Samsung Galaxy Folder แอนดรอยด์ตัวล่า แต่มากับดีไซน์ฝาพับย้อนยุค กล้อง 8 ล้าน แรม 1.5 กิ๊ก…เครื่องนอกไม่ขายในไทย เหมาะกันคนไม่อยากเหมือนใคร
จั่วหัวว่าเป็นนิทานรีวิว เพราะพิมพ์ไปพิมพ์มาลากบทความยาวเหยียด สวนทางกับรีวิวสมัยใหม่ที่รีวิวสั้น ๆ แล้วฟันธง
โดยปกติผมจะย่อยรีวิวเป็น 2 – 3 ตอน เพื่อให้กระชับ คนอ่านไม่เหนื่อย แต่ Galaxy Folder ตัวนี้เห็นว่าเป็นมือถือที่ไม่ได้ขายในประเทศไทย เลยคิดว่ารีวิวเล่น ๆ รวบรัดตอนเดียวจบ เขียนเล่าโน่นเล่านี่ จนจบปุ๊ป ตกกะใจ โอ้วมันยาวมาก ๆ เลยตั้งชื่อเป็น “นิทานรีวิว” แล้วกันนะ
ใครไม่ชอบอ่านอะไรยาว ๆ แต่สนใจรุ่นนี้อยู่ บอกได้เลยว่า
- ใช้ดีมาก ๆ ลื่นไหล ไม่แฮงค์
- แรมน้อยแต่พอใช้
- เหมาะสำหรับคนชอบอะไรไม่เหมือนใคร
- เหมาะกับคนที่มีสมาร์ทโฟนอีกเครื่องเอาไว้เล่นเฟส เล่นเวปอะไรทำนองนี้
- ผมใช้เครื่องนี้เป็นเครื่องโทรศัพท์ คู่กับอีกเครื่องจอ 5 นิ้วกว่า เอาไว้ทำงาน
- ในไทยลองเสิชดูมีร้านนึงในเฟสรับ Pre Order อยู่ 12,900 บาท
- รองรับ 4G นะ ผมใส่ซิม AIS ขึ้น LTE
- เครื่องนอกจาก เกาหลี มีแอพฯ เกาหลีติดมา ลบไม่ได้ แต่ไม่ใช่ปัญหา
- เป็นแอนดรอยด์ 5.1.1 ตัวล่าสุด
- หน้าจอทัช กล้องงั้น ๆ
- แบตฯ อยู่วันนึงสบาย ๆ เพราะไม่ได้ใช้เล่นอะไรมาก โทรเข้า โทรออก อ่านโน่น นี่นั่นนิดนึง
- จะซื้อดีมั๊ย —–> ซื้อเลย คุณต้องรักมันเหมือนผมแน่ ๆ
- ผมซื้อมาราคา 8 พันบาท (รูดบัตรเครดิตโดนชาร์ต) ราคาจริง 1,580 เหรียญเงินสด
- ซื้อที่ฮ่องกง ตึกมือถือที่ มงก๊ก ชั้น 2 ขึ้นบันไดเลื่อนไปเข้าซอยซ้ายมือ ร้านที่ 2 ฝั่งซ้ายเจอเลย
สำหรับคนผู้รักการอ่าน เชิญเสพ “นิทานรีวิว ณ. บัดนาว”
กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ นายซีน่อนอาร์ตเกิดความเบื่อหน่ายสมาร์ทโฟนที่หน้าตาคล้ายกันไปหมดทั้งตลาด มองไปทางไหนก็เจอแต่แท่ง ๆ ครั้งเมื่อปีที่ผ่านมาได้ข่าวว่า Samsung และ LG ได้ออกมือถือแอนดรอยด์ฝาพับพร้อมหน้าจอทัชสกรีนเอาเอาใจคนรักสมาร์ทโฟน ทำให้เกิดกิเลสอยากรู้อยากลอง และ เริ่มต้นศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
ว่าแต่ใครเกิดทันการพิมพ์รัว ๆ บนแป้นเลข 0 – 9 มั่งแสดงตัวหน่อย
จากที่ศึกษามา มือถือแอนดรอยด์ฝาพับรุ่นใหม่ ๆ ก็จะมี LG Wine Smart รุ่นล่าสุดปี 2015 และ Samsung Galaxy Folder ปี 2015 เช่นเดียวกัน มีค่าตัวคบได้สนุก ๆ เหมาะกับการเป็นกิ๊กชั่วคราวไม่เกินหมื่นบาท ส่วนรุ่นอื่นก็จะมีเจ้า Samsung Galaxy Golden ราคาสองหมื่นกว่า เลยอุทานออกมาว่า “เอากองไว้ตรงนั้นแหละ แพงเกิ้น”
เหลียวดูสเปคคู่แข่งอย่าง LG Wine Smart 2015 ให้แรมมาเพียง 1 กิ๊ก หน่วยความจำในตัวเครื่อง 4 กิ๊ก หน้าจอ 3.2 นิ้ว ความละเอียดเพียง 320 x 480 กล้องหลัง 3.1 ล้าน กล้องหน้า VGA เอิ่ม….หน้าตา Retro ไม่พอ สเปคยัง Retro ไปด้วย
ส่วนตัวที่เรากำลังเสพรีวิวอยู่มีสเปคดังนี้
สเปค Samsung Galaxy Folder
- ขนาดตัวเครื่อง 122 x 60.2 x 15.3 มม.
- น้ำหนัก 155 กรัม
- หน้าจอ Touchscreen ขนาด 3.8 นิ้ว ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล
- ซีพียู QuadCore 1.2 กิ๊ก
- แรม 1.5 กิ๊ก
- หน่วยความจำภายใน 8 กิ๊ก เหลือใช้ประมาณ 4 กิ๊ก
- ใส่เมมแบบ Micro SD ได้สูงสุด 128 กิ๊ก
- กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล, f/2.2
- กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
- รองรับ LTE – 850, 1800 และ 2100
- ใช้ซิมขนาด Micro SIM รองรับซิมเดียว
- แบตเตอรี่ความจุ 1,800 mAh
- มีสีขาว และ สีน้ำเงินเข้ม
จากสเปคก็ไม่ต้องคิดเยอะครับ Galaxy Folder ชนะใส ๆ ด้วยจอชัดกว่า แรมเยอะกว่า กล้องใหญ่กว่า พื้นที่หน่วยความจำมากกว่า กับราคาที่ต่างกันแค่พันบาท (โดยประมาณ) พอเลือกได้แล้วก็ดิ้นรนหาเครื่องสิครับ เพราะรุ่นนี้ไม่ขายในไทย ขายเฉพาะในเกาหลีเท่านั้น
เช็คอีเบย์รวมค่าส่งแล้วประมาณ 12,000 บาท ส่งจากเกาหลีประมาณ 5 – 7 วัน จากนั้นเจอพ่อค้าในเฟสบุ๊คขายอยู่ ราคา 12,900 บาท พรีออเดอร์ รอของ 5 วัน กำลังจะกดอีเบย์แล้วหล่ะ แต่พอดีคุณแม่บอกอยากไปไหว้พระที่ฮ่องกง….ฮั่นแน่ ได้เลย งั้นเดี๋ยวไปดูที่ มงก๊ก ดีกว่า
ไปเดินหาที่ตึกมือถือตรงถนน Argyle ย่านมงก๊ก เดินหาอยู่สักแป๊ปเดียวก็ไปเจอร้านที่ขายเครื่องหิ้วเกาหลีตรงชั้น 2 วางโชว์อยู่ ถามราคารวมค่าชาร์ตบัตรเครดิตแล้วราคาประมาณ 8 พันบาท ลองต่อเล่น ๆ แต่เค้าไม่ลด ควักบัตรรูดทันที เพราะจริง ๆ ราคาเปิดตัวในเกาหลีก็ประมาณนี้
และนี่ก็เป็นที่มาของรีวิวแก้เบื่อของพี่อาร์ต เล่านิทานมาเยอะแล้ว มาดูของกันเลยดีกว่าว่าสุดท้ายเจ้าชาย และ เจ้าหญิงจะครองรักกันอย่างมีความสุขหรือไม่
เจ้าหญิงเรามาพร้อมกล่องสีส้มสดใส ด้านหน้ามีคำว่า Galaxy Folder ใหญ่ยักษ์ ด้านหลังมีสเปคคร่าว ๆ พร้อมระบรองรับ LTE นะแจ้
สภาพกล่องผ่านการขนส่งจากเกาหลี ถึง ฮ่องกง บุบถลอกตามสภาพ แต่เราไม่สน ขอดูของข้างในดีกว่า
ตัวกล่องเล็กกระทัดรัด เล็กกว่ากล่องมือถือทั่วไปเพราะเครื่องเวลาพับแล้วสั้นมาก ๆ นั่นเอง
อุปกรณ์ในกล่องประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง
- แบตเตอรี่
- สายดาต้า / ชาร์จ
- หัวปลั๊กชาร์จไฟบ้าน
- หูฟังสมอลทอล์ค
- จุกยางหูฟังสำรอง
- คู่มือฉบับย่อ
โดยรวมแล้วอุปกรณ์ในกล่องก็คล้าย ๆ กับมือถือแอนดรอยด์ตัวอื่น ๆ ของซัมซุงอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นสีขาวสวยงาม วัสดุ คุณภาพพรีเมี่ยมมาก ๆ แม้จะเป็นมือถืออินดี้ที่เจาะตลาดลูกค้าบางกลุ่ม แต่ซัมซุงไม่ได้ลดคุณภาพของวัสดุลงเลย ซึ่งส่วนนึงผมเดาว่าเป็นเพราะรุ่นนี้ขายเฉพาะในเกาหลี เลยจัดหนัก จัดเต็มตามรสนิยมเกาหลีก็เป็นได้
สำหรับ Galaxy Folder ไม่มี Fast Charge ดังนั้นปลั๊กที่ได้เป็นแบบธรรมดา
จุกหูฟังที่มีมาให้เปลี่ยนอีก 3 คู่ เพื่อรองรับสรีระหูของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ยางนุ่มเหนียวคุณภาพดีหายห่วง
ไม่อยากจะบอกว่าขนาด Galaxy A5 2016 ตัวละ 13,900 บาท ยังไม่มีจุกสำรองมาให้เลย ^^ ของเค้าแน่นกล่องจริง ๆ หึ หึ
หลังจากไล่ดูอุปกรณ์ในกล่องแบบเร็ว ๆ แล้วก็ถีงเวลาพระเอกเปิดม่านออกโรงเสียทีนะ
ตัวเครื่องเป็นพลาสติคทั้งตัว หน้าหลังสีขาวทำลอนเป็นช่วง ๆ และ ปั๊มหน้าสัมผัสเป็นลายจุด ๆ อธิบายไม่ถูก (ดูรูปล่างละกัน) ซึ่งตรงนี้ทำให้ไม่ค่อยลื่นเท่าไหร่ แต่สรุปแล้วก็ยังลื่นนะ ต้องหาสายคล้องโทรศัพท์มาห้อยเพื่อไม่ให้หลุดมือง่าย ๆ
งานประกอบทำได้ดีเยี่ยม แน่นหนาไม่กิ๊กก๊อก
ฝาพับแน่นหนึบ ดีดดี ส่วนอนาคตสายแพร์จะพังเหมือนสมัยโมโตฝาพับหรือไม่ คงต้องดูกันยาว ๆ แต่ก็นะ….มือถือราคานี้ กว่าจะพังผมว่าใช้คุ้มแล้วหล่ะ
ตามสเปคแล้วเจ้า Folder มีน้ำหนักมากกว่า S6 edge+ อยู่ 2 กรัม แต่พอได้สัมผัส และ ถือใช้งานจริง ๆ แล้วรู้สึกเบามือโดยเฉพาะเวลาเปิดฝาพับ ถือคู่กับ S6 edge+ สบายมือมาก ๆ
ฝาหน้า และ ด้านหลังเป็นลานรู ๆ ตาราง ๆ เหมือนกัน พร้อมโลโก้ Samsung สีเงินสวยงาม วัสดุพลาสติคดูดีจับแล้วไม่เป็นรอยนิ้วมือ
ด้านหน้ามีไฟ LED ดวงนึงทำหน้าที่ Notification และ ไม่มีจอเล็กด้านหน้าเหมือนมือถือฝาพับยุคสุดท้าย ใช้แรก ๆ ก็รู้สึกแปลก ๆ ว่าไม่เห็นข้อมูลอะไรของโทรศัพท์เราเลย เวลาไฟเตือนก็รู้แค่มีเตือน ไม่รู้ว่าเตือนอะไร ต้องเปิดฝามาดูถึงจะรู้ว่าเมลล์, SMS หรือ อะไร ใช้ไปสัก 2 วันก็ชิน เพราะจริง ๆ แล้วเจ้าเครื่องนี้ซื้อมาใช้โทรศัพท์โทรออก รับสาย และ เล่นนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น
เปิดฝามาก็จะเจอหน้าจอ 3.8 นิ้ว ความละเอียดกำลังดีที่ 480 x 800 พิกเซล ซึ่งคมชัดมาก ๆ สำหรับหน้าจอขนาดเล็ก ๆ แบบนี้
ทัชสกรีนทำงานได้ดี แม่นยำ ลื่นไหล สมกับเป็นแอนดรอยด์ Lollipop 5.1.1
ลาบานซ์เครื่องโดยรวมทำได้ดี (อีกแล้ว….อวยไส้แตก) ไม่รู้สึกว่าหัวหนักไป หรือ เบาไป แต่เวลาคุยใครชอบเอาไหล่หนีบมือถือให้สองมือว่างไปทำอย่างอื่น บอกเลย งานนี้คอเคล็ดล้านเปอร์เซ็นต์เพราะมันบางมาก ลองหนีบทำนึง แหม ไหล่แทบโดนใบหูกันเลยทีเดียว
กล้องหน้าอยู่ใกล้ ๆ กับลำโพงเหนือหน้าจอ ความลเอียด 2 ล้านพิกเซล ถ่ายได้พอสนุก ๆ
กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ชุดเลนส์ f/2.2 ไม่มีไฟแฟรช แอพฯ กล้องก็ไม่มีเมนูอะไรใด ๆ ให้เล่นเหมือนรุ่นอื่น ถ่ายอย่างเดียว
อ้อ แต่มันซูมได้ 4 เท่านะ
ข้าง ๆ กล้องถ่ายรูปเป็นลำโพงเสียงภายนอก เสียงดังสนั่นกว่าที่คิด เปิดยูทูปครั้งแรกตกใจครับ O_O*
ตอนพกใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์เดินในห้าง โทรศัพท์เข้าดังชัดเจน แถมสั่นแรงด้วย
ฝาหลังเปิดได้พร้อมช่องใส่ซิมขนาดกลาง หรือ MicroSIM ซิมขนาดมาตรฐานแอนดรอยด์ทั่วไป ใส่เมมโมรี่การ์ดแบบ MicroSD ได้ความจุสูงสุด 128 กิ๊ก
เอ๊ะ! แบบนี้หน้ากล่องต้องโฆษณาแบบ A5 แล้วสิว่าความจุ 136 กิ๊ก เพราะใส่เมม 128 กิ๊ก + เมมในเครื่อง 8 กิ๊ก ส่วนผมใส่เมม 32 กิ๊ก (ใครไม่เก็ทมุกนี้ กลับไปดูภาพหน้ากล่อง A5 2016 ในรีวิวด่วน ๆ)
แล้วก็เดี๋ยวนะ……แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนแบตได้….เย้ เย้ ไม่ต้องบ่นว่า “ว้า เปลี่ยนแบตฯ ไม่ได้”
แต่…..เราก็ไม่ได้ซื้อแบตฯ อีกก้อน อาศัย Power Bank อยู่ดี O_o!
ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นปุ่มปรับเพิ่ม – ลดเสียง ขอบรอบตัวเครื่องเป็นสีขาวเรียบ ต่างกับด้านหน้า และ หลังที่ปั๊มลาย
ด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ไม่มีปุ่ม Power นะจ๊ะ เพราะมันไปรวมเป็นปุ่มเดียวกับปุ่มวางสายเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็นมาสมัยวัยรุ่น
อีกอย่างที่ Samsung Galaxy Folder โดนจิตโดนใจผมอย่างแรงก็ตรงที่มันมีรูร้อยสายคล้องโทรศัพท์ครับ แหม จะ Retro ฟรุ้งฟริ้งทั้งทีมันจะขาดสิ่งนี้ไปไม่ได้ ^^
นอกจากจะเป็น accessories เก๋ ๆ แล้วยังช่วยไม่ให้เจ้า Folder หลุดมือไปกระแทกพื้นได้ง่าย ๆ อีกด้วย จำได้ว่าสมัยที่มือถือยังมีรูอยู่ คล้องคอกันให้พรึบ
ด้านล่านของตัวเครื่องตรงกลางเป็นช่องเสียบสายชาร์ต สายดาต้า รูเข็มด้านข้างเป็นรูไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์
การใช้งานมือถือฝาพับที่มีปุ่ม T9 ร่วมกับหน้าจอทัชกสรีนบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ หลายคนคงสงสัยว่า เฮ้ยไม่งงตายเลยเหรอ
เท่าที่ลองวันแรก ผมใช้แต่ท้ชหน้าจอด้วยความเคยชิน วันที่สองพอการตั้งค่าต่าง ๆ ลงตัวก็เริ่มมาใช้ปุ่ม T9 ซึ่งคือปุ่มตัวเลขของตัวเครื่องในการควบคุม และ กดเบอร์โทรศัพท์ ด้วยความที่เกิดมายุคโมโตฝาพับยุคแรก ต่อมายังยุค GSM 2Watt ในตำนาน ทำให้การรื้อฟื้นความทรงจำเก่า ๆ ไม่ยากเท่าไหร่ เพียงครึ่งวันก็สามารถใช้ปุ่ม T9 พิมพ์ค้นหาชื่อในสมุดโทรศัพท์ได้แล้ว
ส่วนการพิมพ์อื่น ๆ เช่นจดโน๊ต SMS หรือ Line ก็ใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอสัมผัสเล็ก ๆ ขนาด 3.8 นิ้ว ซึ่งใครรู้สึกเล็กไป สามารถเข้าไปตั้งค่าขนาดความใหญ่ของแป้นพิมพ์ได้ใน Setting
ปุ่มลัดต่าง ๆ มีให้เพียบไม่ว่าจะเป็นปุ่ม 3 ทหารเสือของแอนดรอยด์อย่างปุ่ม Multi Task, Home และ ย้อนกลับ
เสริมความสะดวกด้วยปุ่มเรียกกล้อง สมุดโทรศัพท์ ข้อความ sms รวมไปถึง messenger app เหนือปุ่มวางสายที่สามารถตั้งให้เป็นปุ่มอะไรก็ได้
ส่วนเจ้าปุ่มควบคุม 4 ทิศทางพร้อมปุ่ม OK ผมแทบไม่ได้ใช้ เลื่อนหน้าจอทัชสกรีนง่ายกว่าเยอะ ยกเว้นตอนขับรถ….เฮ้ย ขับรถไม่ใช้โทรศัพท์นะแก เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ
ตัวอย่างหน้าจอเวลาค้นหารายชื่อ ซึ่งสามารถกดจากหน้าจออะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเปิดแอพฯ สมุดโทรศัพท์ หรือ แอพฯ โทรศัพท์ มันสะดวกตรงนี้แหละ
ดูซิยังจำวิธีกด T9 กันได้หรือเปล่า ^^
หน้าจอหลัก และ เมนูต่าง ๆ เป็นแอนดรอยด์ 5.1.1 พร้อม TouchWiz UI ของซัมซุงที่คุ้นเคย โดยหากรู้สึกว่าใช้งานยากบนหน้าจอเล็ก ๆ สามารถปรับเป็น Easy Mode ที่จะได้ไอค่อนใหญ่ และ การเข้าถึงต่าง ๆ คล้ายโทรศัพท์สมัยก่อนจริง ๆ แต่ผมไม่ชอบเลยพาลไม่ถ่ายรูปมาให้ดู 555
เชื่อผมเถอะ ใช้โหมดธรรมดานั่นแหละดีแล้ว เพราะ Easy Mode ยังหาวิธีใส่ widget ไม่ได้เลย
การใช้งานแอพฯต่าง ๆ เท่าที่ได้ลองดูไม่มีปัญหาเหมือน LG WineSmart รุ่นเก่า ๆ ที่บางแอพฯ แสดงผลไม่เต็มจอ
เกมส์ไม่ได้ลอง เพราะมันไม่เหมาะกับการเล่นเกมส์ แต่พวกแอพฯ เช็ครอบหนัง แอพฯ ธนาคาร หรือ แอพฯ ใช้งานต่าง ๆ ใช้ได้ดีไม่มีปัญหา ซึ่งสามารถโหลดได้จาก Play Store ในตัวเครื่องเหมือนแอนดรอยด์ปกติเลย เพราะด้วยหน้าจอ 480 x 800 ที่เป็นมาตรฐานใช้งานในหลายรุ่นนั่นเอง
รองรับ LTE พร้อมโลโก้หราบนหน้าจอ ซึ่งเจ้าหญิงของเรานั้นรองรับคลื่นความถี่ดังนี้
3G – 900, 1800, 1900
LTE – 850, 1800, 2100
UMTS- 850, 1900, 2100
เวลาถือคุยโทรศัพท์ก็ประมาณนี้ ยาวเลยคางไปเยอะ ถือไปไหนมีแต่คนมอง
คงสงสัยว่าไอ้นี่ท่าจะโบราณ ยังใช้มือถือแบบนี้อยู่อีก เค้าใช้สมาร์ทโฟนกันหมดแล้วเฟ้ย….. ผมคิดตอบในใจ เฮ้ย นี่มันสมาร์ทโฟนนะเว้ย ไปอยู่ไหนมา ^^
เล่านิทานมาสักพัก หลายคนคงอยากรู้ว่าไอ้กล้อง 8 ล้านที่พี่อาร์ตบอกไม่มีเมนูอะไรให้เล่น มันจะถ่ายรูปออกมาเป็นยังไง ว่าแล้วก็เอารูปที่ทดสอบมาโพสให้ดู ณ. บัดดล
เท่าที่ลองถ่ายรูป ผมว่า Samsung Galaxy Folder เหมาะสำหรับคนชอบถ่ายแนวตั้งมากกว่า เพราะสรีระตัวเครื่องถ่ายแนวนอนไม่สะดวกเท่าไหร่นัก แต่ใช้สักแป๊ปก็ชินแหละ
โดยรวมคุณภาพไม่ได้คมชัด เป๊ะเว่อร์วังอลัง ตามสไตล์ 8 ล้านของซัมซุง แต่ถือว่าผลงานใช้ได้ทีเดียว ผมว่าด้อยกว่า A5 2016 ที่เพิ่งรีวิวไปวันก่อนไม่เยอะ
ส่วนกล้องหน้า 2 ล้านก็ได้รูปประมาณนี้
กล้องหน้าสวยกลาง ๆ ใช้งานได้ ถ้าผ่านแอพฯ แต่งภาพอีกสักนิดน่าจะสวยกว่านี้
แต่ไม่นะ มือถือเครื่องนี้เราไม่ได้เอามาอัพเฟสนี่นา เราซื้อมาทำงาน O_o”
บทสรุป
จากโจทย์ที่ต้องการมือถือแปลก ๆ ไม่ใช่ทรง Bar Type เหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไปในตลาด มาใช้เป็นโทรศัพท์ที่ต้องดึงข้อมูลต่าง ๆ จากบัญชี Google ได้ ทั้งเบอร์โทร และ ตารางนัดหมาย ไม่ต้องการฟังค์ชั่นมากมายนักเพราะมีสมาร์ทโฟนอีกเครื่องใช้คู่กัน
ดังนั้นผมไม่ได้ต้องการมือถือที่อัดแน่นไปด้วยสเปคเทพ หน้าจอใหญ่ยักษ์ แรมเยอะ ๆ ดังนั้น Samsung Galaxy Folder จึงเป็นคำตอบที่ลงตัวที่สุดกับมือถือแอนดรอยด์ฝาพับ จอสวย ๆ การใช้งานลื่น ๆ
แต่ถ้าเอามาเล่นเกมส์ ถ่ายรูป ดูยูทูป บอกเลยมันทำได้ และทำได้ดีกับค่าตัวของมัน แต่มันใช้ไม่ถนัดเท่าไหร่ หากคุณต้องการซื้อ Folder มาใช้ ตั้งโจทย์ให้ตัวเองว่าซื้อมาใช้แหวกแนวชาวบ้าน ใช้สนุก ๆ ไม่เครียด และ มีมือถืออีกตัวที่ใช้งานหนัก ๆ อยู่แล้ว
เช่นนี้คุณจะรักเจ้า Folder เหมือนผมครับ
ปิดท้ายด้วยสรุปสั้น ๆ อีกรอบ
- ใช้ดีมาก ๆ ลื่นไหล ไม่แฮงค์
- แรมน้อยแต่พอใช้
- เหมาะสำหรับคนชอบอะไรไม่เหมือนใคร
- เหมาะกับคนที่มีสมาร์ทโฟนอีกเครื่องเอาไว้เล่นเฟส เล่นเวปอะไรทำนองนี้
- ผมใช้เครื่องนี้เป็นเครื่องโทรศัพท์ คู่กับอีกเครื่องจอ 5 นิ้วกว่า เอาไว้ทำงาน
- ในไทยลองเสิชดูมีร้านนึงในเฟสรับ Pre Order อยู่ 12,900 บาท
- รองรับ 4G นะ ผมใส่ซิม AIS ขึ้น LTE
- เครื่องนอกจาก เกาหลี มีแอพฯ เกาหลีติดมา ลบไม่ได้ แต่ไม่ใช่ปัญหา
- เป็นแอนดรอยด์ 5.1.1 ตัวล่าสุด
- หน้าจอทัช กล้องงั้น ๆ
- แบตฯ อยู่วันนึงสบาย ๆ เพราะไม่ได้ใช้เล่นอะไรมาก โทรเข้า โทรออก อ่านโน่น นี่นั่นนิดนึง
- จะซื้อดีมั๊ย —–> ซื้อเลย คุณต้องรักมันเหมือนผมแน่ ๆ
- ผมซื้อมาราคา 8 พันบาท (รูดบัตรเครดิตโดนชาร์ต) ราคาจริง 1,580 เหรียญเงินสด
- ซื้อที่ฮ่องกง ตึกมือถือที่ มงก๊ก ชั้น 2 ขึ้นบันไดเลื่อนไปเข้าซอยซ้ายมือ ร้านที่ 2 ฝั่งซ้ายเจอเลย
ขอให้มีความสุข สนุกกับ LifeStyle IT ครับ
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
อ่านเสร็จก็อยากจะได้มาครอบครองจริงๆ