รีวิวแกะกล่องเทพ BlackBerry Priv แอนดรอยด์ที่หลายคนเฝ้ารอ…แพงแต่โดนมาก

BlackBerry Priv เครื่องหิ้วมาบุญครอวางจำหน่ายเอาใจคนรักปุ่มแล้วนะ ค่าตัวนี่ไม่ถูก ต้องรักจริงเท่านั้น…ศาสดาอย่างผมจะพลาดได้อย่างไร

วันแรกที่เข้ามาราคาตั้งมาบุญครองอยู่ที่ 38,000 บาท สามวันต่อมาลงเหลือ 35,000 บาท ทั้งสองล็อตนั้นผมซื้อไม่ทัน มีสาวกตัวจริงสอยไปหมดแล้ว…..คารวะ 1 จอกเลย

ผมมาได้เอาล็อตที่สาม ราคาลงมาเหลือ 33,500 บาท ซึ่งคนขายบอกเลยราคาลงเรื่อย ๆ ตามสต๊อคต่างประเทศ ใครอยากใช้ก่อนต้องยอมจ่ายแพง ใครหลงรักแต่เห็นว่าแพงไป แนะนำรอราคาลงมาช่วงกลางเดือนธันวา สักสองหมื่นกลาง ๆ กำลังสวย (ราคาที่อเมริกาอยู่ที่ 699 เหรียญสหรัฐ)

เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงรู้จักกับ BlackBerry Priv กันบ้างแล้ว เพราะมันคือ สมาร์ทโฟนยี่ห้อ BlackBerry ที่แตกไลน์ไปใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 5.x รุ่นแรกของโลก ที่ผมกำลังจะบรรจงแกะกล่องให้ท่านได้เสพ ณ. บัดนาว

สเปคอย่างเป็นทางการ BlackBerry Priv

ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 5.1.1
ขนาด 147 x 77.2 x 9.4 มม.
น้ำหนัก 192 กรัม
หน้าจอทัชสกรีนขนาด 5.4 นิ้ว ขอบโค้ง
ความคมชัดระดับ WQHD 2560 x 1440 พิกเซล
มีแป้นพิมพ์ QWERTY โดยการสไลด์ออกมา
ซีพียู Snapdragon 808 Hexa-Core 6 แกน 64 บิต ความเร็ว 2 GHz
Ram 3 กิ๊ก
หน่วยความจำในตัวเครื่อง 32 กิ๊ก เหลือใช้จริงประมาณ 24 กิ๊ก
เพิ่มเมมโมรี่การ์ดได้สูงสุด 2TB via hot swappable microSD
กล้องหน้า 2 ล้าน ถ่ายวีดิโอคมชัดระดับ HD
กล้องหลัง 18 ล้าน พร้อมระบบ OIS แฟรชคู่
แบตเตอรี่ความจุ 3,410 มิลิแอมป์
รองรับระบบชาร์จไร้สาย (เฉพาะเครื่องจาก US และ Canada เท่านั้น)
ใช้ซิมแบบนาโนซิม
รองรับคลื่นความถี่ดังนี้FD-LTE 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 12, 13, 17, 20, 25, 28, 29, 30 (2100/1900/1800/1700/850/2600/900/700/700/700/
800/1900/700/700/2300 MHz)TD-LTE 38, 40, 41 (2600/2300/2500 MHz)HSPA+ 1, 2, 4, 5/6, 8 (2100/1900/1700/850/900 MHz)Quad band GSM/GPRS/EDGE (850/900/1800/1900 MHz)

ด้านหน้ากล่องสีดำขรึมตามคอนเซปต์ที่คุ้นเคยแต่คราวนี้บนกล่องเพิ่มความหรูหราด้วยโลโก้บีบีเต็มพื้นกล่อง

ชื่อรุ่น Priv นั้นเป็นการเล่นคำของคำว่า Privacy และ Privilege ดังนั้นแรก ๆ มีคนอ่านว่า บีบี ไพรฟ์ กันหลายคนรวมถึงผมด้วย แต่เท่าที่จับสำเนียงตอนให้สัมภาษณ์ต่าง ๆ แล้วถึงบางอ้อว่ามันออกเสียงจริง ๆ ว่า บีบี พรีฟ นะจ๊ะ แต่ส่วนตัวชอบออกเสียง ไพรฟ์ มากกว่า 555

หลังกล่องมีรายละเอียดเล็กน้อยหลากภาษาแต่ไม่มีสเปคบอกเหมือนแอนดรอยด์อื่น ๆ แต่อย่างใด

ข้างกล่องมีบาร์โค๊ด และ serial ต่าง ๆ มากมายตามสไตล์บีบี อีกทั้งยังระบุรุ่นย่อยด้วย โดยเครื่องของผมนี้เป็นรหัส STV 100-3 ซึ่งเป็นเครื่องฮ่องกง ไม่มี Wireless Charging

แต่หากเป็นเครื่องอเมริกา ที่เป็นรหัส STV 100-1 จะมี Wireless Charging ครับ สามารถนำไปชาร์จกับพวก Power Mat ได้

เปิดกล่องออกมา โอ้ววว….สวยงามสมใจ คุ้มค่าการรอคอยจริง ๆ

อ้อตัวกล่องจะใหญ่ และ หนากว่ากล่องแอนดรอยด์อื่น ๆ พอสมควร เรียกว่าไม่ตามเทรนด์ใคร

ภายในกล่องมีอุปกรณ์ดังนี้

ตัวเครื่อง BlackBerry Priv
สายชาร์จ / สายดาต้า
หัวปลั๊กชาร์จไฟบ้าน
เข็มจิ้มซิม
หูฟังสมอลทอล์ค
ซิลิโคนหูฟังสำรอง 2 คู่
คู่มือฉบับย่อ
คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

สาย USB สายชาร์จ สายดาต้า หน้าตาคุ้นเคย เพราะทุกวันนี้ผมชาร์จซัมซุงยังใช้สาย BlackBerry Bold อยู่เลย นี่แสดงว่าสายแท้ของแบล็คเบอรี่นี่ทนมาก ๆ เปลี่ยนมือถือมากี่สิบตัว สายดาต้ายังคงเส้นเดิม

หัวปลั๊กที่เอาไปประกอบกับสาย USB เอาไว้ชาร์จแบตฯ ให้น้องบีบีพรีฟ และ เนื่องจากเป็นเครื่องหิ้วจากฮ่องกง ขาปลั๊กจึงเป็นแบบสามขาเหลี่ยม จ่ายไฟที่ 1,300 มิลิแอมป์

หูฟัง สมอลทอล์ค และ ซิลิโคนสำรอง มาครบชุด สีดำอลังการเช่นเคย

หูฟังรูปทรงที่แบล็คเบอรี่ออกแบบมาใหม่หมด สวยงาม ใส่สบาย ส่วนคุณภาพเสียงยังไม่ได้ลอง และ ก็คงไม่ได้ลองเพราะไม่ถนัดแนวนี้ ใครซื้อมาใช้ ลองแล้วมาบอกกันบ้างนะ

คู่มือการใช้งานเบื้องต้นพิมพ์สี่สีสวยงาม มีรายละเอียดสอนฟีเจอร์ และ การใช้งานต่าง ๆ พอสังเขป

ภาพแสดงชุดเลนส์เทพจาก Schneider พร้อมเซ็นเซอร์มหึมาระดับ 18 ล้านพิกเซล

พระเอกมาแล้ววววววววววว

ด้านหน้าชัด ๆ ที่ไม่ต้องไปก๊อปจากเน็ตมาเขียนบทความอีกต่อไป ด้วยหน้าจอขนาด 5.4 นิ้ว ขอบจอโค้งเหมือน Galaxy S6 Edge+ แถมความคมชัดระดับ WQHD 2560 x 1440 พิกเซล เต็มตาเต็มอารมณ์กันเลยทีเดียว

เบื้องต้นเท่าที่ลองใช้งานดู จอคมสวยงามสะใจ ดูกลางแจ้งยังไม่เจอปัญหา แต่หากันรอยติดยากชะมัด ลองไปทั้งหมด 7 แบบ สุดท้ายไปเอาของ Galaxy S6 Edge+ รุ่นถูก ๆ บาง ๆ มาตัดหัวท้าย แล้วขลิบขอบนิดหน่อยลงตัวพอดี

เดี๋ยวคงต้องไปหาแบบตรงรุ่นพร้อมเคสมาใช้ซะแล้ว

ตัวเครื่อง ขนาด 147 x 77.2 x 9.4 มม. นั้นบอกได้เลยว่าขนาดเวลาถือจับแล้วไม่ต่างกับ S6 Edge+ ที่ใช้อยู่ จะมีก็แต่ความหนาที่หนากว่าเล็กน้อยแต่แลกมากับการมีแป้นพิมพ์ QWERTY ที่หาแอนดรอยด์ตัวอื่นในตลาดไม่ได้อีกแล้ว

ส่วนน้ำหนักตัว 192 กรัม นั้นความรู้สึกคือเบากว่า BlackBerry Classic หรือ Passport มากกกกกกก งานประกอบตัวเครื่องแน่น ให้ฟิลลิ่งที่สมบูรณ์แบบตามสไตล์ BB10

ดูกันชัด ๆ กับแป้นพิมพ์ QWERTY เอกลัษณ์ของ แบล็คเบอรี่ ที่สร้างตำนานมากมายไปทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยที่สร้าง ผมให้เป็น xenon_art ในวันนี้ ได้เจออะไรมากมายไม่ว่าจะเป็นคนดี ๆ เรื่องราวสวยงาม และ หลายสิ่งที่ไม่น่าจดจำ

อ่าห์….ออกทะเลอีกแล้ว 555

สำหรับแป้นพิมพ์นี้ สาวกสายบีบีคงคุ้นเคยกันดี โดยงานนี้ แบล็คเบอรี่ จัดเต็มฟีเจอร์แป้นพิมพ์เหมือน BlackBerry Passport ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นฟังค์ชั่นพื้นฐานอย่าง เช่น การสร้างปุ่มลัดโดยการกดปุ่มค้างไว้เพื่อโทรด่วน หรือ เรียกเปิดโปรแกรม ระบบเดาคำขั้นเทพ ที่สามารถตวัดขึ้นบนแป้นพิมพ์เพื่อเลือกคำ โดยไม่ต้องไปแตะหน้าจอทัชสกรีนเลย และ ที่ขาดไม่ได้คือ ตัวแป้นพิมพ์นี้ยังทำหน้าที่เป็น TrackPad เอาไว้เลื่อน ๆ ๆ ในโปรแกรมต่าง ๆ ด้วย

ด้านหลังสวยงาม ชวนให้คิดถึง BlackBerry Z30 กับเอกลักษณ์ด้านหลังแบบ Glass Weave หรือ ผมชอบเรียกว่าลายเคฟล่าห์ โดยเค้าเคลือบสารทับลงไปให้ความรู้สึกนุ่มมือ ไม่ลื่น

จากภาพด้านหลังนี้จะเห็นได้เลยว่าขนาดเมื่ออยู่ในมือคนไทยอย่างพวกเราแล้วกำลังพอดีเลย

กล้องหลัง 18 ล้าน แฟรชคู่สองสี ขาว และ สีเหลือง เพื่อช่วยให้การถ่ายรูปโดยใช้แฟรชแล้วหน้าไม่ “แบน” หรือ ขาวเว่อร์เกินไป อีกทั้ง BlackBerry Priv ยังใช้ชุดเลนส์กล้องจาก Schneider ผู้ผลิตเลนส์ขั้นเทพที่จะรับประกันการโฟกัสที่คมชัด ภาพที่ออกมาสวยงาม

ส่วน 18 ล้านจะโดนใจแค่ไหนเดี๋ยวจะพาน้องพรีฟไปทดสอบแล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง อดใจรอสักนิด

ด้านข้างซ้ายมือของตัวเครื่องยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของ บีบี คือใช้ปุ่ม 3 ปุ่มสีอลูมิเนียม แยกจากกัน เป็นปุ่มเพิ่มเสียง ปิดเสียง และ ลดเสียงตามลำดับ

ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นปุ่ม Power โดยจากมุมนี้จะเห็นขอบโค้งของหน้าจอมาบรรจบที่สันเครื่องพอดีรับกับขอบโค้งของฝาหลัง ซึ่งตัวเครื่องที่โค้งหน้า โค้งหลังแบบนี้เวลาถือใช้งานจะรู้สึกสบายมือ แถมด้านหลังที่เคลือบกันลื่น กันรอยนิ้วมือมาด้วยแล้ว ทำให้การถือ BlackBerry Priv เป็นความสุขชนิดหนึ่ง <<<<< อันนี้เว่อร์แระ O_o#

มุมมองด้านข้างเมื่อเลื่อนแป้นพิมพ์ออกมา เห็นได้ว่าหน้าจอบางไม่เทอะทะแต่อย่างใด

เมื่อเลื่อนออกมาพิมพ์บอกเลยว่า บาลานซ์ ดีมาก ๆ

ด้านหน้าส่วนบนมีกล้องที่เสียดายว่าเล็กไปนิด เพราะให้มาเพียง 2 ล้านพิกเซล แต่ยังคงสามารถถ่ายวีดิโอได้คมชัดระดับ HD หายห่วง

นี่ถ้าแบ่งกล้องหลังมาสักหน่อยคงดีกว่านี้เนอะ ^^

ข้าง ๆ กล้องหน้ายังมีไฟ LED บอกสถานะ และ เตือนเมื่อมี Notification ต่าง ๆ

ด้านบนของตัวเครื่องเป็นที่อยู่ของช่องใส่ซิม และ เมมโมรี่การ์ด ซึ่งรองรับ การ์ดความจุสูงสุด 2 TB ที่คนปกติเค้าไม่ซื้อกัน 555

ผมลองเอาการ์ดขนาด 64 กิ๊กใส่เข้าไป ตัวเครื่องเรียกให้ติดตั้งโปรแกรม Microsoft exFAT ฟรีทันที การใช้งานสะดวกรวดเร็ว

สำหรับ BlackBerry Priv มีเมมในตัวเครื่อง 32 กิ๊กที่เหลือให้ใช้ 24 กิ๊ก หากใครกลัวไม่พอก็หาการ์ดมาใส่ได้เลย เชื่อว่าทุกคนมีเหลือ ๆ อยู่ตามซอกลิ้นชักแน่นอน

ถ้าคว่ำหน้าลง ช่องซ้ายมือเราใส่ซิมขนาด นาโนซิม ส่วนช่องขวามือของเราเป็นช่องใส่ MicorSD

เท่าที่ลองใส่ซิม AIS ก็ขึ้น 3G ปกติ สัญญาณจับแรง จับนิ่งตามสไตล์บีบีที่เน้นเรื่องสัญญาณ และ คุณภาพเสียงสนทนา

ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบสาย USB และ ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาตรฐาน เอาของอะไรมาใส่แทนกันได้หมด

ที่เห็นรู ๆ เป็นแถวนั้นเป็นทั้งลำโพงเสียงภายนอก และ ช่องไมโครโฟนสนทนาโทรศัพท์ การคุยโทรศัพท์ผ่านมือถือแบล็คเบอรี่นั้น คุณภาพเสียงไม่ผิดหวัง ประหนึ่งเหมือนนั่งคุยด้วยกันตัวเป็น ๆ ด้วยระบบเสียงอันเป็นเอกลัษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน

แอบส่องด้านหลังของจอสไลด์สักนิด เห็นได้ว่าวัสดุ และ การเก็บงาน สวยเนียนสมราคา

(กรุณาใช้ราคา 699 เหรียญนะจ๊ะ ราคาเครื่องหิ้วตอนนี้มันแพงกว่าที่จะเป็นสักหน่อย TT)

เมนูไทย พิมพ์ไทยได้ไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้ยังหาวิธีสลับภาษาบนแป้นพิมพ์ QWERTY ไม่ได้เลยพิมพ์ไทยบนหน้าจอทัชสกรีนแทน

ทีนี้คงถึงคำถามสำคัญที่หลาย ๆ คนคาใจ

สำหรับสาวกบีบี คือ แล้วมันจะลื่น ใช้งานง่าย และ ปลอดภัยเหมือน บีบี10 หรือไม่ เบื้องต้นเท่าที่ลองใช้งาน ผมว่าลื่นมาก ๆ ในระดับแอนดรอยด์ นอกจากนั้นมันมีฟีเจอร์เด็ด ๆ ของบีบีใส่มาให้ครบ ทำให้ไม่รู้สึกกว่าเราขาดหายอะไรไป ไม่ว่าจะเป็นระบบเดาคำ แทรคแพดบนแป้นพิมพ์ หรือ BlackBerry Hub ที่มีอีเมลล์ที่ดีที่สุดในโลก โดยผมรวบรวมฟีเจอร์เท่าที่เจอได้ตามนี้

ฟีเจอร์เด่นของ BlackBerry เมื่อใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์

แป้นพิมพ์สามารถใช้เป็น แทรคแพด (touch-enabled keyboard) ได้เหมือน Passport
ระบบเดาคำระดับตำนาน
มี BlackBerry Search เหมือน BB10
ระบบ BlackBerry Hub แบบลอยตัวบนหน้าจอ ความสามารถด้านอีเมลล์น่าจะเทพสุดเช่นเคย
ระบบ Notification แบบฉบับของ Blackberry
ฺBlackberry Dtek ระบบรักษาความปลอดภัยที่คุมระบบแอนดรอยด์ทั้งหมด
ระบบ glimpse ที่ให้เราแตะรูปหน้าจอเพื่อดูข้อความได้

โปรแกรมพิเศษเฉพาะ BlackBerry บนแอนดรอยด์

BBM®
BBM® Meetings
BlackBerry® Camera
BlackBerry® Content Transfer
BlackBerry® Device Search
BlackBerry® Keyboard
BlackBerry® Password Keeper
Calendar by BlackBerry
Contacts by BlackBerry
DTEK™ by BlackBerry®
Help
Notes by BlackBerry
Tasks by BlackBerry
Yahoo!® Finance
BlackBerry® Hub

ความเห็นส่วนตัว

ใคร ๆ ก็รู้ว่าผมเป็นสาวกบีบีเข้าเส้นเลือด พอได้ BlackBerry Priv ตัวนี้มาจากมาบุญครองก็ดีใจเนื้อเต้น จัดการหาฟิลม์กันรอยมาตัดลงตัวจนได้ ต้องขอบคุณร้าน Phonebooth เจ้าประจำที่ชั้น 4 เซ็นทรัลเวิล์ด ที่ตั้งใจหาให้ร่วมชั่วโมงโดยไม่บ่นสักคำ

พอเปิดใช้งานครั้งแรก อืม…บูตนานตามสไตล์บีบี ซึ่งเกิดจากการที่เค้า embeded ระบบรักษาความปลอดภัยไปกับ hardware ชิ้นส่วนเกือบทุกชิ้นในตัวเครื่อง บวกกับระบบบีบีที่คุมแอนดรอยด์เพื่อความปลอดภัยสูงสุดอีกชั้นหนึ่ง ทำให้การบูตเครื่องครั้งแรกกินเวลาประมาณ 3 นาที

ปราดแรกที่ใช้ ประทับใจตัวเครื่องสุด ๆ ไม่หนักอย่างที่คิด ไม่หนาอย่างที่คิด หน้าจอสวยคมสดใสมีขนาดเท่ากับ S6 Edge+ วางคู่กันนี่กินกันไม่ลงเลย

BlackBerry Hub และ แอพฯ ต่าง ๆ ของบีบี ปรับปรุงมาจาก BB10 ทั้งสิ้น อาจมีบางอย่างที่ต่างกันเล็กน้อยแต่โดยรวม Hub ทำงานได้ดีเหมือนเดิม และ ยังคงเป็นระบบอีเมลล์ที่ดีที่สุดในตลาด แต่งานนี้ได้แอพฯ นับล้านของ Android มาเสริมจุดขาด ทำให้อะไรหลาย ๆ อย่างที่ผมไม่ชอบใน Priv แก้ไขได้ด้วยการโหลดแอพฯ

แม้ว่าหน้าตาการใช้งานจะเป็น BlackBerry Home แต่ไส้ในเป็นแอนดรอยด์เกือบจะเพียว ๆ อารมณ์ Nexas ที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก ครึ่งชั่วโมงแรกของการใช้งานบอกเลยว่าสาวกผิดหวังมาก อย่างแอพฯ เปิดอัลบัมรูป Photo นี่ไม่ชอบเอาเสียเลย หรือโปรแกรมปฏิทินก็ยังเป็นแนวเดียวกับใน BB10 แต่ผมชอบแนวซัมซุงมากกว่า แต่ทั้งหมดนี่สร้างความผิดหวังให้เพียงไม่นาน พอไปโหลดแอพฯ ทางเลือกจาก Play Store มาใช้

สรุปแล้วผมได้แอนดรอยด์ที่มีแป้นพิมพ์ อีเมลล์ขั้นเทพ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด และ Google Play Store ที่ช่วยให้ผมสามารถปรับปรุงการใช้งานให้ถูกใจมากขึ้น แต่ที่แน่ ๆ คือเราได้ใช้บีบีที่เล่น LINE กับ ดู Youtube ได้แล้ววววว เย้

ขอให้มีความสุข สนุกกับ LifeStyle IT ครับ