มาต่อกันด้วยสวนสนุกสำหรับเด็กโต Universal Studio แล้วไปส่องดงของเล่นใน Funan IT Mall ห้างขายคอมที่มีร้านของเล่นเพียบ
เดินทางกันมาถึงวันที่สามแล้วนะครับ สำหรับสองวันแรกใครยังไม่ได้อ่านกลับไปอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจได้ที่
- เที่ยวสิงค์โปรฉบับพ่อ-ลูก ตอนที่ 1 – เช็คโรงแรม ตึกของเล่น ดูของกิน Raffles City
- เที่ยวสิงคโปร์ฉบับพ่อ-ลูก ตอนที่ 2 – ว่ายน้ำชมปลากระเบนที่ Adventure Cove ต่อ Vivo City
วันที่สามนี้ตื่นเช้ามา เพื่อนชาวสิงคโปร์พาไปลิ้มอาหารเช้าแบบท้องถิ่น ที่ Hawker Place หรือ ฟู๊ตคอร์ตสไตล์สิงคโปร์
Lau Pa Sat Festival Market หรือ อีกชื่อนึงคือ Telok Ayer Market ซึ่งเพื่อนบอกว่ามันอยู่ที่นี่มานานตั้งแต่แรกตั้งประเทศเลยก็ว่าได้ เมื่อก่อนตลาดนี้อาจใช้ในจุดประสงค์อย่างอื่น แต่ปัจจุบันมันคือแหล่งรวมอาหารพื้นเมืองของที่นี่ที่เก่าแก่ที่สุด (มั๊ง…เค้าบอกมา)
Lau Pa Sat ตั้งอยู่บนถนน Cross Street ซึ่งไม่ห่างจากตึกของเล่น China Square Central เลย เพื่อน ๆ ที่มีแผนไปดูของเล่นก็แวะมาชิมได้ครับ เดินตรง ๆ มา 3 ไฟแดง หรือ ประมาณ 10 นาทีก็ถึง
ใครอยากตามไปชิมคลิ๊ก Google Map
ของกินมีมากมายหลายชาติ ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารแนวที่คนสิงคโปร์ชอบทั้งนั้น ทั้งเมเลย์ สิงคโปร์ จีนกวางตุ้ง และ แอบเห็นมีก๋วยจั๊บขายด้วย
บะหมี่ไก่อบ หน้าตาน่าทานที่หากินไม่ค่อยได้ แบบนี้ต้องลองซะจานนึง
อุ๊ต๊ะ ข้าวมันไก่สิงคโปร์ก็มีด้วย อย่าช้า…จัดมาเลย 1 จาน
น้ำจิ้มมีให้เลือกทั้ง 3 แบบ
มาเช้าเกินไปหน่อย ไก่ตอนยังไม่เข้า เอาไก่อบมากินพลาง ๆ ไปก่อน
บะหมี่ไก่อบราซีอิ๊ว เหมาะสำหรับคนชอบหวานนิด ๆ โดยรวมจานนี้กลมกล่อมอร่อยดีครับ
อีกเมนูที่น่าสนใจคือ carrot cake บ้านเราไม่มีขายครับ มีเฉพาะแถวมาเลเซีย กับ สิงคโปร์ โดยเค้าจะมี 2 แบบให้เลือกคือ แบบปกติแบบด้านบน รสชาติดีทีเดียว รสชาติคล้าย ๆ ขนมผักกาดบ้านเราแต่ไม่มีถั่วงอก และ ผักต่าง ๆ กินง่ายไม่ต้องปรุงเพราะเค้าผัดมาหอมมาก ๆ
carrot cake อีกแบบก็คล้าย ๆ กันแต่ใส่ไข่น้อยกว่าแล้วเติมซีอิ๊วหวานลงไป ผัดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เหมาะสำหรับคนชอบหวานหน่อย หอมอร่อยไม่แพ้แบบด้านบน
เป็นเมนูที่แนะนำให้เพื่อน ๆ ลองดูนะครับ เชื่อว่ามีขายตาม hawker place ต่าง ๆ
ถ่ายรูปกับลูกโลกตามระเบียบ คือ….ใครมาแล้วไม่มีช๊อตนี้เหมือนจะผิด 555
คนที่พาลูก ๆ มาสามารถลองไปวัดที่แผงวัดหน้าทางเข้าได้เลย อยู่ตรงเสาข้าง ๆ ที่ขายตั๋วได้เลย สูงแค่ไหน เล่นอะไรได้ดูเอาเลย คุณไว อายุ 9 ขวบ สูงประมาณ 127 ซม. เล่นได้ทุกอย่าง
ส่วนลูกสาวเพื่อนสองขวบกว่า ๆ เล่นได้ 3 อย่างเหมือนกันนะ ดังนั้นใครเป็นห่วงว่าพาลูกเล็ก ๆ มาเที่ยวที่นี่แล้วจะเล่นอะไรไม่ได้ก็สบายใจได้อีกนิด
แต่หากให้เลือกระหว่าง Disney Land กับ Universal Studio ผมว่าหากลูก ๆ อายุไม่เกิน 7 ขวบ ไปเที่ยว Disney Land จะสนุกกันมากกว่า เพราะที่นี่เหมาะกับเด็กโตนิด ๆ ที่มีอารมณ์ร่วมกับหนังไม่งั้นเค้าไม่เข้าใจเท่าไหร่
ตอนลูกชายผมอายุ 5 ขวบ พาไปเที่ยว Universal Studio ที่ Florida เค้าไม่เล่นอะไรเลย พอเจอ Jurassic Park นี่ร้องไห้จ้าเลย แต่หลังจากได้ดูหนัง Jurassic World เมื่อเดือนก่อน ตอนนี้ต้องบินมาสิงคโปร์เพราะเจ้า Jurassic Park ซะงั้น
ถ้ามีลูกหลายคนทั้งโต ทั้งเล็ก แล้วตกลงมาเที่ยวที่นี่ก็ยังพอได้นะ มันมีโซน Shreak, Sasemi Street หรือ Madagascar ที่มีเครื่องเล่นเบา ๆ สำหรับเด็ก
ผ่านซุ้มประตูทางเข้า ตรวจกระเป๋า และบัตรผ่านประตูก็มาถึงโซนแรก คือ โซนร้านค้า มีของขายมากมายมารอกระชากกระเป๋า
แต่เดี๋ยวก่อนครับ เดินดูเฉย ๆ ก็พอ ชอบอะไรขากลับค่อยซื้อจะได้ไม่ต้องถือของพะรุงพะรัง
หิวกาแฟก็แวะมาตาบัคได้นะ ตกบ่ายผมนี่วิ่งมาเติมพลังทันทีเลย ^^
รับกระแส minion fever กับร้าน minion mart ที่รวบรวมสินค้าทุกสิ่งอย่างของเจ้าตัวเหลืองที่น่ารัก น่าชังนี้ ผมก็มาได้ปกใส่พาสปอร์ตหน้า minion ให้ลูก และ ภรรยา คนละอัน
รับ minion สักตัวมั๊ยครับ?
เมื่อดูของเสร็จแล้ว ก่อนจะไปลุยกันต่ออยากให้ลองมองไปรอบ ๆ ว่าคนเยอะหรือไม่ หากคนเยอะแล้วขี้เกียจต่อแถว อีกทั้งมีงบประมาณสามารถจ่ายได้ แนะนำนี่เลยครับ บัตรลัดคิว หรือ Express Pass
บัตรมี 2 ชนิด คือ
Universal Express – บัตรเข้าช่องทางพิเศษ คิวสั้น เข้าได้เครื่องเล่นละ 1 ครั้งเท่านั้น ราคา 50 เหรียญ
Universal Express Unlimited – บัตรเข้าช่องทางพิเศษเหมือนอันแรกแต่ใช้งานกี่ครั้งก็ได้ เหมาะสำหรับคนชอบเล่นอะไรซ้ำ ๆ
บัตรทางด่วนนี้ราคาแพงพอสมควรดังนั้นจึงให้เล็งฝูงชนก่อนซื้อบ้ตร เพราะหากไปวันธรรมดาคนไม่ได้เยอะมาก ไปยืนต่อคิวเอาก็ได้ แต่ถ้าดูแล้วเวลามีน้อย ขี้เกียจไปยืนต่อคิวเหงื่อท่วมตัว ซื้อบัตรเหมือนผมได้เลย ซึ่งซื้อง่ายมาก ตามร้านขายของที่ระลึกในโซนแรกตรงข้าม MinionMart จะมีเคาเตอร์ขาย
หากมาเที่ยวคนเดียวไม่ต้องซื้อครับ เพราะเค้าจะมีช่องสำหรับ Single RIder คือ ช่องสำหรับคนเล่นคนเดียว คิวสั้นกว่า Universal Express อีก โดยช่องนี้เค้าจะเอาเราไปนั่งรวมกับคณะอื่น ๆ ที่มีที่นั่งเหลือ
เมื่อพาตัวเองหลุดรอดจากแดนดูดทรัพย์ และ ตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อ Universal Express หรือไม่ เดินออกมาหน่อยก็จะเจอสามแยก Mel’s Drive In ที่ต้องมีตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งนึง ว่าเราจะเลี้ยวซ้าย หรือ เลี้ยวขวา โดยขึ้นอยู่กับเราจะเล่นเครื่องเล่นแนวไหน
หากไปกับเด็กเล็ก เล่นอะไรที่ขิขุอาโนเนะ เบา ๆ สบาย ๆ ให้เลี้ยวซ้ายไปครับ เพราะจะเป็นโซนเครื่องเล่นพวก
- Saseme Street
- Far Far Away (เชร็คตัวเขียวที่แสนน่ารัก)
- Madagascar
โซนเด็ก ๆ พวกนี้ผมไม่ได้เล่นนะครับเพราะลูกชายมุ่งหน้าสู่ Jurassic Park เท่านั้น แต่ที่นี่เดินเป็นวงกลม เดินสุด Jurassic Park และ Water World แล้วก็จะต่อด้วย Far Far Away บ้านเกิด Shrek พอเดินมาเรื่อย ๆ ก็มาจบที่สามแยก Mel’s Drive In ดังนั้นผมเก็บภาพบรรยากาศน่ารัก ๆ มาฝากเพื่อน ๆ ที่มีลูกเล็ก
อันนี้เป็นฟู๊ตคอร์ทครับ หน้าตาเก๋ไก๋ และ คนน้อยกว่าโซนเด็กโข่งอีกฝั่งนึง
ม้าหมุนที่เอาตัวละครน่ารัก น่าชังจาก Madagascar มาใช้ได้อย่างน่ารักลงตัว ทั้งเด็ก และ ผู้ใหญ่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ส่วน ซีน่อนอาร์ต หน่ะเหรอ…อดนั่งตามระเบียบ
สำหรับเด็กโข่งอย่างผม รวมถึงเด็กโตสูงเกินสัก 120 ซม พร้อมเล่นเครื่องเล่นมันส์ ๆ จากสามแยก Mel’s Drive In ให้เลี้ยวขวาไปโลด แล้วเราจะเจอโซนเครื่องเล่นสุดมันส์ดังนี้
- Sci-FI City – Transformer ที่ห้ามพลาด, Battlestar Galactica รถไฟเหาะกระชากวิญญาณ และถ้วยหมุนชวนปวดหัว accelerator
- Ancient Egypt – Reveng of Mummy ในตำนาน กับ การนั่งรถหาสมบัติอันสนุกสนาน Treasure Hunter
- Lost World – มันคือ Jurassic Park ที่มี Rapid Adventure, Canopy Flyer, Dyno-Soarin หรือ จะปีนเขากับ Amber Rock Climb
- Water World – โชว์สนุก ๆ ที่น่าดู โดยเฉพาะคนที่เกิดทันดูหนังเรื่อง Water World
พอเลี้ยวขวามาเจอมุมนี้ปุ๊ป คิดถึง Universal Studio ที่ ออแลนโด้ ขึ้นมาทันที ไม่ได้ไป 2 ปีแระ
เดินจากสามแยกมาหน่อยก็เห็นคิวยาวววววววมั๊ก ๆ หน้าร้าน Gartner’s Bakery ซึ่งไม่รู้ว่ามันคืออะไร พอขากลับแวะมาอีกรอบ ปิดไปซะแล้ว ใครเคยไป หรือ รู้ข้อมูลมาโพสบอกกันด้วยนะครับ เผื่อคราวหน้าจะได้ไปต่อคิวกะเค้าบ้าง
Battlestar Galactica รถไฟเหาะตีลังการ อีกหนึ่งแม่เหล็กดึงดูด rider โดยเค้าจะแบ่งแถวที่ 2 ประเภทคือ Human กับ Cylon โดย Human จะหวานเสียวน้อยกว่าเพราะที่นั่งมีที่พักเท้า แต่ Cylon จะสุดเหวี่ยงกว่าเพราะสองเท้าลอยจากพื้นตลอดเวลา
ทางเข้าแดนอิยิปต์โบราณ ที่จะนำเราไปสู่ Revenge of the Mummy ซึ่งลูกชายไม่ยอมเล่นเช่นเคย ส่วนผมเคยเล่นหลายรอบแล้วที่ ออแลนโด้ ถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่สนุกมาก คือเรานั่งรถรางแล้ววิ่งเข้าไปในห้องมึด ๆ แล้วผจญภัยไปกับศาสตร์ดำมึดแห่งไอยคุปต์ อารมณ์ดูหนัง 4 มิติ ผสมรถไฟเหาะ
ในที่สุดก็เดินมาถึงดินแดนแห่งไดโนเสาร์ Jurassic Park จุดมุ่งหมายเดียวของคุณลูก จากแรงบันดาลใจของหนังตอนล่าสุด Jurassic World และ อินดอมินัสเรกซ์
ทั้งป้ายประตูทางเข้า ทั้งเพลงธีมของหนังที่เปิดคลอตลอดทั้งพื้นที่ แค่เดินเข้าไปแล้วได้บรรยากาศดังโลกจินตนาการลูกชายผมก็ “ฟิน” แล้ว
วิ่งเข้าไปเล่น Rapid Adventure ด้วยช่องทางด่วน หรือ Universal Express แบบ 50 เหรียญ ด้านหน้าจะมีตู้ล็อคเกอร์ฝากของเพื่อความปลอดภัยเพราะอาจเปียกน้ำได้
ปล. ภาพมัวหน่อยนะ รีบถ่าย ลูกเร่ง
ช่องทางนี้มีคิวประมาณแค่ 6 คน ซึ่งรอแป๊ปเดียวเนื่องจากครั้งนึงคนนั่งกันได้ราว 8 คน
หันไปดูคิวปกติ โอ้โห!!!! คนเพียบครับ นึกในใจว่าดีนะยอมซื้อบัตร express
การเล่นเจ้านี่ก็เป็นเหมือนล่องแก่งด้วยแพยางจำลองทรงกลม หมุนวนตามแม่น้ำไปเรื่อย ๆ ผ่านศูนย์วิจัย และ Jurassic Park ตามในหนังภาคแรก สนุกตื่นเต้นเร้าใจ แต่เอ๊ะ มองไปดูเพื่อนร่วมชะตากำละเดียวกันทำไม่แต่ละคนใส่เสื้อกันฝนหมดเลยหว่า เลยเพ่งตามองเข้าไปในแถวปกติ อ้อ เค้ามีตู้ขายเสื้อกันฝนด้วย ไอ้เรามาทางด่วน หลับหู หลับตา รีบวิ่งเข้ามาไม่ได้ดูอะไรเล้ย
ตอนแรกก็ยังไม่คิดอะไรนะ เคยเล่นที่เมกามาแล้ว พอล่องไปเรื่อย ๆ อย่างสนุกสนาน ได้เห็นไดโนเสาร์ และ ฉากสวย ๆ มากมาย และ พอมาถึงตอนจบ……..
ตูม…..ลงน้ำอย่างแรง
หายสงสัยละ ว่าทำไมคนเค้าถึงใส่เสื้อกันฝนกัน
เปียกสิครับท่าน เปียกชุ่มไปถึงชั้นใน
คือตอนเล่นที่เมกา ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นรถ เวลาเล่นจะเหมือนล่องแก่ง พอลงน้ำก็ไม่ค่อยเปียกเท่าไหร่ แต่ที่นี่เป็นแพทรงกลม นั่งไปก็หมุนไปเรื่อยตามกระแสน้ำ สุดท้ายตอนลงน้ำผมหมุนไปอยู่หน้าสุดซะงั้น รับไปเต็ม ๆ คนเดียวเลย ลูกโดนน้ำกระเซ็นเล็กน้อย ส่วนคนอื่น ๆ แทบไม่เปียก T T
ถุงเท้าบิดออกมาเป็นน้ำ เหลียวมองดูรองเท้าคู่โปรด….เปียกชุ่ม ถึงขั้นพัง แม้จะแห้งแล้วอีกวันมาดู ย่นไปทั้งคู่เลย #ร้องไห้หนักมาก O_o!
แต่ไม่ต้องห่วงครับ ด้านนอกเค้ามีตู้เป่าลมเหมือนใน Adventure Cove ที่ไปว่ายน้ำมาเมื่อวาน จัดแจงหยอดไป 5 เหรียญแล้วเป่าหัวให้แห้งป้องกันการไม่สบาย
ดังนั้นแนะนำเพื่อน ๆ หากตั้งใจไปเล่นเครื่องเล่นนี้ ใช้บริการเสื้อกันฝนของเค้าด้วยถ้าไม่ได้เตรียมมา และ หาถุงพลาสติคไปใส่รองเท้าก่อนเล่น หรือ ใส่รองเท้าที่เปียกน้ำแล้วแห้งง่าย พวก Croc
ถ้าเป็นรองเท้าแตะไม่แนะนำเพราะจะเล่นเครื่องเล่นอื่น ๆ ไม่สะดวก โดยเฉพาะ Battlestar Galactica Cylon
เป่าตัวเสร็จ เดินซื้อของในร้านค้าของโซน Jurassic Park ที่ไม่มีขายในโซนอื่นแล้วก็แวะมากินข้าวที่ Discovery Food Court ซึ่งจำลองมาจากในหนังเป๊ะ
น่าขนาดมาวันอังคารคนเยอะขนาดนี้ มาวันเสาร์ อาทิตย์ไม่ต้องพูดถึง
จัดข้าวมันไก่สิครับ จะรออะไร
ราคา 11.50 เหรียญ……ไม่อร่อย แถมไม่เหมือนในรูปอีกต่างหาก
Dino Egg คือ มีทบอล เนื้อบดอัดก้อนสอดไส้ชีส วางอยู่บนมันฝรั่งทอดแบบคริสฟลายราดด้วยครีมชีส ดูน่าทานมาก ๆ
แต่บอกเลยไม่อร่อย เหมือนมีทบอลอบไม่ได้ที ชีสไม่เยิ้ม อาจเป็นเพราะคนเยอะเกินไป สรุปชิมคำเดียวแล้วทิ้ง เสียดายเงินนะ แต่กินไม่ได้จริง ๆ
ตลอดทางไม่ต้องกลัวหิวครับ มีของกิน มีน้ำขายตลอดทางโดยแต่ละโซนจะตกแต่งแตกต่างกันไปสร้างสีสรร และ อารมรณ์ร่วมได้เป็นอย่างดี
ถ้าไม่อยากเสียเวลาในฟู๊ตคอร์ท และ เด็ก ๆ ไม่งอแง ว่าต้องนั่งกินบนโต๊ะ ผมว่าทานขนม ของว่างพวกอย่างน่องไก่งวงที่ใหญ่กว่าน่องไก่ปกติบ้านเราประมาณ 3 เท่า กินกันคนละอัน+น้ำขวดนึง อิ่มจุกไม่เสียเวลา ประหยัดด้วย
หลังจากเดินเล่นชมบรรยากาศ ก็ได้เวลากลับมาเล่น Transformer โดยผมเข้าเล่นคนเดียว ลูกชายรอข้างนอกพร้อมโทรศัพท์ 1 เครื่องเผื่อหากันไม่เจอ เค้าก็นี่งเล่นเกมส์รออยู่ด้านหน้า ไอ้เราก็ใช้ express ลัดคิวเข้าไป แป๊ปเดียวก็ออกมาเจอลูกแล้ว
อย่างที่บอกครับ Universal Studio เค้ามีช่อง Single Riders ด้วย มาคนเดียวเข้าช่องนี้ได้เลย
เจ้านี่จะเป็นรถไฟเหาะในห้องมืด พร้อมใส่แว่นตาดูหนัง 3 มิติ เหวี่ยงไปมาสนุกสนาน พร้อมผจญภัยไปกับเรื่องราวบนหน้าจอ IMAX ขนาดใหญหลายจอ ไม่ได้นิ่ง ๆ อยู่ที่จอเดียวนะครับ อลังการมาก ไม่ว่าคุณจะชอบ Transformer หรือไม่ก็ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
เสียดายที่นี่ไม่มี Harry Potter แต่ผมเคยเล่น อารมณ์เดียวกับ Transformer เลยเพียงแต่เปลี่ยนฉาก และ เรื่องราวเป็น Harry Potter
ก่อนกลับถ่ายรูปกับเพื่อนชาวสิงคโปร์ที่อุตส่าห์พาครอบครัวมาเที่ยว Universal ด้วยกัน
Thank you very much for your hospitality bro.
หลังจากกลับโรงแรมเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า และ รองเท้าที่ยังคงเปียกอยู่ ก็มุ่งหน้าปฏิบัติภารกิจตะลุยแดนของเล่นกันต่อ โดยคราวนี้มาแปลกตรงที่มันไม่ใช่ตึกของเล่น แต่ดันมีร้านของเล่นเจ๋ง ๆ มากมายไปฝังตัวอยู่
นั่งแท๊กซี่จาก Raffles City ไปแค่ 8 เหรียญก็ถึงตึก Funan Digital Life Mall หรือ บอกแท๊กซี่ง่าย ๆ ว่า ฟู่หนันไอทีมอลล์ รู้จักกันทุกคน
ไปไม่ถูกคลิ๊ก Google Map
ที่นี่เป็นตึกคอมพิวเตอร์ เหมือนฟอร์จูนบ้านเราเลยครับ คอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนประกอบคอม อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เพียบ
กล้องก็มีนะ แต่ราคาผมไม่ได้เช็คเพราะไม่ค่อยรู้เรื่อง เดี๋ยวจะเอามาเล่าผิด ๆ ^^
ราคา Lenovo รุ่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น G50 Yoga 500 Yoga 3-14 หรือ Yoga 300 เงินสิงคโปร์คิดเป็นเงินไทยง่าย ๆ ตอนนี้เอา 26 คูณเข้าไป รูดการ์ดได้ไม่ชาร์ต
ราคาคอมส่วนมากพอ ๆ กับบ้านเรา บางอย่างต้องดูดี ๆ อย่างภาพด้านบน Asus Zenbook UX303 ราคาแค่สองหมื่นหกพันบาท แต่ถ้าดูดี ๆ รหัสต่อท้ายเป็น FA มี SSD ความจุเพียง 128 กิ๊ก ในขณะที่บ้านเราราคา 28,990 บาท แต่ได้ SSD 256 กิ๊ก
ปล. ซื้อแล้วต้องเอากล่องไปแลกของแถมที่ @reward ตึก Orchard Central นะ
คอมพิวเตอร์ผมว่าซื้อบ้านเราดีกว่ามีประกัน มีแป้นไทย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Hard disk แบบ SSD ของ Samsung รุ่น 850 โปรตัวเทพประกัน 10 ปี ราคาที่สิงคโปร์ถูกกว่าไทยเยอะเลย มีของแถมด้วย
เอาง่าย ๆ 850 Pro รุ่น 256 กิ๊ก คิดเป็นเงินไทยประมาณ 5700 บาท แถม External HDD 500 กิ๊กอีกลูกนึง ในขณะที่บ้านเราขายลูกนึง 7400 บาทโดยประมาณ ไม่มีของแถม ราคาต่างกันเกือบสองพันยังไม่หักของแถม แต่แน่นอนว่าประกับสิงคโปร์นะจ๊ะ ถ้าผมไม่เพิ่งซื้อจากฟอร์จูนมาลูกนึง สงสัยโดนแน่ ๆ
เดินดูคอมฯ กันพอหอมปากหอมคอแล้วมุ่งหน้าขึ้นชั้น 4 โซนเกมส์ และ ของเล่นกันได้เลย โดยจะมีร้านเกมส์ พวก xbox, Play Station และ Wii อยู่หลายร้าน ราคาดีกว่าบ้านเรา เหมาะสำหรับคนเล่นแผ่นแท้
ของเล่นที่นี่จะมีปน ๆ กันทั้งสายอเมริกาพวก Marvel, Starwar และ สายญี่ปุ่นพวก one piece, Blythe รวมไปถึง Hottoys ด้วย ใครขาดตัวไหนลองมาดูที่นี่ได้ ราคารับได้ ไม่ได้ถูกกว่าบ้านเรา แต่ตัวหายากบ้านเราที่นี่ไม่ได้อัพราคาเว่อร์เหมือนฮ่องกง
ร้านนี้ร้านโปรดของผม ลูกชาย และ ภรรยา คือเข้าร้านนี้ไม่มีใครบ่นซักคำ มีทั้ง Blythe, Sonny, Masked Rider, Be@r Brick, SOC, SIC, กาชาปอง และอีกเพียบ
โดน Blythe และ Sonny ไปหลายตัวตั้งแต่มาทำงานคราวก่อน และ ฟลุ๊คได้ฟิกเกอร์ชุดผ้า Medicom Wingman สเกล 1/6 ราคาแค่สามพันบาทไปตัวนึง ดีใจสุด ๆ
น้องบลายตัวเล็กที่เดี๋ยวนี้คุณภรรยาเก็บแทนตัวใหญ่ (ประหยัดที่ไปเยอะเลย)
ร้านนี้เน้นฟิกเกอร์ และ ของเล่นแนวญี่ปุ่นพวก Figma, S.H.Figuart, Onepiece, nendroid, Medicom และ Hottoys
Gundam เพียบเช่นเดียวกัน
Hottoys ครบ ๆ
เด็กเล็กหน่อยไม่ต้องน้อยใจ ร้านหนูน้อยก็มีเหมือนกัน ได้ครบทุกคนไม่ลำเอียง
ส่วนร้านนี้ร้านโปรดของคุณลูกกับของเล่น Minecraft
หัว Minecraft ที่เห็นนี่ไม่ได้ซื้อนะ เอามาใส่ถ่ายรูปเฉย ๆ 555 เจ้าของร้านน่ารักมาก ๆ เลยจัดตุ๊กตา Minecraft ไป 2 ถุงใหญ่
โดยรวมเมื่อเทียบกับฮ่องกงแล้ว ลูกชายชอบร้านของเล่นที่สิงคโปร์มากกว่า ทั้ง ๆ ที่ฮ่องกงถูกกว่า และ มีให้เลือกเยอะกว่า แต่คนที่นี่อัธยาศัยดีกว่าคนฮ่องกงเยอะ หยิบดูได้ไม่ว่า ลองใส่เล่นได้ไม่มองตาเขียว แถมชวนคุยเล่นสนุกสนานถูกใจเด็ก ที่สำคัญคนที่นี่ส่วนใหญ่พอรู้ว่าเราเป็นคนไทยจะทักว่า “สวัสดีครับ” ได้เกือบทุกคน
ดังนั้นประสบการ์การช๊อปของเล่นมาตลอด 3 วันของพวกเรานั้น ถึงแม้ได้ของน้อย แต่รู้สึกเต็มอิ่มกว่า
หลังปิดภาระกิจตะลุยดงของเล่นวันที่ 3 แล้วก็นั่งแท๊กซี่ไป Liang Court เพราะเพื่อนรู้ว่าลูกชายชอบกินซูชิ เลยแนะนำว่าตึกนี้เป็นตึกอารมณ์ประมาณตึกญี่ปุ่น มีแต่ของญี่ปุ่น และ ร้านอาหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะ Tempopo ร้านดังของคนที่นี่เลย
จัดไปซิครับจะรออะไร เรียกแท๊กซี่จาก Funan เสียไป 10 เหรียญเพราะเป็นช่วงเย็น โดนค่าใช้ทางแพงหน่อย แต่เหนื่อยละ คงนั่ง MRT ไม่ไหว
อาหารโอเค ซูชิขายเป็นคำ ๆ ค่อย ๆ สั่งไปเรื่อย ๆ รสชาติอร่อยดี ไว้ว่าง ๆ จะรีวิวให้ชม เดี๋ยวบทความนี้จะยืดยาวไปมากกว่านี้ ^^
อิ่มท้องแล้วเดินออกจากตึกถึงบางอ้อ
อ้าวมันอยู่ติดกับ Clarke Quay หรือนี่ แม่เจ้ารู้งี้หลอกลูกไปกิน Hooters ดีกว่า แง แง
เล่าประวัติความเป็นมาของย่านนี้ให้ลูกฟังว่าเมื่อก่อนเป็นโกดังเก็บของริมน้ำ มีคนงานขนถ่ายสินค้ากันเป็นจำนวนมาก จนปัจจุบันประเทศเค้าพัฒนาเศรษฐกิจเป็น trader จนร่ำรวยแล้วจึงปรับพื้นที่ตรงนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหารดัง ๆ มาตั้งเพียบ แต่เค้ายังคงอนุรักษ์โกดังเก่าบางส่วนห้ามทุบทิ้ง แต่ให้ปรับปรุงตกแต่งภายในให้เข้ากับธุรกิจได้
สรุปลูกไม่อิน…คงเด็กไปอะครับ O_o! เลยชวนลูกถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แล้วกลับโรงแรมแพ๊คกระเป๋าเตรียมลุยต่อพรุ่งนี้ส่งท้ายทริปสิงคโปร์
สำหรับบันทึกท่องเที่ยวสิงคโปร์ตอนที่ 3 ที่ร่ายมาซะยืดยาวก็ขอจบลงตรงนี้ พบกันใหม่ในตอนต่อไปครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านบันทึกท่องเที่ยวที่เป็นเสมือนไดอารี่ ไม่ใช่รีวิว ดังนั้นเวิ่นเว้อ ยาว รูปเยอะหน่อยนะจ๊ะ
ใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติมโพสถามกันได้เลย
ขอให้มีความสุข สนุกกับชีวิต LifeStyle IT ครับ
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ