PBM, Medicom, และ ฟิกเกอร์ 1/6 และ 1/10 มากมาย
- Figma, SH.Figuart, Bandai และ ทุกแบรนด์ญี่ปุ่นที่คุณนึกออก
- การ์ดสะสมต่าง ๆ
- ของเล่นกาชาปองแบบแกะแยกขาย
- อื่น ๆ อีกมากมาย
เรียกได้ว่ามีทุกอย่างนั่นแหละ แต่ของโซนอเมริกาจะน้อย หากจะมีก็แพงหน่อย (เพราะภาษีนำเข้า) แต่คงไม่มีใครบินมาญี่ปุ่นแล้วซื้อของเล่นฝรั่งกระมัง หึ หึ
ที่ประหลาดสุดคืน ไม่มี BearBrick นะ……เดี๋ยวตามล่ากันต่อไป ใครรู้แหล่งโพสบอกหน้าเฟสด้วยนะ
เดินทางอย่างไร
พี่อาร์ต…..นั่งแท๊กซี่สิครับ หอบลูกจูงหลาน โหนรถไฟไม่ไหวหรอก นั่งจากชินจูกุ ประมาณ 3 พันกว่าเยน หรือ ประมาณ พันบาท
หากนั่งจาก โอไดบะ ย่านที่ผมชอบนอนก็นั่งแท๊กซี่ประมาณ 4 พันเยน ก็พันกว่าบาท
แต่หากใครชอบผจญภัย หรือ มีตั๋ว JR แบบเหมา อย่าให้เสียเปล่าครับ จัดการนั่งรถไฟ JR มาลงสถานี Akihabara ได้เลย
ออกมาแล้วมุ่งหน้าสู่ประตูไป Kanda Post Office หรือ ถ้าดูตามแผนที่สถานีเค้าจะเขียนว่า Akihabara Electric Town (วงสีแดงไว้)
เดินออกมาถนนซอยปุ๊ป นั่นแหละครับ คุณถึงสวรรค์ของคนเล่นของแล้ว
ทางซ้ายมือตึกเหลือง ๆ ในรูปด้านบนจะเป็นตึกที่มี Yellow Submarine ร้านดังที่มีสาขามากมาย เน้นกันดั้ม และ พลาโมต่าง ๆ พร้อมขายอุปกรณ์ สี และ สิ่งที่เกี่ยวข้อง ใครชอบต่อโมเดล ขึ้นตึกนี้ไปชั้น 7 เลย
ตรงข้ามกับตึกเหลืองเป็นห้าง Arte1 ไม่ได้ถ่ายรูปมา ขนมอร่อยดี อยู่ชั้น 1 ตรงทางเข้าเลย
ส่วนตึกที่เราจะมุ่งหน้าไปชมกันเป็นตึกปากซอย หัวมุมที่วงไว้ว่า “ตึกของเล่น”
Tips:
ใครไปกับแฟน แล้วแยกกันเดินเพื่อตะลุยตึกของเล่น ก่อนถึงตึกเหลืองในรูปด้านบน จะมีร้าน Mini Pablo ร้านขายชีสพายขั้นเทพอยู่ ซื้อติดมือไปฝากแฟนด้วย รับรองได้ทั้งของเล่น ได้ทั้งรอยยิ้มจากคนที่เรารักกันเลยทีเดียว
ด้านล่างมีตู้กาชาปองให้หยอดสนุกสนาน ใครไม่อยากหยอดก็เดินเข้าไปด้านในได้เลย โดยชั้น 1 จะเป็นร้านย่อย ๆ ประเภทพวกตู้ฝากขายของเหมือนอดีตสะพานเหล็กบ้านเรานั่นแหละครับ มีทั้งพวกของมือสอง ของสะสม Masked Rider และ One Piece มากมาย
แต่ละชั้นจะเป็นแต่ละร้านครับ ชั้นใครชั้นมัน หยิบของข้ามชั้นไม่ได้นะ เดี๋ยวเค้านึกว่าขโมย
โดยแต่ละร้านนั้นจะขายของไม่เหมือนกันเลย ไม่ต้องเดินเช็คราคาให้เสียเวลา บางชั้นขายการ์ดเน้น ๆ บางชั้นเน้น One Piece บางชั้นเน้น Gundam บางชั้นเน้นของเล่นผู้หญิง
เดินไล่ไปทุกชั้น ไม่ซื้อก็เพลินแล้ว 555
คุณลูกสอยปืนทหาร 1/6 มาสะสม พวกนี้ไปฮ่องกงไม่ค่อยมีงานสวย ๆ แต่ที่นี่เยอะเลย
ผมได้รางโชว์ปืนทำจากไม้มา 2 ชุด เอาไว้เรียงสวย ๆ ในตู้โชว์ด้วย….ฟินเลย
ชั้นที่ผมชอบที่สุดเป็นพวก 1/6 Figure มี Hottoys ราคาหน้าร้านให้เลือกเพียบ หากไปฮ่องกงต้นกำเนิดของ Hottoys ยังเจอราคา “ฟัน” เลย แถมรูดการ์ดชาร์ตด้วย
หากหาตามเวปไทยไม่เจอ ไปสอยที่ญี่ปุ่นก็ได้ รูดการ์ดไม่ชาร์ต ทำ Tax Free แถมได้ราคาปกติ (ราคาปลีก) ด้วยแฮะ เล็ง Kyo Ren ไว้ราคาหมื่นเดียว แต่เช็คกับน้องแล้ว ตอนนี้ในไทยก็ขายหมื่นเดียว เลยไม่หิ้ว
ส่วน StromTrooper ถูกกว่าบ้านเราเล็กน้อย
จบแล้วครับ รีวิวสั้น ๆ ง่าย ๆ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่วางแผนจะไปเที่ยวโตเกียวกันนะครับ
ขอให้มีความสุข สนุกกับชีวิต LifeStyle IT ครับ
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ