รีวิวแกะกล่อง Samsung Galaxy A8 สเปคเทพ ราคาสุดคุ้ม

รีวิวแกะกล่องมาเสริฟร้อน ๆ แล้วครับ Galaxy A8 มือถือหน้าตาดี บางเบา กล้องเทพ 16 ล้าน ซีพียู OctaCore แรม 2 กิ๊ก หน้าจอใหญ่ยักษ์ 5.7 นิ้ว Full HD โอ้วมายก๊อดาคาแค่ 15,900 บาท

สัปดาห์ก่อนออกบทความ เทียบสเปค Samsung Galaxy A8 ปะทะ A7 ต่างกันแค่ไหน เรียกน้ำย่อยกันไปแล้ว

xenon_art ถอย A8 มารีวิวให้เสพกันตามสัญญา โดยเริ่มที่ “แกะกล่อง” พร้อมสเปคกันก่อนเหมือนเดิม โดย A8 นั้นมาพร้อมความลงตัวที่หลาย ๆ คนฝันถึง คือหน้าจอใหญ่ คมชัดระดับ Full HD กล้องเทพ แต่ราคาไม่แรงเกินไป ประมาณเอา Note 4 มายำรวมกับ S6 แต่ขอเราคาหมื่นกว่าบาท

เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราเริ่มลุยกันเลย

สเปค Samsung Galaxy A8

• ขนาดตัวเครื่อง 158 x 76.8 x 5.9 มม.หนัก 151 กรัม
• หน้าจอ Super AMOLED 5.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD
• ซีพียู Exynos 5430 Octa-core ความเร็ว 1.8 กิ๊ก
• แรม 2 กิ๊ก
• หน่วยความจำภายใน 32 กิ๊ก
• เพิ่มความจำแบบ Micro SD ได้สูงสุด 128 กิ๊ก (ผ่านช่อง SIM2)
• ระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1
• เมนูควบคุณการใช้งาน TouchWiz UI ตัวล่าสุด
• กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล F/1.9, Real-time HDR
• กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล F/1.9
• รองรับ 4G LTE
• ใส่ได้ 2 ซิม (กรณีไม่ใส่เมม)
• มีระบบสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint)
• แบตเตอรี่ความจุ 3,050 มิลิแอมป์
• จำหน่ายสี ดำ, ขาว และ ทอง
• ราคา 15,900 บาท

ด้านหน้ากล่องสีนำเงิน ตัวหนังสือสีขาว ตามแนวทางของปีนี้

ด้านหลังกล่องมีสเปคคร่าว ๆ ซึ่งหลัก ๆ ก็เป็นซีพียู Octa Core ซีพียูแปดแกน ประกอบด้วยซีพียู Quad Core 2 ตัว 1.8 กิ๊ก ตัวนึง และ 1.3 กิ๊กอีกตัวนึงช่วยกันทำงาน ลดโหลดของการใช้งานซีพียูเพียงตัวเดียวทำให้การทำงานลื่นไหล

ส่วนแรมก็ให้มา 2 กิ๊ก เยอะพอสมควรแต่จะเพียงพอต่อการใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 5.0 Lollipop หรือไม่นั้นต้องพิสูจน์กันอีกที

อุปกรณ์ในกล่องประกอบด้วย

1. ตัวเครื่อง
2. สายดาต้า
3. หัวปลั๊กชาร์จไฟบ้าน
4. หูฟัง
5. ที่จิ้มถาดใส่ซิม
6. ซิลิโคนสำรอง 3 คู่
7. คู่มือเริ่มต้นใช้งานอย่างย่อ

คู่มือเริ่มใช้งานฉบับย่อภาษาไทยมาในกล่องพร้อมบอกวิธีเริ่มใช้งานอย่างง่ายทั้งวิธีใส่ซิม และ ปุ่มควบคุมต่าง ๆ

สายดาต้าสำหรับโอนถ่ายข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ และ เมื่อเอาไปต่อกับหัวปลั๊กชาร์จไปก็จะกลายเป็นสายชาร์จทันที

หัวปลั๊กชาร์จไฟบ้าน หรือ อะแดปเตอร์รูปทรงคุ้นตาของซัมซุง มาเป็นสีขาวเข้ากันกับสายดาต้า โดยจ่ายไฟแรง ๆ ที่ 2 แอมป์ สังเกตุว่าหลัง ๆ นี่มือถือซัมซุงจะให้ที่ชาร์จที่จ่ายไฟแรง ๆ แบบนี้มาตลอดทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้น

หูฟังที่เป็นสมอล์ทอล์คในตัว หัวเป็นแบบ InEar คือยัดเข้าไปในรูหูพร้อมจุกยางซิลิโคนตัดเสียงรบกวนภายนอก หัวแจ๊คขนาด 3.5 มม. มาตรฐานสากล เอาหูฟังไปสลับใช้กับอุปกรณ์อื่นได้อย่างง่ายดาย

จุกหูฟังสำรอง 3 คู่ 3 ขนาดมีมาให้เลือกใช้ตามสรีระหูของเรา

เข็มจิ้มซิมรูปทรงเฉพาะของซัมซุงก็มีมาให้พร้อมใช้งาน หัวเข็มกลมขนาดเดียวกับยี่ห้ออื่น ๆ

ด้านหน้าตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่ยักษ์เท่า Note 4 ที่ 5.7 นิ้ว แถมได้ความละเอียดระดับ Full HD แต่ตัวเครื่องกลับทำออกมาได้บางเพียง 5.9 มม. เท่านั้น…..ที่สำคัญมันเบามาก

Samsung Galaxy A8 เป็นซีรียส์ A ที่ถือเป็นแอนดรอยด์ระดับกลางของซัมซุง มาพร้อมตัวเครื่องโลหะเช่นเดียวกับ A7 แต่คราวนี้ตัดขอบโค้งสวยงามขึ้น เหมือนได้รับแรงบันดาลใจจาก S6 ตัวท๊อป

ผมเลือกซื้อสีขาวเหมือนเช่นปกติ ขอบรอบตัวเครื่องจะเป็นโลหะพ่นทรายตัดขอบเงาแบบไดมอนคัทหรูหราพรีเมี่ยม

ตัวเครื่องน้ำหนักเบาเพียง 151 กรัม ทำให้มันเป็นมือถือจอยักษ์ที่บาง และ เบามาก ๆ การถือใช้งานนาน ๆ น่าจะไม่เมื่อย จากการได้ลองสัมผัสตอนถ่ายรีวิวแกะกล่องนี้รู้สึกได้เลยว่างานประกอบแน่นหนาดี แต่ขอบโลหะด้านหน้าจอแอบรู้สึกคมเล็กน้อย

ด้านหลังเป็นโลหะเคลือบสีขาวมุกด้าน ตอนแรกที่คิว่าเครื่องบาง ๆ เป็นโลหะจะลื่นเหมือน iPhone 6+ ของผม แต่พอใช้งานจริง ๆ มันจับถนัดมือกว่าที่คิด ด้วยความที่เป็นผิวด้านช่วยให้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องรอยนิ้วมือเท่าไหร่ (ทั้ง ๆ ที่สุดท้ายก็หาเคสใส่อยู่ดี 555)

กล้อง 16 ล้านพิกเซล ข้าง ๆ กล้องขนาบไปด้วยไฟแฟรช LED 1 ดวง และ ลำโพงเสียงภายนอกสำหรับเสียงเรียกเช้า เสียงเตือนต่าง ๆ

จุดเด่นที่น่าตื่นเต้นของ Galaxy A8 นั้นนอกจากตัวเครื่องโลหะบางเบาหรูหราในราคาหมื่นกลาง ๆ แล้ว กล้องยังมาพร้อมกับเลนส์ f/1.9 !!!! อ่านไม่ผิดหรอกครับ สเปคเดียวกับ Galaxy S6 ที่ราคาแพงกว่าหมื่นบาท เทพแห่งกล้องที่ผมยอมรับว่าเป็นกล้องมือถือที่ดีที่สุดในตอนนี้ ส่วนเจ้า Galaxy A8 จะทำได้ดีเท่าสเปคหรือไม่รอเสพรีวิวตอนหน้า (อีกไม่นานเกินรอ)

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียง ที่ทำเป็นปุ่มแยกออกจากกัน ปุ่มแน่นแต่กดง่าย

ส่วนล่างจะเป็นช่องใส่ SIM 1 และ ช่อง SIM 2 ที่ผมเรียกช่องพิการ แต่ซัมซุงเรียกว่า Hybrid คือ เราสามารถเลือกใช้งานช่องนี้ได้ว่าจะใส่ซิมที่ 2 หรือ ใส่เมมโมรี่การ์ดเพิ่มหน่วยความจำแทนก็ได้ เรียกว่าอเนกประสงค์นั่นเอง ซึ่งตรงนี้ผมชอบนะ เพราะผมไม่ใส่ 2 ซิม และเป็นคนชอบใช้เมมโมรี่การ์ด เพราะบรรดารูป และ ไฟล์จากมือถือตัวก่อนอยู่ในนั้นทั้งหมด เวลาจะเปลี่ยนมือถือก็ถอดเมมไปใส่เครื่องใหม่

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีเพียงปุ่ม Power เท่านั้น

ด้านบนของตัวเครื่องเรียบ ๆ มีเพียงรูเล็ก ๆ เป็นรูไมโครโฟนสำหรับบันทึกเสียง

ด้านล่างของตัวเครื่องตามสมัยนิยมคือ ช่อง Micro USB ตรงกลางเอาไว้ชาร์จไฟ และ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ส่วนรูกลมใหญ่ขวามือสุดเป็นช่องเสียบหูฟัง รูเล็ก ๆ นั้นเป็นไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์

ด้านหน้าส่วนบนมีลำโพงโทรศัพท์ตรงกลาง ขนาบด้วยกล้องหน้าความคมชัดระดับ 5 ล้านพิกเซลเลนซ์กว้างถ่ายเซลฟี่สวย ๆ โดยไม่ต้องยืดแขนจนสุด

ด้านหน้าส่วนล่างเหมือนเทพ Galaxy S6 คือ ตรงกลางเป็นปุ่มโฮม กดเพื่อกลับมายังหน้าหลัก พร้อมกับเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือ / finger print scan รุ่นล่าสุดที่ใช้ทาบเอา ไม่ต้องรูดลงเหมือน Note 4 แล้ว สามารถใช้ปลดล็อคหน้าจอ และ ใช้งานร่วมกับหลาย ๆ แอพฯ ที่รองรับการยืนยันตัวตนแบบสแกนลายนิ้วมือ

ด้านซ้ายมือของเราจะเป็นปุ่ม Muti Task ที่กดแล้วจะแสดงรายการแอพฯ ที่เปิดใช้อยู่ สามรถกด Close All เพื่อปิดโปรแกรมทั้งหมดในครั้งเดียวเพื่อเรียกหน่วยความจำกลับคืนมากในกรณีที่รู้สึกว่าเครื่องเริ่มช้า หรือ จะกดเลือกสลับใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน

ปุ่มลูกศรทางขวามือเป็นปุ่มย้อนกลับ เอาไว้ย้อนกลับในทุก ๆ เมนูในการใช้งาน

เมมในตัวมี 32 กิ๊ก เหลือให้ใช้งานจริง 25 กิ๊กเท่านั้น ซึ่งหากใครใช้ไม่พอสามารถเสียสละช่อง SIM 2 มาใส่เมมแทนได้

แรม 2 กิ๊ก ปิดแอพฯ ทั้งหมดแล้วเคลียร์แรมแล้วจะเหลือ 723 เมก ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน เพราะ Galaxy S6 แรม 3 กิ๊กของผมเหลือใช้งานได้ 830 เมก

โดยรวมแล้วประทับใจกับเจ้า Samsung Galaxy A8 ตั้งแต่แรกแกะกล่องเลย เพราะจอใหญ่คมชัด กล้องสวย ที่สำคัญ น้ำหนักเบา เท่าที่ลองใช้งานเบื้องต้นการตอบสนองรวดเร็วฉับไวไม่ต่างกับ S6 เครื่องละสองหมื่นกว่าบาทเท่าไหร่นัก

บอกตรง ๆ คืออารมณ์ของ Galaxy A8 คล้ายใช้ Note 4 ที่ไม่มีปากกา และ ฟีเจอร์กล้องน้อยกว่าเท่านั้น นอกนั้น “ฟิน” เหมือนกัน (ตอนนี้นะ ^^)

ข้อสังเกตุ

1. ถ้าใส่ซิมแล้วเครื่องมองไม่เห็น ให้ restart ทีนึงนะครับ ผมเจอมาแล้ว
2. ใครไปซื้อเครื่องตอนเช็คเครื่องก่อนออกจากร้าน ให้ตรวจความเรียบร้อยของบอดี้โลหะ โดยเฉพาะด้านหน้าจอ ของผมขอบด้านบนใกล้ ๆ กล้องหน้ามีกาวเลอะออกมาเล็กน้อย โชคดีที่สามารถเช็ดได้ และ ไม่มีปัญหาใด ๆ  [พอดีตอนเห็นที่บ้านแล้วตกใจรีบเช็ด เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู ^^]
3. ตอนนี้ยังไม่ได้ทดสอบแอพฯ อะไรมากนัก แต่เท่าที่พามาออกทริปตลาดน้ำดำเนินฯ ถ่ายรูปไปครึ่งวันเครื่องมีอาการร้อนใต้กล้องเหมือน S6 บ้างในช่วงที่ถ่ายภาพหนัก ๆ
4. หน้าจอ Super AMOLED เมื่อใช้งานกลางแจ้ง (ผมลองตอนเที่ยงตรง พระอาทิตย์กลางหัว) เวลาใช้งานต้องเพ่งนิดนึงเหมือน S6 ซึ่งเป็นปกติของมัน ใครใช้ซัมซุงมาก่อนคงจะชิน และ ไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่นัก

ใครสนใจลองไปจับตัวจริงได้ตามร้านค้าทั่วไปที่ของน่าจะใกล้เข้าแล้ว ส่วนผมไปซื้อเครื่องศูนย์จากมาบุญครอง เพราะเดินถามตามห้างฯ จนขาลากแต่ไม่มีร้านไหนที่ของเข้าแล้ว แถมพนักงานยังไม่สามารถบอกได้ว่าเครื่องจะเข้าเมื่อไหร่ (สงสัยเป็นความลับ)

ทิ้งท้ายรีวิวแกะกล่องกันด้วยภาพเปรียบเทียบขนาดของ Samsung Galaxy A8 กับ iPhone 6 Plus เพื่ออ้างอิงขนาด

รีวิวอื่น ๆ ของ Samsung Galaxy A8

• เทียบสเปค Samsung Galaxy A8 ปะทะ A7 ต่างกันแค่ไหน
• รีวิว Samsung Galaxy A8 พิสูจน์กล้อง 16 ล้านว่าเจ๋งพอหรือไม่…..รูปเยอะเว่อร์
• พิสูจน์กล้อง Samsung Galaxy A8 จะสู้ S6 และ iPhone 6 Plus ได้หรือไม่?
• รีวิว Samsung Galaxy A8 ภาคทดสอบการใช้งานพร้อมคลิปทดสอบ…บทสรุป

ขอให้มีความสุข สนุกกับชีวิต LifeStyle IT ครับ

_________________________________________________________________

หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย

ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ

http://www.facebook.com/xenonartpage?ref=hl