ลังเลหรือเปล่าว่าจะซื้อ iPhone SE ดีหรือไม่ เอารูปเปรียบเทียบหลายมุมกับ iPhone 5s และ 6s มาให้ดูประกอบการตัดสินใจ
สื่อหลายสื่อพยายามบอกว่ามันคือไอโฟนราคาประหยัด หวังจะลุยตลาดล่าง บางสื่อถึงขนาดบอกว่ามันถือไอโฟนที่ถูกที่สุด……คำว่าถูกนั้น ตั้งอยู่บนนิยามความแพงของ Apple
ราคาเปิดตัวที่ต่างประเทศ รุ่น 16 กิ๊ก รวมภาษีต้องมีประมาณ 16,000 บาท ซึ่งถือว่าไม่ถูกนะหากเทียบกับสมาร์ทโฟนสเปคดี ๆ ในตลาดตอนนี้ และ หากเป็นรุ่น 64 กิ๊ก นี่ปาเข้าไป 19,000 บาท นี่จะเท่ากับรุ่นเรือธงของบางค่ายแล้ว
ดังนั้นหากใครหวังจะซื้อไอโฟนถูก ๆ ในภาษาของคนไทย….มัน “ไม่ใช่โทรศัพท์ราคาถูก”
แต่ถ้าใครอยากได้มือถือจอเล็ก ไม่มีปัญหาการเพ่งหน้าจอเวลาพิมพ์ ทว่าสเปคแรงเทพที่ดีที่สุดของไอโฟนในปัจจุบัน มันคือคำตอบของคุณ
อย่าลืมอ่าน
รีวิวแกะกล่อง iPhone SE สี Rose Gold มันคือ 5s อัพพลังสุดแรง แต่ราคากลาง ๆ
รีวิวกล้อง iPhone SE ฉบับกินแหลกกกกกก รูปเยอะนะพี่บอกเลย
iPhone SE vs iPhone 5s
มวยคู่แรกเกือบสมศักดิ์ศรี ด้วยบอดี้เดียวกันแต่ศักยภาพ ความสามารถ ความแรง และ กล้องต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้ iPhone SE จะใช้บอดี้คลาสสิคของ iPhone 5s ที่ทุกวันนี้หลายคนยังใช้งานได้ดีอยู่ก็ตาม แต่ความเร็วของตัวเครื่องต่อการกดแต่ละครั้งมันเร็วกว่ากันเป็นเท่าตัว
ความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง iPhone 5s กับ SE คือ
- ซีพียูเปลี่ยนจาก A7 เป็น A9
- กล้องหลังจาก 8 ล้าน เป็น 12 ล้าน พร้อมถ่ายวีดิโอ 4K
- แบตเตอรี่เพิ่มจาก 1,560 เป็น 1,624 มิลิแอมป์
- น้ำหนักเพิ่มขึ้น 1 กรัม จาก 112 เป็น 113 กรัม
- สีเฉดใหม่ ไฉไลกว่าเดิม
หน้าตาฝาแฝด ความคมชัดเท่าเดิม กดจอแบบ Force Touch ไม่ได้เหมือนกัน
กล้องหน้า 1.2 ล้านพิกเซลอันน้อยนิดเท่าเดิม ปรับชุดเลนส์จาก f/2.2 เป็น f/2.4
ด้วยแรม 2 กิ๊กที่เพิ่มมาใน iPhone SE ทำให้สายเกมส์ และ สายแต่งรูปด้วยแอพฯ จะต้องนั่งอมยิ้ม เพราะทุกอย่างมันช่างรวดเร็วทันใจ เกมหนัก ๆ ก็ไม่กระตุก
เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ล่าสุดใน SE ที่เอามาจาก 6s ก็ทำงานได้อย่างแม่นยำกว่าเดิม ทำให้พวกแอพฯ สุขภาพใช้งานได้ดีกว่าเดิม
สี Rose Gold พอมาอยู่บนบอดี้นี้ มันช่างลงตัวจริง ๆ
เคส และ อุปกรณ์ตกแต่งต่าง ๆ ใช้ร่วมกันได้อย่างลงตัวไม่มีปัญหาใด ๆ แนบสนิทพอดีเป๊ะ….แน่หล่ะสิ บอดี้เดิมนี่นา
ต่ออายุคนมีสต็อคเคส iPhone 5s ได้อีกหลายปี จากของที่อยู่ในกระบะเซล ย้ายกลับเข้าตู้สิครับจะรออะไร
ด้านหลังมีคำว่า SE ให้เห็นถึงความแตกต่าง
หน้าจอเค้าบอกว่าสว่างกว่าเดิม แต่ดูแล้วผมว่าต่างกันไม่มาก สีของหน้าจอ ขาว เหลืองแตกต่างกันบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของไอโฟน ไม่เกี่ยวกับรุ่นเก่า รุ่นใหม่แต่อย่างใด ขึ้นอยู่กับดวงล้วน ๆ
มีเหตุผลเป็นล้าน ๆ อย่างที่จะโน้มน้าวให้คุณเปลี่ยนจาก iPhone 5s สุดหวง มาเป็น iPhone SE ยกเว้นเพียงอย่างเดียว นั่นคือ ราคาที่มันไม่ได้ถูกอย่างที่คิดเนอะ
iPhone SE vs iPhone 6s สี Rose Gold
แม้ว่าคุณมีเหตุผลเป็นล้านให้เปลี่ยนจาก iPhone 5s มาเป็น iPhone SE แต่คุณมีเพียงเหตุผลเดียวที่จะเปลี่ยนจาก iPhone 6s มาเป็น iPhone SE….นั่นคือ “ราคา”
หากคุณอยากได้มือถือแรง ๆ ภายใต้โลโก้ Apple แล้วมองว่าราคา 6s มันสูงเกินงบ เกินความจำเป็น เมื่อนั้น iPhone SE จึงจะตอบโจทย์ของคุณ โดยแลกกับหน้าจอที่เล็กลงนิดนึง
นอกเสียจากว่าคุณเริ่มรู้สึกว่าหน้าจอ 4.7 นิ้วของคุณมันใหญ่ไป หรือ เครื่องหนักไป โดยงบประมาณไม่มีผลต่อการตัดสินใจเหมือนผม
ด้วยศักยภาพ และ คุณภาพทุกอย่างที่เหมือนกัน iPhone 6s ยกเว้นหน้าจอที่เล็กกว่า และ คมชัดน้อยกว่าแล้ว iPhone 5s ทำได้เกือบทุกอย่างที่ iPhone 6s ทำได้ ขนาดสีชมพูยังมีให้เลือกใช้เลย
iPhone SE และ iPhone 6sต่างกันจุดใหญ่ ๆ ดังนี้
- หน้าจอเล็กกว่า
- ไม่มี Force Touch กดแรง ๆ แล้วได้คำสั่งอื่นเพิ่มมาเล่นโชว์พาว
- ไม่มี Apple Pay ระบบการจ่ายเงินที่วันนี้ยังไม่รองรับประเทศไทย แต่คาดว่าอีกไม่กี่ปีคงจะรองรับ
- แบตน้อยกว่า 1,624 vs 1,715 มิลิแอมป์
การทำงานรวดเร็ว กล้องชัดเท่ากัน แรมเท่ากัน….แต่ราคาถูกกว่าปะมาณ 8,000 บาท
มันเริ่มฟังดูน่าสนใจขึ้นมาแล้วใช่ไหมหล่ะ!!!
iPhone SE หนากว่า iPhone 6s เล็กน้อย เพียง 0.5 มม.
ขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว กับ 4.7 นิ้ว เหมือนต่างกันนิดเดียวแต่ตัวเครื่องขนาดต่างกันมากพอสมควร
โดยเฉพาะน้ำหนัก iPhone 6s หนักกว่าถึง 30 กรัม (113 vs 143 กรัม)
ความยาว ความกว้างต่างกันพอสมควร ซึ่งส่งผลโดยตรงกับการถือจับใช้งานต่าง ๆ
เอาจริง ๆ เลยนะ…..พี่ว่า iPhone 6s เป็นความลงตัวของหน้าจอไม่เล็ก ตัวเครื่องไม่ใหญ่ มันก็ถือถนัดมาก ไม่มีอะไรให้บ่น แต่หากเทียบกับ iPhone SE / 5s เครื่องเล็กย่อมเบากว่า ถือถนัดกว่า แต่พิมพ์ยาก ท่องเน็ตแล้วเล็กไปหน่อย
เปรียบเทียบขนาดเมื่ออยู่ในมือชายไทยมาตรฐานสูง 180 ซม. ภาพบน iPhone 6s ภาพล่าง iPhone SE
พอดีมือทั้งคู่ จับถนัดทั้งคู่นั่นแหละ
การเข้าถึงจุดต่าง ๆ บนหน้าจอด้วยมือเดียว แน่นอนว่าจอเล็กย่อมได้เปรียบเวลาจะกดตามมุมจอ
แต่จอเล็กของ iPhone SE จะเริ่มเสียเปรียบเวลาเรียกแป้นพิมพ์ขึ้นมาเม้าท์กับเพื่อน ๆ ยิ่งคนนิ้วใหญ่อย่างพี่นี่บอกเลย พิมพ์เถียงกับใครบน SE ไม่ทันแน่นอน
เมื่อหน้าจอเล็กกว่า การใช้งานต่าง ๆ ย่อมไม่ดีเท่าจอใหญ่ การเข้าเวปต่าง ๆ จะแสดงผลได้ไม่เท่า iPhone 6s ที่มีหน้าจอ 4.7 นิ้ว แต่หากเวปที่เราเข้าไปนั้นทำมาดีพอ มี mobile site การแสดงผลตัดคำต่าง ๆ บน Safari ทำได้ดี แสดงผลแทบไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก
แน่นอนว่าเวลาอ่านเมล์ หรือ เอกสารต่าง ๆ iPhone SE สู้ iPhone 6s ไม่ได้เลย ทั้งขนาดที่เล็กกว่า และ ความละเอียดของหน้าจอที่ด้อยกว่า ต้องอาศัยซูมเพื่ออ่าน ทำให้ไม่สามารถเห็นเอกสารได้ครบทั้งแผ่นในคราวเดียว
iPhone SE คือ เทพตัวเล็กของ Apple ที่ปรับราคาลงมาอยู่หมื่นกว่าบาท อัพสเปคมาแรงเท่ารุ่นที่ดีที่สุดของ Apple ในตอนนี้ แต่ใช้บอดี้เดิมเมื่อ 3 ปีก่อน ทำให้ต้นทุนถูกลง เรียกว่าขายถูกกว่าเดิม กำไรมากกว่าเดิม….มันฉลาดจริง ๆ
ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่คนเคยทิ้ง iPhone 5s ไปหา iPhone 6 ก็ยังคงอยู่ ถ้าใช้ iPhone 6 อยู่ รุ่นนี้มองข้างไปรอ iPhone 7 ปลายปีนี้กันเลยน่าจะสนุกกว่า
ก็อย่างที่บอกครับ iPhone SE เหมาะสำหรับคนที่คิดว่า iPhone 6s ราคาสูงเกินไป พร้อมยอมแลกกับหน้าจอที่เล็กลง ใช้งานไม่สะดวก
หรือ ไม่ก็คนอย่างผมที่พก 2 เครื่อง มีเครื่องจอใหญ่ใช้อยู่แล้ว อยากได้เครื่องเล็ก ๆ เบา ๆ กับโลโก้ Apple มาใช้อีกเครื่อง มันก็ลงตัวดีนะ
เมื่อมองอีกมุม ราคา iPhone SE สามารถซื้อ iPhone 6 มือสองสวย ๆ เครื่องศูนย์มีประกันได้สบาย ๆ แถมเผลอ ๆ ได้ความจุมากกว่าด้วยซ้ำ….ลองตัดสินใจดูครับ พี่แนะนำร้านมือสองดี ๆ ให้ได้นะ (ไม่คิดค่าคอมพ์ 555)
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ครับ
ขอให้มีความสุข สนุกกับชีวิต LifeStyle IT ครับ
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ชอบแบบ iphone SE มากกว่าอะจอเล็ก จับถนัดมือสเปคก็แรงเทียบเท่า iphone 6S