ร้อน ๆ จากศูนย์วันนี้กับ Samsung Galaxy S6 สีดำล็อตแรก xenon_art ถอยมาเพื่อรีวิวแกะกล่องให้เพื่อน ๆ ได้ชมโดยเฉพาะ เชิมเสพจ้า
จากที่ได้เปิดจองกันตั้งแต่วันที่ 1 เมษาที่ผ่านมา ในที่สุดเครื่องล็อตแรกสีดำก็เข้าศูนย์ให้คนที่จองได้รับเครื่องกันแล้ว ผมไปรับที่ AIS Paragon วันนี้ช่วงบ่าย คนมารับ S6 ไม่ค่อยเยอะซึ่งอาจเป็นเพราะติดวันหยุดยาว คนไปเที่ยวกันหมดแล้ว….แต่เอ แล้วออกรีวิวช่วงสงกรานต์นี่จะมีใครอ่านของผมมั๊ยเนี่ย 555
ไม่ต้องอะไรมากหากใครตามเพจผมอยู่คงจะได้เสพคลิปวีดิโอจากงานเปิดตัวที่สิงค์โปรกันไปแล้ว วันนี้มาดูสเปคกันเลยละกัน
Specs อย่างเป็นทางการ Samsung Galaxy S6
- ตัวเครื่องอลูมิเนียม ฝาหลังเป็นกระจก Gorilla Glass
- ขนาด 143.4 x 70.5 x 6.8 มม.
- น้ำหนัก 138 กรัม
- หน้าจอ 5.1 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด 1440 x 2550 พิกเซล
- ซีพียู OctaCore Exynos 7420 ความเร็ว 2.1 กิ๊ก + 1.5 กิ๊ก
- แรม 3 กิ๊ก
- หน่วยความจำในตัวเครื่องมีให้เลือก 32, 64 และ 128 กิ๊ก
- เพิ่มเมมไม่ได้
- ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 5.0 อมยิ้ม หรือ Lollipop
- กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ 2,580 มิลิแอมปฺ์
- วางจำหน่ายสีแพลตตินั่ม, ดำ, ทอง และ น้ำเงินซัฟไฟร์
- ราคา 23,900 บาท
ด้านหน้ากล่องมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์โดนเน้นความเรียบง่ายด้วยกลองกระดาษสีเทาอ่อน ๆ พร้อมตัวหนังสือ Samsung Galaxy S6
ด้านหลังมีสเปคคร่าว ๆ พอสังเขป หากเป็นเครื่องศูนย์จะมีภาษาไทยกำกับประเภทสินค้าด้วย
เปิดกล่องออกมาก็เจอน้อง S6 นอนรอเหมือนเดิม ยกขึ้นมาด้านใต้จะมีบรรดาอุปกรณ์ในกล่องมาให้ครบครันประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง Galaxy S6
- สายดาต้า
- หัวปลั๊กชาร์จไฟบ้าน
- หูฟัง
- ซิลิโคนหูฟังสำรอง 1 คู่
- คู่มือแบบด่วนหรือ Quick Start Guide
- ที่จิ้มซิม
คู่มือแบบง่ายก็ไม่มีอะไรมาก บอกวิธีการใช้เบื้องต้น และ การจิ้มถาดใส่ซิม
หูฟังสมอล์ทอล์คแบบ In-Ear รูปทรงสวยงาม ใส่แล้วกระชับหูที่คราวนี้มาพร้อมซิลิโคนครอบสะอาดสะอ้าน หากใครหูเล็กลองถอซิลิโคนออกเผื่อจะพอดีขึ้น นอกจากนั้นแล้วเค้ายังให้สำรองมาอีก 1 คู่นะ
หัวปลั๊กชาร์จไฟบ้าน พร้อมสายดาต้าเอาไว้โอนถ่ายข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ หรือหากประกอบกับอะแดปเตอร์ก็จะกลายเป็นสายชาร์จไฟ ทั้งหมดเป็นสีขาวสะอาดตาแม้ตัวเครื่องจะเป็นสีดำ
ที่จิ้มถาดซิมรูปทรงน่ารักไม่เหมือนใคร หัวกลมใหญ่จับถนัดมือ
ตัวเครื่องหน้าตาสวยงาม บอดี้ทำจากอลูมิเนียม ขนาด 143.4 x 70.5 x 6.8 มม. น้ำหนักเบาสบายแค่ 138 กรัม
หน้าจอ 5.1 นิ้ว Super AMOLED คมชัดสะใจด้วยความละเอียดขนาด 1440 x 2550 พิกเซล เสริมความแรงสุด ๆด้วย ซีพียู OctaCore Exynos 7420 ตัวล่าสุด ความเร็ว 2.1 กิ๊ก + 1.5 กิ๊ก มาพร้อมแรม 3 กิ๊ก แบบใหม่ล่าสุดที่ทำงานได้ดีกว่าแรม 3 กิ๊กตัวเก่าเยอะ
ฝาหลังเป็นกระจก Gorilla Glass สีดำที่เหมือนจะดำสนิท แต่พอพลิกเล็กน้อยจะเล่นแสงให้สีออกมาเป็นน้ำเงินเข้ม….สวยละลายไปเลย
หน่วยความจำในตัวเครื่อง 32 กิ๊ก ใช้งานได้จริง 24 กิ๊ก และ เพิ่มเมมไม่ได้ ดังนั้นต้องโอนไฟล์จากเครื่องเก่าลงคอม แล้วค่อยโอนลงมาที่ Galaxy S6 อีกที อาจยุ่งยากในครั้งแรก แต่การใช้เมมในตัวเครื่องจะทำให้หมดปัญหาเรื่องการอ่านเมมภายนอกที่บางคนเกิดปัญหาเนื่องจากเมมไม่ได้มาตรฐาน ที่สำคัญการอ่าน และ เขียนลงเมมในตัวเครื่องจะทำให้การทำงานโดยรวมเร็วขึ้น
กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อมความสามารถขั้นเทพมากมาย โดยจุดเด่นของ Galaxy S6 คือ เปิดกล้องเร็วกว่าเดิมมาก และ ถ่ายได้ดีในสภาพแสงน้อย ซึ่งจากที่พิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้ว บอกเลย…เทพเรียกพี่นะครับ
ด้านข้างเป็นแฟรช LED และ เซ็นเซอร์ที่ใช้ร่วมกับ S Health ในการตรวจการเต้นของหัวใจ วัดความเครียด และ อื่น ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญยังใช้เป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าด้วย
เนื่องจากตัวเครื่องต้องการให้มีความบางที่สุดเท่าที่จะทำได้ กล้อง 16 ล้านจึงต้องนูนออกมามากอย่างที่เห็น เพราะไม่สามารถลดขนาดชุดเลนส์ได้ เรียกว่าต้องแลกกับกล้องเทพ ๆ ของ S6 ซึ่งบอกเลยคุ้ม
เวลาใช้งานจริงพวกเราคงใส่เคสกันทุกคน พอใส่แล้วกล้องก็จะเสมอกับด้านหลังเคสพอดี ^^
ขอบด้านข้างโชว์อลูมิเนียมเกรดพรีเมี่ยมสีเงินด้านโค้งมนอย่างสวยงามพร้อมลูกเล่นตัดขอบเรียบด้านข้างซ้าย และ ขวา
ทางด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเป็นปุ่ม Power และ ถาดใส่ซิม
พอจิ้มถาดซิมออกมาก็จะเห็นว่าใช้ซิมขนาด nano SIM ใครใช้ซิมเล็กหรือ Micro SIM ตอนไปซื้อ Galaxy S6 หรือ S6 edge แนะนำให้เผื่อเวลาไปดำเนินการเปลี่ยนซิมด้วย แต่หากใครจะขายไอโฟนทิ้งเปลี่ยนไปใช้ S6 ก็สบายไป
ด้านขวามือของตัวเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่ม – ลดเสียงที่คราวนี้ถูกขยับให้สูงกว่า Galaxy S5 ทำให้าการถือใช้งานไม่พลาดไปโดนปุ่มปรับเสียงนี้ โดยเฉพาะตอนกดปุ่ม power
ด้านหน้าส่วนบนมาพร้อมกล้องชัดเว่อร์ขนาด 5 ล้านพิกเซลที่มีลูกเล่นมากมายเหมือน Note4 แต่เจ๋งกว่าตรงที่ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีที่สุดเท่าที่เคยทดสอบกล้องมือถือมา
ด้านหน้าส่วนล่างมาพร้อมปุ่มหน้าตาคุ้นเคย คือปุ่มโฮม ขนาดด้วยปุ่มย้อนกลับ และ ปุ่ม Task Manger เนื่องด้วยตั้งแต่แอนดรอย์ 4.4 เป็นต้นมา ปุ่มเมนูเดิมจะถูกแทนที่ด้วยปุ่ม Task Manager เอาไว้เรียกดูโปรแกรมที่เปิดค้างอยู่ พร้อมทั้งสลับแอพฯ หรือ ปิดแอพฯ ให้สนิทได้อย่างรวดเร็ว
ปุ่มโฮมแม้นหน้าตาเหมือนเดิม แต่การใช้งานการแสกนลายนิ้วมือ / fingerprint scan ถูกพัฒนาให้ทำงานดีขึ้น เพียงแค่แตะลงไปบนปุ่มเท่านั้น ไม่ต้องรูดลงมาให้น่ารำคาญเหมือนก่อนแล้ว
การทดสอบเบื้องต้นการจดจำลายนิ้วมือทำได้ดีกว่าเดิมเยอะ สะดวกกว่าเดิม
ด้านบน ด้านล่างของตัวเครื่องที่ดูเผิน ๆ แล้วคล้ายไอโฟนจนผมเคยเขียนบทความแซวว่า “ก๊อป” ซึ่งหากดูที่รายละเอียดจริง ๆ แล้วก็ไม่เหมือนซักทีเดียว แต่ได้อารมณ์คล้ายกัน ตรงนี้อยู่ที่คนชอบ ส่วนตัวผมชอบการออกแบบแนวนี้นะ ไม่ค่อยสนใจหรอกว่าเป็นแนวทางการออกแบบของใคร ถ้าดี มีเหตุผล ผมใช้หมดครับ
ด้านล่างชัดเจนว่าตรงกลางเป็่นช่อง MicroUSB เอาไว้ชาร์จไฟ และ เชื่อมต่อต่าง ๆ ขนาบข้างด้วยรูเล็ก ๆ รูเดียวคือ ไมโครโฟนสนทนาโทรศัพท์ ส่วนอีกด้านหนึ่งแน่นอนว่าเป็นลำโพงเสียงภายนอก
ด้านบนตรงกลางคาดว่าเป็นช่องอินฟราเรทเอาไว้ใช้ส่งสัญญาณอย่างแอพฯ รีโมททีวีเป็นต้อน ส่วนรูเล็ก ๆ ด้านข้างเป็นไมโครโฟนสำหรับอัดเสียง
หน้าตาการใช้งานอารมณ์เหมือนเดิมที่คุ้นเคย แต่จริง ๆ แล้ว TouchWiz UI ถูกปรับแต่งใหม่ให้ตอบสนองรวดเร็วกว่าเดิม ไม่หนักเครื่องเหมือนก่อน ๆ แล้ว แถมเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ดูสวยงามมากขึ้น หากใครเป็นแฟน TouchWiz UI รับรองใช้แล้วจะติดใจ ลืมรุ่นก่อน ๆ ไปเลย
ส่วนการปรับแต่ โมฯ หน้าจอนั้นทำได้ไร้ขีดจำกัดเช่นเคย
เจ้า Galaxy S6 นี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ตัวล่าสุดของโลก 5.0.2 หรือ lollipop อมยิ้มหวานละมุนที่มีเมนูการใช้งานเปลี่ยนไป การทำงานรวดเร็วขึ้น สะดวกขึ้น หน้าแจ้งเตือนต่าง ๆ เปลี่ยนไป ที่สำคัญเค้าบอกว่าแบตทนกว่าเดิม แบต Galaxy S6 มีให้ใช้ 2,580 มิลิแอมป์ จะทนขนาดไหนเดี๋ยวขอลองใช้ก่อน
Samsung Galaxy S6 ยังมาพร้อมกับความสามารถในการชาร์จแบบไร้สายด้วยนะจ๊ะ โดยเราสามารถซื้อแท่นชาร์จไร้สายแยกได้ (แต่ตอนนี้ของยังไม่เข้า) จัดการเสียบปลั๊กเหมือนสายชาร์จทั่วไป จากนั้นเอาน้อง S6 วางลงไปก็จะชาร์จทันที
เท่าที่ได้สัมผัสมาบ้างตอนไปร่วมงานของซัมซุง และ เครื่องจริงที่ซื้อมารีวิวเองเครื่องนี้ ความรู้สึกแรกที่จับเครื่อง คือ หรู เบา สวย งานเนี้ยบสุดแล้วตั้งแต่ใช้ซัมซุงสมัย i320N เมื่อครั้งสิบกว่าปีก่อน จากสีดำที่ไม่เคยชอบเลย มาตัวนี้กลับให้ความรู้สึกที่สวยกว่าเดิม ฝาหลังสะท้อนออกเป็นสีน้ำเงินเจ๋งมาก ไม่ดำทื่อ ๆ เหมือนมือถือทั่วไป
การตอบสนองนับว่ารวดเร็วดีมาก ๆ เมื่อเทียบกับ Galaxy Note Edge รอม 5.0 Lollipop ที่ใช้อยู่แทบจับความรู้สึกไม่ออก แต่ลูกเล่นของ TouchWiz UI ใน S6 สวยกว่าเยอะ
การใช้งานจะเป็นอย่างไร กล้องจะเจ๋งอย่างที่โม้หรือเปล่า เตรียมชมรีวิเพิ่มเติมอีกครั้ง และ ถ้ายังไม่เกร่อเสียก่อนจะเอาไปปะทะกับ iPhone 6 Plus ให้ชมด้วย
เพื่อน ๆ ที่สนใจแต่ไม่ได้จอง วันที่ 20 เมษายนนี้ สามารถเดินไปซื้อที่ศูนย์ และ ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้ทันทีโดยไม่ต้องจอง คือ กลับจากเที่ยวสงกรานต์มาก็เสียเงินต่อทันที 555
ใครชอบสีขาว (เหมือนผม) แอบเอาภาพที่เก็บจากงาน Galaxy S6 World Tour มาฝากให้เสพระหว่างรอว่าจะเข้าไทยเมื่อไหร่
ขอให้มีความสุข สนุกกับชีวิต LifeStyle IT ครับ
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
อยากเห็นรีวิว S6 Edge ครับ ชอบมากก
ผมรอเครื่องวันที่ 20 ครับ
มีปัญหาอะไรไหมครับ เห็นในต่างประเทศเขาบ่นเรื่องกล้อง
กล้องสวยงามปกติดีครับ ยังไม่เจอปัญหา
คือต้องใช้ซิมปะหาที่ใส่ไม่เจอ
ใส่ซิมขนาด นาโนซิม มีรูจิ้มด้านข้างตามรีวิวเลยนะ
แต่กล้องนี่ไม่ค่อยชัดเลยอยากรุ้ว่าต้องปรับอะไรมั้ยเพราะใช้เเบบค่าเริ่มต้นเลยไม่ได้ปรับอะไร
ลองดูว่ามีพลาสติคปิดเลนส์อยู่หรือเปล่าครับ เพราะเท่าที่ใช้งานมาผมไม่ได้ตั้งค่าอะไรเลย กล้องก็เป็นอย่างที่เห็นในรีวิวเลยครับ
ซื้อ S6 edge มาหนึ่งเดือน ไม่ทันสังเกตุ พึ่งมารู้ว่ากล้องจับโฟกัสช้ามาก ใช้เวลาจับโฟกัส สองนาทีกว่า ไปที่ศูยน์บอกต้องเกะเปลี่ยนกล้อง เคลมเครื่องใหม่ไม่ได้ เพราะเลยเจ็ดวันแล้ว ที่จริงเป็นเรื่องของการผลิตผิดพลาด น่าจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ลูกค้านะครับ อย่างนี้เสียความรู้สึก
ทำไมถ่ายแล้มมันก็ชัดดี แต่พอเอาลง ไลน์ หรือ เฟสบุ๊ค ภาพเปลี่ยนไปเลยอ่ะครับ
ส่วนนึงน่าจะมาจากโปรแกรมเค้ามีการปรับขนาดรูปลงก่อนอัพให้เรา ว่าแต่ตอนดูอีกทีดูบนเครื่องเราเหมือนเดิม หรือ ดูบนเครื่องคนอื่นครับ
สอบถามหน่อยคะ ถ้าซื้อเครื่อง ซัมสุงเอส6 มาจากต่างประเทศ สามารถใช้ซิมไทยได้ไหมคะ แต่ใส่ซิมขนาดเล็กดูแล้วไม่ได้ค่ะ
ซื้อจากประเทศไทยครับ ลองเอาซิมใส่แล้วโทรไม่ได้ หรือ เล่นเน็ตไม่ได้ครับ
ปล. S6 ใช้ซิมแบบ Nano Sim หรือ ซิมจิ๋ว เล็กสุดเหมือนที่ใช้ในไอโฟน 6
I ไช้อยู่ Iไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไรเลย(ไชังานและเล่น)