รีวิว Galaxy Gear S2 นาฬิกาอัจฉริยะที่หวังจะสู้กับ Apple Watch ฉบับปรับปรุงใหม่ไฉไลกว่าเดิม

นาฬิกาอัจฉริยะระบบปฏิบัติการ Tizen รุ่นสองต่อยอดจาก Galaxy Gear S เมื่อปีก่อน หวนกลับมาทำตลาดอีกครั้งกับดีไซน์ใหม่หมดจรด โดยคราวนี้ได้ Alessandro Mendini นักออกแบบชาวอิตาลี มาปรับลุคนาฬิการะบบปฏิบัติการ Tizen ตัวนี้ให้ดูสวยงามน่าสวมใส่มากขึ้น และ ด้วยฝีมือการออกแบบของ Mendini ก็แสดงให้แล้วว่าเค้าได้ปรับหน้าตาสุดจะไม่สวยของ Galaxy Gear S ที่ผ่านมา ให้ดูแล้วเหมือนนาฬิกามากขึ้น บอกเลยรุ่นเดิมรับไม่ได้ไม่เขียนรีวิวด้วยซ้ำ

สำหรับ Galaxy Gear S2 นี้แบ่งเป็นรุ่นหลัก ๆ ได้ 2 รุ่น คือ Sport จะเป็นแบบสายยางตัวเรือนเงิน (ด้านขวามือ) โดยยังแบ่งรุ่นย่อยได้เป็นรุ่นใส่ซิมได้ และ ใส่ซิมไม่ได้ นอกจาก Sport ที่เน้นความกระฉับกระเฉง เหมาะสำหรับคนเล่นกีฬาแล้ว ยังมีรุ่นสำหรับคนทำงานคือรุ่น Classic ตัวเรือนสแตนเลสรมดำสายหนังสีดำใส่ซิมไม่ได้ซึ่งเป็นตัวที่รีวิวในครั้งนี้

โม้มาเยอะแล้ว มาดูสเปค และ แกะกล่องกันเลย

ขนาดรุ่นต่าง ๆ มีดังนี้

Samsung Gear S2 : 42.3×49.8×11.4 มม., น้ำหนัก 47 กรัม
Samsung Gear S2 (3G) : 44.0 x 51.8 x 13.4 มม., น้ำหนัก 51 กรัม
Samsung Gear S2 classic : 39.9×43.6×11.4 มม.,น้ำหนัก 42 กรัม

สเปคอย่างเป็นทางการ Samsung Gear S2

ระบบปฏิบัติการ: Tizen OS
หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว หรือ 30 มม.
ความละเอียด 360×360 พิกเซล (~302 ppi)
ซีพียู แบบ Dual Core ความเร็ว 1.0 กิ๊ก
แรม 512 เมกกะไบทต์
หน่วยความจำภายใน 4 กิ๊ก
แบตเตอรี่ 250 มิลิแอมป์ สำหรับรุ่นธรรมดา และ 300 มิลิแอมป์ สำหรับรุ่น 3จี
กันน้ำ กันฝุ่นระดับ IP68
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi: 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.1, NFC
Sensor : Accelerometer, Gyroscope, Heart Rate, Ambient Light, Barometer
รองรับการเชื่อมต่อกับ Android OS 4.4 ขึ้นไป
เชื่อมต่อกับแอนดรอยด์ผ่าน Galaxy Gear App

ด้านหน้ากล่องสี่เหลี่ยมสวย ๆ ของ Gear S2

ด้านหลังมีสเปคคร่าว ๆ พอไม่ให้โล่งเกินไป

เปิดกล่องออกมาก็เจอน้อง S2 และ บรรดาอุปกรณ์ในกล่อง ซึ่งประกอบด้วย

Galaxy Gear S2
สายหนังสำรอง 1 ข้าง
แทนชาร์จ
ปลั๊กชาร์จไฟบ้าน
คู่มือฉบับย่อ

แท่นชาร์จ ประกับร่างกับปลั๊กที่จ่ายไป 0.7 แอมป์ หากกำลังชาร์จอยู่จะแสดงเป็นไฟส้มที่แท่น พอเต็มปุ๊ปไฟเขียวจะติด ซึ่งชาร์จไม่ถึงชั่วโมงก็เต็มแล้ว

สายสำรองแบบสั้น สำหรับคนข้อมือเล็ก หรือ สุภาพสตรี และ ด้วยสายขนาด 21 – 22 มม. หาสายสวย ๆ มาเปลี่ยนใส่ได้ไม่ยาก

นาฬิกาไม่ใช่แอนดรอยด์แต่อย่างใดแต่เป็นระบบปฏิบัติการของซัมซุงเอง ภายใต้ชื่อ Tizen ตัวเรือนมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 มม. แบตเตอรี่ 250 มิลิแอมป์ คาดว่าอยู่ได้อย่างน้อยวันนึงสบาย ๆ แต่ไม่สามารถอยู่ 2 วันได้ (เดาจากความจุแบตเตอรี่)

ด้านซ้ายมือของตัวเครื่องจะมีปุ่ม 2 ปุ่ม โดยปุ่มบน (ขวามือ) เป็นปุ่มย้อนกลับ (Back) ส่วนปุ่มล่าง (ซ้ายมือ) เป็นปุ่ม OK ส่วนรูเล็ก ๆ ตรงกลางเป็นรูไมโครโฟนสำหรับสั่งงานด้วยเสียง

อีกด้านหนึ่งเรียบ ๆ ไม่มีอะไรตามสไตล์นาฬิกาทั่วไป โดยตัวเรือนของ Gear S2 ทำจากสแตนเลสรมดำ จากการสังเกตุเห็นว่าเครื่องที่ได้มาไม่ใช่เครื่องใหม่แกะกล่อง มีคนแกะทดสอบกันไปแล้วก่อนส่งต่อให้ผม

ข้อสังเกตุคือ เป็นรอยค่อนข้างง่าย อารมณ์เหมือน Moto360 ที่วางไว้เฉย ๆ ก็เป็นรอยแล้ว 555

ใครซื้อมาใช้ก็ระวังนิดนึงครับ เพราะไม่รู้จะมีเคสปกป้องออกมาขายเหมือน Apple Watch หรือเปล่า เพราะยี่ห้อนั้นก็เป็นรอยง่ายเช่นเดียวกัน

ตัวสายถอดใส่ง่าย สังเกตุดูจะมีปุ่มเอาไว้ดันเพื่อเปิดเข็มล็อคสาย ไม่ต้องไปร้านนาฬิกาเพื่อถอดสายแต่อย่างใด

ดันปุ่มแล้วดึงเบา ๆ สายก็จะหลุดออกมาให้เราเปลี่ยนสายสั้นได้อย่างง่ายดาย แต่หากไปหาสายอื่นมาใส่ต้องไปหาเดือยนาฬิกามาใช้ด้วย เพราะเดือยนี้ถอดไม่ได้นะ

หน้าปัทเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 – 31 มม. มาพร้อมหน้าจอทัชสกรีนความละเอียด 360×360 พิกเซล ระบบปฏิบัติการไทเซน ซีพียู Dual Core ความเร็ว 1.0 กิ๊ก แรม 512 เมกกะไบทต์ หน่วยความจำภายใน 4 กิ๊ก เชื่อมต่อกับแอนดรอยด์ของเราผ่านบลูทูธ

ถามว่าเร็วมั๊ย ตอบเลยว่าลื่นติดนิ้วดีมาก การเชื่อมต่อก็มาตรฐานตามปกติของการเชื่อมต่อ ไม่ยาก ไม่ช้าแต่อย่างใด ส่วนความเร็วของการแจ้งเตือนขอลองก่อนวิจารณ์จ้า

ด้านหลังของ Gear S2 จะมีเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ไม่ว่าตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจ รวมไปถึงที่ชาร์จแบบไร้สายด้วย

Bazel หรือ ขอบนาฬิกาที่ออกแบบมาเป็นวงหยัก คงอยากให้จับหมุนถนัด พร้อมกับได้ลุคความเป็นสปอร์ต…ให้นึกถึง Rolex GMT แต่ขอบเล็กและบางกว่ามาก

Galaxy Gear S2 บนข้อมือ ขนาดของเค้าเป็นแบบกลาง ๆ ไม่ใหญ่ หรือเล็กเกินไปสวมใส่ง่ายทั้งชาย และ หญิง

หัวเข็มขัด หรือ บัลเกิ้ลแบบนาฬิกามาตรฐาน เป็นสแตนเลสรมดำเหมือนตัวนาฬิกา

ตัวสายหนังวัวแท้ หรูหรา นุ่มสบายมือไม่มีความรู้สึกว่าก๊องแก๊งแต่อย่างใด เยี่ยมเลย

เปิดใช้งานครั้งแรกจะให้เชื่อมต่อกับโทรศัทพ์แอนดรอย์ผ่านแอพฯ Gear App เพื่อดึงอินเตอร์เน็ตไปใช้ในการตั้งค่า และ แลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ ของเรา

หน้าปัทสามารถปรับแต่งได้มากมายตามสไตล์ระบบปฏิบัติการ Tizen หน้าปัทสไตล์ Patek Phillip สวย ๆ ก็ลงตัวไปอีกแบบเนอะ

หน้าแอพฯ สวยงามตามท้องเรื่อง เค้าเอาไอค่อนแอพฯ ต่าง ๆ มาเรียงตามตำแหน่งตัวเลของนาฬิกาให้ความรู้สึกคุ้นเคย ใช้ครั้งแรกไม่มีงง ถ้าแอพฯ เยอะก็จะแบ่งเป็นหลายหน้าสังเกตุจากจุดสีขาวด้านบนหน้าจอ เลื่อนไปด้านข้างเหมือนเลื่อนในโทรศัพท์เลยครับ

สามารถหมุนวงแหวนตัวเรื่อนเพื่อนเลือกแอพฯ กดปุ่ม Ok เพื่อเลือก หรือ กดปุ่มย้อนกลับ (ปุ่มบน) เพื่อออกจากแอพฯ ได้ทันที ใช้งานง่ายมาก แตกต่างกับนาฬิกาแอนดรอยด์ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง

ลองรูดหน้าจอเพื่อเรียกเมนูหลัก (มั๊ง) จะได้ 4 ไอค่อนสำหรับใช้งานต่าง ๆ

ที่น่าสนใจคือ S Voice สั่งงานด้วยเสียง เดี๋ยวขอไปลองเล่นแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะ

คนหน้าตาดี กับนาฬิกาหน้าตาดี เข้ากันมาก 555 (ไม่ประมาณตัวเอง)

ตั้งแต่ผมรีวิวนาฬิกาอัจฉริยะไปหลายเรื่อน นาฬิกาอัจฉริยะนั้นไม่เพียงต้องตอบสนองความต้องการใช้งานของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังต้องตอบโจทย์เรื่องการสวมใส่ด้วย เพราะนาฬิกาเป็น “เครื่องประดับ” ชิ้นหนึ่ง

หากถามถึงความเป็นนาฬิกาสวย ๆ ของ Galaxy Gear S2…ผมว่าการออกแบบยังขาด ๆ เกิน ๆ เหมือนลังเล ออกแบบไม่สุด ยกตัวอย่างเช่นปุ่มข้าง และ วงแหวนบนหน้าปัทถ้าใหญ่กว่านี้ ผมว่า Gear S2 จะดูอลังการน่าใช้กว่านี้

สำหรับผมที่ช่วงนี้ใส่แต่ PAM มาตลอด รู้สึกว่าเล็กไปนิด แต่หากทียบกับพวก Rolex ก็จะรู้สึกไม่ต่างกันเท่าไหร่

อารมณ์แรกสัมผัส Galaxy Gear S2 นี้บอกเลยออกแนวหรูหราสุภาพ สำหรับผมที่ชอบแนวบึกบึนจะไม่ประทับใจเท่า Moto 360 หรือ LG Watch R (ความเห็นส่วนตัว)

หากมองที่ความเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะ เบื้องต้นผมว่าโอเค คล่องตัว ใช้งานสะดวกเพราะหน้าปัดสามารถหมุนขอบเพื่อเลื่อนได้โดยไม่ต้องแตะหน้าจอ ส่วนปุ่มด้านข้าง 2 ปุ่มใช้งานสะดวกดี แต่ขอติว่าปุ่มแบนไปหน่อย ส่วนการทำงานตอบสนองรวดเร็วทันใจยังไม่เจอหน่วง

ทีเด็ดอีกอย่างของคนขี้เบื่อคือเค้ามีหน้าปัทนาฬิกาให้เลือกใช้งานเพียบ เหมาะสมกับการแต่งตัวในวันต่าง ๆ ของเรา ซึ่งทั้งหมดที่เห็นด้านบนนี้มีมาให้เลยผ่านแอพฯ Gear ที่ดาวโหลดผ่าน Galaxy App

ถ้ายังไม่สะใจก็ดาวโหลด หรือ ซื้อเพิ่มได้เช่นกัน เรียกได้ว่าใครขี้เบื่อนี่หายห่วงครับ การเปลี่ยนหน้านาฬิกาก็ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนแต่เปิดแอพฯ Samsung Gear บนมือถือแล้วเลือกเปลี่ยนก็เสร็จภายใน 30 วินาที…..คือนานตอนเลือกนั่นปาไป 20 วิแระ

การเชื่อมต่อไวไฟสามารถทำได้โดยตรงบน Gear S2 ไม่ต้องพึ่งพาโทรศัพท์ตลอดเวลาแต่อย่างใด อีกทั้งเวลาพิมพ์ก็ง่ายมาก ๆ ด้วยการแตะจอทัช กับระบบพิมพ์แบบ T9 ที่คุ้นเคยสมัยใช้โนเกีย แก้ปัญหาหน้าจอเล็กได้เป็นอย่างดี

การเลือกอ่านอีเมลล์บนหน้าจอนาฬิกาเล็ก ๆ นั้น ผมเคยแซวคนอื่นมาตลอดว่า จะทนจ้องทำไม อีกทั้งมือถือก็อยู่กับตัวเอง หยิบมือถือขึ้นมาง่ายกว่า เพราะหากต้องตอบอีเมลล์ก็สามารถทำได้ทันที

แต่ช่วงนี้เมลล์เข้าทั้งวัน ทั้งสำคัญ และ ไม่สำคัญ จากเดิมที่มีแต่เมลล์งาน ตอนนี้ Spam บาน ตอนทดสอบเจ้า Gear S2 เพิ่งค้นพบว่าการสามารถอ่านเมลล์คร่าว ๆ บนข้อมือประหยัดเวลาเราได้มากทีเดียว โดยเฉพาะเวลาถือของเยอะ ๆ

ปล. เมลล์ด้านบนไม่ใช่ Spam นะ แต่เห็นตัวหนังสือไทยเยอะดีเลยถ่ายไว้

ทดสอบใช้งานกลางแจ้ง เช็คอากาศเสียหน่อย

สรุปแล้วโดยรวมคนที่ขอบ Smart Device หรือ Android Wear น่าจะชอบ Samsung Gear S2 การทำงานที่ลื่นไหล การประยุกต์เอาวงหน้านาฬิกามาเป็นที่เลื่อน การใช้งานปุ่มด้านข้างในการเรียกเมนูต่าง ๆ ผมว่าลงตัวดี หากทว่าต้องปรับตัวสักนิดเพราะเป็นสิ่งใหม่ในชีวิตของหลาย ๆ คน

การตอบสนองเวลาพลิกมือขึ้นมาแล้วหน้าจอติดให้ดูเวลาทำได้ดี ไม่ต้องรอให้รำคาญแต่อย่างใด ส่วนจะสู้ Apple Watch ได้หรือไม่นั้น ผมว่าฟีเจอร์การทำงานไม่ต่างกันมากนัก ส่วนสำคัญอยู่ที่ ดีไซน์ แล้วหล่ะ…..รสนิยมแต่ละคนไม่เหมือนกัน

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหา นาฬิกาอัจฉริยะ มาลองใช้

อ้อ เห็นมีหลายคนสงสัย รุ่นที่ใช้งานกับ Gear S2 มีดังนี้