เทคนิคการขอคืนภาษี ขั้นตอนง่าย ๆ เพื่อนักช๊อป และ ข้อควรระวังเมื่อท่านไปช๊อปที่ยุโรป
++ อัพเดท 11/11/2019 ++
เดิมบทความนี้เป็นบทความขอคืนภาษีในยุโรป แต่ตอนหลังเห็นว่าแต่ละประเทศ มีขั้นตอนต่างกัน เลยอัพเดท แบ่งย่อยเป็นรายประเทศไป และเปลี่ยนเป็น Tax Refund / Tax Free ประเทศ Germany แทนครับ
ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับ Tax Free
- ในยุโรปการทำคือภาษี หรือ Tax Refund นั้นเค้าเรียกว่า “Tax Free” เป็นคำที่รู้จักโดยทั่วไป ไม่ว่าจะสื่อสารภาษาอังกฤษกับเราได้หรือไม่ หากบอก Tax Refund บางคนอาจไม่เข้าใจ หรือ บางคนอาจเข้าใจว่าเราต้องการไปขึ้นเงิน (ประสบการณ์ส่วนตัว)
- การทำ Tax Free จะทำผ่านตัวแทนนายหน้า ซึ่งในยุโรปโดยรวมจะมีเจ้าหลักที่ให้บริการ หลายเจ้าเช่น Global Blue, Premier Tax Free, Planet Tax Free แล้วแต่ร้านค้าว่าใช้ของเจ้าไหน ไม่สามารถเลือกได้
- ยี่ห้อ Global Blue สามารถขอคืนเงินสดได้จากเคาเตอร์ในเมืองได้ทันที โดยต้องใส่เลขบัตรเครดิตการันตีกรณีเราเลี่ยงไม่สำแดงสินค้าที่ศุลกากรที่สนามบิน จากนั้นไปสนามบินก็นำเอกสารไปประทับตรา
- ยี่ห้อ Premier Tax Free, Planet Tax Free และ ยี่ห้ออื่น ๆ ในเมืองหาเคาเตอร์ไม่ค่อยเจอ
ข้อกำหนดที่ควรรู้
- การทำ Tax Free ในแต่ละครั้ง ต้องมียอดซื้อขั้นต่ำ 25 ยูโร ต่อใบเสร็จ
- การขอคืนเป็นเงินสด / Cash จะมีกำหนดสูงสุดต่อวัน
- กรณีซื้อจากประเทศอื่น ไม่ใช่เยอรมันนี (บินหลายประเทศ) เค้าจะให้คืนเข้าบัตรเครดิต คืนเป็นเงินสดไม่ได้เพราะถือว่าคนละประเทศกัน (ประสบการณ์ส่วนตัว)
- ต้องทำที่สนามบินสุดท้ายในยุโรปเท่านั้น กรณีเดินทางหลายประเทศ เยอรมันนีต้องเป็นประเทศสุดท้ายในยุโรป
- กรณีมีการต่อเครื่องประเทศอื่นในสหภาพยุโรป แต่เป็นแบบ CIQ คือผู้โดยสารต่อเครื่อง ไม่มีการนำกระเป๋าออกมา ก็นับประเทศที่ออกตั๋วถือเป็นประเทศสุดท้าย
- กรณีลืมทำ Tax Refund หรือ ไม่มีเวลา ให้นำเอกสารทั้งหมด รวมถึงสินค้าที่ซื้อจากเยอรมันนี นำไปแสดงเพื่อขอประทับตรา Customs ได้ที่สถานฑูตเยอรมันนีประจำประเทศไทยได้ภายใน 60 วัน (ถ้าจำไม่ผิด)
อัตราการคืนภาษี
อัตรา หรือ เปอร์เซ็นต์ ของการคืนภาษีจะเป็นแบบขั้นบันได ขึ้นอยู่กับยอดซื้อต่อใบเสร็จ และการคืนของแต่ละแบรนด์ และ สินค้าแต่ละกลุ่มได้ภาษีคืนไม่เท่ากัน คร่าว ๆ ก็ประมาณนี้
น้อยกว่า 200 EUR | 6.1% – 11% |
200 EUR – 6,000 EUR | 11% – 14% |
6,000 EUR – 7,000 EUR | ประมาณ 14% |
มากกว่า 7,000 EUR | 14.5% |
ขั้นตอนการคืนภาษี
- ก่อนจ่ายเงิน ให้แจ้งพนักงานว่า “I want Tax Free” “ไอว้อนท์แท๊กฟรี” ใช้ Passport ด้วย (บางร้านใช้สำเนาได้) เพื่อให้เค้าทำเอกสารให้
- เมื่อจ่ายเงินแล้วจะได้เอกสารมาเป็นใบเสร็จสินค้า และเอกสาร Tax Refund
- เอกสาร Tax Refund ให้เก็บรวมกับใบเสร็จ ศุลกากรขอดูประกอบการพิจรณา
- เมื่อจะเดินทางออกจากเยอรมันนี และประเทศเยอรมันนีเป็นประเทศสุดท้ายในของการเที่ยวยูโรป ให้นำเอกสารทั้งหมดเตรียมไปประทับตราศุลกากร / Customs ที่สนามบิน
- ไปเช็คอินกับสายการบิน เอา Boarding pass ให้เรียบร้อย แล้วแจ้งพนักงานสายการบินว่าในกระเป๋ามีสินค้า Tax Free พนักงานจะติดแทคที่กระเป๋าเราตามปกติ แต่เค้าจะคืนกระเป๋ามา
- นำเอกสาร Tax Refund ไปตรวจลงตราที่เคาเตอร์ศุลกากร พร้อมกระเป๋าที่มีสินค้าที่เราจะขอคืนภาษี โดยศุลกากรอาจขอดูตั๋วที่มีเลขที่นั่ง ไม่ดูเอกสารการจองตั๋ว
- จากนั้นก็จะประทับตราให้เรา ซึ่งจะดูของหรือไม่ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ แต่หน้าตาไทย ๆ อย่างพวกเราเค้าไม่ค่อยตรวจเท่าไหร่
- เมื่อประทับตราแล้ว เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะให้เราเอากระเป๋าโหลดตรงเคาเตอร์ศุลกากรเลย เราจึงต้องเช็คอินสายการบิน และ มี Boarding Pass + กระเป๋าติดแท๊คแล้ว ไม่งั้นกระเป๋าหายแน่นอน
- กรณีเป็นสินค้าที่เราถือขึ้นเครื่อง หรือใส่ติดตัวอย่างนาฬิกา เอกสาร Tax Refund เหล่านั้นจะถูกแยก เพื่อให้นำไปประทับตราด้านในอีกครั้งหลังจากผ่านพิธีการตรวจคนออกจากเมือง หรือ ตรวจ pass port โดยสินค้าที่โหลดใส่กระเป๋าก็ประทับตรา รับเงินกันไป สินค้าที่ไม่โหลด ต้องแยกไปทำทั้งหมดอีกครั้งด้านใน
- เมื่อเอากระเป๋าให้ศุลกากรแล้ว ถ้าเราขอคืนเงินสดแล้วจากในเมืองมา ให้เอาเอกสารใส่ซองแล้วหยอดตู้ตามยี่ห้อ ซึ่งมักจะอยู่แถวนั้น
- หากไม่ได้ทำเรื่องขอคืนจากในเมืองมา ให้ไปต่อแถวตามยี่ห้อต่าง ๆ เพื่อยื่นเอกสารที่ประทับตราศุลกากรแล้วให้พนักงานเค้าประทับตรา / ยิง Barcode แล้วเก็บเอกสารเราไปเลย ขั้นตอนนี้เราสามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินสด หรือ คืนผ่านบัตรเครดิต ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน
- กรณีรับเงินสด ต้องแสดงบัตรเครดิตชื่อของเรา เพื่อการันตีว่าเราจะเอาของออกนอกยุโรปจริง ๆ หรือเกิดกรณีเอกสารผิดพลาด เค้าขอเงินคืนจากรัฐบาลไม่ได้จะเรียกเก็บจากบัตรเครดิตของเราพร้อมค่าปรับ (Fee) บัตรเดบิตไม่ได้
- หากทริปนี้ได้รับฟอร์ม Tax Refund มา 3 ยี่ห้อ ก็ต้องไปต่อแถวแต่ละยี่ห้อ ดังนั้นเผื่อเวลาการไปสนามบินด้วย
เทคนิคที่ควรรู้
- ปกติเคาเตอร์ Global Blue / Tax Free ที่สนามบินคิวยาวมาก ให้ทำจากในเมืองมาเลย ไม่ว่าจะเงินสด หรือ บัตรเครดิต เคยทำสถิติใช้เวลาร่วม 2 ชม ในช่วงเทศกาล และ 1 ชั่วโมงในช่วงโลวซีชั่น (คนจีนเยอะสุด ๆ) อย่าลืมว่าหากคุณได้ Tax Refund จากทั้ง Global Blue และ Premier จะต้องเข้าแถว 2 ครั้ง
- ในเมืองตามห้างสรรพสินค้า มักจะมีเคาเตอร์ Global Blue หรือ Premier อยู่ สามารถใช้บริการได้ ไม่ว่าจะซื้อจากที่ไหนมา พอถึงสนามบินแค่ไปประทับตราที่ศุลกากร จากนั้นนำเอกสารใส่ซอง (ที่เค้าให้มาตอนแรก) ไปหยอดตู้ได้เลย
- ใครบินไฟล์เช้า เพราะเคาเตอร์ทำคืนภาษีอันหลัก เปิด 8 โมงเช้า ถ้าไปก่อน ต้องไปใช้อันรอง ส่วนเคาเตอร์ Customs หาไม่ยาก มีป้ายบอกตลอดทาง หรือถามพนักงานที่เคาเตอร์สายการบินได้
- ถ้ามีให้เลือกการคืนเงิน ให้ขอเป็นเงินสด แม้จะได้คืนน้อยกว่า แต่คำนวณอัตราแลกเปลี่ยนผ่านบัตรเครดิตจะได้ออกมาพอ ๆ กัน แต่ได้เงินแน่นอน ไม่ต้องลุ้น
- กรณีซื้อของใน Duty Free ของสนามบินก็ต้องยื่นขอคืนภาษีในขั้นตอนเดียวกัน ต้องไปต่อแถวทำประทับตราจาก Customs เหมือนกัน ดังนั้นเจออะไรในเมืองซื้อได้เลย ไม่ต้องมาลุ้นที่สนามบิน
ข้อควรระวังไม่ให้โดนปล้น
- ต้องประทับตราในแบบฟอร์มของ Global Blue ทุกหน้า
- ให้ถ่ายรูปเอกสารคืนภาษีที่ปั๊มตราแล้วเก็บไว้ทุกใบก่อนหยอดตู้เสมอ
ผมโดน Global Blue ปล้นครับ ทำเอกสารไม่มีผิดพลาด รับเงินคืนใส่กระเป๋าอุ่นใจเรียบร้อย ไปถึงเคาเตอร์ศุลกากรตรวจทุกอย่างเสร็จก็ปั๊มแผ่นบนสุดให้แผ่นเดียวจากใบขอคืนภาษีรวม 5 ใบ
ผม: ทำไมปั๊มแผ่นเดียว แล้วแผ่นอื่นหล่ะ
จนท. ศุลกากร: โน ไม่ต้อง แผ่นเดียวพอแล้ว เอากระเป๋าวางไว้ได้เลย
ผม: ไปถามเคาเตอร์ Global Blue ที่อยู่ติดกันเพื่อให้ตรวจเอกสาร (ลึก ๆ รู้สึกแปลก ๆ)
พนง. Global Blue: OK ถูกต้องแล้วยูเอาไปหยอดตู้ได้เลย
ก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะทั้งศุลกากร และ Global Blue บอกแค่นี้แหละเสร็จแล้ว กระเป๋าก็เอาไปแล้ว เงินได้คืนมาแล้วจากในเมือง เหลือแค่หยอดตู้เฉย ๆ
ผ่านมา 2 สัปดาห์ มีการเรียกเก็บภาษีจาก Global Blue พร้อมค่าปรับ….สรุปภาษีไม่ได้คืน แถมเสียเงินมากกว่าเดิม เชี่ยมากครับ (ขอระบายหน่อย)
เคสนี้ผมว่าถ้าผมไม่ได้ขอเงินคืนจากในเมือง แล้วมาเอาเงินสดที่สนามบิน นางอาจเรียกให้ผมไปปั๊มเพิ่มก็ได้ เพราะนางต้องร้บผิดชอบเอกสารที่นางเอาเงินสดให้เรา
ย้ำว่า……ต้องให้ศุลกากรสแตมป์เอกสารทุกหน้า ถ้าเค้าไม่ทำต้องขอให้เค้าทำเพราะมันเป็นกฏ บอกเลย “According to your law, you must stamp every forms” ไม่งั้นห้ามให้กระเป๋าเค้าเด็ดขาด
ขอให้มีความสุข สนุกกับชีวิต LifeStyle IT ครับ
credit photo from: globalblue.com
________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผม
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ