รีวิว Samsung Galaxy A8 พิสูจน์กล้อง 16 ล้านว่าเจ๋งพอหรือไม่…..รูปเยอะเว่อร์

ตอนที่ 2 ของไตรภาครีวิว Samsung Galaxy A8 ที่จะมาพิสูจน์กล้อง 16 ล้านพิกเซลว่าจะดี จะโดนใจหรือไม่ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งไปซื้อ A7 และ Note 4

ทั้ง 2 รุ่นที่กล่าวมานั้นไม่พูดถึงคงไม่ได้เพราะ Note 4 มีขนาดหน้าจอเท่ากับ A8 รวมถึง A7 ที่ราคาต่างกันแค่พันเดียว แต่กล้องด้อยกว่า เมมน้อยกว่า แบตน้อยกว่า ทำให้เพื่อน ๆ หลายคนอดร้องเสียใจ เสียดายที่ไม่ได้ซื้อ A8 กันหลายคน วันนี้ซีน่อนอาร์ตเอาภาพถ่ายแบบบ้าน ๆ ตามสไตล์ของผมมาให้ดูกันว่า กล้อง 16 ล้าน f/1.9 ของ Samsung Galaxy A8 ค่าตัว 15,900 บาท จะเป็นอย่างไร คุ้มที่จะเปลี่ยนหรือไม่ หรือ ควรจะรอ Note 5 ดี

ก่อนจะไปเริ่มดูเมนูกล้อง ใครยังไม่ได้อ่านบทความเก่าไปอ่านได้ที่

• รีวิวแกะกล่อง Samsung Galaxy A8 สเปคเทพ ราคาสุดคุ้ม
• เทียบสเปค Samsung Galaxy A8 ปะทะ A7 ต่างกันแค่ไหน

เมนูกล้อง

เมนูกล้องของ Galaxy A8 ไม่ค่อยต่างจากแอนดรอยด์ของซัมซุงตัวอื่นมากนัก จะมีก็ฟีเจอร์ที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่ถือว่าทันสมัยกว่า Note 4 ที่ขนาดหน้าจอเท่ากัน

เมื่อเปิดกล้องขึ้นมาจะได้หน้าตาการใช้งานที่คุ้นเคยตามภาพด้านบน ใช้งานง่าย คล่องตัว และ สามารถถ่ายภาพพร้อมถ่ายวีดิโอได้ด้วย

แถบซ้ายมือมีคำสั่งให้เลือกใช้งาน และ สามารถซ่อนได้ด้วยการกดลูกศรบนสุด เมื่อแตะไอค่อนรูปเฟือง จะเป็นการเปิดการตั้งค่ากล้องถ่ายรูป ซึ่งมีเมนูดังนี้

บรรดาการตั้งค่าต่าง ๆ ใน settings กล้องมีให้เลือกใช้มากมายตามความต้องการ

สามารถปรับความละเอียดของภาพได้ ซึ่งปกติพวกเราก็ปรับสูงสุดอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสังเกตุคือ ปกติซัมซุงรุ่นอื่น เช่น Note 4 และ S6 หากตั้งความละเอียด 16 ล้าน สัดส่วนของภาพจะเป็น 16:9  ขณะที่เมื่อปรับความละเอียดเหลือ 12 ล้านพิกเซล จะได้สัดส่วน 4:3 เช่นเดียวกับ Galaxy A7 ความละเอียดสูงสุดคือ 13 ล้านพิกเซล ก็จะได้ภาพสัดส่วน 4:3

แต่สำหรับ A8 แล้วกลับกัน เพราะหากปรับความละเอียดสูงสุดที่ 16 ล้านพิกเซล จะได้สัดส่วน 4:3 เมื่อปรับเป็น 12 ล้านพิกเซล สัดส่วนภาพจะกลายเป็น 16:9 แทน

เช่นนี้แสดงว่าชุดกล้อง หรือ ซอฟท์แวร์ประมวลผลของ Galaxy A8 นั้นต่างจากรุ่นอื่น ๆ ……ชักน่าสนใจแล้วสิ

โหมดการถ่ายภาพมีให้เลือกตามด้านบน หากต้องการเพิ่มสามารถดาวโหลดเพิ่มได้ และ Galaxy A8 ไม่มีโหมด Selective Focus มาให้เล่นนะจ๊ะ คนที่ซื้อเครื่องละสองหมื่นกว่าสบายใจได้ ^^

เริ่มจากเปรียบเทียบภาพถ่ายกับมือถือตัวอื่น ๆ ที่ราคา หรือ สเปคใกล้เคียงกัน สังเกตุว่าพอ A8 ได้กล้อง 16 ล้านมาเป็นอาวุธ จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับ S6 และ iPhone 6 ทันที

• iPhone 6 Plus
• LG G4
• Samsung Galaxy Note 4
• Samsung Galaxy S6
• Samsung Galaxy A7
• Samsung Galaxy A8

ว่าแล้วอย่ารอช้า เริ่มภารกิจ “แชะ แชะ แชะ” กันเลยด้วยมุมประจำ 2 มุม แฟน ๆ xenon_art คุ้นเคยกันดี ส่วนแฟนใหม่ทั้งหลาย มุมเหล่านี้เป็นมุมที่เรียกว่ามุมยากของกล้องถ่ายรูปเลยหล่ะครับ

ผลก็อย่างที่เห็นครับ Note4 กับ S6 เก็บเฉดมาได้ใกล้เคียงกัน ส่วน A8 พระเอกของวันนี้นั้นได้ภาพโดยรวมสว่างกว่า (สว่างกว่าความเป็นจริงเล็กน้อย) สีสรรใกล้เคียงกว่ารุ่นพี่ทั้ง 2 ตัวที่กล่าวมา ส่วน iPhone 6+ และ LG G4 เก็บบรรยากาศออกมาได้สมจริงที่สุด

ว่าแล้วมาต่อกันอีกมุมซึ่งเป็นมุมไกลให้สังเกตุความสว่าง และ โทนสีที่ได้จากกล้องแต่ละตัว รวมถึงรายละเอียดในภาพ ลองดูลายฉลุตรงเพดานด้านนอกดู

จากภาพชุดที่ 2 นี้สายตาผมมองว่า A8 ทำได้ดีกว่า Note4 แต่ยังเป็นรอง iPhone 6+, LG G4 และ S6 เล็กน้อย แน่นอนว่าราคา A8 ถูกกว่าเป็นหมื่นบาท

แน่นอนว่ามันชนะ A7 ไปแบบขาดลอย #ยืนร้องให้แป๊ป

คุณคิดว่าใครทำออกมาได้ดีกว่ากัน?

ภาพถ่ายในชีวิตประจำวัน

มาต่อกันด้วยภาพถ่ายทั่วไปแบบบ้าน ๆ ในชีวิตประจำวันของพวกเราในหลาย ๆ สถานะการณ์ หลาย ๆ สภาพแสงเพื่อเป็นตัวอย่างให้เพื่อน ๆ พิจรณา

เก็บภาพมุมประจำที่สนามบ้านตัวเองซะหน่อย ถ่ายตอนประมาณบ่าย 4 แดดไม่จ้า สว่างกำลังดี

เวลาเดียวกัน เดินไปอีกนิดถ่ายกามเทพตัวน้อยมาอีกภาพ

เริ่มจากร้าน Rolex ในห้างฯ ไม่ได้เข้าไปนะ ถ่ายนาฬิกาผ่านกระจกหน้าร้านเข้าไป เก็บภาพเอาไปนอนฝันหวานว่าสักวันหนึ่งเราจะเก็บเงินจนเป็นเจ้าของมันได้ (ฝันของชายหลาย ๆ คน…ชิมิ ^^)

ซูมดูซิว่าได้รายละเอียดแค่ไหน ลองขยายที่ Rolex Sumariner สีดำตรงกลางดูจากรูปบนที่เห็นไกล ๆ สามารถขยายจนเห็นรายละเอียดบนหน้าปัทนาฬิกากันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเช็คสินค้ากันแบบทะลุทะลวง

จริง ๆ แล้วกล้องหลัง 16 ล้านของ A8 สามารถดึงได้มากกว่านี้แต่ภาพจะดูไม่รู้ว่าเป็นนาฬิกาเรือนไหน เลยขยายมาแค่นี้ ซึ่งก็เทพสุด ๆ แล้ว

ลองเช็คแสงที่สนามกอล์ฟ ผลที่ได้คือเจอแดดจ้า ๆ แล้วสนามเขียว ๆ มืดไปทันตา

เนื่องด้วย Galaxy A8 สามารถปรับความสว่างของภาพได้ด้วยแถบเลื่อนบนหน้าจอ ผมลองปรับความสว่างขึ้นเล็กน้อย ผลที่ได้ตามภาพด้านบนครับ เห็นสนามเขียว ๆ แล้วแต่แลกมาด้วยท้องฟ้าที่เมฆหายเรียบกลายเป็นสีขาวโพลน

ลองถ่ายระยะใกล้….ผลก็คือหญ้ายังคงออกโทนดำนิด ๆ เพราะโดนลูกกอล์ฟสีขาวมาเบรคแสงไว้ สังเกตุสีขาวของลูกกอล์ฟจะ “ฟุ้ง” เล็กน้อย

พอดีไปเที่ยวตลาดน้ำดำเนินฯ เลยถือโอกาศพา Galaxy A8 ไปทดสอบด้วย จากการทดสอบแบบบ้าน ๆ ไม่เน้นวิว เลยได้เปลี่ยนมาเป็นทดสอบนอกบ้านซะแล้ว 555

คณะเดินทางมาถึงตลาดน้ำประมาณ 10 โมงครึ่ง พระอาทิตย์ออกมาฮัลโหลสาดคลื่นความร้อน  และ ให้แสงสว่างสดใส (จ้า)

มุมนี้แอบมืดกว่าที่เห็นเล็กน้อย อาจเป็นเพราะกล้องไม่สามารถเกลี่ยสมดุลย์แสงได้ดีเท่าที่ควร ส่วนที่อยู่ในร่มจะมืดไปเลย ซึ่งเท่าที่ลองมาหลายวันหลายสถานที่ ผมรู้สึกว่า Samsung Galaxy A8 นั้นเวลาเจอแสงสว่างตัดกับที่มืดมากหน่อย ภาพจะดำกว่าปกติอย่างที่เห็นจากภาพด้านบน

ตลาดน้ำอีกมุมนึง สังเกตุว่าพอเราออกจากที่ร่ม หรือ อยู่ห่างออกมาหน่อย การเกลี่ยแสงที่แจ้ง กับ ที่มืดของ A8 ทำได้ดีขึ้น รายละเอียดในที่ร่มชัดเจนขึ้น ต่างกับตอนแรกที่รายละเอียดหายไปเป็นสีดำ

ลองถ่ายเรือขายผลไม้บ้าง สเน่ห์ของตลาดน้ำคือบรรยากาศพวกนี้แหละ

Galaxy A8 ถ่ายผลไม้ให้สีสรรออกมาได้สวยงาม ความคมชัดไม่ต้องพูดถึง….สอบผ่านฉลุย

ตกเที่ยงแสงแดดเจิดจ้า จะกล้องกี่ล้านพิกเซลส่วนมากถ่ายภาพอะไรก็สวย ในขณะที่ Galaxy A8 ได้สีจัดจ้านตามสไตล์ซัมซุงด้ย

หลบแดดยามเที่ยงไปนั่งในบ้านเก่าแก่ตั้งแต่คุณยาย (ของภรรยา) อยู่ดำเนินฯ  ภาพที่เก็บได้สร้างอารมณ์ร่วมได้ดีทีเดียว

บรรยากาศอีกฝั่งนึงของตลาดน้ำ ภาพนี้เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ถ่ายทดสอบ Auto Focus เวลามีใบไม้บังหน้าเล็กน้อยว่าภาพจะโฟกัสได้ดังใจเราหรือเปล่า ผลก็คือทำงานได้ดีหายห่วง

ภาพบนนี้ถ่ายตอนนั่งในเรือที่กำลังวิ่ง ผลที่ได้น่าประทับใจ คือไม่บอกไม่รู้ว่าเราเคลื่อนที่อยู่ เพราะภาพทั้งหมดนิ่ง สงบ และ ชัดเจนดี จะมีก็เฉดสีที่ออกมืดไปนิดเป็นผลมาจากฝนกำลังจะตก ฟ้ามืดมาเลย

บ่าย ๆ เดินทางมาตลาดน้ำหลักห้าฟ้าครึ่งเมฆหม่นมาแต่ไกล ได้โอกาสทดสอบการถ่ายภาพฟ้ามึด ๆ แต่ยังสว่างดูซะหน่อย

บรรยากาศทะมึนแถมมีแดดส่องลงมาลงเก๋งจีนพอดี….ให้อารมณ์มาก ๆ

ภาพที่ได้สวยงามน่าประทับใจ ถ่ายแบบง่าย ๆ ยก Galaxy A8 ขึ้นมา แตะโฟกัสแล้วก็กด “แชะ” เท่านั้น ไม่ผ่านแอพฯ แต่งรูปใด ๆ ทั้งสิ้น แหม…สีจัด ๆ ของซัมซุงถ่ายภาพแนวนี้สวยกระชากใจมากครับ กราบเลย

เสร็จแล้วก็เดินมาชมของสะสมของคนแถวหลักห้ากันสักนิด เป็นของ “ดักแก่” อย่างแท้จริงเพราะไอ้พวกคนที่เคยเห็นอะไรทำนองนี้ อายุอานามต้องทะลุสี่สิบ หรือ ใกล้เคียงนั้นแล….เพื่อน ๆ เกิดทันชิ้นไหนบ้างเอ่ย?

เครื่องไขไข่ในอดีต คาดว่าเป็นต้นกำเนิด “กาชาปอง” ตู้ดูดตังค์ในสมัยนี้ที่ขนเอาสารพัดของเล่นจัดเป็นซีรียส์ให้พวกเราได้สะสมกัน โดยในสมัยก่อนนั้นในไข่ก็ไม่มีอะไรมาก พวกแหวนพลาสติค หมากฝรั่ง ของเล่นจุกจิก แต่สเน่ห์ของมัน คือ “ได้ลุ้น”

ตอนที่ถ่ายกะว่ากล้องซัมซุงถ่ายออกมายังไงก็ดูใหม่ เพราะภาพจะคม และ สีสดกว่าความเป็นจริง แต่เหมือนจะเป็นเรื่อ…..งแปลกที่กล้องของซัมซุงที่ชอบให้สีจัดจ้าน พอมาถ่ายของเก่า ของโบราณ กลับปรับตัวเองให้เก็บภาพได้ดูแอนทีคขนาดนี้

ส่วนนึงคาดว่าเกิดจากซัมซุงฝังชิพอัจฉริยะเข้าเข้าไปให้มันมีความสามารถประมวลผลตามความรู้สึกของคนถ่าย……อ่าห์ มั่วสุด ๆ นะครับ อย่าเชื่อเป็นอันขาด

จริง ๆ แล้วผมคาดว่าเป็นเพราะสิ่งของต่าง ๆ ในภาพสีไม่ได้สดมากนัก ประกอบกับอยู่ในช่วงเย็น ฝนตกพรำ ๆ ห้องใช้หลอดไฟกระโหลกเก่า ๆ เท่านั้น ภาพโดยรวมจึงทำออกมาได้โทนสีที่ “ใช่” ตรงตามวัตถุประสงค์ ลองดูกล่อง Chiclets ก็จะเห็นว่าพอสีสดหน่อย ซัมซุง จัดสีออกมาได้สดสะใจ ในขณะที่ กล่อง Sugas ข้าง ๆ ก็ได้สีที่เก่าเช่นกัน

ที่น่าสนใจอีกอย่างนึงคือ noise หรือ เม็ดสีที่มักจะเกิดขึ้นในภาพตอนถ่ายรูปในสภาวะแสงน้อยนั้น ภาพที่ถ่ายออกมามี noise น้อยน่าประทับใจ

ถ่ายของกิน / Food shot

เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการถ่ายรูปเพื่อโพส คงขาดไม่ได้กับภาพถ่ายอาหารสินะ O_o*

ไหน ๆ ก็มาตลาดน้ำดำเนินฯ แล้ว ต้องลองรีวิวภาพของกินที่นี่ซะหน่อย เริ่มจากมื้อสาย ๆ ช่วงประมาณ  11 โมง กินในร่มข้างคลองดำเนินฯ ในตลาดน้ำนั่นเอง แสงสว่างเข้มข้นสาดเข้ามาจากด้านข้าง….มาดูภาพที่คุณเห็นแล้วต้องอึ้ง!!!

ไม่ใช่แระ นั่นมันคำจั่วหัวบทความของเวปอย่างว่านี่น่า ^^

แต่ภาพนี้ก็ทำให้ผมต้องอึ้งเช่นกัน อึ้งว่ากินชามเดียวไม่อิ่มชัวร์ สุดท้ายจัดไป 3 จร้า

รูปที่ได้ดูน่ารัปประทาน สีสรรสวยงาม ไม่เข้มจนเว่อร์ หรือ ไม่จืดจน่าเบื่อ ยังคงเห็นความลึก และ ชั้นต่าง ๆ ของเส้นเล็ก เม็ดถั่ว แสงเงาสวยงาม รับรองโพสรูปนี้ไปเพื่อน ๆ ในไทม์ไลน์ร้องหิวกันระงมแน่นอน!

ทดสอบถ่ายท่ายาก คือ ใช้มือขวาคีบหมู แล้วใช้เฉพาะมือซ้ายแตะโฟกัส+กดถ่ายรูป มือต้องนิ่งทั้ง 2 มือไม่งั้นมีเบลอ ไม่เชื่อลองเอามือถือของคุณมาถ่ายดูได้

ผลที่ได้คือกลั้นหายใจแล้วลองถ่าย 3 รูป ได้รูปนี้ชัดที่สุด ถูกใจที่สุด น่ากินที่สุด และ ดูดีมีมิติ

ตกเย็นไปชิมข้าวต้ม และ ข้าวแห้งที่หลักห้า ร้านนี้เค้าจะเปิดเฉพาะลูกค้าที่นัดมาเท่านั้น ปกติปิดจ้า โดยผมโชคดีได้มีโอกาศไปลองชิมของแปลก (สำหรับผม) เพราะทริปนี้เป็นปาร์ตี้รวมญาติฝั่งภรรยาที่ไม่ได้รวมตัวกันมากว่า 30 ปี เค้าเลยเหมาร้านให้เปิดชิมกัน

อ้อ ภาพร้านโชว์ห่วยด้านบนก็เป็นส่วนหนึ่งของร้านนี้นะครับ เป็นของสะสมของเจ้าของร้าน….สร้างบรรยากาศให้มื้อนี้ดูขลังขึ้นไปอีก

ทำกันอย่างขมักเขม้นเลยทีเดียว ภาพนี้หยุดความเคลื่นไหวของมือหลาย ๆ ที่กำลังชุลมุนในการสั่งอาหารกันได้ดีทีเดียวถึงแม้ภาพจะมีอาการสั่นเล็กน้อยเพราะตอนที่ถ่ายเป็นเวลา 5 โมงเย็นริมน้ำ ไฟไม่ค่อยสว่างแถมฝนตกหนักด้วย ทำได้เท่านี้ผมว่าดีงามมากแล้ว

เปิดงานด้วยข้าวแห้งก่อน ซึ่งมันอารมรณ์ประมาณข้าวต้มไม่ใส่น้ำซุบนั่นเอง สิ่งที่ทำให้ต่างจากข้าวแกงก็คือเค้าใส่กระเทียมเจียว ผักชี และ เครื่องของข้าวต้มลงไปนั่นเอง รสชาติอร่อยแปลกดี

ภาพข้าวแห้งที่ถ่ายตอนแสงน้อยนี้สังเกตุว่าไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ นั่นเป็นเพราะยังไม่ชินกับความเร็วของโฟกัส ทำให้ขยับมือเร็ว (ชินกับชัตเตอร์ และ โฟกัสเร็ว ๆ ของ Galaxy S6) แต่โดยรวมถ้าไม่เพ่งมาก ๆ ก็ดูโอเคนะ

นี่คือข้าวต้มสไตล์คนดำเนิน คือเหมือนข้าวแห้งแต่ใส่น้ำซุบ และ ไม่ใส่กระเพราะลงไป รสชาติดีหอมอร่อยมาก ที่สำคัญชามเล็กกำลังดี ทำให้สามารถลองได้ทั้งแห้ง และ น้ำ

ภาพข้าวต้มดำเนินฯ นี้ผมพอปรับความรู้สึกของการถ่ายในที่แสงน้อยของ Galaxy A8 ได้บ้างแล้ว อาการมัวหายเป็นปลิดทิ้ง ถ่ายออกมาแล้วดูน่ากิน ได้รสชาติ

ลองมาแกล้งเจ้า Galaxy A8 ด้วยการไปถ่ายอาหารในร้านบรรยากาศแบบบ้าน ๆ ด้วยหมูสะเต๊ะเทพอย่าง “มิ้งโภชนา” ย่านบรรทัดทอง เป็นห้องแถวธรรมดา ไฟนีออนธรรมดา มาดูกันว่าภาพออกมาได้เป็นแบบไหน

น้ำจิ้ม 3 อย่างมาตรฐานของร้านนี้ที่แตกต่างกับร้านอื่น แตงกวาสดกรอบ พริกวงไม่เหม็นเขียว อ่อนกำลังดี น้ำจิ้มสะเต๊ะกลมกล่อมหวานนิด ๆ เค็มตามหน่อย ๆ ไม่เลื่ยน กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ #ผมนี่หิวเลย

ภาพมุมสูงจาก Galaxy A8 กับไฟนีออนได้ผลงานออกมาอย่างที่เห็น โดยรวมไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ ทั้งการแสดงรายละเอียดของโต๊ะที่ผ่านการใช้งานมาอย่างทรหด จาน และ สีสรรของน้ำจิ้มต่าง ๆ ทำออกมาได้สมจริง

น้ำจิ้มดำ เอกลักษณ์ของ มิ้งโภชนา ที่หาทานจากร้านสะเต๊ะร้านอื่นไม่มี เรียกว่าร้านเดียวในโลก ต้นตำหรับน้ำจิ้มซีอิ๊วดำใส่พริกขี้หนูและหอมแดง

มุมนี้ภาพติดเบลอเล็กน้อย แต่ตอนดูบนหน้าจอก็ปกติดี ดังนั้นเพื่อน ๆ เวลาเอา Galaxy A8 ไปถ่ายรูป ตอนเช็คให้ซูมดูด้วยเผื่อจะเจออาการ “จอหลอกตา” เหมือนผม

หมูสะเต๊ะ ถือเป็นอาการที่ถ่ายสวยยากถ้าไม่มีพร๊อพ หรือ อุปกรณ์ประกอบฉากสีสวย ๆ เพราะมันเป็นหมูปิ้งแคบ ๆ ยาว ๆ แถมเป็นสีเหลืองทั้งแท่ง

แต่ Galaxy A8 กลับทำออกมาได้สวยงามมาก สามารถแบ่งเฉดสีเหลืองตัดกับสีดำเกรียมจากการปิ้งของอาหารได้น่ากินแบบไม่น่าเชื่อ ขนาดไอโฟนผมยังถ่ายไม่น่ากินเลย 555

ลอง food shot แบบหน้าชัดหลังเบลอดู….ทำได้ดีอีกแล้วครับพี่น้อง เพียงยกขึ้นมา แตะโฟกัส แล้วกดถ่าย ง่าย ๆ แค่นี้เราก็จะได้ช๊อตสวย ๆ จาก A8 โดยไม่ต้องใช้แอพอะไรเลย แถมไม่ได้ใช้โหมด Selective Focus ด้วยนะ (เพราะมันไม่มี)

โดยรวมแล้วภาพอาหารจาก Samsung Galaxy A8 สอบผ่าน

ถ่ายกลางคืน

Galaxy A8 น่าจะไม่ได้มาพร้อมเทคโนโลยีชดเชยแสงขั้นเทพเหมือน S6 และ S6 edge นะ ใช่ว่าเห็นเป็นซัมซุงเหมือนกันแล้วจะได้ฟีเจอร์เหมือนกันทุกรุ่น ดังนั้นเรามาทดสอบการถ่ายกลางคืนกัน ดูซิว่าจะโอเคหรือเปล่า

ผมว่าภาพกลางคืนถ่ายออกมาได้ดีกว่าที่คิด ทั้งถ่ายจากในรถผ่านกระจกหน้า และ เปิดกระจกออกมาถ่ายห้าง Big C เรียกว่าผลงานโอเคครับ ^^

เซลฟี่ในรถเช็คดูเล่น ๆ …..เน่าตามประสาครับ กล้องหน้าสู้ S6 ไม่ได้เลย แต่หากเทียบกับรุ่นจอยักษ์เท่ากันของ Note 4 ผมว่าไม่ต่างกันเท่าไหร่ T T

เซลฟี่ / Selfie

ปิดท้ายกันด้วยการเช็คกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ซึ่งตอนนี้หากพูดถึงซัมซุง ทุกคนจะรู้สึกเลยว่ามันคือมือถือกล้องหน้าเทพ ซึ่งเป็นอิธิพลมาจากความแรงของ Galaxy S6 ที่เค้าทยอยปล่อยโฆษณาด้วยเซเลปมาอย่างต่อเนื่อง เราก็มาพิสูจน์กล้องหน้าของ Galaxy A8 ดูกันต่อ

ถ่ายเช็คโหมดหน้าเด้ง และ หน้าสด (ปิดโหมดหน้าเด้ง) ในสภาพแสงไม่สว่างมากเท่าไหร่ คือประมาณตอน 5 โมงเย็นในร่มตอนฝนตก ฉากเดียวกับที่ถ่ายของแอนทีคและกินข้าวแห้งที่ดำเนินนั่นแล

ยกมือขึ้นไปไม่ต้องสุด ก็ได้ภาพมุมกว้างอย่างที่เห็นเป็นผลมาจากเลนส์ของ A8 ที่กว้าง ทำให้การเก็บภาพกล้องหน้าทำได้โดยง่าย ถ้าถ่ายหลายคนก็ยืดมือไปสุด ๆ จะสามารถถ่ายได้ถึง 5 คนโดยไม่ต้องพึ่งโหมดพานอรามาเลย

และด้วยความที่กล้องหน้าแพ้แสงน้อย ภาพที่ได้มือไม่นิ่งพอจะติดเบลออย่างที่เห็น แต่ถ้าผมถือนิ่งกว่านี้อีกสัก 1 วินาที ผลงานน่าจะดีกว่านี้

ลองกล้องหน้าในห้างฯ ดูบ้าง ซึ่งแสงในห้างส่วนมากถ่ายมาไงก็สวย ประกอบกับโหมดหน้าเด้งครึ่งพลัง ภาพที่ได้แนบเนียนดีมั๊ก ๆ ^^

พอเจอแสงจ้าหน่อย โหมดหน้าเด้งครึ่งพลังกลับกลายเป็น “หลอน” หน้าขาวเนียนจนดูรู้ แนะนำว่าให้ปรับความเนียนลงเหลือเพียง 1/4 ของแถบพลัง

โดยรวมแล้วกล้องหน้าทำงานได้ดี เก็บรายละเอียด สีสรรต่าง ๆ ได้สวยงามในเกือบทุกสภาพแสง แต่ถ้าใช้งานในสภาพแสงน้อยควรให้มือนิ่งกว่าปกติ

สรุปกล้อง Galaxy A8

แม้จะมีอาการ “มืด” ในสภาวะแสงจ้าตามที่เห็นจากภาพสนามกอล์ฟ และ ตลาดน้ำดำเนินฯ โดยรวมแล้วเจ้า Samsung Galaxy A8 นั้นทำผลงานออกมาได้ดีมาก ๆ ไม่ว่าจะความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วเพียงพอให้เราเก็บภาพได้อย่างรวดเร็ว สีสรรสดใสตามแบบฉบับของซัมซุง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซลที่คมจัด ถ่ายแล้วมาซูมดูรายละเอียดได้ครบจนตะลึงแม้แต่ในที่แสงน้อย

กล้องหน้าน่าผิดหวังเล็ก ๆ เพราะถ่ายแล้วภาพชอบสั่น ไม่ชัด โดยเฉพาเวลาแสงน้อยจะใช้เวลาเก็บภาพนานกว่าปกติ ตรงนี้หากใครซื้อมาใช้ ตอนถ่ายด้วยกล้องหน้าให้ถือ A8 นานนิดนึงเผื่อเวลาให้เค้าประมวลผลเล็กน้อย ผลงานน่าจะออกมาดี ต่างกับกล้องหลังที่ทำผลงานได้ดีเกือบทั้งหมด แหม…..จะให้ดีเท่า S6 เครื่องละสองหมื่นกว่าก็คงจะไม่ได้นะเน้อ แต่บอกเลยดีพอ ๆ กับ Note 4 นะจ๊ะ

สรุป….หากคุณเป็นคนชอบถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟน ไม่แบกกล้องเวลาไปเที่ยวเหมือนผม น่าจะพอได้คำตอบให้ตัวเองได้ว่าจะเปลี่ยนมาใช้ A8 หรือไม่ ส่วนตัวผมว่านอกจาก S6 และ LG G4 แล้ว เจ้า Samsung Galaxy A8 เป็นมือถืออีกตัวที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนเพื่อเก็บ “โมเม้นท์” สำคัญในชีวิตของเราได้อย่างมั่นใจ

แต่หากคุณชอบฟีเจอร์เยอะ ๆ และ มีงบเพิ่มอีกหมื่นบาท แนะนำให้รอ Note 5 ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 สิงหานี้แล้ว รอดูข่าวก่อนตัดสินใจครั้งสุดท้าย

ถ้าตั้งงบหมื่นกลาง ๆ และ ชอบซัมซุง ผมว่า A8 นี่ถ่ายรูปสนุก ใช้งานถนัดกับหน้าจอคมกริบขนาด 5.7 นิ้ว

ขอให้มีความสุข สนุกกับชีวิต LifeStyle IT ครับ

_________________________________________________________________

หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย

ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ

http://www.facebook.com/xenonartpage