รีวิว Business Class การบินไทย Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-ฮ่องกง

ลองนั่งนกยักตัวอวบ AirBus A380 ตำนานแห่งความยิ่งใหญ่ กับบริการ และ การจัดวางที่นั่งของ การบินไทย ชั้นธุรกิจ เที่ยวบิน TG600

ปกติผมไปฮ่องกงบ่อยมาก ๆ ทั้งประชุม และ พาครอบครัวไปเที่ยว เพราะเป็นประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า อาหารอร่อยมีให้เลือกมามายตามรีวิวที่ทยอยออกมาให้อ่านกันเป็นประจำใน xenon_art พาชิม

โดยมากผมจะนั่ง Emirates เพราะเป็นไฟลท์บ่าย ออกจากบ้านสบาย ๆ และ กลับเที่ยวดึกสามทุ่ม แต่ต้องแลกกับการเสียเวลาไปวันนึง เพราะวันไปถึงฮ่องกงก็เกือบหกโมงเย็นแล้ว

ผมต้องไปประชุมอีกครั้ง โดยมีเวลาจำกัด จึงเลือกนั่งการบินไทย ซึ่งก่อนอื่นบอกเลยว่าส่วนตัวมีอคติกับการบินไทยเล็ก ๆ เพราะแพงแต่เครื่องบิน และ บริการไม่ได้ดีตามราคาที่จ่ายไป

ทุกครั้งที่ไป ญี่ปุ่น จะนั่งการบินไทยชั้นธุรกิจ แต่ไม่เคยรีวิวให้ดูเลย เพราะส่วนมากจะได้นั่งเป็นโบอิ้ง 777 หรือ 747 ซึ่งเก่า และ ไม่ได้รับการบูรณะเท่าไหร่นัก

คราวนี้มีโอกาสได้นั่ง AirBus A380 เลยปั่นรีวิวมาฝากกัน

โดยความประทับใจแรกของทุกคนที่นั่งชั้นธุรกิจของการบินไทยคือ การเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ คือดีงามมาก เป็นโซนต่างหากแยกจากทุกสายการบิน โดยอยู่ที่ประตูทางเข้า 1 และ 2 (First and Business Class) พนักงานต้อนรับยิ้มแย้มแจ่มใส บริการดีสุด ๆ ถือเป็นกราวน์ที่ดีที่สุดในโลก บินทุกครั้งประทับใจตรงนี้ทุกครั้ง

การตรวจสัมภาระ การผ่านพิธีการตรวจคนออกจากเมืองก็เป็นเอกเทศแยกออกมา สะดวก คนน้อย ไฮโซของแท้

ซึ่งขออภัยนะครับ หารูปส่วนนี้ไม่เจอจริง ๆ ไว้ไปอีกทีจะอัพเดทรูปนะครับ

ผ่านพิธีการตรวจต่าง ๆ แล้วก็มุ่งหน้าสู่ Royal Silk Lounge กันได้เลย โดยที่สนามบินสุวรรณภูมิจะมีเลาจน์อยู่หลายจุด มีบริการ และ ขนาดแตกต่างกันไป ไม่ต้องสนใจครับ แนะนำไปเลาจ์ที่ใกล้ประตูขึ้นเครื่องที่สุด สบายใจกว่า โดยเที่ยวบิน TG600 ไฟลท์เช้ามุ่งหน้าสู่ฮ่องกง จะวันนี้เป็นประตู C3 จึงใช้เลาจน์ใกล้ ๆ กันทางปีกซ้ายของอาคาร ซึ่งห้องมีขนาดใหญ่กว่าปีกขวาพอสมควร

คราวนี้เอาคลิปรีวิวมาฝากกันด้วย ใครชอบดูแบบภาพนิ่งก็เลื่อนลงไปโลด

ภายในเงียบสงบแม้คนจะเต็มไปหมดก็ตาม เรียกว่าบรรยากาศพาไปไม่ให้ทำเสียงดังโดยอัติโนมัติ

มีเครื่องดื่ม และ ของว่าบริการตลอดเวลา ซึ่งอาหารที่เตรียมไว้ให้นั้น หากเปรียบกับสายการบินอื่น ๆ ที่สนามบินสุวรรณภูมิเรียกได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อาหารพื้น ๆ เตรียมง่าย ทั่วไป บางวันเจอ ข้าวต้มมัดด้วยนะ

แต่สำหรับคนบินบ่อย และ เคยไปใช้บริการ Emirates ถือว่าอาหารเทียบไม่ได้เลย เพราะเลาจน์โน้นมีทั้งสเต็ก สลัด ชีสต่าง ๆ พร้อมแครกเกอร์ อีกทั้งเครื่องดื่มก็หลากหลายกว่า ยี่ห้อแพงกว่า ไม่ว่าไวน์ หรือ แชมเปญ

รีวิว Business Class สายการบิน Emirates สุดหรู….คุ้มค่าจริง ๆ

สำหรับห้องรับรองของการบินไทยนี้….โดยรวมผมโอเคครับ มาพักรอเครื่อง ไม่ได้มากินบุฟเฟ่ต์เนอะ 555

หากท่านผู้บริการผ่านมาอ่าน รบกวนปรับคุณภาพอาหารนิดนึงจะดีมากครับ โดยเฉพาะพายที่ผมบังเอิญได้ชิ้นที่แห้ง และ เหนียวพอดีเลย

สภาพการดูแลความเรียบร้อยของอาหารใน Royal Silk Lounge

วันนั้นไฟลท์เช้ามาก ออกจากบ้านตีห้ากว่า ๆ เพื่อขึ้นเครื่อง 8 โมงเช้า

กินโจ๊กสิครับ จะรออะไร อุ่นท้องกำลังดี ไม่หนักเกินไป

เดินเข้ามาบนเครื่องสะอาด ใหม่ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส การจัดวางเป็นแบบ 1 2 1 เหมือนสายการบินอื่น ๆ โดยคู่กลางจะเป็นที่นั่งคู่ สลับเดี่ยว เอียงไหล่ออกจากกันเล็กน้อยเพื่อเพิ่มพื้นที่ช่วงตัวให้นั่งสบาย

ที่นั่งเดี่ยวติดหน้าต่างเป็นส่วนตัว โดยรวมใช้ธีมสีม่วงของการบินไทย โดยมีจุดเด่นก็คือ เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดเหมือนในรถยนต์ซึ่งน่าจะเป็นไม่กี่สายการบินในโลกที่ใช้เข็มขัดแบบนี้ แม้จะรัดแล้วน่ารำคาญ แต่มันปลอดภัยกว่านะ…ไม่รู้ใครกล่าวไว้

ช่องสอดขา และ ที่ “แอบ” วางสัมภาระเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้านหน้าใต้ทีวี บางไฟลท์ก็ให้วาง บางไฟลท์ก็ห้ามวาง ดังนั้นใครจะ “แอบ” วางกระเป๋าวใบน้อย แนะนำดันลึก ๆ แล้วเอาหมอนปิดไว้เพื่อให้มันกลิ้งออกมาตอนเครื่องขึ้น เดี่ยวข้าวของกระจายแล้วอายคนอื่นเค้า O_o!

ปุ่มควบคุมต่าง ๆ ใช้งานง่าย มีรูปให้ดูชัดเจน ที่สำคัญความเด็ดของเก้าอี้ Buisness Class การบินไทยบน AirBus A380 คือ การปรับเก้าอี้นอนได้ราบเรียบ 180 องศา แบนเป็นเตียงเลย นอนสบายมาก ๆ

ยิ่งเทียบกับ Emirates ที่นั่งประจำแล้ว การบินไทยปรับนอนได้แบนราบกว่า หมอนหนา นุ่มกว่า ส่วนผ้าห่มใกล้เคียงกัน

ปรับนอนปุ๊ป เก้าอี้จะไปชนพอดีกับช่องสอดเท้า นอนสบายมาก ใครชอบนอนหัวสูงหน่อย ก็ปรับพนักให้ยกขึ้นได้โดยส่วนอื่น ๆ ไม่ได้เลื่อนตาม….อันนี้ชนะเลิศครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้ครบครันทั้งทีวีจอใหญ่แบบทัชสกรีน มีหนังใหม่ ๆ ให้ดูมากมาย เสียดายที่หนังไทยใหม่ ๆ แทบไม่มี คงเป็นด้วยราคาละมั๊งทำให้ต้องหันไปซื้อหนังฝรั่งมาบริการแทน

ส่วนการ์ตูนนี่เพียบนะครับ คุณพ่อ คุณแม่ทั้งหลาย สบายหายห่วง

ถ้าจะให้เทียบอุปกรณ์ต่าง ๆ กับ Emirates นั้น ผมว่าพอ ๆ กัน แต่การบินไทยแพ้ตรงเครื่องดื่ม เพราะ Emirates มีบาร์ส่วนตัวให้ทุกที่นั่ง มีทั้งเบียร์ น้ำเปล่า น้ำอัดลม น้ำแร่ไว้พร้อม ใครอยากดื่มอะไรก็หยิบกินได้เลย

แต่การบินไทย และ สายการบินส่วนมากมักจะไม่มีบาร์ส่วนตัว จะดื่มอะไรต้องกดเรียกพนักงาน หรือ รอจังหวะพนักงานเดินผ่าน

ตัวอย่างบาร์น้ำส่วนตัวของ Emirates

หูฟังแบบมีนวม ตัดเสียงรอบข้างให้เราเพลิดเพลินกับการดูหนังได้อย่างเต็มที่

ใครไม่ดูหนังแต่อยากนอนก็สามารถเอามาครอบหูได้เช่นกัน เงียบได้ใจแถมยังเป็นทรงที่ไม่บีบหัวจนเกินไป ใส่สบาย จุดนี้ใช้ 5 ดาวเต็ม

ข้อดีของหูฟังของการบินไทยนี้คือ ด้านบนของที่ครอบหัวเป็นนวม ต่างกับหลายสายการบินที่เป็นพลาสติคล้วน ๆ เวลาใส่ของการบินไทยแล้วนุ่มหัว แถมผมไม่ค่อยเสียทรงด้วย เริ่ดมาก

ใครบินบ่อยรู้ดี เพราะถ้าหูฟังไม่ได้ เครื่องลงปุ๊ป หัวแบนเลย 555

นั่งได้สักครู่ พนักงานก็เดินมาเสริฟเครื่องดื่มก่อนขึ้นเครื่อง พร้อมผ้าร้อน มีให้เลือกไม่ว่าจะเป็นน้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล แชมเปญ และ วันนั้นมีชามะขามด้วย

แน่นอนพระเอกอย่างผม “น้ำส้ม” ครับ

อาหารที่เสริฟบนเครื่องดูดี เรียบร้อย สะอาด อุปกรณ์ทุกชิ้นคัดสรรมาเป็นอย่างดี การเสริฟเริ่มด้วย ไวน์ หรือ เครื่องดื่มอื่น ๆ ตามด้วยผลไม้ เรียกน้ำย่อย และ ขนมปัง มีให้เลือกทั้งขนมปังก้อน ครัวซองค์ และ ขนมปังกระเทียม (บางไฟลท์)

แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนไม่รู้เลยคือ เราสามารถรีเควสอาหารพิเศษได้ตอนจองตั๋ว ในขั้นตอนการจองตั๋ว และ จองที่นั่ง เราสามารถสอบถามพนักงานได้ว่าเที่ยวบินนี้มีอาหารพิเศษอะไรบ้าง ซึ่งเป็นอาหารคนละชนิดกับที่เสริฟปกติ และ ไม่สามารถไปขอทีหลังได้ ต้องทำการจองอาหารล่วงหน้าเท่านั้น

เที่ยวบินนี้มี สเต็ค และ แกงเขียวหวานหมูให้เลือก จัดการเลือกอย่างละ 1 ที่มารีวิวให้ดู (บินกัน 2 คนนะครับ คนนึงสั่งได้อย่างเดียว)

สเต็คเนื้อ พอทานได้ คนสเต็คอาจไม่ชอบ เพราะเค้า Pre-cook มาก่อน แล้วอุ่นอีกครั้งบนเครื่อง ทำให้เนื้อสุกมากเกินไป Well-done เนื้อไม่ค่อยนุ่มเท่าไหร่ รสชาติซอสอร่อยดี ทำให้โดยรวมรับประทานได้….เกลี้ยงจานเลย

แกงเขียวหวานหมู+ไช่โป๊วผัดไข่ กับ ข้าวหอมมะลิ อร่อยมาก หมดในพริบตา

ใครที่บินชั้นธุรกิจการบินไทย อย่าลืมสอบถามพนักงานจองตั๋ว หรือ เช็คออนไลน์ดูว่ามีอาหารพิเศษ หรือ Special Menu อะไรในไฟลท์นี้บ้าง จะได้ไม่ต้องทานอาหารจำเจบนเครื่องบิน

อาหารจานหลักว่าอร่อยแล้ว แต่ไฟลท์นี้ที่โดนใจผม และ ภรรยาที่สุด คือ….ครัวซองต์ ระดับเทพ ผิวบางกรอบ อุ่นร้อน ๆ หอมเนยไปทั้งปากตั้งแต่กัดคำแรก อร่อยมว๊ากกกกกก เอาไปร้อยกะโหลกเลย

สรุปแล้วเที่ยวบินนี้แฮปปี้มาก ๆ ทั้งบริการ และ คุณภาพ ถือว่าโชคดีที่เจอพนักงานบนเครื่องบริการดีครับ

ขอให้มีความสุข สนุกกับชีวิต LifeStyle IT ครับ

_________________________________________________________________