ในที่สุดก็ได้ Huawei P9 Plus มาครอบครองสนองกิเลศตัวเอง จัดรีวิวแกะกล่อง พร้อมสเปคเบา ๆ มาฝากแฟน ๆ ให้หายคิดถึง หน้าตามันเป็นอย่างไร สีทองจะสวยแค่ไหน
วางจำหน่ายไปได้สักแล้วพร้อมเสียงฮือฮาถึงความเทพของกล้อง Leica ที่เล่าลือกันจนพี่อาร์ตใจแตก แหกตารางงาน วิ่งหาซื้อมารีวิวสนองความอยากรู้ของตัวเอง จนเกิดบทความ
เทียบสเปค Huawei P9 vs P9 Plus จ่ายเพิ่ม 5,000 บาทได้อะไรบ้าง
เกริ่นก่อนว่าตอนแรกคิดว่าจะไม่รีวิวแล้วนะมือถือจีน เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง สเปคคล้าย ๆ กัน หน้าตาคล้าย ๆ กัน และมักจะถล่มกันกันด้วยราคา แต่มาเจอ Huewei P9 / P9 Plus ที่สร้างกระแสได้ดีมาก ๆ ด้วยกล้องเลนส์คู่จากโรงงานผลิดกล้องขั้นเทพ Leica ซึ่งไม่ใช่แค่จ้างเค้าผลิตเลนส์เหมือนที่ยี่ห้ออื่นทำกันเท่านั้น แต่เค้ายัง “ร่วมพัฒนา” กล้องด้วยกัน รวมไปถึงหน้าตาการใช้งานกล้องของ Huawei P9 / P9 Plus
หากใครไม่รู้จัก Leica บอกได้ง่าย ๆ ว่าเค้าคือกล้องถ่ายระดับ “เทพทะลุฟ้า” คือ หน้าตาโบราณ แนวคลาสสิคเหมือนไม่มีพิษสงอะไร แต่ด้านในซ่อนไว้ด้วยเทคโนโลยีกล้องถ่ายรูปทันสมัย ชุดเลนส์ปรานีต ถ่ายภาพออกมาแล้วสวยสุด ๆ แม้จะเป็นคนถ่ายภาพไม่เป็นเลยก็ตาม (พี่หน่ะไปลองมาแล้ว) แน่นอนว่ามันมากับราคาแพงทะลุฟ้า
ทีนี้พอมันมาอยู่ในมือถือพี่จีนอย่าง Huawei พร้อมกับคำว่า “ร่วมพัฒนาโดย Leica” มันเลยเรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างมากไง จากมือถือจีน ๆ ที่จะใช้ก็กล้า ๆ กลัว ๆ กลายเป็นมือถือกล้องเทพที่น่าลิ้มลองในชั่วข้ามคืน
จริง ๆ แล้ว Huawei เป็นแบรนด์จีนยักษ์ใหญ่ไม่ใช่ต๊อกต๋อยนะครับ เค้าเคยผลิดมือถือให้ Google ภายใต้รุ่น Nexus 6p มาแล้ว ซึ่ง Samsung และ Motorola ก็เคยผลิต Nexus ให้ Google เช่นกัน การันตีได้ว่าคุณภาพการผลิตจะต้องได้มาตรฐานแน่นอน (มั๊ง) O_o?
สเปค Huewei P9 Plus
- ขนาดตัวเครื่อง 152.3 x 75.3 x 7 มิลิเมตร
- น้ำหนัก 162 กรัม
- หน้าจอแบบ AMOLED 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมระบบ Press Touch
- ซีพียู HiSilicon Kirin 955 octa-core ความเร็ว 2.5GHz ( quad-core 2.5 GHz + quad-core 1.8 GHz)
- จีพียู Mali T880
- แรม 4 กิ๊ก
- หน่วยความจำในตัวเครื่อง 64 กิ๊ก เพิ่มเมมแบบ MicroSD ได้ (รองรับ microSD การ์ด)
- ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 6.0 Marshmallow พร้อม EMUI 4.1
- กล้องหลังแบบคู่ RGB + Monochrome ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/1.9 พร้อม Auto Focus
- แบตเตอรี่ความละเอียด 3,400 มิลิแอมป์
- ใช้ซิมแบบ นาโนซิม (เล็กที่สุด)
- วางจำหน่ายสีทอง และ เทา
- ราคา 21,900 บาท
Huawei P9 Plus ในมือตัวนี้ซื้อมาจาก AIS Shop ที่ใช้สิทธิเบอร์เดิม จ่ายค่ารายเดือนล่วงหน้า 4,000 บาท แล้วรับส่วนลดทันที 6,000 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากที่สุดในตอนนี้
อุปกรณ์ในกล่องประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง
- สายชาร์จ / สายดาต้า
- อะแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้าน
- หูฟัง
- เข็มจิ้มซิม
- คู่มือฉบับย่อ / ใบรับประกัน
หน้าจอใหญ่ขนาด 5.5 นิ้ว ใช้จอ AMOLED ที่คุ้นตา พร้อมความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกซล ซึ่งให้ภาพคมชัด สีสดใสสวยงาม แอบเสียดายเล็ก ๆ ที่ทำทั้งที Huawei ไม่ยัดจอ Super AMOLED แบบ QHD ที่มีความละเอียดสูงกว่าถึง 2560 x 1440 พิกเซลมาให้….แต่โดยรวมโอเค
ตัวเครื่องสีทองอร่ามประหนึ่งถือทองแท่งไว้ในมือ งานนี้ใครไม่ชอบสีทองร้องให้เลยนะเพราะในไทยเค้านำเข้ามาขายเฉพาะสีทองเท่านั้น เอาสีอื่นเชิญเครื่องหิ้วมาบุญครองจ้า
สำหรับผมโดยรวมสีทองนี่สวยดี ออกโทนสว่างกว่าทำให้ซัมซุงหมองไปเลย 555
กล้องเลนส์คู่ ผลิดโดยบริษัท Leica ใช้เซ็นเซอร์ของ Sony รุ่น IMZ286 ขนาดใหญ่ถึง 1.2 ไมครอน ความละเอียดกล้อง 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 ซึ่งเป็นขนาดกลาง ๆ ของกล้องมือถือเรือธง ในขณะที่ซัมซุงตัวท๊อปขยับหนีไป f/1.7 แล้ว
โดยเลนส์คู่นั้นแบ่งกันเก็บทุกรายละเอียดของแสงด้วยเซ็นเซอร์ RGB และ Monochrome ทำงานร่วมกันโดยการประมวลผลในส่วนที่เป็นสีสันด้วย เซ็นเซอร์ RGB และเก็บรายละเอียดต่างๆของภาพด้วย เซ็นเซอร์ Monochrome ที่ หัวเว่ย บอกไว้หน้าเวปว่า “ทำให้ภาพที่ถ่ายจาก Huawei P9 เป็นภาพที่น่าทึ่ง”
เมื่อร่วมพัฒนาโดย Leica แน่นอนว่าสามารถถ่ายเป็นไฟล์ RAW ได้อีกด้วย โหมดล้ำ ๆ อย่างโหมดโปร และ การถ่ายขาว-ดำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเดี๋ยวได้ลองแน่นอน
ด้านหลังตรงกลางเห็นช่องสี่เหลี่ยมที่บุ๋มลงไปมั๊ย นั่นเป็นปุ่มสแกนลายนิ้วมือเอาไว้ใช้ปลดล็อคเครื่อง แถมในการใช้งานต่าง ๆ ก็จะปรับเปลี่ยนเป็นปุ่มควมคุมที่แตกต่างออกไป อย่างเช่น หากเราอยู่หน้าจอหลัก สามารถรูดบนปุ่มลงมาเพื่อเรียกดูข้อมูลอย่างรวดเร็ว รูดขึ้นเพื่อเก็บแถบข้อมูลนั้น ๆ ได้ด้วย…เออ เจ๋งดีแฮะ
แบตเตอรี่จัดเต็มความจุ 3400 มิลิแอมป์พร้อมระบบชาร์จแบต Dual IC ทำให้ชาร์จแบตเร็วขึ้นไปอีก 60 นาทีได้แบต 70% และเต็ม 100% ใน 110 นาที (หน้าเวปเค้าเคลมไว้แบบนี้)
บอดี้ใช้วัสดุอลูมิเนียมขึ้นรูปแบบ Uni-body เป็นชิ้นเดียวกันเพื่อความเบาแต่ยังคงความแข็งแรง ตัวเครื่องที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยไม่อายแบรนด์เจ้าตลาดจากเกาหลีแต่อย่างใด จับครั้งแรกรู้สึกได้ถึงคุณภาพจริง ๆ ไม่ก๊อกแก๊ก ไก่กาอาราเร่เหมือนมือถือจีนทั่วไป
ด้านข้างซ้ายมือของตัวเครื่องเป็นปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power สีทองขอบแดงน่ารักเชียว
ส่วนด้านขวามือของตัวเครื่องเป็นช่องใส่ซิมการ์ด
ถาดใส่ซิมแบบไฮบริด หรือ 2 ซิมพิการ คือ SIM 1 เป็นช่องเดียว แต่ SIM 2 เลือกเอาว่าจะใส่เมมโมรี่การ์ด หรือ ซิมที่รองรับ 3จี
ด้านบนเรียบง่ายหรูหรากับไมโครโฟนสำหรับอัดเสียงวิดีโอ และ ช่องอินฟราเรท
ด้านล่างตรงกลางเป็นช่องเชื่อมต่อแบบ USB C เทคโนโลยีล่าสุดในปัจจุบัน ช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และ ลำโพงเสียงภายนอก
สามารถเลือกใช้หน้าจอควบคุมปกติ หรือ ใช้แบบง่ายตามภาพด้านบนได้ ช่วยให้ชีวิตยุ่ง ๆ ดูง่ายขึ้นมาทันทีที่หยิบ Huawei P9 Plus มาใช้ ส่วนตัวผมว่าพัก ๆ เปลี่ยนมาเป็นหน้าจอนี้ก็ดีเหมือนกันนะ
หน่วยความจำที่เหลือให้ใช้ในตัวเครื่องจาก 64 กิ๊ก เหลือจริง 54 กิ๊ก (โดยประมาณ)
สิ่งหนึ่งที่พิเศษสำหรับ Huawei P9 Plus คือ ระบบ Press Touch เทคโนโลยีที่แยกแยะแรงกดบนหน้าจอ เพิ่มมิติในการใช้งานและตอบสนองของสมาร์ทโฟนยุคใหม่ ทำให้เข้าถึงทุกรายละเอียดและแอปพลิเคชันบนเมนูอย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งอารมณ์เหมือน Force Touch ของ ไอโฟน
ยอมรับเลยว่าเค้าทำการบ้านมาดีมาก ตัวเครื่องหาที่ติแทบไม่ได้เลย เมนูด้านในมีลูกเล่นเยอะมากบรรยายไม่หมด เดี๋ยวว่าง ๆ จะรวบยอดให้อีกที แต่ยังไงต้องเล่นกล้องให้สนุกก่อน
Huawei P9 Plus มือถือราคา 21,900 บาท ที่อาจหาญมาท้ารบกับเจ้าพ่อจากเกาหลีไม่ใช้จอ Super AMOLED แบบ QHD ที่มีความละเอียดสูงกว่าถึง 2560 x 1440 พิกเซล อย่าง S7 ที่มีราคาต่างกันเพียง 2,000 บาท….น่าคิดนะ
ติดตามรีวิวภาคต่อไปเร็ว ๆ นี้
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้จากหน้าผลิตภัณฑ์ของ Huawei ได้โดยตรงที่นี่
http://consumer.huawei.com/minisite/th/p9plus-th/index.html
ขอให้มีความสุข สนุกกับชีวิต LifeStyle IT ครับ
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ