มาแล้วจ้า รีวิวร้อน ๆ ที่ปั่นให้สุดความสามารถเท่าที่พอมีเวลา กับ Samsung Galaxy S7 edge เทพตัวล่าจากเกาหลีที่คราวนี้นำสีขาวกลับมาใส่ในรุ่นเรือธงแล้ว
ใครชอบดูแบบวีดิโอเชิญชมได้เลย ใครชอบดูแบบรีวิวปกติเลื่อนลงต่อไปเลยไม่ต้องเกริ่นมาก ลุยกันเลย
สเปค Samsung Galaxy S7 edge
- ขนาดตัวเครื่อง 150.9 x 72.6 x 7.7 มม., หนัก 157 กรัม
- หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด QHD 2560 x 1440 พิกเซล
- ซีพียู Exynos 8890 Octa – Cores (2.3 GHz +1.6 GHz)
- จีพียู Mali T880
- แรม 4 กิ๊ก แบบ LPDDR4
- ระบบปฏิบัติการ Android OS 6.0 (Marshmallow)
- หน่วยความจำภายใน 32 GB เพิ่มเมมแบบ microSD ได้สูงสุด 200 GB
- กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล f/1.7 แบบ Dual Pixel ถ่ายได้ดีในแสงน้อย
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล f/1.7 พร้อม Selfie Flash
- แบตเตอรี่ความจุ 3,600 มิลิแอมป์ พร้อม รองรับ Fast Charge/ Wireless Fast Charge
- ใส่ได้ 2 ซิม แบบ Hybrid
- รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac, MU-MIMO, Bluetooth 4.2, USB 2.0 และ NFC
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนเครือข่าย 4G LTE
- ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- สี: สีทอง, สีดำ และสีเงิน
- ราคา 26,900 บาท
ด้านหน้ากล่องที่คราวนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเยอะ เพราะมันมากับสีดำ หรือ น้ำเงินเข้มมาก ๆ พร้อมตัวหนังสือสีเงิน และ สีน้ำเงินเงาแปลกตา โดยรวมดูหรูหราสง่างามฉีกภาพเดิม ๆ ไปจนหมดเลย
มุมกล่องด้านบนมีแถบสี พร้อมระบุว่าเครื่องในกล่องเป็นสีอะไร ความจุเท่าไหร่
ด้านหลังมีสเปคคร่าว ๆ พอสังเขป
เปิดกล่องออกมาก็เจอ Samsung Galaxy S7 edge สีขาวสะอาดตานอนรอในกล่องให้เราพิสูจน์ว่าปีนี้จะยังคงความเทพอยู่หรือไม่
อุปกรณ์ในกล่องประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง Galaxy S7 edge
- คู่มือฉบับย่อ
- ที่จิ้มซิม
- สายดาต้า
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้าน
- หัวต่อ Smart Switch
- หูฟัง
- ซิลิโคนสำรอง 1 คู่
คู่มือฉบับย่อให้รายละเอียดเรียบร้อยดี เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ค่อยคุ้นกับซัมซุงมากนัก
งานนี้มีอุปกรณ์แปลกปลอมจากปกติมาให้นั่นคือ Smart Switch ซึ่งเป็นอแดปเตอร์เชื่อมต่อเพื่อโอนข้อมูลจากเครื่องเก่ามายัง Galaxy S7 edge แบบง่าย ๆ ผ่านสาย USB
วิธีใช้ง่ายแสนง่ายมีสอนอยู่ในชุดคู่มือฉบับย่อด้วย
หูฟัง และ สายดาต้าสีขาวสะอาดตา วัสดุ และ คุณภาพมั่นใจได้หายห่วง
ซิลิโคนสำรอง 1 คู่ คุณภาพระดับไฮเอนท์
ปลั๊กชาร์จไฟบ้านที่จ่ายไฟ 2.0 แอมป์สำหรับการชาร์จแบบรวดเร็ว / Fast Charge ซึ่งมีในรุ่นเทพต่าง ๆ อย่าง S6 edge+ ที่ผมใช้อยู่ ชาร์จเร็วสะใจ ปลั๊กไม่ร้อนแม้เสียบไว้ทั้งคืน (กรุณาอย่าทำตามนะจ๊ะ)
สายดาต้า / สายชาร์จ แบบ USB ที่คุ้นตา โดยข้างนึงเป็น MicroUSB เอาไว้ต่อกับมือถือ อีกข้างนึงเป็น USB เอาไว้ต่อกับปลั๊กชาร์จไฟ หรือ คอมพิวเตอร์เพื่อโอนถ่ายข้อมูล
ที่จิ้มถาดใส่ซิมหน้าตาไม่เหมือนใคร ที่จับใหญ่จับถนัดกว่าของไอโฟนนะจะบอกให้
ตัวเครื่องมากับหน้าจอ ขนาด 5.5 นิ้ว ขอบโค้งมน ความละเอียด QHD Super AMOLED สีขาวสะอาดตา ซึ่งสีขาวนี้เป็นสีที่ผมถวิลหามานาน เพราะเป็นสีโปรดแต่ Note5 กับ S6 edge+ ดันไม่ทำซะนี่….ดีใจน้ำตาจิไหล
หลายคนเห็นภาพโปรโมทแล้วบอกว่าตัวนี้ดูผ่าน ๆ ไม่คิดอะไรมากนึกว่า Galaxy S6 edge (ซึ่งผมก็เช่นกัน)
แต่พอได้จับตัวเครื่องของจริงแล้วบอกเลยว่ามันต่างกันเยอะมาก ไม่ว่าหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม จาก 5.1 นิ้ว ไปเป็น 5.5 นิ้ว ซึ่งแลกมากับน้ำหนักที่มากกว่าเดิมประมาณ 25 กรัม
โดยรวมถือจับกระชับมือ ไม่ลื่นเหมือน S6 edge ปุ่มกดต่าง ๆ เข้าถึงง่าย เพราะขอบจอที่เล็กมากกกกก แถมโค้งมนรับกับฝาหลังที่โค้งมารับกันตรงขอบพอดี ทำให้จอ 5.5 นิ้ว ถือแล้วไม่ใหญ่เลย สุภาพสตรีใช้งานได้หายห่วง
ที่สำคัญรุ่นนี้มาพร้อมกับความสามารถ กันน้ำ กันฝุ่น ระดับ IP68 ลงน้ำลึก 1 เมตรได้ 30 นาที ซึ่งเคยมีใน S5 แต่พบปัญหาความร้อนสูง ทำให้ใน S6 รุ่นปีที่แล้วตัดส่วนนี้ออกไป
ปีนี้เค้ายัดเอาความสามารถกันน้ำ กันฝุ่นกลับมาใหม่ โดยอาศัยระบบ Liquid Cooling มาช่วยแก้ปัญหาการระบายความร้อน ซึ่งมันทำงานได้เป็นอย่างดี
ภาพแสดงการระบายความร้อนด้วยของเหลว หรือ Liquid Cooling ใน S7 และ S7 edge
ด้านหลังโชว์สีขาวมุกแบบใหม่ นอกจากจะเหลือมุกแล้ว ยังเหลือบลายคล้าย ๆ โลหะด้วยนะเออ สวยโดนใจพี่อาร์ตมากมาย
และแน่นอนว่ามันเปิดฝาหลังเปลี่ยนแบตเตอรี่ไม่ได้ โดยเค้าให้แบตเตอรี่มา 3,ุ600 มิลิแอมป์ เหลือเฟือกับการใช้งานเพราะ ซีพียู และ จีพียู ชุดใหม่กินไฟน้อยกว่าเดิม แถมทำงานเร็วกว่าเดิม
ชุดกล้องใหม่นอกจากจะแบนเรียบติดกับฝากหลังไม่นูนออกมาเกะกะเหมือนก่อนแล้ว ยังมาพร้อมนวตกรรมใหม่ล่าสุดของวงการสมาร์ทโฟน นั่นก็คือ เซ็นเซอร์แบบ ดูอัลพิกเซล (Dual Pixel) ที่มีแผ่นรับแสง รับภาพใหญ่กว่าเดิม ทำให้โฟกัสเร็วกว่าเดิม ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีกว่าเดิม นั่นหมายความว่าเราเพียงแค่ยกกล้องขึ้นมา กดถ่ายแช๊ะ ก็น่าจะได้รูปสวย ๆ แล้ว
เท่านี้ยังไม่พอครับ Samsung Galaxy S7 edge มาพร้อมชุดเลนส์ f/1.7 กว้างที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนตอนนี้ ใครขี้เกียจพกกล้อง mirrorless เหมือนผม ใช้ตัวนี้ถ่ายได้เลย
เอารูปอีกมุมมาให้ดู ความโค้งด้านหลังมาชนขอบด้านหน้าอย่างลงตัวทำให้ขอบเครื่องโลหะสีเงินพ่นทรายนั้นแลดูบาง พร้อมกับพื้นผิวที่ออกแบบมาอย่างดีไม่ลื่น แต่ด้านหลังถ้าเป็นสีเข้มคงเป็นรอยนิ้วมือง่ายพอสมควร
ขอบบาง ๆ ของ S7 edge ด้านขวาเป็นปุ่มรับเพิ่ม-ลดเสียง ด้านซ้ายเป็นปุ่ม Power เช่นเคย
ด้านหน้ามาพร้อมกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟช่วยถ่าย Selfie และฟีเจอร์จัดเต็มตามสไตล์ซัมซุง (เหมือนเดิม)
ด้านหน้าส่วนล่างก็ตามสไตล์ซัมซุงทุกรุ่นที่คุ้นเคยกันดี ตรงกลางเป็นปุ่มโฮมรูปทรงรี ขนาดบ้างด้วยปุ่มลูกศร คือ ปุ่มย้อนกลับ ทำอะไรอยู่ไม่รู้ อยากกลับไปหน้าที่แล้วกดปุ่มนี้ได้เลย ใครอยากออกจากแอพฯ กดลูกศรรัว ๆ หรือ จะกดปุ่มโฮมก็ได้
ใช้งานไปนาน ๆ หรือ เล่นแอพฯ เยอะ ๆ กดปุ่มอีกข้างนึงที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมซ้อนกัน จะเป็นปุ่มเรียกดูรายการแอพฯ ที่เปิดใช้งานค้างในเครื่อง จะสลับแอพฯ ปิดแอพฯ เพื่อให้เครื่องทำงานเร็วขึ้นก็ปุ่มนี้ปุ่มเดียวจบ
หัวเครื่องอันคุ้นตามาตั้งแต่ปีก่อนแต่ยังคงสวยงามทันสมัยไม่เอ้าท์
ฝั่งซ้ายมือของเราเป็นถาดใส่ซิม + เมม ส่วนรูทางขวามือนั้นเป็นรูไมโครโฟนอัพเสียงตอนถ่ายวีดิโอ
ตูดเครื่องที่คุ้นเคย ตรงกลางเป็นช่องเสียสายชาร์จ/ดาต้า ด้านขวาของเราที่เห็นรูเยอะ ๆ นั่นคือลำโพงเสียงภายนอกสำหรับเสียงเรียกเข้า และ เสียงมัลติมีเดียต่าง ๆ ถ้าสังเกตุดี ๆ ข้าง ๆ กันนั้นจะมีรูเล็ก ๆ อยู่รูนึง มันคือไมโครโฟนสนทนาโทรศัพท์
ด้านซ้ายมือของเราเป็นช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. อย่างเคย
อีกจุดหนึ่งที่ถูกใจผมมากก็คือ เค้าเอาช่องใส่เมมโมรี่การ์ดแบบ MicroSD กลับมาแล้ว โดยเป็นช่องแบบ Hybrid หรือ 2 ซิมพิการอย่างที่ผมเคยแซวไปสมัย Galaxy A5 โน้น
ช่องล่างเป็นช่องใส่ SIM1 ช่องบนเป็นช่อง Hybrid สามารถใส่เมมก็ได้ หรือ จะใส่ SIM2 ก็ได้ ซึ่งตรงนี้ตามสเปคเค้าบอกว่ารองรับสูงสุด 128 กิ๊ก ตามที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด แต่ยังแอบมีบอกว่าอนาคตหากมีเมมความจุสูงกว่านี้ S7 edge ก็บ่ยั้นนะแจ้
ใครจะใส่ SIM2 ให้ขวางซิมเข้าตามร่องแบบในภาพด้านบนนะครับ
โดยรวมตัวถาดซิมพลาสติคผมว่านิ่มไปหน่อย ทำให้ใส่ซิม และ เมมยากไปนิด ถ้ารีบ ๆ ถาดซิมอาจงอคามือ
ตอนใส่ครั้งแรกอย่างรวดเร็วรุนแรงแบบผมนั้น เมมกระกดค้ำถามซิมเล่นเอาเหงื่อตกเลยทีเดียว ดีนะถามซิมไม่ค้างยังพอดึงออกมาขยับใหม่ได้ ใครซื้อมาให้ระวังตรงนี้นิดนึง
หน้า Setting มีการบอกสถานะ SIM1 และ SIM2 อย่างชัดเจน
เมมในตัวเครื่อง 32 กิ๊ก ถูกดึงไปใช้งานในส่วนระบบปฏิบัติการ และ แอพฯ ต่าง ๆ เหลือให้ใช้จริงประมาณ 20 กิ๊ก ส่วนเครื่องผมที่มีไม่ถึงเพราะมีถ่ายรูปทดสอบเตรียมรีวิวไปแล้วบ้างนั่นเอง
แรม 4 กิ๊ก เหลือ 1.9 กิ๊ก….ห๊ะ ไม่ต้องตกใจ ผมใช้ S6 edge+ อยู่ ทุกวันนี้เหลือแรมวิ่งอยู่ประมาณ 1.1 กิ๊กยังใช้งานลื่น ๆ สบายมากครับ
ฟีเจอร์รูดขอบจอที่นำประโยชน์ของขอบจอโค้งมาใช้นั้น S7 edge เพิ่มหน้า และ แอพฯ ให้เลือกมากกว่าเดิมเยอะ สะดวกมาก ๆ แต่….ผมไม่ค่อยได้ใช้นะ ผมว่ากดบนหน้าจอเร็วกว่า 555
สรุปเบื้องต้น
- ชอบดีไซน์ซัมซุงเป็นทุนเดิม โดยคราวนี้มีการปรับเส้นสายโค้งมนมากขึ้น ดูทันสมัย และ น่าใช้มากขึ้น (ขึ้เห่อนั่นเอง)
- น้ำหนักเทียบกับ S6 edge ถือว่าหนักขึ้น แต่ผมใช้ S6 edge+ อยู่ พอมาใช้เจ้า S7 edge ทำให้รู้สึกเบามือลงพอสมควร ตัวเครื่องดูเล็กลงแต่ขนาดหน้าจอต่างกับ S6 edge+ ไม่มาก
- จุดเด่นของรุ่นนี้จริง ๆ เป็นซีพียูตัวใหม่กินไฟน้อยกว่าเดิมโดยยังคงความแรงอยู่การใช้งานยังไม่สามารถมโนว่าแรงกว่าเดิม เพราะใช้งานได้เพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ยังไม่รู้สึกว่าแรงกว่า S6 edge+ มากนัก
- กันน้ำ กันฝุ่น IP68 คือ น้ำลึก 1 เมตร 30 นาที เครื่องไม่พัง แหมมมม มาทันสงกรานต์พอดีเลย
- จุดเด่นอีกอย่างที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือระบบระบายความร้อนของ ซีพียู ด้วยแผงของเหลวที่ฝังอยู่ใต้ฝาหลัง ระบบทำความเย็นด้วยของเหลวบอกเลยทำงานดีมาก เพราะปกติเวลาเริ่มใช้งานครั้งแรก ๆ โหลดเมลนับพัน โหลดเบอร์โทรศัพท์พันกว่าเบอร์ อัพเดทแอพฯ 18 ตัว โหลดแอพฯ เพิ่มอีกเพียบ เครื่องยังไม่มีอาการร้อนให้เห็น ต่างกับรุ่นก่อน ๆ อย่างสิ้นเชิง…ขอคารวะเลย
- แบตเตอรี่เท่าที่ลองยังไม่รู้ แต่ใช้มา3 ชั่วโมงแบตลดไปยังไม่ 5% เลย
- เรื่องกล้องเท่าที่ทดสอบในช๊อปซัมซุง ถ่ายมุมเดียวกัน เจ้า S7 edge แอบเหลืองกว่าความเป็นจริง แต่ออกจากช๊อปมาใช้ชีวิตตามปกติของผมยังไม่เจออาการเหลือง สงสัยเป็นเฉพาะไฟบางชนิด เดี๋ยวลองอีกทีในรีวิวกล้อง
- สิ่งหนึ่งที่ต้องแลกมากับจอโค้งมนสุดไฮโซก็คือ กันรอยที่หาดี ๆ ยาก ติดแล้วหลุดง่าย กันรอยกระจกกว่าจะเห็นคงอีกยาว เพราะอย่าง S6 edge+ ก็เพิ่งจะมาเดือนที่แล้วนี่เอง เฮ้อออออ ร้องเพลงรอกันต่อไป
- นอกจากกันรอยแล้ว บรรดาเคสต่าง ๆ หายากเช่นกัน ตอนนี้อาศัย เคสของ Tutu หรือ ไม่ก็เคสแท้ไปเลย
ไปอ่านรีวิวกล้องกันต่อที่
รีวิวกล้อง Samsung Galaxy S7 / S7 edge รูปโคตรเยอะตามสไตล์พี่อาร์ต
ปิดท้ายกันด้วยภาพคู่กับ iPhone6 และ รุ่นใหญ่อย่าง S6 edge+
ขอให้มีความสุข สนุกกับ LifeStyle IT ครับ
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ